“ไทยยามาฮ่า” แท็กทีมพันธมิตร ดัน “เขมินท์” ร่วมบิด “โมโตทู” สานต่อแนวทางปั้นนักบิดไทยสู่เวทีระดับโลก

“ไทยยามาฮ่า” แท็กทีมพันธมิตร ดัน “เขมินท์” ร่วมบิด “โมโตทู” สานต่อแนวทางปั้นนักบิดไทยสู่เวทีระดับโลก
“เคเค” เขมินท์ คูโบะ คว้าสิทธิ์ไวลด์การ์ด ร่วมบิด ศึกโมโตทู ในเกมสนาม 7 ที่ คาตาลุนญ่า ประเทศสเปน ภายใต้การผลักดันของบริษัทแม่ ยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น หลังดาวบิดสายเลือดไทยทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ในรายการซีอีวี โมโตทู ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ สามารถขับเคี่ยวกับนักบิดชั้นนำของโลก และเดินหน้าเก็บแต้มจบซีซั่นที่ผ่านมาด้วยอันดับ 9 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ
โดย นายวีรพงษ์ ธนากิจจานนท์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายกีฬายานยนต์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “การส่งนักแข่งไทยเข้าร่วมการแข่งขันศึกโมโตจีพี เป็นเป้าหมายของ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม เนื่องจากเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก รวมสุดยอดรถแข่งและนักแข่งจากทั่วโลกมาประลองความเร็วกัน สอดคล้องนโยบายการผลักดันให้นักแข่งไทย ได้เข้าร่วมการแข่งขันบนเวทีระดับโลกเพื่อสร้างประสบการณ์ และทำผลงานในฐานะตัวแทนนักแข่งไทย”
สำหรับ “เคเค” เขมินท์ คูโบะ เป็นนักแข่งคนที่ 4 ซึ่ง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ส่งเข้าร่วมแข่งในรายการซีอีวี โมโทู สามารถเติบโตและยกระดับตามโรดแมป ไล่เรียงจากการเข้าร่วมแข่งขันในโครงการของยามาฮ่า ก่อนจะขยับเข้าร่วมการแข่งขันในรายการชิงแชมป์เอเชีย
หลังจากนั้นได้รับการคัดเลือกเข้าสู่โครงการ Yamaha VR46 Mastercamp ร่วมกับบรรดานักแข่งดาวรุ่งจากเอเชีย ก่อนจะเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปภายใต้สังกัด VR46 Mastercamp ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสามารถทำผลงานติดท็อปเท็นของรายการดังกล่าว
“สำหรับการเข้าร่วมแข่งขัน ศึกโมโตจีพี ในรุ่นโมโตทู เป็นความร่วมมือระหว่าง ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ร่วมกับ ยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น และ วีอาร์ โฟร์ตี้ซิกซ์ ไรเดอร์ส อะคาเดมี รวมถึงผู้สนับสนุนอย่าง PTT LUBRICANTS ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ดีกับเรามาอย่างต่อเนื่อง และสมาพันธ์แข่งรถจักรยานยนต์ FMSCT ที่ร่วมสนับสนุนให้ตัวแทนนักแข่งไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันศึกโมโตจีพี” นายวีรพงษ์ ธนากิจจานนท์ กล่าวส่งท้าย
สำหรับการแข่งขันในสนามที่ 7 ศึกโมโตจีพี 2021 มีคิวลงดวลความเร็วในวันที่ 6 มิถุนายน ณ เซอร์กิต เดอ บาร์เซโลน่า-คาตาลุนญ่า ประเทศสเปน

GPX เอาใจเหล่าคนคูลสายคลาสสิก จองออนไลน์ Legend 250 Twin รับ Voucher สูงสุด 5,000 บาท!

