






Keeway Versilia 150 New Icon of Style : สนุกทุกความท้าทาย…เป็นใครก็มันส์ได้ เริ่มตันความสนุกกันอีกครั้ง…เมื่อคีเวย์ ประเทศไทย เดินหน้ารุกตลาด ดอกย้ำการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 10 ปี ในประเทศไทย สร้างความมั่นใจ ด้วยตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการกว่า 60 แห่งทั่วประเทศ และที่สำคัญในการก้าวสูปีที่ 11 นั้น ทางบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการบริการ
21 เมษายน 2565 เมืองอิวาตะ ประเทศญี่ปุ่น บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้จัดการแถลงข่าวรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า “E01” พร้อมกันทั่วโลกผ่านระบบ Zoom Application ถึงการเตรียมความพร้อม ในการส่งสกู๊ตเตอร์พลังงานไฟฟ้าเต็มระบบ ลงสู่ตลาดรถจักรยานยนต์ทั่วโลก โดยมีใจความในการแถลงข่าวในครั้งนี้ว่า ยามาฮ่าไม่หยุดในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองให้กับผู้บริโภค โดยทางบริษัท ได้มีการพัฒนารถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้ามานับตั้งแต่ปี 1991 เพื่อเป็นทางเลือกของพลังงานที่สะอาด ปลอดภัยแก่สิ่งแวดล้อม และประหยัดการใช้จ่ายในการใช้พลังงานเชื้อเพลิงอย่างสิ้นเปลือง
ยามาฮ่า “E01” ได้ทำการเปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ภายในงาน โตเกียวมอเตอร์โชว์ ประเทศญี่ปุ่นในฐานะยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ ที่ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Plugged Yamaha to new era” พร้อมจุดเด่นของระบบชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ที่รวดเร็ว และเป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ ยามาฮ่าจึงได้พัฒนาทุกองค์ประกอบของยามาฮ่า E01 ด้วยความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและวิศวกรรม ทั้งในด้านสมรรถนะ แบตเตอรี่ ระบบการชาร์จไฟ ดีไซน์ภายนอก และฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ เพื่อให้เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ยามาฮ่า “E01” ให้กำลังไฟฟ้าที่ 8.1 กิโลวัตต์ หรือเทียบเท่ากับรถจักรยนต์สันดาปขนาด 125 ซีซี ส่งผลให้เป็นเรื่องที่ดีสำหรับการใช้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ โดยสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 104 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง (ความเร็วคงที่ 60 กม./ชม.) และสามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 100 กม./ชม.
แบตเตอรี่และระบบการชาร์จไฟ ยามาฮ่า “E01” ถูกพัฒนาและเลือกใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุสูง 4.9 กิโลวัตต์/ชม. ที่ยามาฮ่าพัฒนาขึ้น สำหรับรถจักรยานยนต์โดยเฉพาะ ทำให้สามารถชาร์จไฟได้ผ่านเครื่องชาร์จแบบเร็ว ที่ระดับแบตเตอรี่ 0% ถึง 90% ได้ภายใน 1 ชั่วโมง โดยการออกแบบตัวเชื่อมต่อสายชาร์จไฟไว้ที่ตำแหน่งด้านหน้าของตัวรถ ทำให้สามารถชาร์จได้อย่างง่ายดาย ทันทีที่จอดรถ อีกทั้งยังมีระบบชาร์จไฟถึง 3 แบบให้เลือกใช้ เพื่อความสะดวกสบาย
ของผู้ใช้งาน และรองรับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ ได้แก่
