Skip to content
DNA จากซูเปอร์ไบค์ CBR Series ปรับใหม่ให้อัตราเร่งและการคอนโทรลสนุกทุกการขับขี่

New CBR 500R หนึ่งในตระกูล 500 Series ได้รับการพัฒนาเพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับกลุ่มลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2021 ได้ทำการยกระดับให้เทียบเท่าซูเปอร์ไบค์ระดับท็อปคลาส เพื่อสร้างความตื่นเต้นและตอบโจทย์นักบิดตัวจริง ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีชั้นสูงเข้าไป เพื่อให้เป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการเข้าสู่โลกของบิ๊กไบค์

New 500 Series มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “For The Real One” ถ่ายทอดความเร้าใจสู่สาวกบิ๊กไบค์ตัวจริง ตื่นตาตื่นใจด้วยดีไซน์ที่ดูบึกบึนโฉบเฉี่ยว แรงด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง และออพชั่นที่ดีที่สุดในคลาส ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ ส่งมอบประสบการณ์ขับขี่เต็มรูปแบบ ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 2 สูบ แบบ Parallel Twin DOHC ขนาด 500 ซีซี 47 แรงม้า ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด เสริมด้วยระบบ Assist Slipper Clutch เพิ่มความนุ่มนวลขณะเปลี่ยนเกียร์

ความคิดเห็นหลังการขับขี่

จตุรงค์ หมื่นทิพย์ กอล์ฟ ไรดิ้ง

เริ่มกันตั้งแต่ขึ้นคร่อมเลยแล้วกัน มันให้ความรู้สึกกระชับด้วยบอดี้แบบสปอร์ต หนีบขาได้แนบแน่นกับตัวรถ ความสูงจากพื้นถึงเบาะไม่สูงไม่มาก คนตัวเล็กๆ หรือผู้หญิงก็ไม่ต้องกลัวจนเกินไป เขย่งปลายเท้าก็เอาอยู่แล้วแค่ทรงตัว เพราะตัวรถมีน้ำหนักลดลงด้วย ท่านั่งด้วยตัวรถที่เป็นทรงสปอร์ตแต่ระดับแฮนด์ที่จับอยู่ใต้แผงคอก็จริงมันไม่ได้ก้มจนเกินไปจนรู้สึกเมื่อย พักเท้าอยู่กึ่งกลางของตัวรถทำให้ตัวไม่ก้มหรือเอนมาทางด้านหลัง

มาถึงความรู้สึกเมื่อได้ขับขี่ในสนามแข่ง มันเค้นสมรรถนะได้เต็มที่ด้วย เครื่องยนต์ 2 สูบ 47 แรงม้า ถึงจะเป็นพื้นฐานเดินจากตัวก่อน แต่มีการปรับระบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ให้มีความสมบูรณ์กว่าตัวเก่า น้ำหนักลดลง ทำให้มีแรงม้าเพิ่มขึ้น 4% ความเร็วเพิ่มขึ้น จนรู้สึกหวิวๆ ในช่วงแรกๆ ได้มีการออกตัวแบบรถแข่ง ด้วยรอบประมาณ 6000-7000 รอบ/นาที ดีดคลัทช์ออกไปล้อลอย กำลังดีไม่ธรรมดา อัตราเร่งรอบเครื่องยนต์กวาดขึ้นแบบเนียนๆ ไม่พุ่งปี๊ดป๊าด เปลี่ยนเกียร์ที่ 9,500 รอบ/นาที เพื่อรักษาแรงม้า ไม่ให้แผ่วปลายรอบตัน ถ้าใครไม่ถนัดหรือไม่ได้สังเกตก็ไม่ต้องหว่างเพราะมีไฟ ชิฟไลท์ โชว์ด้วย อัตราทดเกียร์ 1-2 จะชิด แต่ เกียร์ 3-4-5 และ 6 ลากได้ยาวๆ บางทีเอาจนรอบตันเสียงเครื่องครางดัง ระบบสลิปเปอร์คลัทช์ที่มีมาให้ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น เมื่อรวบเกียร์ลดลงในความเร็ว ล้อหลังจะลดการสลิปหรือส่าย ทำให้สามารถเลี้ยวง่ายและปลอดภัย ลองแล้วอันนี้ดีจริง ถ้าไม่มีอาจจะทำให้ท้ายสไลด์เสียงการทรงตัว และเลี้ยวรถไม่เข้า แต่ก็ต้องระวังบนพื้นทรายและน้ำ

การทรงตัว ในตรงหมอบกันได้สุดๆ ถึงจะมีลมปะทะบ้างแต่ก็ยังควบคุมรถได้ อันนี้บนนถนนคงไม่ได้ทำกันจริงๆ หรอกนะ มันอันตราย แต่การขับขี่ในโค้งต้องบอกว่ามันต่างจากตัวก่อนหน้านี้ เพราะมีการปรับมุมเคสเตอร์หน้าใหม่ทำให้เลี้ยวได้ง่ายขึ้น และพลิกรถได้เร็ว บวกกับน้ำหนักที่เบาลงด้วย ความเร็วในโค้ง 4 ของสนามช้าง เป็นโค้งขวาไฮสปีดที่ล็อคคันเร่งมาเกือบๆ 180 กม./ชม. เบรกนิดเดียวแล้วยกคันเร่งลดเกียร์ลง จาก 6 เป็น 5 แล้วเอียงรถเข้าไปเลย ตอนแรกยังทำใจไม่ได้ แต่พอลองแล้วถึงรู้ว่ามันเอาอยู่จริงๆ แต่ก็แอบบเสียดายกับรถในคลาสนี้ไม่แทร็คชั่นคอนโทรลมาให้ น่าจะช่วยให้ขี่สนุกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ช่วงล่างที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ โช้คอัพหน้าหัวกลับ Upside Down ไม่ได้มีแค่ความสวยงามเท่านั้น มันถูกเซ็ทค่ามาตรฐานโรงงานมาได้ลงตัว ถึงแม้นมันอาจจะไม่เหมาะในสนามแต่ก็ทำให้รู้ว่า ระยะยุบกับการกดเบรกหนักๆ ยังทำได้ดี ต่อด้วยเบรกหน้าเลยแล้วกัน จัดมาให้เป็นทวินดิสก์เบรก เรเดียลเม้าท์ 4 พอร์ท มันหนึบกว่าเดิมแน่นอนลดระยะให้สั้นลง ทำให้การใช้ความเร็วสูงและต้องเบรกเพื่อเข้าโค้งยกได้ลึกกว่าเดิมและมั่นใจได้ บางครั้งล้อหลังกระดกลอยขึ้นมาเลย ชุดหลังก็มีการเปลี่ยนสวิงอาร์มใหม่ ใหญ่ขึ้นแต่น้ำหนักเบาลง ทำให้ท้ายไม่สะท้านและลดอาการย้วย ด้วยการทำงานร่วมกับโช้คอัพหลัง รถนิ่งกว่าเดิม ส่วนยางถึงจะเป็นยางเดิมๆ ติดรถก็ขี่ได้สนุก แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นยางสำหรับแทร็คก็น่าจะสนุกได้มากกว่านี้

สรุปโดยรวมๆ แล้ว การปรับเปลี่ยนของ New CBR500R ทำให้มีอัตราเร่งดีขึ้น ตัวรถเบาควบคุมง่าย นั่งสบาย ส่วนใครจะเพิ่มเติมเสริมของแต่อะไรก็เอาที่ชอบเลยแล้วกัน และที่สำคัญ มันราคาเดิมนี่สิ…219,800 บาท ถูกใจวัยรุ่นแน่นอน