รถครอบครัวกึ่งสปอร์ตที่บรรจุเทคโนโลยีและสมรรถนะจากรถสปอร์ตเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม แรง เท่ สง่างาม สมฉายาราชาแห่งท้องถนน!ตามมาติดๆ กับขวัญใจนักบิดอีกหนุ่งรุ่นของค่ายยามาฮ่า แม้ว่าจะเปิดตัวไปพร้อมกันแต่การมาถึงพร้อมวางจำหน่ายของ Yamaha Exciter 150 ได้คิวทีหลังพี่ใหญ่อย่าง YZF-R3 ด้วยความที่เป็นรถคนละสไตล์จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับห้วงเวลาในการรอคอยที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย รวมถึงการนำรถทดสอบตัวจริงมาให้สื่อมวลชนได้ทำการหาข้อมูลสื่อสู่ผู้ใช้ นิตยสารไรดิ้งได้รับความไว้วางใจอีกครั้งในการเฟ้นหาสมรรถนะของ Yamaha Exciter 150 รถครอบครัวกึ่งสปอร์ตที่จัดเต็มทุกด้านเพื่อครอบครองความเป็นราชาแห่งท้องถนน ดังสโลแกน The Street King เครื่องยนต์ 150 ซีซี แรงสุดในสไตล์ครอบครัวกึ่งสปอร์ต
แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะทำให้มันถูกจัดอยู่ในประเภทรถครอบครัวกึ่งสปอร์ต แต่ภายใต้แฟริ่งที่ปิดคลุมนั้นมันคือเครื่องยนต์ที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะสไตล์รถสปอร์ตด้วยรูปแบบ 4 จังหวะ 1 สูบ SOHC 4 วาล์ว เทคโนโลยีเดียวกับที่เคยสร้างความประทับใจใน YZF-R15 มาแล้ว จัดการไอดีเข้าสู่เครี่องยนต์ด้วยระบบหัวฉีดที่ทรงประสิทธิภาพทั้งสะอาดและประหยัด การเคลื่อนที่ขึ้นและลงของลูกสูบถูกวางในมุมเยื้องศูนย์เพื่อลดแรงเสียดทานกับผนังกระบอกสูบที่มีความแข็งแกร่งจากเทคโนโลยีไดอะซิล ผสานการทำงานกับลูกสูบฟอร์ซที่มีน้ำหนักเบา เพลาข้อเหวี่ยงมีการเสริมบาลานเซอร์เพื่อช่วยกำจัดความสั่นสะเทือนให้หมดไป ชุดคลัทช์ตัดต่อกำลังขนาดใหญ่ เกียร์ 5 ระดับแบบสปอร์ตแท้ การสตาร์ททำได้สองแบบทั้งสตาร์ทไฟฟ้าและสตาร์ทเท้าที่นุ่มนวลเพราะมีระบบช่วยลดแรงอัด การระบายความร้อนเต็มระบบด้วยทางเดินน้ำหล่อเย็นวนรอบทั้งเสื้อสูบและฝาสูบ พร้อมพัดลมไฟฟ้าเป็นกำลังเสริมขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำทำให้รักษากำลังเครื่องยนต์ให้คงที่ตลอดเวลา
โครงสร้างแกร่ง
กันสะเทือนสุดเซฟ
ภายใต้การออกแบบรูปโฉมสุดเฉี่ยวคือการเลือกใช้เฟรมโครงสร้างแบบ Backbone ที่มีขนาดกะทัดรัดแต่แข็งแกร่ง รองรับแรงสั่นสะเทือนได้ดีและมีความยืดหยุ่นในตัว ปลายสุดของหัวและท้ายได้ทำการติดตั้งระบบกันสะเทือนที่ทำงานสอดคล้องกันอย่างดี ด้วยโช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิกนุ่มนวลด้วยช่วงยุบถึง 100 มม. ส่วนโช้คหลังเลือกใช้แบบโมโนโช้ค โช้คหลังตัวเดียววางบนสวิงอาร์มที่ทำให้สมดุลของรถอยู่ในจุดศูนย์กลาง ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบังคับเลี้ยวและสามารถทรงตัวขณะรถเอียงในโค้งได้ดีกว่า ระบบเบรกมั่นใจด้วยการใช้ดิสก์เบรกคาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยวทั้งหน้าและหลัง วงล้ออลูมินัมอัลลอยด้านหน้ามาแบบมาตรฐาน แต่ความสะดุดตามันมาอยู่ที่ล้อและยางภายใต้ซุ้มล้อหลังที่จัดวงล้อแม็กหน้ากว้าง 3.5 นิ้ว พร้อมกับยางขนาด 120/70-17 ทำให้มุมมองจากด้านท้ายของเอ็กซ์ไซเตอร์ดุดันมันเต็มอารมณ์สปอร์ตจริงๆ
