เดิมทีตั้งใจจะนำเสนอ MXer โมเดลใหม่ล่าสุด ที่เป็นไลน์อัพสำหรับทำตลาดในปี 2023 ทว่าเราพบว่า ในโมเดลปีดังกล่าวที่ส่งออกมาสู่ตลาดนั้น เป็นวาระครบรอบ 50 ปี ของรถโมโตครอส หรือ MXer ของ Honda ที่มีวิวัฒนาการ จากรหัส CR มาสู่รหัส CRF ในปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นระยะเวลาต่อเนื่องถึงห้าทศวรรษ ของการพัฒนาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะเรือธงรุ่นล่าสุดจากกลุ่มรถวิบากอย่าง 2023 CRF450R ที่เป็นโมเดลแรกที่ทางค่ายหยิบมาพัฒนาอัพเดทชิ้นส่วนต่างๆในวาระพิเศษนี้
ซึ่งแน่นอนว่าเราจะมาว่ากันที่เรื่องของตัวรถกันทีหลัง ทว่าในวาระพิเศษนี้ทางไรดิ้งเราก็เลยจะขอนำเสนอเรื่องราวของเรือธงในแต่ละช่วงเวลาตลอดระยะเวลาห้าสิบปีของรถ MXer รุ่นหลักๆที่กล่าวได้ว่าเป็นหลักไมล์หรือเป็นเรือธงในแต่ละช่วงเวลา ที่ทาง Honda เป็นฝ่ายหยิบยกออกมาเอง หาใช่ไรดิ้งเราเป็นฝ่ายจัดทำแต่อย่างใด ซึ่งในเอกสารพีอาร์วาระครบรอบดังกล่าวของ Honda ได้แนะนำโมเดลเด่นๆโดยเริ่มต้นจาก 1973 CR250M Elsinore นี่คือรถที่ถือกำเนิดมาจากการแข่งขันจริง ซึ่งมีคำกล่าวเล่นๆกันว่า “ชนะวันอาทิตย์ วางขายวันจันทร์” อย่างไรก็ตาม CR250M Elsinore โมเดลนี้แม้จะเป็นรถแข่งแบบโปรดักชั่น ทว่าก็ผลิตขายตามยอดการสั่งซื้อเท่านั้น ด้วยการที่เป็น MXer แบบสองจังหวะรุ่นแรกของ Honda ดังนั้นความพิถีพิถันและคุณภาพต่างๆจึงถูกใส่ใจมากเป็นพิเศษ ดังนั้นการทำประชาสัมพันธ์ในช่วงเวลานั้นกล่าวได้ว่าไม่ธรรมดา โดยเฉพาะหนังโฆษณาที่นำแสดงโดย steve McQueen ขณะที่ชื่อรุ่นนั้น ถูกนำมาจากการแข่งขัน Elsinore Grand Prix ซึ่งจัดว่าเป็นการแข่งขันในตำนานที่ lake elsinore California กล่าวคือมันเป็นรถแข่งของ Honda ที่ใช้เครื่องยนต์สองจังหวะ ขนาด 247.8 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศ ตัวรถมีน้ำหนัก 104 ก.ก. โดยโครงสร้างตัวรถเป็นแบบ semi-double tubular steel frame พร้อม telescopic forks steel swingarm twin rear shocks และดรัมเบรกหน้า-หลัง ….นี่คือ เริ้มต้นของตำนาน 50 ปี ของ รถแข่งโมโตครอสของ Honda
1981 CR250R ย่างก้าวสำคัญของการพัฒนา MXer จากความสำเร็จของ CR250M ก็เปลี่ยนมาเป็น รหัส R ที่สื่อความหมายอย่างชัดเจนว่า มันคือรถแข่งที่รับถ่ายทอดพันธุกรรมมาจากทีมโรงงานแทบจะทุกอย่าง นี่คือรถแข่งที่ผลิตมาขายต่อคนทั่วไปอย่างเป็นทางการรุ่นแรกในฐานะรถแข่งโปรดักชั่น ที่มีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ เครื่องยนต์ได้รับการออกแบบที่เรียกว่า long-stroke design cooled ที่มีหม้อน้ำขนาดเล็กสองชิ้นติดตั้งมาอย่างเท่หรือสุดล้ำในช่วงเวลานั้น นอกจากนี้ในส่วนของโครงสร้างแชสซีส์นั้นได้รับการยกระดับโครงสร้างชิ้นส่วนบางอย่างเป็นวัสดุอลูมิเนียม คือ aluminium swingarm ที่มาพร้อมกับ single remote-reservoir Pro-link rear shock