ความโดดเด่นของรถแนวคลาสสิคเรโทรกำลังกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ทั้งรถเล็กรถใหญ่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ฮอนด้า ก็คือหนึ่งในผู้ออกแบบและผลิตรถจักรยานยนต์แนวคลาสสิคจากยุคอดีตจนมาถึงยุคดิจิตอลนี้ แต่เพิ่มความน่าสนใจและรายละเอียดเทคโนโลยีเข้าไปเพื่อความสะดวกสบาย
CB150R คันนี้มาพร้อมกับนิยามของคำว่า Neo Sport Scrambler เป็นอีกรูปลักษณ์ที่โดดเด่นการผสมผสานของชิ้นส่วน และดีไซน์ที่ดูคลาสสิค ไฟหน้าทรงกลม ครอบปิดด้วยตระแกรงของ H2C สีสันเข้มดุดัน โดดเด่น เพราะว่าเป็นชิ้นงานเคฟล่าร์ทั้งคัน ครอบถังน้ำมัน ปีกข้างหม้อน้ำ บังโคลนหน้า แฮนด์บาร์ค้ำอลูมินัม ปลายแฮนด์ติดกระจกมองหลัง ก้านเบรกปรับระดับ เบาะนั่งทรงกระดานปรับให้สั้นด้วยการตัดแต่งซับเฟรมท้ายใหม่ พักเท้าอลูมินัมขยับวางตำแหน่งกึ่งสปอร์ต
วงล้อซี่ลวด 17 ขนาดนิ้ว กับยางที่มีดอกยางใหญ่สามารถขับขี่ได้ทั้งทางเรียบและทางดิน ขับขี่ได้ทุกพื้นผิวมันได้เต็มอารมณ์ โช้คอัพหน้าหัวกลับ Upside Down ที่เห็นเป็นออพชั่นจากรุ่นพี่ X-ADV 750 ของรถบิ๊กไบค์ มีแกนขนาด 41 มม. ให้มาเกินตัวประสิทธิภาพเยี่ยม ดิสก์เบรกหน้าจานเดี่ยวแต่ไม่ธรรมดาเพราะว่า คาลิเปอร์ ดีกรีระดับรุ่นใหญ่เรเดียลเม้าท์ 4 พอร์ท หน้าตาคุ้น เพราะว่าเป็นตัวเดียวกับ CBR1000RR ซูเปอร์ไบค์ระดับท็อปของฮอนด้านั่นเอง สวิงอาร์มหลังใหม่เพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นเป็นอลูมินัมงาน CNC และทำงานควบคู่กับโช้คอัพแก๊สระดับชั้นนำของรถแต่ง Gazi สีสันโดดเด่นและการทำงานที่นิ่มนวล สามารถที่จะปรับพรีโหลดได้
เครื่องยนต์ถูกอัพเกรดเล็กน้อยด้านนอกกันสไลด์ฝาครอบแคร้ง และเพิ่มสมรรถนะด้วยการเสริมท่อไอเสียเพื่อช่วยในการรีดแรงม้าออกมาได้อย่างราบรื่น สวมด้วยปลายแบบซูปอร์แทป แต่ปรับการเดินออกด้านข้างของตัวรถเสริมกันความร้อนเพื่อความปลอดภัย และใช้หม้อน้ำอลูมินัมเพื่อช่วยระบายความร้อน การ์ดกันแคร้งด้านล่าง KITACO สำหรับสายลุยทางวิบาก