ยามาฮ่า “E01” สมรรถนะการขับขี่ด้วยมาตรฐานของยามาฮ่า เพื่อให้ได้สมรรถนะการขับขี่ที่สมบูรณ์ตามแบบฉบับของยามาฮ่า จึงได้พัฒนาทุกองค์ประกอบขึ้นเองทั้งหมด ผสานกับความเชี่ยวชาญพิเศษทางด้านเทคโนโลยีการออกแบบและวิศวกรรมไร้ขีดจำกัดลิขสิทธิ์เฉพาะของยามาฮ่า ตั้งแต่มอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่พัฒนาจากยามาฮ่าเอง มีน้ำหนักเบา กะทัดรัด รวมถึงการตั้งค่าแรงบิดเพื่อให้ใช้งานง่ายที่สุด แรงบิดสูงสุดถูกตั้งไว้ที่รอบต่ำตั้งแต่ 0 – 2,000 รอบ/นาที ที่ 30.2 นิวตันเมตร และกำลังสูงสุด 8.1 กิโลวัตต์ที่ 5,000 รอบ/นาที ทำให้มีกำลังในรอบที่กว้าง ทำให้ง่ายต่อการใช้งานในสภาพการจราจรที่ติดขัดในเมืองโดยเฉพาะที่ความเร็วต่ำฃ
ยามาฮ่า “E01” สามารถสตาร์ทและออกตัวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อทำการเปิดคันเร่ง และมาพร้อมกับโหมดถอยหลัง ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าออกจากที่จอดรถและบังคับทิศทางของรถได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งระบบการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าของยามาฮ่า “E01” นั้นเงียบ ลื่นไหล ไร้เสียงรบกวน และการสั่นสะเทือนต่ำ จากกลไกของมอเตอร์ไฟฟ้าที่สร้างแรงหมุนได้โดยตรง ประกอบกับการใช้ยางที่มีเสียงรบกวนต่ำ เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุด
ยามาฮ่า “E01” มาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 ระดับ เพื่อความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมขณะใช้งาน และไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่แตกต่างกัน ได้แก่
– PWR (โหมดเพาเวอร์): สำหรับการขับขี่ที่ดึงกำลังสูงสุดของมอเตอร์ออกมา เหมาะสำหรับการขี่ขึ้นเนิน และการเร่งแซง ฯลฯ
– STD (โหมดมาตรฐาน): สำหรับการขับขี่ทั่วไปในช่วงความเร็ว 30 – 80 กม./ชม.
– ECO (โหมดอีโค): สำหรับการขับขี่ระยะไกล เพื่อจำกัดการใช้พลังงานแบตเตอรี่และจำกัดความเร็วสูงสุด อยู่ที่ประมาณ 60 กม./ชม.
การออกแบบและดีไซน์ยังคงความล้ำสมัย สะท้อนภาพลักษณ์จักรยานยนต์ไฟฟ้าแห่งโลกอนาคต
ยามาฮ่า “E01” ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดที่คำนึงถึงผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง ทั้งรถและคนต้องมีการเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกัน งานออกแบบจึงเรียบง่าย ผสานกับความล้ำสมัยและทรงพลัง แตกต่างจากสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าทั่วไป รูปลักษณ์ดีไซน์โดยรวมในการพัฒนา EV มาจากแนวคิด Jin-Ki Kanno ของยามาฮ่า ที่นำเอาแนวคิดจาก MOTOROiD*2 มาใส่ไว้ในรถคันนี้ โดยโครงสร้างเฟรมจะสะท้อนถึงเทคโนโลยีในการออกแบบรถจักรยานยนต์แบบสปอร์ต พื้นที่ด้านหน้าถูกออกแบบมาให้สะท้อนความเป็นยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่การจัดวางตำแหน่งไฟ จนถึงที่เสียบสายชาร์จ ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้ดีไซน์มีความล้ำ โดยไฟทุกตำแหน่ง ทั้งไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้าย และไฟเบรก เป็นไฟ Full LED ทั้งหมด ผสานกับสีดำและสีขาวมุกพิเศษของตัวถัง ยิ่งเสริมให้ ยามาฮ่า “E01” ดูมีสไตล์ หรูหรา และทันสมัย
ในส่วนของมาตรวัดหน้าจอ ได้รับการออกแบบให้แสดงผลแบบดิจิตอล แบบมัลติฟังก์ชั่นที่แสดงทั้งอัตราความเร็ว ความจุแบตเตอรี่ สถานะการชาร์จไฟ นาฬิกา อุณหภูมิของอากาศ และอื่นๆ
ฟังก์ชันการใช้งานมาพร้อมความสะดวกสบาย เพื่อการใช้งานทุกรูปแบบ
นอกจากดีไซน์อันล้ำสมัย อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้พัฒนา ยามาฮ่า E01 ให้ความสำคัญคือ ฟังก์ชันการใช้งานที่มอบความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ โดยยามาฮ่า E01 จะถูกควบคุมด้วยระบบสมาร์ทคีย์ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเปิดสวิตซ์ในการใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่หมุนปุ่มโดยไม่ต้องเสียบกุญแจ