เรียกง่ายๆก็คือชุดกระเดื่องที่ทำหน้าที่ยึดกับช๊อคอัพหลังนั่นเอง ซึ่งเจ้าระบบที่ชื่อ Pro link นี่แหละ คือจุดกำเนิดของความสำเร็จอันลือชื่อมากมายของวิวัฒนาการระบบกันสะเทือนของรถแข่งจากค่ายญี่ปุ่นนี้ ขณะที่ในส่วนของชุดเฟรมนั้นยังคงเป็น steel frame และที่น่าสนใจในช่วงเวลาเพียงปีเดียวหลังจากส่ง MXer โมเดลนี้ออกมาสู่ตลาด ก็ได้มีความเคลื่อนไหวเล็กที่มีผลต่ออนาคตมากมายจนถึงปัจจุบัน นั่นก็คือ การประกาศเปิดแผนก Racing Service Center ขึ้นมาในปี 1982 ก่อนที่แผนกนี้จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น HRC –Honda Racing Corporation ในภายหลัง
1985 CR500R นี่คือรุ่นที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับการพัฒนา 2023CRF450R 50th Anniversary ว่ากันว่า CR500R คันนี้ คือการก้าวผ่านอีกครั้งสำคัญของMXerค่ายปีกนก จาก เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศ ที่เปี่ยมด้วยแรงบิดมหาศาลของ CR500R ที่เปิดตัวในปี1984 ก็ได้ถูกนำมาปรับเปลี่ยนเสริมแต่งกันเป็นโมเดลใหม่ล่าสุด จนกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานนั่นก็คือ การเปลี่ยนระบบระบายความร้อน จาก air cooled มาเป็น water cooled ถือว่าเป็นวิวัฒนาการสำคัญของรถMXerจากยุค80s
1997CR250R คำจำกัดความในช่วงเวลานี้นตอนที่เปิดตัวรถรุ่นนี้ออกสู่ตลาด ก็คือ The Revolution begins หรือ การเริ่มต้นของการปฏิวัตินวัตรกรรมอะไรแบบนั้น โดยเจ้าMXerขนาดสองแรงครึ่งคันนี้ ได้รับการพัฒนาให้มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยค่อนข้างมาก ดังจะเห็นได้ชัดเจนที่ทั้งแรงบิดและกำลังเครื่องยนต์นั้นมีสมรรถนะสูงเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้พอสมควร ที่สำคัญ มันเป็นMXerตัวแรก ที่ใช้เฟรมอลูมิเนียม”first aluminium” จาก tubular steel ถูกแทนที่ด้วย twin spar ที่มีคุณสมบัติในการให้ตัวหรือยืดหยุ่นได้ดีกว่าเฟรมแบบเหล็กนั่นเอง นอกจากนั้นองค์ประกอบต่างๆล้วนถูกเสริมไปนั้นอยู่ในระดับ high tech แทบทั้งสิ้น ไม่ว่า fully adjustable Showa suspension และ disc brake ทั้งหน้าและหลัง จนมันได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดรถMXerแห่งยุค 90s อีกรุ่นหนึ่งที่Hondaผลิตออกมาสู่ตลาด
2022 CRF450R นี่คือเจนแรกของตระกูล “ first generation of 450” อีกทั้งมันยังเป็นต้นกำหนดของทิศทางการพัฒนา MXer ยุคใหม่ของค่ายปีกนก ที่ชัดเจนที่สุดว่า นับจากนี้รถวิบากและรถโมโตครอสของพวกเขาจะถูกกำหนดเส้นทางการพัฒนาไว้แล้วนั่นเอง มัน คือเครื่องยนต์สี่จังหวะตัวแรก สำหรับสายการผลิต MXer ที่มันจะเข้ามาแทนที่ CR250R ด้วยเครื่องยนต์สี่จังหวะขนาดกะทัดรัดและทรงพลังขนาด 449 ซีซี มีย่านการส่งกำลังที่กว้าง ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลควบคุมง่าย แต่เปี่ยมด้วยพละกำลัง ทุกๆองค์ประกอบของการพัฒนาใน CRF450R ทำให้มันเป็นรถที่เร็วและควบคุมง่าย เมื่อเทียบกับ CR250R ที่ถูกแทนที่ไปนับจากนี้