GPX เอาใจเหล่าคนคูลสายคลาสสิก จองออนไลน์ Legend 250 Twin รับ Voucher สูงสุด 5,000 บาท!
GPX จัดโปรคนคูลลล!!! เอาใจเหล่าคนคูลสายคลาสสิก ที่ชื่นชอบรถรุ่น Legend 250 Twin และ Legend 250 Twin II เพียงแค่ทำการจองรถ ผ่านช่องทางออนไลน์ www.gpxthailand.com ตั้งแต่ วันนี้ – 30 มิ.ย. 64 นี้ รับข้อเสนอพิเศษ! Voucher ส่วนลดแทนเงินสด มูลค่าสูงสุด 5,000 บาท! พร้อม ฟรี! ทะเบียน + พรบ. พร้อมการรับประกันรถนานถึง 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร
หากพูดถึงรหัสตำนาน ‘LEGEND’ คือ ตระกูลรถคลาสสิกจากแบรนด์ GPX ที่มีจุดเริ่มต้นความคูลถือกำเนิดครั้งแรกเมื่อปี 2015 และได้มีการขยายสายพันธุ์ตำนานอย่างต่อเนื่องในหลากหลายรุ่น จนถึงรุ่นล่าสุดในปัจจุบัน ซึ่งนับแต่นั้น จนถึงวันนี้ ตระกูล ‘LEGEND’ ก็ได้สร้างตำนานบทใหม่ ด้วยยอดขายทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศไปแล้วกว่า 10 ประเทศ เรียกได้ว่า เป็นตำนานบทใหม่ของรถมอเตอร์ไซค์แบรนด์ไทย ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา จึงทำให้ GPX LEGEND250 TWIN II
รุ่นล่าสุดในตระกูลรถคลาสสิกจากค่าย GPX เป็นที่น่าจับตามอง!
GPX LEGEND250 TWIN II รถคลาสสิกสุดคูล ที่มาพร้อมขุมกำลังขนาด 234 ซีซี แบบ 2 สูบ 4 จังหวะ 4 วาล์ว จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเทคโนโลยีหัวฉีด GPX-Fi ( จากแบรนด์ Delphi อเมริกา) ขับเคลื่อนด้วยโซ่คุณภาพ จากแบรนด์โซ่ชั้นนำสัญชาติญี่ปุ่น RK ที่ขนาด 520 แบบมี O-Ring ช่วยให้มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าโซ่แบบธรรมดาถึง 2 เท่า
และไฮไลท์สำคัญของ GPX LEGEND250 TWIN II ในคอลเลคชั่นล่าสุดนี้ก็คือ การมาพร้อมกับแฮนด์บาร์ที่ยึดจับด้วยตุ๊กตาแฮนด์แบบฉบับเฉพาะสายพันธุ์ตำนาน ซึ่งการพัฒนาในส่วนนี้ จะมอบมิติใหม่ในการขับขี่ ให้คุณพร้อมออกเดินทางไกลได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมกระจกข้างแบบใหม่ ที่ออกแบบมาให้รับกับองศาการนั่งในขณะขับขี่ อีกทั้งยังเสริมประสิทธิภาพเพื่อการเดินทางให้กับคุณ ด้วยโช้กอัพหลังคู่ คุณภาพระดับสากลจากแบรนด์ YSS ในรุ่น G-Series ซึ่งเป็นโช้กแก๊ส แบบเเยกห้องระหว่างน้ำมันเเละเเก๊ส แฝงดีไซน์ความเท่ระดับตำนาน ด้วย Sub Tank สีทอง เสริมเสน่ห์ความเท่ และความหรูหรา แบบคลาสสิกให้กับตัวรถ ภายใน Sub Tank บรรจุแก๊สไนโตรเจนเอาไว้ ทำให้การเคลื่อนที่ของโช้กเป็นไปอย่างนุ่มนวล นอกจากนี้ ตัวโช้กยังสามารถปรับระยะพรีโหลดได้ โดยการปรับแบบเกลียวหรือที่เรียกว่า ระบบ Threaded spring preload จึงสามารถปรับให้รองรับกับการใช้งานที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ในส่วนของฟังก์ชั่นเด็ดอื่นๆ ก็ยังคงมีมาให้กันเช่นเคย ทั้งไฟหน้าและไฟท้ายแบบ FULL LED ที่ด้านหน้ามีไฟ DRL หรือ Daytime Running Light มาให้ เรือนไมล์แบบ FULL DIGITAL LCD METER ที่ออกแบบมาให้มีสีสัน คมชัด พร้อมมาตรวัดบอกข้อมูลอย่างครบครัน โช้กอัพหน้าแบบหัวกลับ Upside down เพิ่มความนุ่มนวลขณะขับขี่ เสริมความมั่นใจในทุกสถานการณ์ ด้วยระบบเบรกหน้าแบบ Twin disc brake ที่ขนาดจานดิสก์ 276 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับลูกสูบ 4 pot ให้ทุกการหยุดรถของคุณสั่งได้ดั่งใจ
GPX LEGEND250 TWIN II มีมาให้คุณเลือกความเท่ที่ใช่ ใน 3 เฉดสีพิเศษ ได้แก่
• SILVER SPACE เฉดสีเทาเงา
(ล้ำลึกด้วยส่วนผสมของ Mica Pigment ให้ประกายสีรุ้ง)
• BLACK PHOENIX เฉดสีดำเงา
(ล้ำลึกด้วยส่วนผสมของ Glass Flakes ที่ให้ประกายสีแดง)
• MATT BLACK PHOENIX เฉดสีดำด้าน
(ล้ำลึกด้วยส่วนผสมของ Glass Flakes ที่ให้ประกายสีแดง)
บอกเลยว่า ต้องลองมองให้ลึก แล้วจะรู้ว่าล้ำลึกกว่าที่ตาเห็นจริงๆ ! กับราคาแนะนำขายเพียง 81,900 บาท
ย้ำอีกที! เพียงแค่ทำการจองรถ ผ่านช่องทางออนไลน์ www.gpxthailand.com
ก็รับข้อเสนอพิเศษ! Voucher ส่วนลดแทนเงินสด มูลค่าสูงสุด 5,000 บาท! พร้อม ฟรี! ทะเบียน + พรบ. พร้อมการรับประกันรถนานถึง 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร ตั้งแต่ วันนี้ – 30 มิ.ย. 64 นี้เท่านั้น!