นอกจากนี้รถรุ่นนี้ยังติดตั้งหน่วยควบคุมการสื่อสาร ด้วยระบบ 3G/LTE eSIM และ GPS โดยหน่วยควบคุมจะอัปโหลดข้อมูลรถ (ตำแหน่ง สภาพการทำงาน) ไปยังเว็บเซิร์ฟเวอร์ ข้อมูลที่สามารถตรวจสอบได้ ได้แก่ บันทึกการใช้งานรถ ประจุแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ และตำแหน่งที่รถจอด และอื่นๆ ยามาฮ่า จะใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้จากทดสอบความเป็นไปได้และดูทิศทางของตลาดของ ยามาฮ่า “E01” ไว้เป็นจุดอ้างอิงในการตั้งสมมติฐานความต้องการในอนาคตของผู้ขับขี่ เพื่อสนับสนุนการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคมและเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป
นายจิรภัทร สายเพชร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดกลุ่มรถออโตเมติกและสนับสนุนการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด รับรางวัลและถ่ายภาพร่วมกับ ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร / ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการมอเตอร์โชว์ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43
หลังจากที่ยามาฮ่าได้รับรางวัล Exhibit Design Award 2022 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 ด้วยการออกแบบและดีไซน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ YAMAHA MOTOVERSE – อาณาจักรยานยนต์แห่งความเร้าใจ สู่สังคมแห่งอนาคต ตอกย้ำความล้ำสมัยด้วยรางวัล The Best Concept Bike Award 2022 จากการจัดแสดงรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ยามาฮ่า E01 ที่สามารถเดินทางได้ไกลกว่า 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้าเต็มหนึ่งครั้ง และทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และใช้เวลาชาร์จไฟฟ้าจาก 0%-90% ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง
สำหรับการรับรางวัล Exhibit Design Award 2022 และรางวัล The Best Concept Bike Award 2022 มีขึ้น ณ บูธ YAMAHA MOTOVERSE – อาณาจักรยานยนต์แห่งความเร้าใจ สู่สังคมแห่งอนาคต ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้
นอกจากจะมีดีไซน์ที่โดดเด่น ภายใต้โทนสีแดง ขาว เทา ที่เป็นสีเอกลักษณ์ของยามาฮ่า พร้อมจอ 3 มิติขนาดใหญ่ที่สร้างความแตกต่าง ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ ที่พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่สุดล้ำให้กับลูกค้าแล้ว ในปีนี้ยังมีความพิเศษจาก Yamaha Motoverse Idols ที่ได้ น้องวันนี้ – Wunni อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริง (Virtual Human Influencer) มาร่วมเป็น 1 ใน Yamaha Motoverse Idols เป็นครั้งแรกในวงการยานยนต์ นับได้ว่าเป็นการสะท้อนความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีของยามาฮ่าได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้บูธ “YAMAHA MOTOVERSE” ยังมี Leisure Zone ยานยนต์ทางน้ำและรถกอล์ฟ รวมถึง Yamaha Apparel & Accessories รวมทั้งเคมีภัณฑ์ Yamalube ให้ทุกท่านได้เลือกชม และรับลดสูงสุดถึง 40% พร้อมรับโปรโมชันพิเศษมากมายภายในงาน
รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เปิดตัวโมเดลใหม่พร้อมกันทีเดียวถึง 4 รุ่น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง นำโดย All New Click160 รถสปอร์ต เอ.ที. สปอร์ตเต็มขั้น ดีไซน์ใหม่ทั้งคัน มาพร้อมสมรรถนะขั้นสุด, New Dax125 รถ Iconic จาก CUB House โดดเด่นด้วยเฟรมแบบ T-Bone, New NT1100 บิ๊กไบค์สปอร์ตทัวริ่งดีไซน์ใหม่ล่าสุด และ New GOLDWING Black Edition รถท็อปคลาสทัวริ่งที่มาพร้อมสีใหม่สุดดุดัน พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์กลุ่ม Life Creation ที่จะทำให้การใช้ชีวิตของคนไทยมีความสะดวกสบาย รวมถึงการจัดแสดงนวัตกรรม EV Ecosystem ผ่านบูธ The Power of Dreamer
มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวว่า “ภายใต้แบรนด์คอนเซปต์ “What Stops You?” ฮอนด้ามองว่าการใช้ชีวิตคือเรื่องที่ไม่มีข้อจำกัด ความฝันจะเป็นจริงถ้าเราลงมือทำ แต่ความฝันที่ยิ่งใหญ่จะสำเร็จได้ถ้ามีพลังขับเคลื่อน เราจึงมุ่งมั่นไม่หยุดพัฒนาเพื่อสร้าง Mobility World ที่สามารถเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงเทรนด์แห่งอนาคตที่เราไม่ได้มองเพียงแค่การพัฒนารถ EV เท่านั้น แต่มองไปถึงการพัฒนาในเชิงระบบนิเวศหรือ EV Ecosystem ทั้งหมดจะถูกถ่ายทอดผ่านบูธ The Power of Dreamer ของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า”
บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ซูซูกิ อย่างเป็นทางการ มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพ และสร้างสรรค์ประสบการณ์รูปแบบใหม่ภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 หรือ Bangkok International Motor Show 2022 ที่นับได้ว่าเป็นงานจัดแสดงยานยนต์ระดับประเทศกับแนวคิด “ก้าวด้วยกัน ไปด้วยใจ ไปได้ไกล” – Keep Moving Forward Together! ที่รวบรวมยานยนต์ทุกประเภทมาจัดแสดง เพื่อให้ชม สัมผัส ลองขับ และเลือกซื้อ จึงเป็นงานที่เหล่าคนรักยานยนต์รอคอย ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 21 มีนาคม – 3 เมษายน 2565
บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดแสดงรถจักรยานยนต์หลากหลายรุ่น รุ่นไฮไลท์ของงานในครั้งนี้ คือ Ninja ZX-10R รถจักรยานยนต์ซูเปอร์สปอร์ตรุ่นเรือธงของตระกูล Ninja ที่โด่งดังทั่วโลก ยลโฉมความสวยงามและสัมผัสคันจริง ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 รวมทั้งรถจักรยานยนต์ Z650RS มนต์สเหน่ห์ความคลาสสิคผสมผสานกับเครื่องยนต์ขนาดกลางสุดเร้าใจในการขับขี่ และ KLR650 รถจักรยานยนต์สไตล์แอดแวนเจอร์ที่ทำให้การผจญภัยของคุณสนุกกว่าที่เคย โดยทุกรุ่นมาพร้อมกับข้อเสนอที่พลาดไม่ได้
คุณกฤษณะ ภาคีแพทย์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขาย กล่าวว่า “แม้ว่าสภาวะตลาดรถจักรยานยนต์ยังประสบปัญหาจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโรคโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง แต่เราก็ได้เห็นความพยายามในการแก้ไขปัญหา การควบคุมการระบาดจากทั้งภาครัฐบาลและเอกชนที่ร่วมมือกัน ทำให้เรามั่นใจได้ว่าเราจะได้เห็นตลาดกลับมาคึกคักมากขึ้น”
“เราได้พัฒนาและประสบความสำเร็จด้านเทคโนโลยีและความสามารถเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของตลาด รวมไปถึงเรื่องของการระบาดของโรคโควิด 19 ด้วย เป้าหมายและความพยายามของเรามุ่งเน้นให้ผู้บริโภคเป็นจุดศูนย์กลาง เราไม่เพียงแต่ผลิตรถจักรยานยนต์ที่ดีเยี่ยม แต่เรายังมุ่งหวังที่จะสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ดีเยี่ยมด้วยเช่นกัน” กล่าวเพิ่ม
