Skip to content
Ducati Panigale V2 Bayliss 1st Championship 20th Annivesary

ชื่อยาวพอสมควรกับ รถรุ่นพิเศษล่าสุดจากอิตาลีของค่าย Ducati เข้าใจง่ายๆก็คือเป็นรุ่น ฉลองครบรอบ 20 ปี ที่ Troy Bayliss ได้แชมป์ครั้งแรกนั่นเอง และแน่นอนผลิตแบบรันหมายเลขแม้ไม่ได้แจ้งว่าจะมียอดผลิตกี่คัน แต่ว่ามีกำหนดระยะเวลาสั่งจองสำหรับรุ่นนี้ไว้ ซึ่งจะอยู่ในไลน์ผลิตสำหรับโมเดลปี 2022

ซึ่งแฟนๆก็น่าจะแฮปปี้กันกับโมเดลพิเศษนี้ แต่สำหรับแฟนๆรุ่นหลังของ WorldSBK ก็น่าจะมีบ้างที่ไม่รู้ว่าเขาคือใคร เพราะกาลเวลาผ่านมาแล้วถึงยี่สิบปี ต้องบอกว่า Troy Bayliss คือหนึ่งในตำนานของนักแข่งออสเตรเลียที่ครองแชมป์ WorldSBK ได้สามสมัย ซึ่งในยุคนั้น ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว เพราะเกมฝั่ง WorldSBK นั้นยากที่จะหานักแข่งเหนือชั้นทิ้งห่างคู่แข่งแบบขาดลอย และแชมป์ครั้งแรกจากสามครั้งที่เขาทำได้ก็คือการก้าวสู่บัลลังก์แชมป์ในปี 2001 ด้วยรถแข่ง 996R จากนั้นทำได้อีกสองครั้งคือ ปี 2006 กับรถแข่ง 999R และ ปี 2008 กับรถแข่ง 1098R ไม่ซ้ำรุ่นรถกันเลยทั้งสามครั้ง รวมในช่วงชีวิตนักแข่งที่ทำผลงานร่วมกับ Ducati Corse ใน WorldSBK คว้าชัยชนะได้ 52 ครั้ง ยืนโพเดี้ยม 94 ครั้ง ครองแชมป์โลกสามสมัย ที่สำคัญด้วยสิทธิไวลด์การ์ดทำให้เขากลายเป็นนักแข่งคนเดียวในหน้าประวัติศาสตร์ที่สามารถชนะการแข่งขันได้ทั้ง MotoGP และ WorldSBK ในปีเดียวกันซึ่งเขาลงแข่งในปี 2006 ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า Troy Bayliss คือหนึ่งในนักแข่งตำนานของ Ducati Corse ด้วยเหตุนี้รถรุ่นพิเศษในวาระครบรอบยี่สิบปีของการครองแชมป์โลกครั้งแรก จึงเกิดขึ้นมาและลวดลายพิเศษก็คือการเรียกโทนกราฟฟิคและสีของรถนี้ว่า Baylissticจากพื่นฐานของรถ Panigale V2 นอกจากการปรับโทนสีและกราฟฟิคเพื่อเฉลิมฉลองให้กับ Troy Bayliss และระลึกถึงรถแข่ง 996R ที่ครองแชมป์ในปี 2001 ด้วยการเน้นสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ducati แล้วยังนำโทนสีเขียวกับขาวที่มีความเกี่ยวพันธ์ถึงจิตวิญญาณของโรงงานผลิตในโบโลญญ่าที่กล่าวว่าเป็นฐานใหญ่ของ Ducati ขณะที่มีการนำหมายเลข 21 ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวของ Troy Bayliss รวมทั้งโลโก้น้ำมันแบรนด์หลักที่เป็นพันธมิตรมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกับค่ายรถอิตาลีนี้ ขณะเดียวกันก็มีลายเซ็นของนักแข่งบนถังเชื้อเพลิง ขณะที่บริเวณแผงคอก็จะมีเพลทระบุชื่อรุ่นและหมายเลขการผลิตประจำรถระบุไว้ด้วย

สำหรับ Panigale V2 นั้น เริ่มทยอยส่งสู่ดีลเลอร์ต่างๆ ปลายปี 2020 สำหรับโมเดล 2021 ดังนั้น เจ้าเวอร์ชั่นพิเศษ Panigale V2 Bayliss 1st Championship 20th Anniversary จึงได้รับการปรับเสริมองค์ประกอบเพื่อยกระดับให้เหนือกว่ารถเวอร์ชั่นมาตรฐาน อีกทั้งยังเป็นโมเดลแรกที่อยู่ในไลน์อัพของรถปี 2022 อีกด้วยจากเวอร์ชั่นมาตรฐานของ Panigale V2 ได้รับการเสริมประสิทธิภาพต่างๆ เพื่อการตอบสนองการขับขี่ในแทร็คหรือในสนามแข่งได้อย่างเต็มสมรรถนะมากขึ้น ดังนั้นไฮไลท์หรือองค์ประกอบสำคัญที่ถูกนำมาติดตั้งใน Panigale V2 Bayliss 1st Championship 20th Anniversary ก็คือ อุปกรณ์ชั้นยอดจาก Ohlins ด้วยฟอร์คหน้า NX0 และโช้คอัพหลัง TTX36 ที่สามารถการันตีได้ถึงประสิทธิภาพสูงสุดในการซับแรงสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี เนื่องด้วยเป็นระบบกันสะเทือนที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป้าหมายสูงสุดในการใช้งานบนสนามปิด หรือขับขี่ในแทร็คที่พร้อมให้ความนุ่มนวลสูงสุดไม่เพียงแค่นำมาติดตั้งเท่านี้ แต่ยังได้รับการเซ็ทอัพปรับแต่งให้มีความแม่นยำเที่ยงตรงสูงสุดเพื่อความมั่นใจของผู้ขับขี่ที่จะได้รับความรู้สึกอันยอดเยี่ยมจากประสิทธิภาพที่ได้รับจากระบบกันสะเทือนชุดที่เสริมเข้าไปใหม่นี้

เทียบกับเวอร์ชั่นมาตรฐานหรือเวอร์ชั่นสแตนดาร์ตแล้วจะพบว่า Panigale V2 Bayliss 1st Championship 20th Anniversary นี้ มีน้ำหนักเบากว่า 3 กก. ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นก็มาจากการปรับมาใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion battery อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนเป็นแบบเบาะนั่งเดี่ยวแบบเดียวกับรถแข่งนั่นหมายความว่าเบาะคนซ้อนกับพักหลังถูกถอดออกไป จึงมีส่วนช่วยให้น้ำหนักหายไปจากเดิมนั่นเอง แต่ถ้าต้องการเบาะซ้อนก็สามารถติดตั้งได้เช่นกัน เพียงแต่จุดประสงค์ของรถเวอร์ชั่นนี้ก็ชัดเจนว่าเน้นไปที่การนำมาขับขี่ในแทร็ค สำหรับ Panigale V2 นั้น จัดว่าเป็น Super-mid of Ducati sports bikes หรือจัดอยู่ในรถสปอร์ตขนาดกลางของ Ducati ที่ถูกจัดวางไว้ในกลุ่มรถตระกูล Panigale โดยพื้นฐานเครื่องยนต์ของเจ้า V2 นี้ มาจากแหล่งพลังขนาด 955 ซีซี Superquadro twin-cylinder ที่ให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้า ที่ 10,750 รอบ ต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดระดับ 104Nm ที่ 9,000 รอบต่อนาที โดยใช้พื้นฐานแชสซีส์แบบ monocoque frame ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก Panigale V4ในฐานะของรถระดับบนจึงไม่แปลกที่ electronic package หรือระบบอิเล็คทรอนิคส์จึงถูกจัดสรรมาแบบเต็มๆ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด เพื่อสมรรถนะสูงสุด เพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมสูงสุด ของรถในทุกๆจังหวะการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของการเข้าโค้ง การขับขี่ในโค้ง cornering function ได้รับการปรับ ต่อยอดร่วมกับ Bosch ABS electronic quick shift gearbox ที่ทำงานผสานกันระหว่างการ downshifting กับ traction กล่าวคือ ความสัมพันธ์ในจังหวะการลดเกียร์กับแรงฉุดดึงของรถนั้นทำได้อย่างยอดเยี่ยมหรือขี่ได้“เนียน”

