Skip to content

BMW Motorrad Concept CE0

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ระหว่างปิดต้นฉบับนี้ ทาง BMW Motorrad ได้แจกข่าวสาร เกี่ยวกับรถ”ต้นแบบ” หรือ Concept โมเดลล่าสุดให้กับสื่อทั่วโลก ซึ่งเป็น รถไฟฟ้า สำหรับ การใช้งานในเมือง ที่ระบุชัดเจนว่าคือ urban electric mobility แน่นอนว่ามันน่าจะถูกผลิตออกมาจำหน่ายในเวลาไม่นานนัก เนื่องจากว่าในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ทาง BMW Motorrad มักจะทำการแนะนำรถ concept ออกมานำร่องให้คนติดตาม จากนั้นไม่นานนักก็จะทำการเปิดตัวเวอร์ชั่นโปรดักชั่นตามมาในทันที

ขณะที่หลายฝ่ายต่างคาดเดาว่า BMW Motorrad จะจัดวางเซ็คชั่นไหนในตลาดรถ จะอยู่ในกลุ่มรถจักรยานยนต์มาตรฐาน หรืออยู่ในกลุ่มสกู๊ตเตอร์ เนื่องจากว่าเนื้อหาในเอกสารนั้นใช้คำว่า vehicle มากกว่า motorcycle หรือ scooter ซึ่งที่สุดแล้วหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ BMW Motorrad อย่าง Edgar Heinrich ก็พูดทำนองว่า นี่คือการออกแบบใหม่ทั้งหมด จนหล่อหลอมออกมาเป็น CE02 นี่เป็นการผสมผสานของจินตนาการออกแบบกับความเชี่ยวชาญความเป็นมืออาชีพในการทำงาน ซึ่งเขาก็พยายามจะสื่อถึงองค์ความรู้มากมายจากการคิดค้นวิวัฒนาการต่างๆจากโปรเจ็คมากมาย หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆในอดีต ที่ล้วนประสบความสำเร็จด้วยดีนั้นได้ถูกนำมาใช้กับการพัฒนา CE02 ที่บอกว่า มันคือสไตล์ใหม่ รูปแบบใหม่กับ single-track mobility ที่พร้อมตอบสนองสภาพการใช้งานในเมืองที่สำคัญคือมันให้ความสนุกจากการขับขี่อีกด้วย

นอกจากนี้ชัดเจนว่ากลุ่มเป้าหมายกำหนดไว้ที่กลุ่มผู้ใช้ อายุ 16 ปี ขึ้นไป ที่ไม่เคยขี่รถจักรยานยนต์ แต่จะสามารถสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ในการขับขี่กับเทคโนโลยีของโลกยานยนต์เท่ๆกับ lightweight e-vehicle ยานยนต์ไฟฟ้าน้ำหนักเบา ที่มีน้ำหนัก 120 กก.โดยประมาณ ซึ่งเจ้า BMW Motorrad Concept CE02 นี้ เน้นสมรรถนะและประสิทธิภาพหลักเพื่อการใช้งานในเมือง เน้นความสนุกสนานในการขับขี่ ความมีสไตล์เฉพาะตัว ด้วยพลังขับเคลื่อนขนาด 11kW ที่ให้แรงบิดและอัตราเร่งที่เพียงพอด้วยความเร็วสูงสุดในระดับ 90 กม./ชม. กับระยะทำการไกลถึง 90 กม. ซึ่งเพียงพอสำหรับการเดินทางไปกลับในเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่นในเมืองด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายดูมีสไตล์ ดึงดูดความสนใจ ช่วยเพิ่มความรู้สึกที่ต้องการขับขี่ บวกกับการออกแบบองค์ประกอบด้วยวงล้อขนาดใหญ่ที่มีสไตล์ไปทาง fun bike นับว่าสื่อให้เห็นถึงเป้าหมายในการพัฒนาเพื่อสร้างความสนุกสนานในการขับขี่ ขณะที่ภาพรวมของตัวรถนั้นก็เสริมด้วยสุนทรียภาพชวนให้ติดตาม ด้วยการจัดวางตำแหน่งองค์ประกอบของตัวรถให้น่าสนใจ มีสเน่ห์เฉพาะตัว โดยเฉพาะการออกแบบที่นำเรื่องของแสงเงามาเสริม ซึ่งจะสังเกตได้ว่า ส่วนบริเวณของแบตเตอรี่และมอเตอร์นั้นจะใช้โทนสีที่ทำให้เกิดความโดดเด่นของตัวรถ ที่มีความกะทัดรัด รวมกับการออกแบบโครงสร้างตัวรถที่ทำให้แคบ และการกำหนดจุดศูนย์ถ่วงรถที่ต่ำ ทำให้ได้รับถึงความรู้สึกของพลังการขับเคลื่อนของรถที่มีนั้น ขณะที่แนวทางการจัดวางองค์ประกอบอื่นๆของตัวรถนั้น ต้องบอกว่าฉีกแนวความคิดของความเป็นรถจักรยานยนต์แบบมาตรฐานไปพอสมควร ตามที่ทางผู้ผลิตพยายามสื่อออกมาว่า นี่คือสไตล์ใหม่รูปแบบใหม่ของ e-vehicle สำหรับคนอายุ 16 ปีขึ้นไปที่ไม่มีประสบการณ์การขี่จักรยานยนต์ จะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่นี้

