ก็ฮือฮาไปพักใหญ่กับการประกาศยุติบทบาทในฐานะตัวแทนจำหน่าย Ducati ในประเทศไทย ของกลุ่มธุรกิจยานยนต์ชั้นนำของไทย ส่วนจะเป็นใครมารับช่วงต่อนั้นก็ต้องติดตามกันต่อไป ซึ่งก็คงต้องทำการบ้านหนักไม่น้อยสำหรับการรับช่วงดูแล Ducati ในประเทศไทย
เอาล่ะก็มาที่ทางฝั่งบริษัทแม่เองก็ได้เดินหน้า ส่งรถโมเดลใหม่ออกมาเช่นเคย และหนึ่งในไลน์อัพก็คือ สปอร์ตครุยเซอร์ที่ต้องขออนุญาติกล่าวว่า ไปได้ไม่ค่อยสวยนักในบ้านเรา แต่เอาน่า เขาก็มีกลุ่มนิยม ไม่เช่นนั้นคงไม่มีพัฒนาออกมาจำหน่ายในประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง กับ Ducati Diavel 1260 ที่ส่งออกมาสามเวอร์ชั่น คือ Diavel1260 – Diavel1260 S – Diavel 1260 Lamborghini สามโมเดล ที่มาพร้อมกับการแบ่งรายละเอียดการวางจำหน่ายในแต่ละซีกโลกเป็นสามโซน คือ ในกลุ่มประเทศที่ใช้มาตรฐานไอเสียระดับ Euro5 ในกลุ่มประเทศ สหรัฐอเมริกา,แคนาดา,เม็กซิโก และ โซนที่สาม คือ ประเทศอื่นที่ไม่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวทั้งสองโซนที่กล่าวถึง ความต่างกันในแต่ละโมเดลจากทั้งสามโซนนั่นก็คือ เลเวลของแรงม้า หรือกำลังเครื่องยนต์ ที่ในโซนแรกนั้นจะมีกำลัง 162 แรงม้า ที่ 9,500 รอบ ต่อนาที ในโซนถัดมา จะมีกำลัง 157 แรงม้า ที่ 9,250 รอบ ต่อ นาที และ โซนสุดท้าย จะมาพร้อมกับกำลัง 159 แรงม้า ที่ 9,500 รอบ ต่อ นาที นั่นหมายความว่า ถ้าคุณนำเข้ารถเองโดยผ่านผู้นำเข้าอิสระก็ต้องดูว่ารถนั้นมาจากโซนไหน สำหรับเลเวลของกำลัง 157-162 แรงม้า
แต่พื้ฐานเครื่องยนต์ทั้งสามโซนนั้นเป็นสเปคเดียวกัน ด้วย Testastretta DVT 1262 V2-90 องศา สี่วาวล์ ต่อ สูบ Desmodromic Variable Timing , Dual Spark ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมปริมาตรความจุเครื่องยนต์ ขนาด 1,262 ซีซี ที่มีอัราส่วนกำลังอัด 13.0:1 และมีแรงบิตเท่ากันที่ 13.2 กม. หรือ 129 Nm ที่ 7,500 รอบ ต่อนาที ซึ่งรายละเอียดพื้นฐานของทั้งสามโมเดลนั้น เราได้นำมาลงไว้ด้านท้ายให้ได้ดูกัน และที่ Riding เราค่อนข้างจะสนใจก็คือ เวอร์ชั่นที่น่าจะเรียกว่าพิเศษ อย่าง Lamborghini Edition ที่เป็นการร่วมมือยินยอมพร้อมใจ ของสองค่ายชั้นนำในแวดวงยานยนต์ จากอิตาลีที่จะส่ง DUCATI DIAVEL 1260 LAMBORGHINI ออกมาสู่ตลาดทั่วโลกจำนวนจำกัดที่ 630 คัน
โดยในการออกแบบนั้น ทาง Ducatiได้นำแนวคิดของการออกแบบรถยนต์ของ Lamborghini มาเป็นพื้นฐานในการแต่งแต้มเสริมความเป็นสปอร์ตของ Diavel เวอร์ชั่นพิเศษนี้ เอาสั้นๆ ก็คือหยิบคอนเซ็ปท์การออกแบบรถยนต์รุ่น Sian FKP7 มาถ่ายทอดลงบน Diavel ด้วยวัสดุชั้นยอด แข็งแกร่ง และเบา ไม่ว่าวงล้อแบบ forged wheels ชิ้นส่วนจากคาร์บอยไฟเบอร์ รวมทั้งการเลือกโทนสี Gea Green กับ Electrum Gold แบบที่ทางฝั่ง Sant’Agata Bolognese หรือทาง โรงงาน Lamborghini ใช้กับรถรุ่นพิเศษอย่าง Sian FKP37 ที่ออกมาในวาระพิเศษ พร้อมทั้งใส่หมายเลข 63 เพื่อระลึกถึงการก่อตั้งของโรงงาน Lamborghini ในปี 1963 และเมื่อผลิต ทาง Ducati จึงจำกัดไว้ที่ 630 คัน
นอกจากเครื่องยนต์ Ducati แบบ Testastretta DVT 1262 engine ที่ใช้กับสามโมเดลดังกล่าว ที่แยกจากไลน์อัพอื่นในตระกูล Diavel ด้วยกันแล้ว เจ้า Lamborghini Edition ยังเสริมด้วยชิ้นส่วนพิเศษ พาร์ทพิเศษ รวมทั้ง ระบบอิเล็คทรอนิคส์เพิ่มเติมพิเศษบางจุด เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมซีรีส์ 1262 engine ที่มาพร้อมมาตรฐานในเลเวลเดียวกันอย่าง Trellis tubular steel frame Aluminium single-sided swingarm หรือ ชุดเบรก Brembo brakes with 320 mm diameter front discs and M50 monobloc calipers, 265 mm diameter rear disc เช่นเดียวกับชุดไฟ LED ทั้ง Front headlight with DRL and LED lighting system เช่นเดียวกับจอแสดงผลหรือเรือนไมล์แบบ Colour TFT instrumentation และแน่นอนว่าพื้นฐานหรือหัวใจสำคัญของรถจักรยานยนต์ยุคใหม่ต้องมาพร้อมกับระบบอิเล็คทรอนิคส์ชั้นยอด หรือ Electronic package ที่มีมาให้อย่าง Bosch 6-axis Inertial Measurement Unit (6D IMU)Bosch Cornering ABS EVO, Ducati Traction Control (DTC) EVO, Ducati Wheelie Control (DWC) EVO, Ducati Power Launch (DPL) EVO, Cruise Control เป็นต้น ขณะที่โครงสร้างตัวรถนั้น ในส่วนของระบบกันสะเทือนจัดเต็มด้วย Fully adjustable 48mm diameter Öhlins front fork กับชุดหลังอย่าง Fully adjustable Öhlins shock absorber นอกจากนี้ก็มี Ducati Quick Shift up & down (DQS) EVO รวมทั้งความบันเทิงเริงรมย์ด้วย Ducati Multimedia System (DMS) ที่มีติดตั้งมาด้วย เป็นต้น ซึ่งรายละเอียดตัวรถก็ตามที่กล่าวไว้ เรานำมาฝากกันทั้งสามเวอร์ชั่นกันเลย