เปิดตำนาน “ซูเปอร์โฟร์” โมเดลสุดคลาสสิกตลอดกาลของฮอนด้า

เปิดตำนาน “ซูเปอร์โฟร์” โมเดลสุดคลาสสิกตลอดกาลของฮอนด้า
สร้างทอล์คออฟเดอะทาวน์ครั้งใหญ่ หลังการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ระดับตำนานของฮอนด้า ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2021 ที่ผ่านมา นั่นคือ สองคู่แฝดในตระกูลซูเปอร์โฟร์อย่าง New Honda CB1300 Super Four และ New Honda CB1300 Super Four BOLD’OR ซึ่งเป็นแฟลกชิพโมเดลสุดคลาสสิกที่คนไทยไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าจะมาเปิดตลาดในไทย
โดยที่มาที่ไปของต้นกำเนิดแห่งตำนานซูเปอร์โฟร์ เริ่มต้นขึ้นในปี 1992 ภายใต้โปรเจกต์ BIG-1 (บิ๊กวัน) ในยุคที่กระแสความนิยมรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น Honda CB1000 Super Four ประสบความสำเร็จได้การยอมรับเป็นอย่างดีจากผู้ขับขี่ทั่วโลก ด้วยความโดดเด่นจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิด 3 ประการ ประกอบด้วย
1. ขุมพลังเครื่องยนต์ 4 จังหวะ DOHC 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ
รูปแบบเครื่องยนต์ที่มีความสมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ เสียงที่ทรงพลัง รูปลักษณ์การดีไซน์โดดเด่น สง่างาม เหมือนมัดกล้ามที่แข็งแกร่ง แม้ไม่ได้กำหนดเฉพาะเจาะจงว่าจะต้องมีปริมาตรกระบอกสูบเท่าไร แต่สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของซูเปอร์โฟร์ คือ จะมีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำเท่านั้น หากใช้การระบายความร้อนด้วยอากาศหรือน้ำมัน จะไม่ถูกจัดอยู่ในรถตระกูลนี้
2. ดีไซน์ในแบบ Sexy & Wild
การออกแบบตัวรถของทั้ง Super Four และ BOL D’OR จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้บรรยากาศย้อนยุคด้วยเส้นสายโค้งมน และการเล่นสีสันที่มีเสน่ห์ แต่แฝงอารมณ์ความสปอร์ตที่ดุดันเร้าใจ รู้สึกได้ถึงความแรงแม้แต่ในเวลาที่รถจอดนิ่งอยู่เฉยๆ เป็นรถที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องเหลียวกลับมามองอีกครั้งเสมอ
3. แรงเกินใคร สั่งได้ดั่งใจ
สิ่งสำคัญที่สุด คือ สมรรถนะการขับขี่ที่ให้การตอบสนองรวดเร็วทันใจ ด้วยบุคลิกเฉพาะตัวของขุมพลังเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ที่ให้กำลังแรงบิดสูงในรอบต่ำ พร้อมปลดปล่อยความแรงได้อย่างสมูทนุ่มนวล อีกทั้งท่านั่งการควบคุมมีความกระชับและให้ความคล่องตัวสูง ปรับตัวง่ายแม้ขับขี่ครั้งแรก และแน่นอนหากได้ลองแล้วต้องรู้สึกประทับใจ
รถจักรยานยนต์ระดับตำนานของฮอนด้า ในตระกูล “ซูเปอร์โฟร์” ทุกรุ่นจะต้องประกอบด้วย 3 แนวคิดการพัฒนาดังกล่าว และจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้ ขณะเดียวกัน ในด้านเทคโนโลยีที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานกับตัวรถนั้น ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกรุ่นที่เปิดตัววางจำหน่าย
โดยล่าสุด ในรุ่น New Honda CB1300 Super Four และ New Honda CB1300 Super Four BOLD’OR มาพร้อมระบบไฟแบบ LED รอบคัน หน้าปัดเรือนไมล์ TFT แสดงข้อมูลครบถ้วน ช่องชาร์จอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ พอร์ต USB Type-C Charger ระบบควบคุมแรงบิด HSTC-Honda Selectable Torque Control ระบบ Assist Slipper Clutch ระบบคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-Wire และ Riding Modes ให้เลือกถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ Standard, Sport และ Rain พร้อมระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control ระบบช่วงล่าง หน้า-หลัง จาก SHOWA ปรับตั้งค่าได้อย่างละเอียดครบถ้วน ทั้งค่าความแข็งสปริง ความหนืด และแรงต้านการยุบตัว
สำหรับผู้สนใจ New Honda CB1300 Super Four และ New Honda CB1300 Super Four BOLD’OR รถจักรยานยนต์ฮอนด้าระดับตำนานในตระกูลซูเปอร์โฟร์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการ ฮอนด้า บิ๊กวิง ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ที่
เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th/hondabigbike
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ : fb.com/HondaBigBikeTH
อินสตราแกรม : hondabigbike

