ตลาดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องไม่ได้ส่งผลดีเฉพาะกลุ่มไบค์ที่เป็น “บิ๊ก” จริงๆ เท่านั้น แต่มันยังเป็นการปลุกความนิยมของรถสไตล์เรซซิ่งสปอร์ตทุกพิกัดให้กลับมาคึกคักตามไปด้วย แน่นอนว่าก่อนจะไต่ระดับการขับขี่ถึงรถซีซีสูงอย่างบิ๊กไบค์ กลุ่มผู้ใช้รถเล็กย่อมต้องการบันไดในการไต่ระดับจากความแรงระดับเริ่มต้นที่จะต่อยอดจากพิกัด 250 ซีซี ที่ติดเพดานรถเมืองไทยมานาน เรากำลังพูดถึงรถสปอร์ตในพิกัด 300 ซีซี ที่มีการผลิตจำหน่ายแทบจะครบค่ายบิ๊กแดนซามูไร แต่ครั้งนี้เราขอนอกใจมาลองของดีเมืองฝรั่งกับสปอร์ตซีซีล้นบนมิติล้ำ RC390
เปิดตัวจำหน่ายให้วาดลวดลายบนถนนเมืองไทยไปหลายเดือนแล้วกับ RC390 แต่กับการแข่งขันมันกลับกลายเป็นประเด็นให้ถกในวงประชุมว่า ด้วยซีซีเครื่องยนต์ที่ให้มาล้นเกินหน้าพรรคพวกเขาขนาดนี้จะเอามันไปแข่งกับใครดี ถ้าตีเกินมันคือรถ 400 ซีซี แต่มันก็ยังมีเลข 3 นำหน้า แถมมาด้วยเครื่องยนต์สูบเดียวที่อาจจะเสียเปรียบสูบคู่ในบางมิติ ก็ว่ากันไปกับเรื่องการแข่งขันในสนาม ส่วนเรื่องการใช้งานทั่วไปไม่ใช่ปัญหา เพราะมันคือรถสปอร์ตที่สามารถจดทะเบียนได้อย่างถูกกฎหมายใครๆ ก็สามารถนำมันมาขับขี่ใช้งานบนท้องถนนได้ปกติ…จริงมั๊ย หลังการทดสอบนี้บอกตรงๆ ว่าทีมงานของเราชักลังเลว่ามันเหมาะกับการขี่บนถนนจริงๆ หรือ เพราะอะไรมาติดตามกันได้เลยครับ
375 ซีซี 43 แรงม้า
เครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะสูบเดียว 4 วาล์วกับระบบขับวาล์วที่เคทีเอ็มเรียกว่า “ทวิน โอเวอร์เฮด แคมชาฟท์” ปริมาตรประบอกสูบจริงๆเพียงแค่ 375 ซีซี ในบอดี้เครื่องยนต์ที่กระทัดรัดและหนักเพียง 36 กก.เท่านั้น มีการติดตั้งบาลานเซอร์กันสั่นให้กับเครื่องยนต์ ระบายความร้อนด้วยน้ำ สตาร์ทไฟฟ้าอย่างเดียวไม่มีทางเลือกอื่น ใช้ระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงในการจัดระเบียบไอดี
เฟรมส้มสื่อความแสบ
โชว์ความเป็นเอกลักษณ์ด้วยเฟรมเหล็กถักเคลือบด้วยสีประจำค่าย นอกจากเรื่องน้ำหนักและความแข็งแรงแล้วในส่วนองศาคอของเฟรมตัวนี้ยังตั้งใจให้ RC390 มีความสั้นกระชับ ทั้งในส่วนมุมเลี้ยว ระยะห่างฐานล้อ และความสูงจากพื้นถึงตัวรถ หวังผลเลิศในการตอบสนองการบังคับเลี้ยวที่ฉับไว ร่วมกับแผงคออลูมินัมที่วางตำแหน่งแฮนด์ “เสียบ” ไว้กับแผงคอบน โช้คหน้าหัวกลับจัดเต็มด้วยขนาดเดียวกับซูเปอร์ไบค์ร่วมค่ายคือ 43 มม. ส่วนด้านท้ายเป็นสวิงอาร์มอัลลอยน้ำหนักเบาทรงไม่แปลกตาแต่ลวดลายด้านข้างชวนแปลกใจ ทำงานกับโช้คหลังเดี่ยวไม่ใช้กระเดื่องด้วยความมั่นใจในการปรับเซ็ตของโช้คที่
