หนึ่งในตัวเลือกต้นๆ สำหรับรถเดินทางไกลในระยะทางและเส้นทางที่ยาวนานวันละหลายร้อยกิโลเมตร หรือแม้กระทั่งหลายๆ วันต่อเนื่องกัน ฟังก์ชั่นการใช้งานที่รองรับกับความหลากหลายของสภาพเส้นทางที่ต้องพบเจอ ความวุ่นวายของสัมภาระที่ต้องพกพา ในขณะที่ยังคงสัญชาติญาณการตอบสนองของตัวแข่งไว้อย่างเต็มเปี่ยม KTM 1190 ADVENTURE เป็นรถสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวที่ไม่ได้ติดหรูอยู่สบายนัก แต่กลับสร้างมาเพื่อการสัมผัสไอดินกลิ่นธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน
2 สูบวี แรงดีตัวเบา
เครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ 2 สูบกระบอกโต ระบบหัวฉีด วางมุมเป็นรูปตัว V ระบายความร้อนด้วยน้ำ อาศัยใช้เครื่องยนต์เป็นส่วนหนึ่งของเฟรมเพื่อช่วยลดน้ำหนัก ปริมาตรกระบอกสูบจริง 1195 ซีซี เกียร์ 6 ระดับ อำนวยความสะดวกในการตรวจเช็คระดับและความข้นของน้ำมันเครื่องได้อย่างง่ายจากช่องใสเป็นแนวยาว ช่องเติมน้ำมันเครื่องที่ช่างเห็นแล้วต้องยิ้ม ซึ่งสามารถผลิตกำลังได้มากถึง 148 แรงม้าเทียบกับน้ำหนักตัว 230 กิโลกรัมแล้วทางผู้ผลิตแจ้งว่าเป็นรถสไตล์ทัวริ่งแอดเวนเจอร์ที่มีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักมากที่สุดในพิกัดใกล้เคียงกัน พร้อม EMS Mode เป็นโหมดสำหรับเลือกใช้การถ่ายทอดกำลังOffroad เพื่ออำนวยการขับขี่ให้เกิดความเหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานตามโหมดที่กำหนดไว้ เฟรมโครโมลี
เป็นค่ายที่ยังเหนียวแน่นกับการใช้เฟรมเหล็กโครโมลี่ในทุกโมเดลจริงๆ ด้วยขนาดของท่อที่เล็กกับโครงสร้างที่เสริมความแกร่ง ผนวกกับการใช้เครื่องยนต์เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างไปแล้วก็ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เฟรมที่มีขนาดใหญ่โตนัก แม้ตัวรถโดยรวมจะมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากก็ตาม
กันสะเทือนไฟฟ้าพร้อม ABS
ระบบรองรับยังคงใช้บริการจากค่าย WP เหมือนเช่นทุกโมเดลโดยเฉพาะในสายลุยด้วยโช้คหน้าแบบหัวกลับและโช้คหลังเดี่ยว ซึ่งนอกจากจะคงคุณสมบัตินุ่มหนึบที่โดดเด่นแล้ว ยังมีการนำเอาระบบไฟฟ้ามาช่วยในการควบคุมและสั่งการสำหรับความต้องการในการใช้งานที่แตกต่าง โดยจะยึดเอาภาระในการรับน้ำหนักเป็นหลักในการตัดสินใจเลือก โดยแบ่งเป็นการขี่คนเดียว, ขี่คนเดียวพร้อมสัมภาระ, ขี่สองคน, ขี่สองคนพร้อมสัมภาระ ระบบจะปรับการรองรับของกันสะเทือนเพื่อให้อยู่ในย่านของการทรงตัวที่ดีที่สุดซึ่งระบบเบรก ABS ก็จะถูกควบคุมจากสวิทช์ได้เช่นกันว่าจะเลือกเปิดใช้หรือปิด รวมๆ ก็คือระบบเครื่องยนต์ กันสะเทือน และเบรก สามารถที่จะให้ผู้ขับขี่เลือกใช้ได้จากสวิทช์ 4 ทิศทางที่แยกต่างหากไว้ทางด้านซ้ายมือ รวมทั้งการแสดงผลก็แยกจอเอาไว้ทางด้านซ้ายเช่นกัน ขอขอบคุณวัชร มารีน ที่เอื้อเฟื้อรถทดสอบ ชุดนักทดสอบจากเดิร์ทช็อพ และเครื่องดื่ม GSD สัมผัสตัวจริงและทดลองขับขี่ได้ที่ KTM PATTAYA โดย SPEED REPUBLIC โชว์รูมพัทยาริมถนนสุขุมวิท โทร 038-418-500 ต่อ 110, 118, 284 หรือ www.watcharamarine.co.th และ Facebook Fan Page “KTM Pattaya” และ “Speed Republic”
ข้อมูลเทคนิค
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบ V 75 องศา ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปริมาตรกระบอกสูบ 1195 ซีซี
กระบอกสูบ 105 มม.