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ออโตเมติกของเมืองไทย พร้อมเปิดประสบการณ์การขับขี่ครั้งใหม่ ด้วยคอนเซ็ปต์ “EXPERIENCE THE UNDISCOVERED” ค้นหาประสบการณ์เร้าใจไปกับ ยามาฮ่า เอ็กซ์แม็กซ์ รถออโตเมติก 300 ซีซี ยอดนิยมที่ครองใจคนทั่วโลกตามเอกลักษณ์แห่งตระกูล MAX Series สุดยอดดีไซน์ผสานสุดยอดสมรรถนะการขับขี่ ตอบสนองจิตวิญญาณแห่งความเป็น MAX สีสันใหม่ เท่ สปอร์ตเร้าใจ และคุ้มค่ากว่าด้วยการรับประกันมากกว่า ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร
สำหรับ ยามาฮ่า เอ็กซ์แม็กซ์ 300 ใหม่! ที่มาพร้อมกับสโลแกน “MAXPERIENCE ประสบการณ์แห่งความเร้าใจ…สุดแม็กซ์” ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมเต็ม MAX ด้วยเครื่องยนต์ BLUE CORE ในพิกัด 300 ซีซี ผสมผสานเทคโนโลยีแห่งความแรงและความประหยัดได้อย่างลงตัว สั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอัจฉริยะ พร้อมกระบอกสูบไดอะซิล ที่ให้ประสิทธิภาพในการขับขี่สนุกเร้าใจในทุกระดับความเร็ว
ยามาฮ่า เอ็กซ์แม็กซ์ 300 ใหม่! ยังเสริมสมรรถนะการขับขี่ให้เต็ม MAX ด้วย โช้คหน้าขนาด 33 มม. ดูดซับแรงกระแทกได้ดี ให้ความมั่นใจในทุกสภาพถนน อีกทั้งยังให้ความมั่นใจในการหยุดรถด้วยระบบเบรก ABS ที่ช่วยควบคุมแรงดันเบรกอัตโนมัติ ป้องกันล้อล็อกทั้ง 2 ล้อ พร้อมระบบ Traction Control System (TCS) ระบบปรับสมดุลความเร็วล้อหน้า-หลัง ให้สัมพันธ์กัน ให้ความปลอดภัยในทุกสถานการณ์การขับขี่ และตอบโจทย์การเดินทางไกลด้วย ถังน้ำมันขนาด 13 ลิตร จุน้ำมันได้มากหมดกังวลทุกการเดินทางไกล พร้อมที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ที่สามารถเก็บหมวกกันน็อกเต็มใบได้ถึง 2 ใบ
ยามาฮ่า เอ็กซ์แม็กซ์ 300 ใหม่! นอกจากมีสมรรถนะการขับขี่สุด MAX แล้ว ยังเพียบพร้อมด้วยฟีเจอร์หรูหราสุดพรีเมี่ยมตลอดทั้งคัน ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า-ไฟท้าย แบบ FULL LED ดีไซน์สปอร์ตดุดัน ต้นฉบับความเท่ของตระกูล MAX สว่างขึ้นชัดเจนกว่าเดิม เพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่, เรือนไมล์แบบ Multi-function Digital Meter จอ LCD สไตล์สปอร์ต ครบทุกฟังก์ชัน พร้อมสวิตช์เปลี่ยนโหมดที่แฮนด์, ช่องชาร์จแบตมือถือหรืออุปกรณ์นำทาง ขนาด 12V พร้อมช่องเก็บของด้านหน้า รวมทั้งกุญแจรีโมทอัจฉริยะ SMART KEY SYSTEM ที่สามารถใช้งานทั้งสตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์, ปลดล็อกแฮนด์รถ / ปลดล็อกเบาะ / ปลดล็อกฝาปิดถังน้ำมัน และส่งสัญญาณตอบรับ ANSWER BACK
ยามาฮ่า เอ็กซ์แม็กซ์ 300 ใหม่! มาพร้อมกับสีสันใหม่ เท่ สปอร์ตเร้าใจ ซึ่งมีให้เลือกด้วยกันถึง 4 สี คือ สีเขียว Dark Petrol, สีแดง Redline, สีน้ำเงิน Icon Blue และสีขาว Milky White ด้วยราคาแนะนำที่ 179,000 บาท โดยสามารถสัมผัสกับ MAXPERIENCE ประสบการณ์แห่งความเร้าใจ…สุดแม็กซ์ ไปกับ ยามาฮ่า เอ็กซ์แม็กซ์ 300 ใหม่! ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263- 9999 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ที่
Website : www.yamaha-motor.co.th
Facebook : Yamaha Society Thailand
Instagram : @Yamaha Society Thailand
Youtube : Yamaha Society Thailand
CUB House by Honda เดินหน้าส่งมอบความสนุกอย่างไรขีดจำกัด ด้วยโปรเจกต์ใหม่ล่าสุด จับมือค่าย Toei Animation เปิดตัว Monkey x One Piece Limited Edition ถ่ายทอดคาแรคเตอร์ความสนุกจาก “วันพีช” มังงะราชาโจรสลัดที่โด่งดังไปทั่วโลก ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 300 คัน เท่านั้น!