ฟังก์ชั่นล้ำสมัยใช้งานได้ครอบคลุม
รายละเอียดอื่นๆ ในตัวรถนั้นไม่มีอั้นเรื่องเทคโนโลยี โดดเด่นเหนือใครด้วยไฟหรี่รูปทรงกลมกลืนกับหน้ารถติดสว่างด้วยหลอด LED ที่เห็นได้ชัดเจนทั้งกลางวันและยิ่งโดดเด่นในเวลากลางคืน เช่นเดียวกับไฟท้ายที่ใช้การออกแบบรูปทรงที่สะดุดตาพร้อมใช้หลอดแบบ LED เช่นกัน ไฟหน้าโคมใหญ่ชัดใสด้วยหลอดฮาโลเจน หน้าปัดเรือนไมล์เป็นอีกจุดที่แสดงผลได้อย่างครอบคลุมในรูปแบบที่จะพบได้เฉพาะในรถสปอร์ต นั่นก็คือไมล์วัดรอบที่จัดวางอย่างโดดเด่น ส่วนความเร็วจะถูกแจ้งผ่านหน้าจอดิจิตอลด้วยตัวเลขขนาดใหญ่ พร้อมตัวเลขแจ้งตำแหน่งเกียร์ ส่วนฟังก์ชั่นระยะทางที่นอกจากจะบันทึกระยะทางรวมแล้ว ยังมีโหมดบันทึกระยะทางย่อยได้อีก 2 โหมด (TRIP 1 , TRIP 2) หรือจะเลือกให้ทำหน้าที่คำนวณอัตราสิ้นเปลืองขณะขับขี่ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีระบบสวิตช์กุญแจนิรภัยที่ล็อครถได้อย่างปลอดภัยพร้อมกับใช้เปิดเบาะในที่เดียวกัน
รถสปอร์ตกับการทดสอบ
ในสนามแข่ง
เมื่อมีโอกาสที่จะได้ทดสอบรถจักรยานยนต์สักคัน ทีมงานไรดิ้งย่อมต้องหาสถานที่ที่จะสามารถอธิบายความสามารถของมันออกมาได้อย่างเต็มที่ แม้ว่า Yamaha Exciter 150 จะเป็นรถครอบครัวกึ่งสปอร์ต แต่ถ้ามาพิจารณาถึงรายละเอียดกันดีๆ จะเห็นได้ชัดว่ามันเป็นรถ “ครอบครัว” แค่เพียงหน้าตาเท่านั้น สเป็คหลายอย่างมันเร้าเหลือเกินให้ทีมงานของเรานำมาพิสูจน์สมรรถนะในด้าน “สปอร์ต” กันที่สนามแข่งรถแก่งกระจานเซอร์กิต จังหวัดเพชรบุรี เราใช้เวลาในการค้นหาข้อมูลที่จะเป็นฐานในการอ้างอิงบทความตลอดทั้งวันโดยการทำงานอย่างหนักของนักทดสอบและทีมงาน เพื่อให้ได้ผลของการรีวิวดังที่ท่านผู้อ่านจะได้ทราบจากความเห็นนักทดสอบทั้งสอง และการรีวิวในรูปแบบคลิปวิดีโอทาง youtube ให้ติดตามกันอีกหนึ่งช่องทาง
Yamaha Exciter 150 จำหน่ายทั่วประเทศที่โชว์รูมยามาฮ่า
สแควร์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ราคาแนะนำ 62,000 บาท สอบถามรายละเอียดได้ที่ Yamaha Call Center โทร 0-2263-9999 หรือที่ www.yamaha-motor.co.th และติดตามความเคลื่อนไหวของยามาฮ่าทางสื่อออนไลน์ ที่ www.facebook.com/yamahasociety และที่ Instagram:@yamahasociety
ข้อมูลเทคนิค
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ สูบเดี่ยว SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปริมาตรกระบอกสูบ 149 ซีซี
อัตราส่วนกำลังอัด 10.4 : 1
กระบอกสูบ x ระยะชัก 57.0 x 58.7 มม.
