โกลด์วิง แปลตรงตัวว่าปีกสีทอง ชื่อที่เอ่ยขึ้นมาสมองจะมโนภาพติดตาของรถจักรยานยนต์ทัวร์ริ่งสุดหรูคันโตมากมายด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่หลายสิ่งไม่คิดว่ามันจะมีให้ในรถจักรยานยนต์ บนถนนไฮเวย์มันคือราชาแห่งการเดินทางอันแสนอภิรมย์ที่ครองตำแหน่งมานานกว่า 40 ปี จนกระทั่งเกิดมีแนวคิดที่อยากจะแตกหน่อสู่วิถีของการขับขี่ที่ทันสมัยและคล่องตัวขึ้นโดยยังคงคอนเซ็ปต์ของโกลด์วิงเอาไว้ในแบบที่เรียบง่ายขึ้น Gold Wing F6B และ F6C จึงถือกำเนิดขึ้น
ด้วยภาพลักษณ์ที่หรูหราของโกลด์วิง อาจจะเป็นการจำกัดกลุ่มผู้ใช้เป็นผู้สูงวัย แต่สำหรับ โกลด์วิง เอฟ 6 ซี ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ที่ทันสมัย รองรับความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่อาจจะมีไอเดียในการแต่งเติมในสไตล์ที่ตัวเองชื่นชอบได้เป็นพิเศษ เรียบง่ายแต่ยังคงสง่างาม
การออกแบบยังคงรูปแบบจากแนวคิด Low and Long คือต่ำและยาว เพื่อการทรงตัวที่ดีจากน้ำหนักรถที่อยู่ต่ำ ความยาวของตัวรถช่วยให้เกิดความมั่นคงขณะขับขี่เดินทางด้วยความเร็วสูง แต่ก็ยังให้ความสามารถในการบังคับเลี้ยวได้ง่ายสำหรับการขับขี่ผ่านสภาพการจราจรในเมือง โดยมีความตั้งใจที่จะให้เกิดความสง่างามจากรูปร่างที่บึกบึนด้วยการนำเอาแผงระบายความร้อนของหม้อน้ำทั้งสองข้างมาวางขนาบข้างถังน้ำมันทำให้ส่วนบนของตัวรถไม่เล็กแคบกว่าเครื่องยนต์สูบนอนที่กว้างมากอยู่แล้ว ไฟหน้าแบ่งออกเป็นสองระดับโดยทั้งไฟสูงและต่ำจะส่องแสงออกมาจากหลอด LED ทำให้ได้ลำแสงสีขาวในการเคลียสภาพเส้นทางข้างหน้า ถังน้ำมันขนาดใหญ่จุได้มากถึง 23 ลิตร วางในตำแหน่งปกติ เบาะนั่งออกแบบไม่เพียงแต่นั่งสบายรองรับได้เต็มก้นแต่ยังเผื่อสำหรับการขยับตัวอย่างคล่องแคล่วในยามที่ต้องขับขี่ในเมืองด้วย มุมมองด้านหลังเท่ล้ำสมัยทรงพลังด้วยซุ้มบังโคลนปิดทับมิดชิดขนาบเอาไว้ด้วยท่อไอเสียซ้ายและขวา เรือนไมล์จอเดียวทรงแคบยาวมีข้อมูลเพื่อการขับขี่เท่าที่จำเป็น เช่นเดียวกับสวิทช์ควบคุมที่แฮนด์ทั้งสองข้างไม่มีอะไรพิเศษหรือแตกต่างของระบบใดๆ ให้เล่นเลย เรียบง่ายสุดๆ
เครื่อง 6 สูบ 1800 ซีซี
