Skip to content
2023 Yamah Hyper Naked range

กับนิยามความดิบ ในคอนเซ็พท์ no-compromise styling ของYamaha ที่ออกแบบรถเนคเก็ตดที่โชว์เว้นสายทรวดทรงโครงสร้างเฟรมในแบบ muscular chassis designs ที่ผสานกับเครื่องยนต์ที่พัฒนาออกมาให้มีความโดดเด่นในเรื่องแรงบิด จากเครื่องยนต์ crossplane engine จนว่งผลให้หลายรุ่นในกลุ่มรถเนคเก็ตกลายเป็นหนึ่งในรถที่ทำยอดขายได้ดี จากแรงบันดาลใจในการสร้างวิถีทางตามแบบฉบับที่มีลักษณะเฉพาะตัวภาบใต้นิยาม The Dark Side of Japan มีส่วนสำคัญที่มำให้รถในรหัส MT สามารถทำยอดขายต่อเนื่องตลอดระยะเวลาสิบปีได้สำเร็จอย่างงดงามด้วยยอดขายรวมเกนกว่า 420000 คัน ทั่วยุโรป ที่กลุ่มผู้ใช้ยอมรับรถที่มีลัษณะเฉพาะตัวตามแบบฉบับ Yamaha Hyper Nakeds โดยทาง Yamaha Motor Europe ได้เปิดไลน์อัพรถในซีรีส์ MT ไว้ตั้งแต่ขนาด 125 ซีซี. -1000 ซีซี. ที่พร้อมตอบสนองความต้องของผู้ขับขี่ในทุกช่วงอายุ และทุกระดับประสบการณ์ในการขับขี่และในปี2023 ทางYamaha Europe ได้มีการรุกตลาดอีกครั้ง ด้วยการเสริม

และในปี2023 ทางYamaha Europe ได้มีการรุกตลาดอีกครั้ง ด้วยการเสริมสมรรถนะปรับสเปคให้กับ MT-07 และ MT-125 ให้สูงขึ้นกว่าโมเดลก่อนนี้ ซึ่งทั้งสองโมเดลดังกล่าวนับว่าเป็นรุ่นที่ประสยความสำเร็จสูงสุดในไลน์อัพของรถรหัสMT ขณะเดียวกันก็ยังคงส่งรุ่นอื่นๆออกมาอย่างเต็มไลน์อัพ ที่ตามมาด้วยโมเดลที่ถือว่ามีความโดดเด่นอย่าง MT-09 และ MT-09SP และแน่นอนว่าพี่ใหญ่ของไลน์อัพ ที่ถือว่าเป็นรุ่นที่ทรงพลังมากที่สุด โดยยกให้เป็น the most powerful Yamaha Hyper Naked ซึ่งก็คือ MT-10 ที่ควงมาพร้อมกับ MT-10SP


โดยในรุ่น 2023MT-07 ที่จัดได้ว่าเป็นโมเดลในระดับ Top of the sales charts ที่สามารถทำยอดได้ถึง 160,000 คัน ในยุโรป นับตั้งแต่เริ่มเปิดไลน์การผลิตมาจำหน่ายตั้งแต่ปี2014 และในโมเดลปี 2023 ได้มีการอัพเกรดอย่างเช่นการ ใช้ new 5-inch full-colour TFT display ที่สามารถเลือกธีมหน้าจอได้สองรูปแบบ คือ street theme กับ touring theme นอกจากนี้ยังสามารถใช้สมาร์ทโฟนดาวน์โหลดแอพของYamaha คือ MyRide app ก็จะช่วยให้ผู้ขี่เชื่อมต่อการกับ MT-07 ผ่านBluetooth ซึ่งจะช่วยให้สามารถสื่อสารผ่าน new TFT meter

เช่นเดียวกันในโมเดล 2023 MT-125 ก็มาพร้อมกับ new 5-inch connected full-colour TFT meter พร้อมอ็อพช่นที่ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วยเช่นกัน สำหรับ MT-125 นี้ ก็นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ขายดีและเป็นที่นิยมสำหรับกลุ่มผู้ขับขี่ที่ถือใบอนุญาตขับขี่ในระดับ A1 ของยุโรป และแน่นอนว่าในการเชื่อมต่อกับ แอพ MyRide app นั้น จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรับข้อมูล รับข่าวสารและสื่อสารต่างๆที่เกี่ยวกับตัวรถได้อย่างหลากหลาย แบบเดียวกับ MT-07 แล้ว ยังมีส่วนที่ได้รับการอัพเกรดเพิ่มเติมคือ ใน MT-125 นี้ จะได้รับการติดตั้ง new traction control system อีกด้วย และทั้งสองโมเดลนี้ก็คือหนึ่งในรุ่นที่สามารถทำยอดขายได้มากที่สุดในซีรีส์ MT เคลื่อนไหวเล็กที่มีผลต่ออนาคตมากมายจนถึงปัจจุบัน นั่นก็คือ การประกาศเปิดแผนก Racing Service Center ขึ้นมาในปี 1982 ก่อนที่แผนกนี้จะถูกเปลี่ยนสเปค MT-125

Engine type : EURO5;4-stroke;Liquid-cooled;SOHC;Single cylinder
Displacement : 124cc
Bore x stroke : 52,0 x 58,6 mm
Compression ratio : 11,2 : 1
Maximum power : 11,0 kW @ 10.000 rpm
Maximum Torque : 11,5 Nm @ 8.000 rpm
Lubrication system : Wet sump
Clutch Type : Wet;Multiple Disc
Ignition system : TCI
Starter system : Electric
Transmission system : Constant Mesh;6-speed
Final transmission : Chain
Fuel consumption : 2,1 L/100 km
Carburettor : Electronic Fuel Injection
Frame : Diamond
Caster Angle : 26º
Trail : 95 mm
Front suspension system : Upside-down telescopic fork, Ø 41 mm
Rear suspension system : Swingarm;(Link type suspension) Front travel : 130 mm
Rear Travel : 110 mm
Front brake : Hydraulic single disc, Ø 292 mm
Rear brake : Hydraulic single disc, Ø 220 mm
Front tyre : 100/80-17M/C 52S
Rear tyre : 140/70-17M/C 66S
Overall length : 1.960 mm
Overall width : 800 mm
Overall height : 1.065 mm
Seat height : 810 mm
Wheel base : 1.325 mm
Minimum ground clearance : 160 mm
Wet weight (including full oil and fuel tank) : 142 kgFuel tank capacity : 11 L
Oil tank capacity : 1,05 L