นี่คือรถออฟโรดที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกับรถโมโตครอสและรถวิบากในรหัส YZ และ FX มากที่สุด จากค่ายYamaha หากคุณกำลังมองหารถวิบากสำหรับการขับขี่ในแบบออฟโรดสักคันนี่คือตัวเลือกที่ดี
ซึ่งนิยามที่ฝั่งอเมริกากล่าวถึงรถรุ่นนี้ก็คือ ข้อความที่ว่า The Bike for All Reasons คือหากต้องการตอบคำถามว่าทำไมจึงควรเลือกรถรุ่นนี้ “คำตอบนั้นมีทุกข้อหรือมีทุกเหตุผลที่ควรจะมี” สำหรับ WR450F ในโมเดลปี 2019 นี้ นับเป็นวาระครบรอบยี่สิบปีนับตั้งแต่การผลิตออกมาจนถึงโมเดลล่าสุดในตลาดเวลานี้ที่มีการใช้พื้นฐานของรถ YZ450F นั่นเอง ดังนั้นนี่คือรถหนึ่งในรุ่นที่นักขี่สายเอ็นดูโร่มีความต้องการมากที่สุดรุ่นหนึ่งนั่นเอง
ขุมพลังของเครื่องยนต์ใหม่ new WR450F เป็นเครื่องยนต์รุ่นล่าสุดที่นำมาจาก YZ450F ที่มีการออกแบบภายใต้แนวคิดการออกแบบคือ mass centralized หรือจุดศูนย์ถ่วงน้ำหนักที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในกลุ่มรถเครื่องยนต์สูบเดียว ซึ่ง WR450F นี้มาพร้อมกับปริมาตรเครื่องยนต์ 449 ซีซี ที่มีการเซ็ทติ้งค่าต่างๆเน้นถึงการตอบสนองการขับขี่ที่เน้นเพื่อเกมเอ็นดูโร่โดยเฉพาะ สำหรับ All new WR450F ได้รับการปรับวางฝาสูบใหม่ด้วยการจัดตำแหน่งเสื้อสูบให้เอียงไปทางด้านหลังเพื่อให้ได้ผลทางด้านจุดศูนย์รวมน้ำหนักของเครื่องยนต์ที่ดียิ่งขึ้นตามแบบที่ได้จากข้อมูลของรถแข่งโมโตครอสใน MXGPแต่ได้ทำการปรับคุณสมบัติให้มีความเหมาะสมกับการขับขี่ในสไตล์เอ็นดูโร่ด้วยการปรับสเปคของ ระบบวาล์วไอดีและวาล์วไอเสียใหม่ รวมทั้งกำหนดค่าเซทติ้งการจ่ายเชื้อเพลิง การจุดระเบิดของเครื่องยนต์ ซึ่งก็คือ ได้ทำการ รีแมพให้ มีความเหมาะสม ด้วยพัฒนา ignition advance maps ให้มีความเหมาะสมกว่าเดิม จนเป็นเครื่องยนต์ที่ให้แรงบิดที่สูง high torque 450 c.c.4valve engine ที่ส่งกำลังได้อย่างนุ่มนวลต่อเนื่องรวมทั้งให้สมรรถนะทางด้านการยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมพร้อมตะลุยได้ในทุกสภาพพื้นผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยในการปรับเซทค่าการจูนนิ่งเครื่องยนต์นั้นสามารถทำผ่านสมาร์ทโฟนด้วยการใช้ power tuner app ที่ควบคุมผ่านสัญญาณ wifi ที่ช่วยให้สามารถเลือกเซ็ทติ้งได้เหมาะสมกับสภาพแทร็คหรือสภาวะอากาศที่กำลังเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันก็จะมีชุดคิทเป็นออพชั่นสำหรับจัดการ CCU หรือ communication control unit ที่จะช่วยให้สามารถอัพโหลดหรือแชร์ค่าการเซ็ทติ้งเพิ่มเติมจากค่ามาตรฐานที่ติดตั้งมาให้ได้อีกด้วย สำหรับ WR450F นี้จะสามารถปรับเลือกใช้ engine mode ได้ด้วยการกดสวิทซ์ที่แฮนเดิ้ลบาร์ ที่สามารถเปลี่ยนค่าได้สองค่าที่เซ็ทไว้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในการขับขี่ที่จะเลือกให้เครื่องยนต์ส่งกำลังได้อย่างเหมาะสม นอกจากเครื่องยนต์ใหม่แล้ว WR450F ยังได้พัฒนาแชสซีให้ตอบสนองการขี่ที่รวดเร็วควบคุมง่ายในทุกจังหวะ โดยเฉพาะการเลี้ยวที่ว่องไว ด้วยเฟรม all-new aluminium bilateral frame ที่มีความเพรียวบางและน้ำหนักเบา ที่ช่วยให้เลี้ยวได้อย่างคล่องแคล่วบนเส้นทางคดเคี่ยวพร้อมผ่านเส้นทางทุกสภาพทั้งหิน ป่า หรือพื้นผิวที่ต้องใช้เทคนิคในการควบคุมมากเป็นพิเศษ ที่สามารถผสานการทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนได้อย่างลงตัว โดย WR450F ได้พัฒนาระบบกันสะเทือนให้สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนและมีการเคลื่อนไหวอย่างมั่น คง สม่ำเสมอ ด้วยการออกแบบให้มีประสิทธิภาพในการรองรับแรงกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในส่วนของ front forks นั้น ได้ปรับชิ้นส่วนภายในกระบอกโช้คด้วยสปริงแบบ longer high-rate springs ซึ่งเป็นส่วนประกอบในกันสะเทือนหน้าจาก KYB ซึ่งเป็นแบบ air-oir separate upside-down front forks ที่ให้ความมั่นคงในทุกสภาพการขับขี่บนพื้นผิวที่หลากหลาย ส่วนกันสะเทือนหลังนั้นเป็น rear shock absorber ที่ยังคงพื้นฐานระบบกันสะเทือนหลังมาจาก YZ450F แต่ได้มีการปรับค่าเซ็ทติ้งให้เหมาะสมกับการขับขี่ในสไตล์เอ็นดูโร่มากขึ้น เช่นการเปลี่ยน coil spring เป็นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 11.5 มม. รวมทั้งปรับปริมาตรภายในโช้คหลังให้มีความจุเพิ่มจากเดิมอีก 30 ซีซี เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการซับแรงได้ดีขึ้นอีกทั้งช่วยลดความร้อนของระบบการทำงานภายในของระบบกันสะเทือนหลังอีกด้วย แน่นอนว่าในการใช้งานสไตล์ออฟโรดหรือขี่ในสไตล์เอ็นดูโร่นี้ย่อมมีระยะทางที่เพิ่มากขึ้นจากรถโมโตครอสในสนาม
ดังนั้นจึงได้ปรับขนาดถังเชื้อเพลิงเพิ่มเป็น 7.9 ลิตร หากกล่าวโดยรวมแล้ว โมเดล 2019 ของ WR450F นี้ได้รับการปรับใหม่ พร้อมยกระดับสเปคที่สูงขึ้น All New High-Spec Enduro ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีสมัยใหม่มาจากพื้นฐานของรถโมโตครอสอย่าง YZ450 จนกลายเป็นรถเอ็นดูโร่ที่มีสมรรถนะสูงมากที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วนทั้งด้านกำลังเครื่องยนต์ สมดุลในการควบคุม และความยืดหยุ่นของตัวรถ ที่ล้วนส่งให้ WR450F เป็นรถที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดในพิกัดเดียวกันสำหรับสังเวียนเอ็นดูโร่
ซึ่งรายละเอียดของตัวรถมีดังนี้
Engine : Liquid-cooled, DOHC, 4-valve (titanium), single
Displacement : 449 cc
Bore and Stroke : 97 x 60.8 mm
Compression Ratio : 12.8:1
Fuel Delivery : Keihin 44 mm throttle body F.I.
Lubrication : Wet sump
Ignition / Starting : TCI / Electric
Transmission : Wide ratio 5-speed transmission
Primary ratio : 2.609 (60/23)
Secondary ratio : 3.846 (50/13)
1st gear 2.417 (29/12)
2nd gear 1.733 (26/15)
3rd gear 1.313 (21/16)
4th gear 1.050 (21/20)
5th gear 0.840 (21/25)
Final Drive : O-ring chain
Suspension (Front) : 48 mm inverted fork / 310 mm (12.2″) wheel travel
Suspension (Rear) : Fully Adj. Link Monocross / 318 mm (12.5″) wheel travel
Brakes (Front) : 270 mm floating disc / twin-piston caliper
Brakes (Rear) : 245 mm disc / single-piston caliper
Tires (Front) : 90/90-21
Tires (Rear) : 130/90-18
Length : 2,165 mm (85.2″)
Width : 825 mm (32.5″)
Height : 1,280 mm (50.4″)
Wheelbase : 1,465 mm (57.7″)
Ground Clearance : 325 mm (12.8″)
Seat Height : 965 mm (38″)
Fuel Capacity : 7.9 litres (1.7 Imp. gal.)
Wet Weight : 119 kg (262 lbs)