“ยามาฮ่า” มั่นใจคุณภาพสินค้า กล้ารับประกัน 5 ปี หรือ 5 หมื่นกิโลเมตรเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียว ตอกย้ำความเป็นผู้นำแบรนด์อย่างโดดเด่นและแตกต่าง

“ยามาฮ่า” มั่นใจคุณภาพสินค้า กล้ารับประกัน 5 ปี หรือ 5 หมื่นกิโลเมตรเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียว ตอกย้ำความเป็นผู้นำแบรนด์อย่างโดดเด่นและแตกต่าง
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำในแบรนด์รถจักรยานยนต์ของประเทศไทยที่กล้ารับประกันคุณภาพสินค้าทั้งคันตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 5 หมื่นกิโลเมตร สำหรับลูกค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกรุ่นขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 500 ซีซี ที่ได้ลงทะเบียนรับประกันคุณภาพสินค้าหลังจากวันที่ซื้อสินค้า จะได้สิทธิ์รับประกันคุณภาพทุกชิ้นส่วนเป็นเวลา 5 ปี หรือ 50,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน ไม่รวมอะไหล่สึกหรอตามอายุการใช้งาน ทั้งนี้ต้องนำรถเข้าตรวจเช็กตามระยะที่บริษัทฯกำหนด โดยสามารถรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31 ธันวาคม 2564
นอกจากนี้ยังยกระดับมาตรฐานสู่การบริการระดับโปรแคร์ พร้อมบริการหลังการขายให้รถจักรยานยนต์พร้อมใช้งานตามมาตรฐานที่บริษัทกำหนด และเพิ่มความมั่นใจตลอดการเดินทาง พร้อมเพิ่มบริการ Road Side Service “มากกว่า…ด้วยความอุ่นใจ บริการคุณ ทุกช่วงเวลาฉุกเฉิน” ในกรณีที่รถเกิดปัญหาฉุกเฉินไม่สามารถขับขี่ต่อได้ โดยลูกค้ายามาฮ่าทุกคันจะได้รับสิทธิ์การบริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี หรือ 12,000 กม. เพียงติดต่อที่ Yamaha Call Center : 0-2263-9999
โดยมีรายละเอียดการรับประกันดังนี้
ระยะที่บริษัทฯ กำหนด จนกว่าจะครบระยะประกัน
– รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าขนาดเครื่องยนต์ 110 – 300 ซีซี เช็กระยะในครั้งแรก 1,000 กม. หรือ ระยะเวลา 2 เดือน ระยะต่อไปทุกๆ 4,000 กม. หรือ ระยะเวลา 4 เดือน
– รถจักรยานยนต์ยามาฮ่ามากกว่า 300 ซีซี เช็กระยะในครั้งแรก 1,000 กม. หรือ ระยะเวลา 1 เดือน ระยะต่อไปทุกๆ 5,000 กม. หรือ ระยะเวลา 5 เดือน
– สำหรับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าที่มีเครื่องยนต์ 400 ซีซี เช็กระยะในครั้งแรก 1,000 กม. หรือ ระยะเวลา 1 เดือน ระยะต่อไปทุกๆ 6,000 กม. หรือ ระยะเวลา 6 เดือน
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถนำสมุดคู่มือให้ทางร้านบันทึกข้อมูลเพื่อเป็นหลักฐานการตรวจเช็กระยะ โดยการรับประกันจะสิ้นสุดต่อเมื่อ ครบการเช็กระยะ 50,000 กม. หรือ 5 ปี แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน
อะไหล่สึกหรอตามอายุการใช้งาน มีดังนี้
1.ชิ้นส่วนที่สึกหรอตามอายุการใช้งานหรือต้องเปลี่ยนตามปกติหลังการใช้งาน อันได้แก่ นํ้ามันหล่อลื่น, ปะเก็นต่างๆ, สายเบรก, สายไมล์, สายคลัทช์, สายคันเร่ง, ผ้าเบรก, หลอดไฟ, ฟิวส์, หัวเทียน, นัท, โบลท์ และ สกรูต่างๆ
2. ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่สึกหรอตามอายุการใช้งานได้แก่ เสื้อสูบ, ลูกสูบ, แหวนลูกสูบ, หัวเทียน, นํ้ามันเครื่อง, ปะเก็น, ซีล, โอริง, ลูกปืนต่างๆ, ผ้าคลัทซ์, ตุ้มแรงเหวี่ยงและสายพาน ยกเว้นแต่เป็นความผิดพลาดทางด้านเทคนิคหรือความผิดพลาดที่เกิดจากขบวนการผลิตของโรงงานเท่านั้น
3. แบตเตอรี่รับประกันตามเงื่อนไขของบริษัทฯ ผู้ผลิต เป็นระยะเวลา 6 เดือน
4. ยางรับประกันตามเงื่อนไขของบริษัทฯ ผู้ผลิต เป็นระยะเวลา 6 เดือน หรือ 5,000 กม.
สิทธิประโยชน์บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Road Side Service) กรณีเกิดปัญหาด้านคุณภาพที่ไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้
• ลูกค้าจะได้รับสิทธิ์บริการช่วยเหลือ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ในระยะเวลา 1 ปี หรือระยะทาง 12,000 กม. โดยรถลูกค้าต้องลงทะเบียนรับประกันคุณภาพสินค้า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป
• ลูกค้าจะได้รับสิทธิ์บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน เคลื่อนย้ายรถไปยังศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด หรือสถานที่ปลายทางตามความประสงค์ของลูกค้า ภายในระยะทาง 20 กม. ตามที่บริษัทฯ กำหนด (หากระยะทางเกินกว่า 20 กม. ลูกค้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนที่เกิน โดยมีค่าบริการ 25 บาท/กม.)
• สำหรับบริการช่วยเหลือระยะทางไกล (เกินกว่า 50 กม.) ทางศูนย์บริการฉุกเฉินจะทำการตกลงราคากับลูกค้า และต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้าก่อนการให้บริการ
• กรณีลูกค้าเรียกใช้บริการฉุกเฉินแล้วบริษัทฯ ตรวจสอบพบว่ารถลูกค้าไม่ได้เกิดจากปัญหาด้านคุณภาพของรถจักรยานยนต์ ลูกค้าจะต้องเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น (การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับระยะทางของการให้บริการ)
• กรณีรถลูกค้าไม่ได้เกิดปัญหาด้านคุณภาพ แต่ลูกค้ามีความประสงค์จะใช้บริการ ลูกค้าสามารถสอบถามค่าใช้จ่ายผ่านทาง Yamaha Call Center ตลอด 24 ชม. (ขึ้นอยู่กับระยะทางของการให้บริการ)
• รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าของท่านต้องได้รับการตรวจเช็กตามระยะอย่างต่อเนื่องจากศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ จาก บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด โดยท่านสามารถตรวจสอบการตรวจเช็กตามระยะได้ที่ เว็บไซต์ YAMAHA หัวข้อศูนย์บริการผู้จำหน่าย และเลือกตารางตรวจเช็กตามระยะ ที่ https://www.yamaha-motor.co.th/dealer…/service-maintenance หรือสแกน QR Code รายละเอียดตรวจเช็กตามระยะ
*รายละเอียดและเงื่อนไข เป็นไปตามที่ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กำหนด