การันตีเรื่องการทรงตัวที่ดีมาจากโรงงาน ทั้งหน้าและหลังเป็นงานจากค่าย WP ระบบเบรกเป็นดิสก์ทั้งหน้าและหลังติดตั้งระบบ ABS มาให้พร้อม ซึ่งฟังก์ชั่น ABS นี้ผู้ใช้สามารถสั่งให้ทำงานหรือไม่ก็ได้ เน้นประสิทธิภาพด้วยคาลิเปอร์ 4 ลูกสูบที่ล้อหน้า ล้อแม็ก 17 นิ้วหน้าและหลังพร้อมกับยางขนาดใหญ่พิเศษในสเป็คแก้มเตี้ยรองรับการขี่ในสนามได้อย่างตั้งใจ
ดีไซน์หลุดกรอบ
การออกแบบรูปทรงภายนอกตั้งใจให้สัมพันธ์กับตำแหน่งท่านั่งโดยตรง ไม่ใช่แค่ให้เหมือนแต่ยังเป็นตำแหน่งเดียวกับรถแข่ง ทั้งแฮนด์และพักเท้าที่จะทำให้เจ้าของนำรถเดิมๆ ถอยห้างไปพลิ้วในสนามจนเข่าเช็ดพื้นโดยไม่ต้องปรับอะไรเลย เกือบจะดูไม่น่าสนใจถ้าไม่พิจารณาก็คือเบาะที่มาพร้อมไอเดียการสร้างเบาะหลังให้เป็นส่วนท้ายสไตล์รถแข่งแบบไม่ต้องดัดแปลงหรือถอดย้ายอะไรเลย ตั้งแต่ส่วนของเบาะที่ต่อกับถังน้ำมันไปยันปลายแหลมของตูดมดเป็นวัสดุที่ทำจากฟองน้ำให้มีความนุ่มนวลเมื่อนั่งลงไป แปลกใหม่ถูกใจสายเซอร์กิตที่บางเวลาต้องดูแลคนรู้ใจแบบใกล้ชิด
รถถนนรถแข่งแบ่งกันได้
ถึงหน้าตาและส่วนควบคุมหลายอย่างจะเน้นไปทางรถสนาม แต่หลายส่วนการใช้งานยังเผื่อสำหรับความสะดวกสบายบนท้องถนนมาด้วย เช่นการติดตั้งพักเท้าผู้ซ้อนท้าย เรือนไมล์ดิจิตอล LCD ขนานแท้ไม่มีเข็มให้ดู แสดงและแจ้งการปรับตั้งทุกอย่างในที่เดียว มีชิพท์ไลท์เตือนเปลี่ยนเกียร์ด้วยไฟสีแดงแบบรถแข่ง ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ล้ำยุค กระจกมองข้างทรงแอโร่ลู่ลมพร้อมไฟเลี้ยว รับกับแฟริ่งและวินด์ชิลด์ที่ออกจะมีเหลี่ยมสันมากไปนิดแต่บิดไม่ต้านลมแน่นอน
ขุนศึก 3 สนาม
ทีมงานไรดิ้งเราได้มีโอกาสสัมผัสกับ RC390 ถึง 3 ครั้งกับการขับขี่ 3 สนาม 3 รูปแบบที่แตกต่าง โดยได้รับการสมยอมจากเจ้าของรถใจดี เอกราช สัตยธาดากูล มือใหม่สายหมอบที่มีเหตุผลส่วนตัวในการเลือกและตัดสินใจครอบครองรถคันนี้ ขอบคุณสนามแข่งรถโบนันซ่าสปีดเวย์ สนามแข่งรถไทยแลนด์เซอร์กิต สนามแข่งรถแก่งกระจานเซอร์กิต ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายทำ และเครื่องดื่ม GSD ร่วมสนับสนุนการทดสอบครั้งนี้
ข้อมูลเทคนิค RC390
เครื่องยนต์ 1 สูบ 4 จังหวะ
ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปริมาตรกระบอกสูบ 373.2 ลูกบากศ์เซ็นติเมตร
กระบอกสูบ 89 มม.