ระบบหล่อลื่น แบบเปียก
ระบบจ่ายน้ำมัน ระบบหัวฉีด
ระบบจุดระเบิด ที.ซี.ไอ.
ระบบคลัตช์ แบบเปียก ชนิดหลายแผ่น
ระบบเกียร์ คอนสแตนท์เมช ระบบเกียร์ 5 ระดับ
ระบบสตาร์ท สตาร์ทมือและสตาร์ทเท้า
น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันแก๊สโซฮอล์, E20 หรือเบนซินค่าออกเทน 91 ขึ้นไป
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 4.2 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง ไม่มีการเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง 0.95 ลิตร
มีการเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง 1.00 ลิตร
ความจุหม้อน้ำ 0.48 ลิตร
ความจุถังพักหม้อน้ำ 0.28 ลิตร
หัวเทียน เอ็น.จี.เค / ซี.อาร์.8 อี. (NGK / CR8E)
ชนิดของโครงรถ แบบแบ็คโบน
มุมคาสเตอร์/ระยะเทล 26° / 81 มม.
กว้าง x ยาว x สูง 670 x 1,970 x 1,080 มม.
ความสูงจากพื้นถึงเบาะ 780 มม.
ระยะห่างจากพื้นถึงเครื่อง 135 มม.
ช่วงศูนย์กลางระหว่างล้อ 1,290 มม.
น้ำหนักพร้อมขับขี่ 116 กก.
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 1,990 มม.
กันสะเทือนหน้า เทเลสโกปิค
กันสะเทือนหลัง สวิงอาร์ม (แขนยึดโช๊คอัพหลัง)
เบรกหน้า ดิสก์เบรก
เบรกหลัง ดิสก์เบรก
ยางหน้า 70/90-17M/C 38P
ยางหลัง 120/70-17M/C 58P
ล้อ แม็ก B151
ไฟหน้า 12 โวลท์ 35/35 วัตต์ x 1
แบตเตอรี่ 12 V, 3 Ah / GTZ4V (MF)
ความเห็นนักทดสอบ
เขมรัฐ สุธรรมวาท
“ดูเป็นรถครอบครัวกลายพันธุ์ที่แข็งแกร่งบึกบึนมากครับ จากแฟริ่งหน้าที่ดูใหญ่โต ยิ่งด้านท้ายกับงานช่วงล่าง ขนาดยางและบังโคลนหลังที่ออกแบบมาอย่างเกินนิยามคำว่ารถครอบครัวไปไกลแล้ว ลูกเล่นของไฟหรี่ข้างหน้าถือว่าทันยุคทันสมัยการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่มีปุ่มสตาร์ทไฟฟ้ามาให้ก็ดูสบายดี ผมลองใช้คันสตาร์ทที่สำรองมาให้ใช้ยามฉุกเฉินก็พบว่าระบบลดกำลังอัดขณะสตาร์ททำงานอย่างได้ผลดี แรงต้านการกดคันสตาร์ทน้อยมาก เครื่องยนต์สตาร์ทติดได้ง่ายๆ เลยครับ ความสูงขณะคร่อมขี่ไม่มีปัญหากับความสูง 165 