 

“ยามาฮ่า” ร่วมเยียวยาเหยื่อโควิด บริจาค 1.4 ล้านบาท ช่วยชาวไทยร่วมต้านภัย COVID-19

“ยามาฮ่า” ร่วมเยียวยาเหยื่อโควิด บริจาค 1.4 ล้านบาท ช่วยชาวไทยร่วมต้านภัย COVID-19
มร.ทัตสึยะ โนซากิ ประธานกรรมการบริหาร นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด มอบเงิน 1,400,000 บาท ให้กับ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในการรับมอบ
โดยเงินจำนวนนี้ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะนำไปซื้อสิ่งของจำเป็นรวมถึงเครื่องอุปโภค บริโภคช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบาง อาทิ เด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในสังคม ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่ประสบปัญหาทางสังคมได้รับความเดือดร้อนและความยากลำบากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
สำหรับ ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จัดตั้งโครงการ “ยามาฮ่าร่วมใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิด” ขึ้นมาในปี 2563 โดยร่วมบริจาครถจักรยานยนต์มากกว่า 140 คัน ให้กับกระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร เพื่อบุคลากรทางการแพทย์ และโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการยับยั้งและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
รวมถึงสร้างห้องตรวจเชื้อให้กับโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด บริจาคเงินและชุดป้องกัน PPE ให้กับหน่วยงานต่างๆ พร้อมลังกระดาษสำหรับการทำเตียงสนามรองรับผู้ป่วยให้กับโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ โดยหวังให้คนในสังคมได้กลับมามีรอยยิ้มและความสุขอีกครั้ง
สำหรับการมอบเงินจำนวน 1,400,000 บาท ในครั้งนี้ มีขึ้น ณ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เมื่อเร็วๆ นี้

พร้อมรึยัง กับประสบการณ์ครั้งใหม่?! “V-Twin Fun For All Riders”

 

พร้อมรึยัง กับประสบการณ์ครั้งใหม่?! “V-Twin Fun For All Riders”

ความสนุกครั้งใหม่ที่เร้าใจกว่าเดิม

สตรีทไบค์ Middle Class ที่สามารถใช้งานในเมืองได้อย่างสมบูรณ์แบบ กับคอนเซ็ปต์ในการออกแบบที่ถ่ายทอดและส่งมอบความสนุกสนานให้แก่ผู้ขับขี่ไปกับ Suzuki SV650 ด้วยเครื่องยนต์แบบ V-Twin ขนาด 645 ซีซี 2 สูบ สมรรถนะสูง ส่งผลให้เครื่องยนต์มีแรงบิดที่ดีในรอบต่ำ-กลางเป็นเยี่ยม ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ ถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนในการขับขี่ได้สูงสุด พร้อมระบบ Low RPM Assist ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถออกตัวได้ขณะเครื่องยนต์ทำงานในรอบความเร็วต่ำ
มั่นใจด้วยดิสก์เบรกหน้าคู่ พร้อมคาลิปเปอร์ 4 พอต และดิสก์เบรกหลังพร้อมระบบ ABS หยุดได้อย่างมั่นใจ โช้คหน้าแบบ Telescopic โช้คหลัง Mono Shock แบบ Link-Type ปรับพรีโหลดได้ถึง 7 ระดับ ทำให้การทรงตัวในการขับขี่นั้นดีเยี่ยม พร้อมความเพรียวบางที่โฉบเฉี่ยว อีกทั้งน้ำหนักเบาเหมาะกับการขับขี่ภายในเมือง ที่พร้อมจะเปลี่ยนฟิลลิ่งในการขับขี่ของคุณให้เปลี่ยนไปจากเดิม ตอบโจทย์ในทุกการเดินทางกับ “V-Twin Fun For All Riders”

พลาดไม่ได้กับเงื่อนไขพิเศษ คลิกเลย https://www.facebook.com/177246421413/posts/10159748499316414/

สนใจสามารถพบกับ Suzuki SV650 ที่ร้านผู้แทนจำหน่าย Suzuki Big Bike ทั่วประเทศใกล้บ้าน