สิ่งหนึ่งที่ยังได้รับการถ่ายทอดมาจากโกลด์วิงตัวพ่อคือเครื่องยนต์แบบ 6 สูบนอน ปริมาตรจริง 1,832 ซีซี 2 วาล์วต่อสูบ พร้อมระบบหัวฉีด เครื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่ต้องมองหาคันสตาร์ท กดปุ่มสตาร์ทไฟฟ้าเท่านั้น ระบบคลัทช์ต้องใช้ไฮดรอลิกช่วยการ
ออกแรงควบคุมระบบส่งกำลังของเกียร์ 5 สปีด มีทีเด็ดคือระบบโอเวอร์ไดรว์อย่างที่ใช้กันในรถยนต์จากการขับเคลื่อนด้วยรูปแบบเพลา รวมทั้งระบบบำบัดไอเสีย HECS3 ที่เน้นดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ
เฟรมอลูมินัมทรงกล่องเน้นแข็งแรง
เครื่องยนต์ที่ใหญ่โตกับสมรรถนะและรูปแบบการขับขี่ที่ต้องการเสถียรภาพสูง เฟรมที่เห็นได้ชัดเจนคือรูปทรงของสี่เหลี่ยมอันแข็งแกร่ง กันสะเทือนหน้าแบบเทเลสโคปิกใหญ่โตถึง 45 มม. ส่วนด้านหลังเป็นโช้คเดี่ยวที่ทำงานร่วมกับระบบเพลาในการขับเคลื่อนจึงทำหน้าที่เสมือนสวิงอาร์มแบบโปรอาร์มไปในตัว วงล้อหน้าและหลังเป็นแม็กทรงเรียบง่ายไว้รองรับยางขนาดใหญ่ 130/60-19 และ 180/55-17 ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์ที่ทรงประสิทธิภาพจาก NISSIN ด้านหน้าเป็นจานคู่ขนาด 296 มม. คาลิเปอร์ 3 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังด้วยเหตุที่ต้องเว้นพื้นที่ให้กับชุดขับจึงทำให้ขนาดของจานดิสก์เบรกใหญ่กว่าด้านหน้าด้วยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 316 มม. คาลิเปอร์ 3 ลูกสูบเหมือนกัน
ขอขอบคุณบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ฮอนด้าบิ๊กวิงสำหรับรถทดสอบในทริปฝ่าลมร้อนครั้งนี้ สามารถชมคลิปรีวิวได้ทาง YouTube เช่นเคย
ข้อมูลเทคนิค
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 6 สูบ 12 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปริมาตรกระบอกสูบ 1,832 ซีซี
กระบอกสูบ x ระยะชัก 74 x 71 มม.
อัตราส่วนการอัด 9.8 : 1
กำลังสูงสุด 87 kw/ 5,500 rpm
แรงบิดสูงสุด 167 Nm/ 4,000 rpm
ระบบเชื้อเพลิง PGM-FI
ความจุถังน้ำมัน 23.2 ลิตร
คลัทช์ แบบเปียกหลายแผ่นควบคุมด้วยไฮดรอลิก
เกียร์ 5 สปีด
ระบบขับเคลื่อน เพลา
เฟรม อลูมินัมทวินสปาร์ทรงเพชร
กว้าง 942 มม.
ยาว 2,473 มม.
สูง 1,154 มม.
ฐานล้อ 1,707 มม.
ความสูงเบาะ 734 มม.
น้ำหนัก 341 กก.
โช้คหน้า เทเลสโคปิก 45 มม. ช่วงยุบ 140 มม.
โช้คหลัง โปรลิงค์ โปรอาร์ม ปรับสปริงพรีโหลด ช่วงยุบ 105 มม.