นอกจากนี้ในส่วนของ engine brake , wheelie control หรือการควบคุมแรงเอ็นจิ้นเบรกกับการหมุนของล้อนั้น ล้วนเกี่ยวเนื่องกับระบบอย่าง Ducati Quick Shift Ducati Traction Control Ducati Wheelie Control Engine Brake Control ล้วนได้รับการ อัพเกรด และยกระดับ ให้มีความเหมาะสม สัมพันธ์กับการเลือกใช้โหมดการขับขี่ต่างๆ ซึ่ง จะมีมาให้สามไรดิ้งโหมด Riding Modes ทั้งสาม ก็คือ Race – Sport – Street เอาเป็นว่าในเวลานี้ นี่คือตัวท็อปของเครื่องยนต์ 955 ซีซี Superquadro อย่าง Borgo Panigale twin-cylinders ที่อัพเกรดมาใช้กับ Panigale V2 ซึ่งเป็นรุ่นที่ผลิตออกมาแทนที่ 959 Panigale และแน่นอนว่าในเวอร์ชั่นพิเศษนี้ย่อมได้รับการอัพเกรดเพิ่มความไม่ธรรมดามากไปกว่าเดิมอีกเช่นกัน ซึ่งราคาเริ่มต้นเปิดมา ที่ 21,000 เหรียญ สำหรับตลาดในสหรัฐอเมริกาและทวีปอเมริกาที่จะทยอย ขาย ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ สำหรับ สเปคของตัวรถมีดังนี้
Engine : Superquadro L-twin cylinder, 4 valve per cylinder, Desmodromic, liquid cooled
Displacement : 955 cc
Bore x Stroke : 100 x 60,8 mm
Compression Ratio : 12.5:1
Power : 155 hp (114 kW) @ 10.750 rpm
Torque : 76,7 lb-ft (104 Nm) @ 9.000 rpm
Fuel injection : Electronic fuel injection system. Twin injectors per cylinder. Full ride-by-wire elliptical throttle bodies.
Exhaust : 2-1-2-1 system, with 2 catalytic converters and 2 lambda probes
Gearbox : 6 speed with Ducati Quick Shift (DQS) up/down EVO 2
Primary Drive : Straight cut gears; Ratio 1.77:1
Ratio : 1=37/15 2=30/16 3=27/18 4=25/20 5=24/22 6=23/24
Final Drive : Chain; Front sprocket 15; Rear sprocket 43
Clutch : Hydraulically controlled slipper and self-servo wet multiplate clutch. Self bleeding master cylinder
Frame : Monocoque Aluminum
Front Suspension : Öhlins NIX30 43mm with TiN treatment, fully adjustable usd fork
Front Wheel : 5-spokes light alloy 3.50” x 17”
Front Tire : Pirelli Diablo Rosso Corsa II 120/70 ZR17
Rear Suspension : Fully adjustable Öhlins TTX36 monoshock. Aluminum single-sided swingarm
Rear Wheel : 5-spokes light alloy 5,50” x 17”
Rear Tire : Pirelli Diablo Rosso Corsa II 180/60 ZR17
Wheel travel (front/rear) : 120 mm (4.72 in) – 130 mm (5.12 in)
Front Brake : 2 x 320 mm semi-floating discs, radially mounted Brembo Monobloc M4.32 4-piston calipers with Bosch Cornering ABS EVO. Self bleeding master cylinder.
Rear Brake : 245 mm disc, 2-piston caliper with Cornering ABS EVO
Instrumentation : Digital unit with 4,3” TFT color display
Dry weight : 385 lb (174,5 kg)
Curb weight : 434 lb (197 kg)
Seat Height : 32,9 in (835 mm)
Wheelbase : 56,6 in (1.438 mm)
Rake : 24°
Front wheel trail : 3.90 in (99 mm)
Fuel tank capacity : 17 l – 4.5 gallon (US)
Safety Equipment : Riding Modes, Power Modes, Bosch Cornering ABS EVO, Ducati Traction Control (DTC) EVO 2, Ducati Wheelie Control (DWC) EVO, Engine Brake Control (EBC) EVO, Auto tire calibration
Standard equipment : Ducati Quick Shift (DQS) up/down EVO 2, Full LED lighting with Daytime Running Light (DRL), Öhlins steering damper, Auto-off indicators, Lithium-ion battery, Silencer outlet cover in carbon fiber and titanium