มร.ทาคาโนริ มารุยามะ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทย เปิดเผยว่า “ด้วยความตั้งใจที่จะนำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับแฟนคลับรถจักรยานยนต์ระดับตำนานอย่าง Monkey เราจึงได้จับมือกับพันธมิตรมากมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบความสนุกที่เหนือความคาดหมาย เริ่มจาก Monkey x Dragon Ball Limited Edition ตามด้วย Monkey x Gundam Limited Edition จนมาถึง Monkey x Hot Wheels Limited Edition ซึ่งทั้งหมดล้วนได้การตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟนคลับ Monkey และนักสะสมมาโดยตลอด”
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถจักรยานยนต์ออโตเมติกของเมืองไทยครั้งใหม่! พร้อมกระตุ้นตลาดรถจักรยานยนต์ให้คึกคักยิ่งขึ้น ด้วยการส่งรถจักรยานยนต์ “New YAMAHA AEROX” ท้าชีวิต…บิดให้สุด Spice up your challenge! ดีไซน์สปอร์ตรอบคัน ดุดันตามแบบฉบับรถ Super Sport ตระกูล R-Series สมรรถนะทรงพลังด้วยความแรงจากเครื่องยนต์บลูคอร์ 155 ซีซี ผสานวาล์วแปรผันอัจฉิรยะ VVA พร้อมเทคโนโลยีใหม่ Y-Connect เชื่อมต่อข้อมูลรถเพื่อตอบสนองในการใช้งานและมั่นใจในการรับประกันมากกว่า ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร
สำหรับ New YAMAHA AEROX…SPORT AUTOMATIC LEADER สปอร์ต…อัจฉริยะ ที่สุดแห่งสปอร์ตออโตเมติก ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างเร้าใจด้วย “SPORT PERFORMAMCE” สมรรถนะแรงเหนือใคร ด้วยเครื่องยนต์บลูคอร์ 155 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVA ตอบสนองดีเยี่ยมทุกอัตราเร่ง สไตล์รถสปอร์ต ระบายความร้อนด้วยน้ำเต็มระบบ พร้อมลูกสูบแบบ Forged แข็งแกร่ง ทนทานและให้ความมั่นใจในการหยุดรถด้วยระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน ช่วยไม่ให้เสียการควบคุม ปลอดภัยอีกขั้นแบบรถสปอร์ตชั้นนำ เสริมด้วยยางหลังใหญ่ 140 มม. ล้อแม็ก 14 นิ้ว ใหญ่สุดในคลาสสปอร์ตออโตเมติก เฉียบคมทุกการเข้าโค้ง มั่นใจทุกการคอนโทรลแบบรถสปอร์ต และระบบกันสะเทือนหลังแบบซับแทงค์ ดูดซับแรงกระแทกดีเยี่ยม ลดแรงสะท้านในการขับขี่ ให้อารมณ์รถสปอร์ตตัวจริง