ยางหน้า 130/60-19
ยางหลัง 180/55-17
เบรกหน้า ดิสก์เบรกคู่ 296 มม. คาลิปเปอร์ 3 ลูกสูบ CBS
เบรกหลัง ดิสก์เบรกเดี่ยว 316 มม. คาลิปเปอร์ 3 ลูกสูบ CBS
ราคา 855,000 บาท
ความเห็นนักทดสอบ “เขมรัฐ สุธรรมวาท”
“เป็นรถทัวร์ริ่งตระกูลโกลด์วิงที่คล้อยมาทางครุยเซอร์ให้เป็นรุ่นตัวเลือก โดยยังคงสมรรถนะเครื่องยนต์และโครงสร้างหลักเอาไว้ แตกต่างกันไปคืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบพิเศษเท่านั้น ที่บอกว่าน่าจะเป็นครุยเซอร์มากกว่าเพราะ F6C ไม่มีประเป๋าข้างที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของนักเดินทางแบบทัวร์
ริ่งมาให้เหมือน Gold Wing และ F6B ขนาดและน้ำหนักเป็นไปอย่างที่ตาเห็นครับ ใหญ่โตและหนักหน่วงจริง ดีที่ว่าเป็นรถที่เตี้ย ศูนย์ถ่วงจึงอยู่ต่ำทำให้ประคองได้ง่ายหน่อย ถึงอย่างนั้นการจูงถอยหลังก็ยังเป็นเรื่องต้องระวัง การตั้งรถมีเพียงขาตั้งข้างมาให้เท่านั้น ใช้งานได้ง่ายแม้ขณะที่นั่งอยู่บนรถครับ ตำแหน่งท่านั่งทั้งแฮนด์ เบาะ และพักเท้าวางสัมพันธ์กันดีกับความสูง 166 ซม.ของผมเองก็ยันพื้นได้มั่นใจดีแม้เวลาวางสองเท้าส้นจะลอยนิดๆ ก็ตาม
เครื่องยนต์ทำงานได้นิ่มและนิ่งมากครับ การซับแรงสั่นสะเทือนอยู่ในระดับยอดเยี่ยมไม่มีการสั่นสะเทือนมาให้ผู้ขับขี่รู้สึกเลยไม่ว่าจะเป็นช่วงเดินเบาหรือบิดด้วยความเร็วรอบต่ำถึงปานกลางก็นิ่งมากจริงๆ บีบคลัทช์อาจจะต้องออกแรงมากสักหน่อยแต่ก็ทำงานได้แม่นยำดี เสียงเครื่องยนต์ดังแบบเรียบร้อยไม่โวยวาย การเรียกความเร็วนั้นไม่ยากเลย ระดับ 160 กม./ชม.นี่แป๊บเดียว ตลอดการเดินทางผมใช้ความเร็วไม่เกิน 130 กม./ชม. (เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 120 กม./ชม) ด้วยความที่เป็นรถหน้าเปลือยถ้าเร็วกว่านี้การขี่ทางไกลจะเปลืองแรงสู้กับลมมากครับ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงคร่าวๆ ที่ประมาณ 20 กม./ลิตร ย่านกำลังเครื่องยนต์กว้างมากผมลองขี่ด้วยเกียร์ 5 ชะลอจนความเร็วลดลงมาแค่ 40 กม./ชม. แล้วบิดคันเร่งรอบเครื่องก็ดันขึ้นอย่างกระฉับกระเฉงไม่มีอาการรอรอบหรือสะดุด ทำให้มันเป็นรถที่ขี่ง่ายไม่ต้องกังวลกับการสาละวนเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ ขณะที่ใช้ความเร็วไม่คงที่
หลังจากใช้ชีวิตอยู่กับมัน 3 วัน 900 กว่ากิโลเมตร พบว่าจุดสัมพันธ์ของผู้ขับขี่กับตัวรถทั้ง 5 จุด คือเบาะ พักเท้า แฮนด์เดิลบาร์รวมถึงมือเบรกมือคลัทช์มันมีขนาดใหญ่โตเอามากๆ เบาะกว้างใหญ่นั่งสบาย…ชอบ พักเท้ากว้างวางเต็มที่…ชอบ แต่ปลอกแฮนด์กับมือเบรกมือคลัทช์นี่ขี่ 3 วันก็ยังรู้สึกว่าใหญ่เกินไปทำให้มือเรากำได้ไม่รอบ ความมั่นใจในการควบคุมก็ลดลงนิดนึงสำหรับคนตัว (และมือ) เล็กอย่างเรา
F6C เป็นรถบิ๊กไบค์ที่มีสมรรถนะของเครื่องยนต์และเบรกตอบสนองได้อย่างสมดุล การทรงตัวเยี่ยมในทางตรงและต้องใจเย็นลงในการเข้าโค้ง เสียงแตรคล้ายรถยนต์หรูกดกี่ทีก็รู้สึกเท่มาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายในการขับขี่และสนใจที่จะเสพวิวสองข้างทางมากกว่าคอยกดปุ่มเล่นระบบในตัวรถ เท่ ทันสมัย ควบคุมง่าย สนใจติดต่อที่โชว์รูมบิ๊กวิงทั่วประเทศได้เลยครับ”