2009 CRF450R หลังจากที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจน”เข้าที่เข้าทาง” ก็ถึงเวลาสำคัญต้องทำการปฏิวัตินวัตรกรรมใหม่อีกครั้ง นั่นก็คือ การเริ่มต้นเข้าสู่ยุคของเทคโนโลยีระบบหัวฉีด An injection of technology คือนิยามหรือทิศทางของการพัฒนา CRF450R ครั้งใหม่ ด้วยเครื่องยนต์ที่มาพร้อมกับระบบจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดที่จะแทนที่ระบบคาบูเรเตอร์แบบเดิมๆ ดังนั้น CRF450R โมเดลนี้จึงมาพร้อมกับ fuel-injected engine ที่ติดตั้งชุดเรือนลิ้นเร่ง 50m.m. throttle body ที่มาพร้อมหัวฉีดแบบสิบสองรู หรือ 12 hole injector โดยสามารถทำการปรับ
จูนการจุดระเบิด หรือปรับตั้งค่าต่างๆเช่นที่เคยทำในการเซทคาร์บูเรเตอร์แบบเดิมๆด้วยการเซ็ทตั้งผ่านอุปกรณ์หรือเครื่องมือ HRC PGM-Fi setting tool นอกจากเครื่องยนต์ที่ออกแบบใหม่แล้ว ยังได้เปลี่ยนโครงสร้างแชสซีส์ใหม่ ซึ่งการออกแบบ new chassis นี้ได้พัฒนาร่วมกับการพัฒนาเครื่องยนต์ โดยมีแนวคิดที่สำคัญนั่นก็คือ mass centralization หรือการคำนุงถึงเรื่องศูนย์ถ่วงน้ำหนักของรถที่ให้ความสำคัญกับคำว่า สมดุลหรือบาล้านซ์ของรถนั่นเอง นอกจากนี้ในส่วนของโครงสร้างแชสซีส์ยังรวมถึงระบบกันสะเทือนใหม่ ที่เลือกใช้ Kayaba 48 m.m. Air-Oil-Separated{AOS} USD forks รวมทั้ง compact rear shock ที่พัฒนามาควบคู่กันเพื่อให้รถสามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพในหลายๆจังหวะของการเคลื่อนที่นั่นเอง
2017 CRF450R นี่คือรถที่ได้รับการอัพเดทใหม่ ทุกๆชิ้นส่วนถูกนำไปวิเคราะห์เพื่อทำการ re-design ภายใต้คอนเซ็ปท์ ของรุ่นนี้คือ ABSOLUTE HOLESHOT จนกลายเป็น MXer ในระดับพรีเมียร์คลาสที่ประสบความสำเร็จมากในยุโรป ด้วย new chassis, full Showa suspension และที่สำคัญเครื่องยนต์ใหม่ new engine ที่ทำการปรับเน้นในเรื่องพละกำลังในรอบการทำงานสูงสุด อีกทั้งยังติดตั้งระบบสตาร์ทไฟฟ้ามาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของการพัฒนาของรถรุ่นนี้ เพราะในปีถัดๆไป CRF450R ได้รับการพัฒนาต่อเนื่อง อย่างในปี 2019รถรุ่นนี้ได้รับการอัพเดทในเรื่องของแรงบิด ดังนั้นHRC จังอัพเดทในส่วนของ cylinder head ควบคู่กับการติดตั้ง HRC launch control และยังมีการอัพเดทต่อเนื่องอย่างไม่หยุดนิ่งอย่างในปี 2020 ที่โฟกัสมาที่ระบบอิเล็คทรอนิคส์เพื่อจัดการการหมุนฟรีของล้อหลังหรือการจัดการการส่งผ่านกำลังที่ล้อหลังด้วย 3-level Honda Selectable Torque Control – HSCT ออกมาใช้กับ MXer ระดับเรือธงโมเดลนี้
นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งหรือไฮไลท์คร่าวๆของวิวัฒนาการตลอดระยะเวลาห้าทศวรรษจาก CR สู่ CRF นับจากปี 1973-2023 และแน่นอนว่า ในวาระครบรอบห้าทศวรรษดังกล่าว พวกเขาจึงส่ง CRF450R ในวาระพิเศษดังกล่าวออกมาด้วย