ระยะชัก 69 มม.
กำลังงาน 110 กิโลวัตต์ (148 แรงม้า)
ระบบสตาร์ท ไฟฟ้า
เกียร์ 6 ระดับ
ระบบหล่อลื่น แรงดันน้ำมันโรเตอร์ 3 ปั๊ม
ไพรมารีเกียร์ 40:76
เซคันดารีเกียร์ 17:42
ระบบระบายความร้อน น้ำ
คลัทช์ PASC แบบป้องกันการกระโดด สั่งด้วยไฮดรอลิค
ระบบจุดระเบิด อิเล็คทรอนิกส์/ดิจิตอล
เฟรม โครม โมลิบดินั่ม เคลือบผิวด้วยพาวเดอร์โค๊ท
โช้คหน้า หัวกลับ WP ระยะยุบตัว 190 มม.
โช้คหลัง โช้คเดี่ยว WP ระยะยุบตัว 190 มม.
เบรกหน้า เบรมโบ้เรเดียลเมาท์ คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ จานคู่ 320 มม.
เบรกหลัง เบรมโบ้จานเดี่ยว คาลิเปอร์ลูกสูบคู่ 267 มม.
ระบบ ABS BOSCH
โซ่ 5/8 x 5/16” เอ็กซ์ริง
องศาคอ 64 องศา
ระยะฐานล้อ 1,560
สูงจากพื้น 220 มม.
เบาะสูง 860/875 มม.
ถังน้ำมันจุ 23 ลิตร
น้ำหนักไม่รวมเชื้อเพลิง 217 กก.
น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 440 กก.
ราคา 1,239,900 บาท
ความเห็นนักทดสอบ / เขมรัฐ สุธรรมวาท
“รถสไตล์นี้น้ำหนักตัว สองร้อยกว่ากิโลกรัมกับคนขี่หนัก 67 กิโลกรัมสูง 166 เซนติเมตร ดูเหมือนผมจะเสียเปรียบอยู่เยอะนะครับ เมื่อต้องประมือเจ้ายักษ์ส้มคันนี้ การจับจูงทำได้คล่องตัวประมาณหนึ่งจากแฮนที่กว้างและเบาะที่ต่ำ การยกรถตั้งด้วยขาตั้งกลางหนักพอควรแต่ก็ทำได้ ถ้าไม่จำเป็นใช้ขาตั้งข้างเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามากครับ ก้าวขาขึ้นคร่อมบนตัวรถรู้สึกกังวลน้อยลงจากความสูงเบาะที่ไม่มากนัก แต่ระยะแขนเอื้อมไปถึงแฮนด์แล้วเป็นมุมที่ต้องก้มนิดๆ ขาตั้งข้างมีตุ้มยางให้ใช้ส้นเตะพับขึ้นมาได้ง่าย แต่ตอนกางออกจะหายากหน่อยค่อนข้างหลบครับ เสียงสตาร์ทเครื่องยนต์อืดหน่อย เสียงเครื่องทุ้มนุ่มสไตล์วี รอบเครื่องขึ้นไวในเกียร์ว่าง บีบคลัทช์เข้ามาชอบเลยครับไม่หนักแรง แบบ 2 นิ้วกำลังดีด้วยระบบสั่งงานจากไฮดรอลิค เข้าเกียร์ 1 มีเสียงกระแทกแบบที่ได้ยินจากรถซีซีสูงทั่วไป ออกรถไปชิพเกียร์สูงขึ้นก็ไม่มีแล้ว การเปลี่ยนเกียร์นุ่มและแม่นยำ คลอคันเร่งตามสภาพจราจรด้วยรอบแถว 4-5 พัน เสียงเครื่องทุ้มนุ่มอยู่ครับ พอข้างหน้าโล่งลองบิดข้อมือขวาดูถึงกับตกใจนิดๆ จากการตอบสนองชนิดที่รถพุ่งแบบหน้า (คนขี่) หงาย ว้าว!