การออกแบบที่เน้นรายละเอียดชิ้นส่วนที่มีคุณภาพสูง มีการปรับใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมกับแต่ละองค์ประกอบ ซึ่งทุกๆจุดล้วนได้รับการเอาใจใส่ตรวจสอบอย่างใกล้ชิดทุกรายละเอียด อย่างไฟหน้าที่เป็นกรอบเหลี่ยมนั้นก็จัดวางหลอดไฟแบบ LED เข้าไปในชุดไฟหน้า ที่ดูมีเอกลัษณ์ เช่นเดียวกับไฟท้ายชนาดเล็กที่ติดตั้งด้านข้างของเบาะนั่ง มีจอสีขนาดเล็กที่จัดวางตำแหน่งไว้บนแฮนเดิ้ลบาร์ซึ่งเป็นจอแสดงข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการขับขี่ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ความลงตัวของการจัดวางตำแหน่งของวงล้อกับสวิงอาร์มเดี่ยว และชุดสายพานขับเคลื่อนทำได้อย่างดี หรือแม้แต่แฮนเดิ้ลบาร์กับชุดฟอร์คหน้าก็ออกแบบมาได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะ สำหรับยานพาหนะรูปแบบใหม่ ที่พัฒนามาเพื่อตอบสนองการใช้งานในเมืองโดยเฉพาะ กับรูปแบบล่าสุดของยานยนต์พลังไฟฟ้าของ BMW motorrad ภาพรวมของโทนสีคุมเฉดหลักของ BMW Motorrad Concept CE02 นี้ไว้ด้วยโทน ดำ/เงิน black/silver เป็นหลักนี่น่าจะเป็นการผสมผสานระหว่างการออกแบบกับเทคโนโลยีอย่างมีสไตล์เฉพาะตัว ก็น่าสนใจว่าหลังจากนี้หากมีการเปิดไลน์เป็นรถโปรดักชั่นขึ้นมา จะมีความแตกต่างมากน้อยไปจากเวอร์ชั่น concept มากน้อยเพียงใด สำหรับ CE02 ที่เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานกับแฟชั่น สำหรับการตอบสนองในการใช้งานประจำวันได้อย่างมีสไตล์

สำหรับข้อมูลของตัวรถยังไม่มีรายละเอียดที่แน่ชัดออกมา โดยเฉพาะแบตเตอรี่นั้นยังไม่ได้บอกว่าใช้แบบใด ขนาดเท่าไร เชื่อว่าเมื่อผลิตจำหน่ายน่าจะมีการระบุสเปคที่ชัดเจนออกมา ขณะที่กำลังขับเคลื่อนของเจ้าต้นแบบที่ทำออกมาโยนหินถามทางตัวนี้ ระบุว่า มีกำลังขนาด 11kW ตามที่กล่าวไปแล้ว โดยกำลังขับเคลื่อนขนาดนี้ เพียงพอสำหรับผู้ที่มีใบอนุญาติในระดับ A1 ขึ้นไป ส่วนความเร็วกับระยะทางการใช้งานนั้นก็ตามที่กล่าวไปแล้ว คือ ท็อปสปีดอยู่ 90 กม./ชม. ใช้งานได้ระยะทาง 90 กม. โดยวงล้อหน้าและหลังมีขนาด 15 นิ้ว ความสูงเบาะนั่งอยู่ที่ 730 มม. และมีน้ำหนักโดยประมาณ 120 กก. เอาเป็นว่าไรดิ้งเราเชื่อว่าน่าจะอีกไม่นานเจ้า urban e-vehicle ตัวนี้ น่าจะถูกนำขึ้นไลน์การผลิตแบบรถโปรดักชั่นอย่างแน่นอน