วางเท้าสองข้างบนพื้นได้เกือบเต็ม เมื่อนั่งบนเบาะแล้วเอื้อมมือไปจับแฮนด์ ความรู้สึกคุ้นๆ มันแทรกเข้ามาทันที อึม…ผมว่ามุมมองจากคนขี่มันคือสปอร์ค 135 แบบคุ้นๆ เลยล่ะ บีบคลัทช์เพื่อเข้าเกียร์ (รุ่นนี้ระบบเครื่องยนต์เป็นสปอร์ตที่ต้องควบคุมเองทุกอย่างนะครับ) รถเคลื่อนออกไปช้าๆ การบังคับเลี้ยวยิ่งงมั่นใจว่าอารมณ์เดียวกับสปาร์ค 135 เลย
ความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับความคุ้นเคย การโลดแล่นพลิกพลิ้วไปตามโค้งในสนามเริ่มชัดเจนถึงการทรงตัวรถที่โดดเด่นมา กันสะเทือนเดิมๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนแต่กลับเอาได้อยู่รับได้หมดกับทุกจุดของการเลี้ยวในสนาม มั่นใจที่จะเร่งเมื่อไรก็ได้ ถึงขนาดเราขี่กันโดยเอียงรถเข้าโค้งด้วยการยกเท้าด้านในแล้วปล่อยให้พักเท้าครูดไปกับพื้นโดยที่รถไม่เสียการทรงตัวใดๆ เป็นการจัดช่วงล่างด้วยการให้ยางมาโอเวอร์ก็จริง แต่กันสะเทือนก็ทำงานได้ไม่น้อยหน้ากันมันจึงเกิดเป็นความมั่นใจสุดๆ ทำให้สนุกสุดๆ เช่นกันเมื่อกดคันเร่งเต็มๆ ช่วงโค้งลงเขาแบบไฮสปีดเครื่องยนต์เป็นอีกหนึ่งจุดของการตอบสนองที่ตอบได้ว่าโดดเด่นและแตกต่างจากพิกัด 135 มากมาย การออกตัวทำได้ดีในระดับหนึ่งแต่เกียร์ 1-2-3 การเร่งรอบเครื่องยนต์จากรอบกลางไต่ระดับไปถึงเรดไลน์ได้ปรู๊ดปร้าดมาก แต่เมื่อขยับความเร็วปลายในช่วงเกียร์ 4 และ 5 รอบจะมาหน่วงอยู่หลัง 8000 rpm นานหน่อย ประมาณว่าต้องรอไหลรับความเร็วปลายแบบใจเย็นเล็กน้อย อีกส่วนความชอบส่วนตัวของผมคือระบบคลัทช์และเกียร์ คลัทช์ทำงานได้แม่นยำมาก ไม่อืดอาด และไม่หนักแรงบีบเกินไป สอดคล้องกับการชิพเกียร์ที่นุ่มและแม่นยำเช่นกัน Exciter 150 สำหรับผมมันคือรถสปอร์ตครับ การตอบสนองของเครื่องยนต์ การทำงานของระบบรองรับ ความนิ่งในการเลี้ยวความเร็วสูง เบรกคุณภาพดี ทุกอย่างเหนือชั้นกว่าการใช้งานในระดับรถครอบครัวไปอีกขั้นแล้ว มันจะทำให้คุณสนุกเหมือนกับการได้ใช้งานรถสปอร์ตในชีวิตประจำวัน เพราะมันคือครอบครัวที่ตอบสนองแบบรถสปอร์ต ยามาฮ่า เอ็กไซเตอร์ ครับ”
จตุรงค์ หมื่นทิพย์
