เมื่อคิดจะซื้อรถสักคัน มันคง มีจุดเริ่มต้นมาจากการนำไปใช้งาน อาจจะใช้ในชีวิตประจำวัน หน้าที่การงาน หรือแม้แต่กิจกรรมยามว่างที่จะมาช่วยเพิ่มสีสันให้กับชีวิต ซึ่งแต่ละคนมีรสนิยมที่แตกต่างกัน กิจกรรมตกปลาก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ได้รับความนิยม ทำให้เกิดมีสถานที่พักผ่อนพร้อมบ่อตกปลาที่เรียกกันว่า “ฟิชชิ่งรีสอร์ท” เกิดขึ้นมากมาย บริการกันได้ทั้งกิจกรรมตกปลา พร้อมบ้านพักในบรรยากาศดีๆ ที่สามารถเดินทางมาพักผ่อนกันได้ทั้งครอบครัว
ที่พักสไตล์นี้ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก เพราะนอกจากกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว การได้รับอากาศบริสุทธิ์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ร่างกายและจิตใจสดชื่นขึ้นมาได้ เจ เอส ฟิชชิ่ง รีสอร์ท จังหวัดนครราชสีมา คือสถานที่ที่ทีมงานเราแนะนำกันในทริปนี้ สามร้อยกิโลเมตรเศษจากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าสู่อีสานผ่านจังหวัดสระบุรีเลี้ยวขวาผ่านนครราชสีมา มุ่งหน้าขอนแก่น จากตัวเมืองนครราชสีมาประมาณ 40 กม. จะเจอทางแยกซ้ายเข้าอำเภอโนนสูง ก่อนถึงตัวอำเภอมีสามแยก ให้แยกขวาไปอำเภอขามสะแกแสง เจออีกหนึ่งไฟแดงให้ตรงไปผ่านชุมชนเล็กน้อย ตรงมาเรื่อยๆ จนเข้าสู่เขตท้องนา มองหาป้ายทางซ้ายมือเลี้ยวเข้าสู่ เจ เอส ฟิชชิ่ง รีสอร์ท สถานที่พักผ่อนตกปลาท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของท้องทุ่ง
แต่การมาท่องเที่ยวรีสอร์ทที่มีพื้นที่กว้างใหญ่อย่างนี้ ไปไหนมาไหนย้ายจุดย้ายที่กันทีดูจะไม่สะดวกนักกับรถยนต์คันใหญ่ๆ หรือจะเดินไปก็คงหลายเหนื่อย อีกทั้งยังมีสัมภาระข้าวของ ทริปนี้เราเลยมีของทุ่นแรงมา ด้วยการเอารถเอทีวีบรรทุกท้ายกระบะมาด้วย เจ้าตัวลุยสี่ล้อในทริปนี้คือ FUSE T-BEST 250 เอทีวีพันธุ์แกร่งสายเลือดไทยนั่นเอง ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ใส่กระบะท้ายบรรทุกเดินทางได้ ขับขี่ง่ายด้วยวีธีการคล้ายรถจักรยานยนต์ ยกเว้นคันเร่งที่เป็นแบบใช้นิ้วโป้งโยกเอาเท่านั้น ที่เหลือทั้งเกียร์และคลัทช์ รวมถึงเบรกไม่ต่างจากรถมอเตอร์ไซค์ แถมยังง่ายกว่าเพราะเป็นรถสี่ล้อไม่ล้มง่ายเหมือนสองล้อไหนๆ มาถึงบ่อปลาก็ต้องมาลองตกปลากันหน่อย หลังจากที่ลองโยนเบ็ดอยู่ไม่นาน ดูเหมือนจะไม่มีดวงทางล่าเหยื่อใต้ผิวน้ำ จึงขอปลีกตัวหาความสุขในแนวถนัด ด้วยการขับขี่รถเอทีวีคันเก่งท่องเที่ยวชมบรรยากาศรอบๆ รีสอร์ทสักหน่อย เจ้า FUSE T-BEST 250 ขี่ง่ายมากๆ บิดกุญแจแล้วตาร์ทเครื่องด้วยระบบสตาร์ทไฟฟ้า อ้อ…อย่าลืมว่าต้องบีบคลัทช์ด้วยทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย ตำแหน่งเกียร์ของ FUSE T-BEST 250 ออกจะแตกต่างไปสักนิด เพราะนอกจากเกียร์เดินหน้า 4 ระดับแล้ว รถสไตล์นี้จะมีเกียร์ถอยหลังมาให้ใช้อำนวยความสะดวกในการกลับรถ การเหยียบเกียร์ด้านหน้าหนึ่งครั้งจะเป็นตำแหน่งเกียร์ถอยหลัง ส่วนตำแหน่งเกียร์เดินหน้าจะต้องงัดขึ้น (หรือกดด้านหลัง) ทั้งหมด เอาล่ะเท่านี้เราก็ออกไปโลดแล่นกันได้แล้วการบังคับควบคุมก็ไม่ยาก เส้นทางภายในรีสอร์ทนั้นจะเป็นถนนกว้างๆ ขับขี่ได้เพลินๆ เส้นทางไม่ซับซ้อนวนรอบบ่อปลาแล้วก็กลับมาที่บ้านพัก ดูทุ่งนาเขียวขจี ดูน้ำเต็มทุ่งก็เพลินตาดี ขับเล่นสักพักเริ่มคุ้นมือกับการเร่งเครื่องด้วยนิ้วโป้งข้างขวา อึม…ไปไกลอีกหน่อยดีกว่า ว่าแล้วก็เลี้ยวแว้บออกจากประตูรีสอร์ตไปสู่ถนนลูกรังด้านนอกที่กว้างใหญ่กว่าเดิม ได้ลองเดินคันเร่งยาวๆ ในช่วงเกียร์ 2 ต่อเกียร์ 3 โอ้ว…รอบกลางต่อปลายไม่ธรรมดาเลย ทำความเร็วได้สนุกมากๆ โดยที่การทรงตัวก็ยังคงนิ่งอยู่ ขี่ไปมองไปข้างหน้า เอ๊ะ!…อะไรสะท้อนแสงเงาๆ บนทางจนต้องเบรกเอี๊ยด…น้ำท่วมทางนี่นา ดีที่ระบบดิสก์เบรกทำงานได้ตามสั่งดังใจจึงสามารถหยุดรถได้ก่อนถึงจุดน้ำท่วมขัง มองๆ ดูแล้วท่วมไม่มากเท่าไรน่าจะลุยได้มั้ง? อยากรู้ต้องลอง ว่าแล้วก็เข้าเกียร์ 1 ลุยข้ามไปช้าๆ เครื่องยนต์ทำงานต่อเนื่องไม่มีสะดุดแม้ว่าน้ำจะกระเด็นไปโดนชิ้นส่วนบ้างก็ตาม หลังจากผ่านการลุยน้ำไปได้ก็รู้สึกมั่นใจที่จะไปกันได้ต่อเท่าที่ต้องการ เป็นการขับขี่ที่สนุกมากอีกครั้งหนึ่งจริงๆ
เที่ยวชมทิวทัศน์จนทั่วแล้ว ก็กลับมายังที่พัก ปรากฏว่าพรานเบ็ดของเราได้จัดการย่างปลาอร่อยๆ เอาไว้เรียบร้อย อิอิ สบายเรา มาเที่ยวฟิชชิ่งกับคนตกปลาเก่งๆ ก็ดีอย่างนี้เอง เป็นอีกหนึ่งสีสันของกิจกรรมยามว่างกับรถในสไตล์เอทีวี ซึ่งยังมีอีกหลากหลายรูปแบบของการใช้งานที่เราสามารถไปได้ทุกที่กับเอทีวีคันเก่ง สำหรับทริปนี้ต้องขอขอบคุณ คุณจรวย ถนอมศักดิ์ พี่จ๋าแห่งเจ เอส ฟิชชิ่ง ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายทำเป็นอย่างดีสนใจโทรสอบถามได้ที่ 08-1977-5953 แล้วพบกันใหม่คร้าบ