Skip to content
2023 Ducati Multistrada V4 Rally

เปิดประสบการณ์ใหม่กับโลกใบใหม่ที่มีอะไรให้ค้นหา นั่นคือสิ่งที่ Ducati บอกกับผู้ขับขี่ทุกคนที่กำลังต้องการเริ่มต้นการเดินทางด้วยการขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งพวกเขาได้นำเสนอรถรุ่นล่าสุดที่ได้ทำการอัพเกรดขึ้นมาใหม่อย่าง Multistrada V4 Rally ด้วยเติมคำว่า Rally ต่อท้าย นั่นหมายความว่าพวกเขาได้ตั้งใจที่จะยกระดับของ Multistrada เพิ่มขึ้นจากเดิม High level เป็นนิยามง่ายๆที่เขาจะพูดถึงการยกระดับครั้งนี้ ไม่ว่าการเพิ่มความรู้สึกสบายในขณะขับขี่ทั้งผู้ขี่และผู้ซ้อน ขยายประสิทธิภาพให้สามารถตอบสนองการใช้งานที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะคุณสมบัติการขับขี่ในแบบออฟโรด ดังนั้นรถเวอร์ชั่นนี้จะเป็นรถที่มีความพร้อมเต็มที่สำหรับรองรับเส้นทางวิบาก ขณะเดียวกันก็ยังคงยอดเยี่ยมกับการใช้งานในเมืองหรือโลดแล่นบนท้องถนนแบบที่เคยเป็นมา

 

นี่คือสมาชิกล่าสุดของรถในตระกูล Multistrada V4 ซึ่งทุกเวอร์ชั่นจะมีพื้นฐานเดียวกัน คือมาพร้อมกับพละกำลังในระดับ 170 แรงม้า ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษามีความทนทานสมบุกสมบันมากยิ่งขึ้นโดยกำหนดการบำรุงรักษาชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ไว้ที่ทุกระยะ 60,000 กม. และมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นต่างๆทุกๆ 24 เดือน

คำว่า Rally ที่ทาง Ducati นำมาใช้นี้ จุดประสงค์ต้องการสื่อให้รู้ว่า นี่คือเวอร์ชั่นที่พัฒนาทุกๆองค์ประกอบเพื่อให้สามารถพิชิตได้ทุกเส้นทางการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความทุรกันดานสมบุกสมบันก็ไม่เป็นอุปสรรคใดใด ระบบกันสะเทือน semi-active suspensions ได้รับการปรับเพิ่มระยะยุบตัวเป็น 200 มม. ส่งผลให้ค่า ground clearance มีระยะห่างจากพื้นที่มากพอเวลาที่ต้องผ่านเส้นทางวิบาก ขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มระบบ power mode ที่เน้นไปถึงคุณสมบัติการใช้งานขณะขับขี่บนทางวิบากเป็นพิเศษ แน่นอนว่าระบบอิเล็คทรอนิคส์ต่างๆก็ล้วนได้รับการปรับเซ็ท

เพื่อเสริมแต่งประสิทธิภาพที่เอื้อต่อคุณสมบัติการใช้งานในแบบออฟโรดเพิ่มเติมมากกว่าเวอร์ชั่นปกติทั่วไปที่เคยมี นี่คือ Multistrada V4 ที่มีความดุดัน พร้อมออกผจญภัยในแบบที่เรียกว่าไปทุกที่ที่ใจปราถนาจะออกไปเปิดโลกใบใหม่กันเลย จะกล่าวได้ว่านี่คือรถแอดเวนเจอร์ในแบบไฮโซก็ไม่ผิดเพราะประกอบด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยสนับสนุนการขับขี่แบบเต็มพิกัด เวอร์ชั่น Rally นี้ก็ได้รับการติดตั้งเช่นเดียวกับเวอร์ชั่นอื่นๆของ Multistrada V4 โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเป็นรถโมเดลแรกของโลกที่จะมีระบบเรดาร์ front and rear radar system ติดตั้งมาให้ เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของ Adaptive Cruise Control-ACC ที่ช่วยลดความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ทางไกลเป็นเวลานานได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังสนับสนุนการทำงานของ Blid Spot Detection-BSD ที่คอยตรวจจับและแจ้งถึงวัตถุหรือรถที่อยู่ใน

มุมอับหรือรถที่มองไม่เห็นในกระจกส่องหลัง เช่นเดียวกับระบบอิเล็คทรอนิคส์อื่นๆ ระบบช่วยจัดการเบรค ABS Cornering , Ducati Cornering Lights-DCL ก็คือระบบไฟที่ช่วยให้มองเห็นขณะขับขี่ในโค้งยามค่ำคืน Ducati Wheelie Control-DWC และ Ducati Traction Control-DTC การแสดงผลผ่านจอ 6.5 นิ้ว TFT colour dashboard รวมถึงการเชื่อมต่อการทำงานกับแอพ Ducati Connect application ที่ช่วยในการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับสมาร์ทโฟน การรับสายโทรศัพท์ การฟังเพลง ขณะที่เครื่องยนต์นั้น เป็นเครื่องขนาด 1,158 ซีซี Granturismo engine ให้กำลังระดับ 170 แรงม้า ซึ่งที่น่าสนใจก็คือ มันเป็นเครื่องยนต์ที่มีน้ำหนักเพียง 55.7 กก.
ที่ติดตั้งไว้บนโครงสร้างเฟรมแบบ mocoque aluminium frame ที่มีน้ำหนักเบาและกะทัดรัด