หรือติดต่อได้ที่ https://www.facebook.com/Suzukisocietythailand

 

ยามาฮ่าส่ง SR400 ใหม่!! Born to be Legend เขย่าวงการมอเตอร์ไซค์

ยามาฮ่าส่ง SR400 ใหม่!! Born to be Legend เขย่าวงการมอเตอร์ไซค์ กับตำนาน Big Single สไตล์เฮอริเทจ

มร.เท็ตสึยะ โนซากิ ประธานกรรมการบริหาร นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมเปิดตัวรถจักรยานยนต์ YAMAHA SR400 ใหม่ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 37 โดย YAMAHA SR400 ใหม่ Born to be Legend ตำนานแห่ง Big Single ลูกสูบเดี่ยวขนาด 399 ซีซี และ Kick Start อันเป็นเอกลักษณ์ของรถสไตล์เฮอริเทจ ที่ถูกส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น จนกลายเป็นมนต์เสน่ห์ของ FASTER SON

สำหรับ YAMAHA SR400 ใหม่!! มาพร้อมกับราคา 285,000 บาท พบกับ YAMAHA SR400 ใหม่ได้ที่ YAMAHA FULFILLING LIFE บูธ G03 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2563 หรือร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สแควร์ และ ยามาฮ่าไรเดอร์สคลับ ทั่วประเทศ
สำหรับการเปิดตัว YAMAHA SR400 ใหม่ มีขึ้นภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 37 (Motor Expo 2020) ณ YAMAHA FULFILLING LIFE บูธ G03 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้

บิดมันส์เร้าใจสุดๆ สายเรซซิ่งบอกเลยต้องห้ามพลาด!!!

บิดมันส์เร้าใจสุดๆ สายเรซซิ่งบอกเลยต้องห้ามพลาด!!!
#ยามาฮ่า สายสปอร์ต จัดโปรโมชัน ฟรีเว่อร์!
สุดคุ้มสุดเร้าใจ เมื่อซื้อรถในวันที่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค 64 นี้
▪YZF-R3 ปี 2020 ฟรี! Gift Voucher มูลค่า 21,000 บาท*
พร้อมหมวกกันน็อก R-Series ฟรี 1ใบ*
▪YZF-R3 ปี 2019 ฟรี! ของแถมสูงสุดมูลค่า 26,000 บาท*
▪YZF-R3 ปี 2018 ฟรีประกันภัยชั้น 1 + ทะเบียน + พ.ร.บ. มูลค่า 15,000 บาท* และของแถมมูลค่า 21,000 บาท*
▪MT-03 (ยกเว้นปี 2020) ฟรี! ของแถมมูลค่า 26,000 บาท*
รายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ที่ร้านผู้จำหน่ายทั่วประเทศ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
และสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สัมผัสแรกกับ All New YAMAHA AEROX 2021

All New YAMAHA AEROXSPORT AUTOMATIC LEADER สปอร์ต…อัจฉริยะ ที่สุดแห่งสปอร์ตออโตเมติกพร้อม Y-Connect เทคโนโลยีใหม่สุดล้ำครั้งแรกในประเทศไทย! #AllNewAEROX2021 #แอร็อกซ์ใหม่เร้าใจอันดับ1 #ออโต้สายแรงต้องAEROX #ยามาฮ่าเร่งชีวิตให้เร้าใจ