ระยะชัก 60 มม.
แรงม้า 32 kW (43 hp)
สตาร์ท ไฟฟ้า
เกียร์ 6 สปีด
ระบบหล่อลื่น แบบเปียก
อัตราทดขั้นต้น 30 : 80
อัตราทดขั้นสุดท้าย 15 : 45
คลัทช์ แบบเปียกหลายแผ่น
จุดระเบิด อิเล็คทรอนิกส์ ดิจิตอล
เฟรม เหล็กเคลือบพาวเดอร์โค้ท
โช้คหน้า WP หัวกลับ
โช้คหลัง WP โมโนโช้ค
ช่วงยุบโช้คหน้า 125 มม.
ช่วงยุบโช้คหลัง 150 มม.
เบรกหน้า ดิสก์เบรกจานเดี่ยว 300 มม.
คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ
เบรกหลัง ดิสก์เบรกจานเดี่ยว 230 มม.
คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ
โซ่ 5/8 x 1/4¼” X-Ring
มุมคอ 66.5 องศา
ระยะฐานล้อ 1,340 มม.
สูงถึงพื้น 178.5 มม.
สูงถึงเบาะ 820 มม.
ถังน้ำมันจุ 10 ลิตร
น้ำหนักไม่รวมเชื้อเพลิง 147 กก.
ราคา 298,000 บาท
ความเห็นนักทดสอบ : จตุรงค์ หมื่นทิพย์
“ต้องบอกเลยว่าเป็นครั้งแรกกับค่ายยุโรปเคทีเอ็ม ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความดิบที่มาพร้อมกับความแรงที่น่าทึ่ง แรกสัมผัสเมื่อได้คร่อม มันเหมือนกับรถโมเดลโชว์ เพราะว่าไม่รู้สึกถึงความนิ่มนวลเมื่อทิ้งน้ำหนักลงที่ตัวรถ แข็งทื่อจริงๆ เป็นรถที่ออกแบบในรูปแบบของรถสปอร์ต แฮนด์จับโช้คที่กดหน้าต่ำและมันกว้างพอสมควร มันเก้ๆ กังๆ ยังไงบอกไม่ถูก แต่พอได้ลงสัมผัสกับพื้นแทร็คมันส่งพลังออกมาได้น่าประทับใจกับเครื่องยนต์ 390 ซีซี สูบเดี่ยว ถึงแม้ว่าจะยังไม่ค่อยมั่นใจกับโช้คสักเท่าไหร่ ระบบเบรก ABS สามารถปิดหรือเปิดใช้ได้ตามรูปแบบของการขับขี่ รอบเครื่องที่ต้องกรอคันเร่งให้อยู่ที่ประมาณ 7,000 รอบ/นาที ขึ้นไป มันจะตอบสนองการทำงานได้อย่างฉับพลัน การพลิกเลี้ยวที่ต้องฝืนกับความรู้สึกแต่มันสามารถที่จะโหนลงไปได้แทบหมดหน้ายางและเดินคันเร่งออกจากโค้งได้อย่างไม่มีอาการสับหรือส่ายให้เสียการทรงตัว และที่ตอบสนองได้เด่นชัดคือ การยกคันเร่งพลิกรถบิดออกเร็ว พอปรับคนกับรถเข้ากันลงล็อคก็เริ่มเร่งสปีดขี่กันเต็มๆถือได้ว่า RC390 เป็นรถที่มีความดิบโดยแท้แต่สามารถควบคุมได้ เพียงต้องทำความรู้จักกับมันสักพักใหญ่ๆ กับการทำงานของช่วงล่างที่คุณอาจไม่คุ้นเคย แต่มันให้ความเร้าใจอย่างไม่น่าเชื่อ”
ความเห็นนักทดสอบ : เขมรัฐ สุธรรมวาท
“มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับรถพิกัด 300 ซีซี ที่มีขายในเมืองไทย ลืมมันให้หมด! ผมต้องเรียนรู้ใหม่และมุ่งสมาธิไปกับการขับขี่เจ้า RC390 อย่างจริงจังตั้งแต่ครั้งแรกที่สัมผัส มิติของมันให้ความรู้สึกทื่อมากเมื่อแรกสัมผัส เบาะสูงแฮนด์ต่ำ กว้างและตรงจนคิดถึงแฮนด์ทรงวิบากขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เสียงเครื่องฟังแปร่งๆ ลองเร่งเครื่องในเกียร์ว่างมีอาการสั่นขึ้นมาให้รู้สึกชัดเลย เอาน่า…ออกไปขี่น่าจะเจออะไรดีๆ คลัทช์แข็งน่าดูเพราะเป็นคลัทช์สายนะครับไม่ใช่น้ำมัน แต่ออกตัวแล้วชอบการตอบสนองที่ดุดันเอาเรื่อง ชักจะเข้าท่า ถึงโค้งยกคันเร่งลดความเร็วเพื่อจับไลน์แล้วเปิดคันเร่งอีกครั้ง อ้าว…รอบตกกำลังหาย ยังไงกันล่ะเนี่ย? บอกตรงๆ ว่างงกับคาแรคเตอร์ของมันมากครับ เรี่ยวแรงกำลังให้มาในรอบต้นแล้วข้ามไปหารอบปลายโดยปล่อยรอบกลางให้หายไปซะงั้น คือตอนออกตัวไม่ต้องกลัวใคร แต่พอลอยตัวออกไปได้ก็หิ้วรอบให้ตลอดโค้งก็แล้วกัน ที่เขากล้าทำรอบแบบนี้ออกมาเพราะค่ายนี้มั่นใจในระบบรองรับและมุมเลี้ยวของ RC390 มากๆประมาณว่ายัดรอบพร้อมความเร็วเข้าโค้งไปเถอะรถมันเกาะโค้งและเลี้ยวได้ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริง หลังจากทำความคุ้นเคยกันจนพอคุยกันรู้เรื่องแล้ว เราจะสั่งการบังคับทิศทางและสั่งเร่งสั่งหยุดโดยที่มีความรู้สึกตอบสนองกลับมาถึงคนขี่น้อยมาก เป็นรถที่ทรงตัวนิ่งมาก ท่าทางการขับขี่เหมาะกับการเป็นรถแข่งมากกว่ารถใช้งานครับ ผมได้ลองขี่ที่โบนันซ่ากับไทยแลนด์เซอร์กิต ผมว่าสนามสั้นโค้งแคบยิงออกเร็วๆ มันโดดเด่นมากครับ”
ความเห็นเจ้าของรถ
: เอกราช สัตยธาดากูล
“ผมดูจากรูปลักษณ์ภายนอกเป็นหลักครับ เห็นแล้วมันจึ๊ก! มันใช่เลยครับ ไม่มีการค้นหาข้อมูลเลยครับ เห็นรุ่นน้องลงในเฟซบุคก็เลยไปดู ก็จองเลย ครั้งแรกที่ได้ขี่ก็ที่สนามโบนันซ่ารู้สึกเลยว่ามันเป็นรถที่ขี่ค่อนข้างยากนะครับ ครั้งแรกนี่จัดว่ายากทีเดียว พอขี่ไปสักระยะเริ่มจะควบคุมมันได้แล้ว จัดว่าประทับใจเลยครับ ด้วยสมรรถนะของมันด้วยเพราะว่าปกติก็ขี่รถตลาดทั่วไป เป็นรถคันแรกที่ซื้อมาขี่ในสนามก็ชอบครับ”