“ขอย้อนไปหน่อยกับการเปิดตัวครั้งแรก สิ่งที่เห็นมันคือรถซูเปอร์สปอร์ตในรูปทรงของรถแฟมิลี่ กับการดีไซน์ชุดบังลมหน้าให้ดูเพรียวและมีไฟหรี่ LED เพิ่มความหรูหรามาด้วยเรียกได้ว่าเข้ารับกับกระแสรถยุคใหม่ เห็นแล้วต้องเข้าไปจดจ้องมองมุมมิติต่างๆ อย่างชัดเจน มันน่าจะตอบโจทย์ผู้ใช้ของยุคนี้ได้เลย ก่อนหน้านี้ได้ขับขี่ทางไกลมาแล้ว เครื่องยนต์ 150 ซีซี กับรถแฟมิลี่ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยจี๊ดเหมือนกับที่คิดไว้เท่าไหร่ ให้รอบเครื่องยนต์ที่กว้างลากกันได้ยาว แต่มันมีระบบแฮนด์คลัทช์มาเพื่อให้การขับขี่ที่ต้องการเร่งรีบในจังหวะแซง หรือทำความเร็วอย่างเร่งด่วนก็พอที่จะช่วยให้กำลังปี๊ดป๊าดขึ้นมาได้บ้าง ซึ่งเมื่อปรับจากการขับขี่บนท้องถนนเข้ามาสู่แทร็คในรูปแบบเซอร์กิต ระบบการทำงานของทุกส่วนได้ใช้งานอย่างเต็มที่เรียกได้ว่าล้นเกินธรรมดา ท่วงท่านั่งที่ให้ความสบาย ระยะแฮนด์กับเบาะนั่งที่ไม่ห่างมากการก้มหมอบทำได้ง่าย ฟิลลิ่งจะคล้ายๆกับ SPARK135 การพลิกเลี้ยวคล่องจนหลายครั้งที่พักเท้าลงไปครูดกับพื้นแทร็คมีเสียงให้ได้สะดุ้ง พักเท้าก็ออกแบบให้พับได้ด้วยสปริงซึ่งเพิ่มเรื่องของความปลอดภัย เวลาที่อาจไปสะกิดก้อนหินใหญ่ก็จะทำให้รถไม่เสียการทรงตัว ในส่วนโช้คอัพกับรถสแตนดาร์ดให้ความรู้สึกที่ไม่ขัดขืนหรือดื้อ ประกอบกับยางหลังที่ให้มาใหญ่ซะขนาดนั้น หน้ายางที่กว้างการเลี้ยวที่แคบไม่ต้องไปกังวลกับมันมากมายไปได้สบายๆ ไม่ต่างกับรถซูเปอร์ไบค์เลย อย่างที่บอกกับเครื่องยนต์ที่มีระบบแฮนด์คลัทช์ การใช้งานแต่ละครั้งให้ความรู้สึกไหลลื่นของเกียร์ที่มันสามารถรีดเร่งและลดได้อย่างนิ่มนวล ด้วยรอบที่เดินอย่างต่อเนื่องประมาณ 5-6,000 รอบ/นาที โดยที่รอบสูงสุด 10,000 รอบ/นาที เพียงพอสำหรับเครื่องยนต์ขนาด 150 ซีซี เดิมๆ ซึ่งตอบสนองการขับขี่บนท้องถนนได้ด้วยย่านกำลังที่ราบเรียบและง่ายต่อการควบคุม และเพิ่มอรรถรสให้เร้าใจเมื่อเข้าสู่การขับขี่ในแทร็คเพียงลูกเล่นของระบบแฮนด์คลัทช์ที่กระชากได้ดั่งใจ ถึงจะช้า…แต่มาเต็มแบบสปอร์ต”