…ความมันส์บังเกิดสิครับ พอล้อเริ่มหมุนด้วยแรงขับความรู้สึกถึงภาระน้ำหนักเท่าข้าวสารสองกระสอบกว่า (ไม่รวมคนขี่) ก็เหมือนจะหายไปหมด การซิกแซกทรงตัว การโยกรถเปลี่ยนเลน ทำได้แบบไม่ต้องคิดมากโยกไปเลยไม่ต้องเกร็งดึงกลับไม่ต้องกลัวเลย แต่ถ้าเป็นการเลี้ยวโค้งหรืออ้อมวงเวียนนั่นแหละถึงต้องเผื่อไว้หน่อย อ้อ…อย่าลืมโน้มตัวไปข้างหน้าก่อนเร่งล่ะ…รถมันดึง การตอบสนองทันใจและสะใจนี้เท่าที่ลองปรับโหมดเครื่องยนต์ดู ไม่ว่าโหมดไหนผมว่ามันก็ไม่ต่างกันเท่าไรครับ จัดเต็มตลอดๆ การเปลี่ยนโหมดเครื่องยนต์ทำได้เลยขณะขับขี่ มีข้อแม้นิดนึงว่าต้องปิดคันเร่งให้หมดระบบถึงจะเปลี่ยนโหมดให้ สวิทช์ไฟเลี้ยวต่างจากทุกรุ่นในโลกที่ผมเคยขี่มา ออกแรงนิ้วโป้งเลื่อนมันแทบไม่ขยับ…ซ้ำอีกทีก็เหมือนเดิม นึกว่าสวิทช์ไฟเลี้ยวเสีย แต่ไฟเลี้ยวมันทำงานตั้งแต่ดันครั้งแรกแล้ว คือสวิทช์มันทื่อของมันอย่างนั้นเอง ไม่โยกเยอะเหมือนรถทั่วไปครับ การทำงานของช่วงล่างบนถนนทรงตัวได้นิ่งมาก บนทางดินและการปีนผ่านความขรุขระทำได้นุ่มนวลตามวิสัย WP ที่มีในตระกูลเดิร์ทไบค์ ความคล่องตัวของการเคลื่อนผ่านบนทางดินขี่ได้ใกล้เคียงรถเอ็นดูโร่ทั่วไป ด้วยมิติในการขับขี่ที่กระชับถ้าเปลี่ยนใช้ยางดอกหนามน่าจะสนุกเลยครับ สิ่งเดียวที่ทำให้ผมกังวลอยู่บ้างถ้าต้องควงกันนานๆ ก็คือความร้อนที่แผ่จากใต้เบาะออกมาถึงขาค่อนข้างมาก…บู๊ทวิบากน่าจะเหมาะสุดกับการขี่มันเป็นรถที่สร้างความประทับใจในการตอบสนองของเครื่องยนต์และการควบคุมได้อย่างมาก ผิดคาดจริงๆ กับสิ่งที่คิดไว้เมื่อเห็นรูปร่างของมัน เป็นรถเพื่อการเดินทางที่ว่องไว คล่องตัว แต่ยังไม่ทิ้งสัญชาติญาณแข่งที่มีในดีเอ็นเอของเคทีเอ็มทุกรุ่นจริงๆ”