ZONTES ปล่อยหมัดเด็ด เปิดตัว 310R1 ด้วยราคา 138,900 บาท เฉพาะจองออนไลน์

ZONTES เปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ 301R1 อย่างเป็นทางการ ในรูปแบบ Live Stream ผ่านช่องทางออนไลน์ ของ ZONTES THAILAND มาพร้อมออฟชั่นจัดเต็ม เทียบชั้นรถบิ๊กไบค์ขนาด 800 ซี.ซี. ด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัย รูปทรงดุดันเร้าใจ ZONTES 310R1 รหัสใหม่ของ NAKED BIKE สายพันธุ์แรง ต่อยอดความเร้าใจจาก ZONTES R310 ที่โดนใจไบค์เกอร์ชาวไทยมาแล้ว กับ310R1 เครื่องยนต์ 312 ซี.ซี. 1 สูบ 4 จังหวะ ให้กำลังสูงถึง 35 แรงม้า ที่ 9,500 รอบต่อนาที เป็นเครื่องยนต์ที่ถูกพัฒนาจากเทคโนโลยีขั้นสูง โดดเด่นด้านการประหยัดน้ำมัน และรักษาสิ่งแวดล้อมระบายความร้อนเครื่องยนต์ด้วยน้ำ ระบบความคุมแบบไม่ต้องใช้กุญแจ KEYLESS CONTROL SYSTEM เพียงแค่ยืนในระยะ 1.5 เมตร ก็สามารถเปิด – ปิด ระบบการทำงานของรถได้ และเมื่อปิดระบบการทำงาน จะทำการล็อคคอโดยอัตโนมัติ เรือนไมล์ เป็น FULL DIGITAL หน้าจอสีแบบ TFT FULL COLOR ที่ให้ความสว่าง และความคมชัดสูง ตอบสนองการใช้งานได้ดีเยี่ยม มาพร้อมฟังชั่นก์ การปรับเปลียนรูปแบบหน้าจอได้ถึง 4 รูปแบบ พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 2 โหมดได้แก่ ECO MODE และSPORT MODE มั่นใจในทุกเส้นทาง และสามารถเปลี่ยนจากโหมด ECO เป็นโหมด SPORT โดยอัตโนมัติ เมื่อรอบเครื่องยนต์สูงกว่า 7,000 รอบต่อนาที ระบบสวิทย์แฮนด์ ถูกออกแบบใหม่ พร้อมไฟเรืองแสงบอกตำแหน่ง เพื่อเพิ่มมุมมองการใช้งาน ในยามค่ำคืน เพิ่มความสะดวก ด้วยที่ชาร์จ USB แบบฟาสต์ชาร์จขนาด 18วัตต์ ที่มีมาให้ถึง 2 พอร์ต ปิดหุ้มด้วยวัสดุทนไฟและอุณหภูมิสูง มีวงจรป้องกันไฟเกินเพื่อความปลอดภัย

ZONTES 310R1 เสริมสวิงอาร์มเดี่ยว single rocker arm อะลูมิเนียมอัลลอยด์ เป็นเทคโนโยลีการหล่อขึ้นรูปแบบพิเศษ ที่ได้รับสิทธิบัตร ของ zontes ทำให้มีน้ำหนักเบา แข็งแรงทนทาน และมีรูปทรงที่สวยงาม โช้คอัพหลังไนโตรเจนแรงดันสูง เพื่อลดอุณภูมิของน้ำมันไฮดรอลิก ทำให้แรงหน่วงการคืนตัวของโช้คอัพดีขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง ติดตั้ง BOSCH ABS มาตรฐานความปลอดภัย ด้วยระบบเบรกที่ช่วยสร้างความมั่นใจในการขับขี่ เพิ่มความปลอดภัยไปอีกขั้นด้วยระบบ SLIDING CLUTCH ช่วยลดการล็อคของล้อหลังหรือท้ายปัดเวลามีการเปลี่ยนเกียร์จากสูงไปต่ำ โดยอาศัยการผ่อนแรงจับหรือแรงกดของผ้าคลัทช์ ช่วยให้สามารถควบคุมรถได้ง่ายขึ้น วงล้ออลูมิเนียมอัลลอยด์ ขนาด 17 นิ้ว ขนาดยางหน้า 110/70-R17 ขนาดยางหลัง 160/60-R17 ความจุถังน้ำมัน 15 ลิตร เคลือบสารป้องกันการกัดกร่อนจากสนิม ป้องกันการรั่วซึมของน้ำมัน

ZONTES 310R1 มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีดำ สีแดง และน้ำเงิน ในราคา 149,500 บาท

พิเศษจองออนไลน์ ในราคาเพียง 138,900 บาท เพียง 50 คันแรกเท่านั้น!

จองออนไลน์ได้ที่ http://zontesthailand.com/310r1-register/

เครื่องยนต์ eSP+ ดีกว่าอย่างไร? ทำไมใครๆ ก็พูดถึง!

การเปิดตัว All New PCX160 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดกระแสการพูดถึงของเครื่องยนต์ eSP+ (อีเอสพี พลัส) เป็นวงกว้าง เพราะนี่คือ เทคโนโลยีที่ฮอนด้าถ่ายทอดจากบิ๊กสกู๊ตเตอร์อย่าง All New Forza350 สู่ All New PCX160 ทำให้รถรุ่นนี้เป็นรถ พรีเมียม เอ.ที. ที่มีสมรรถนะสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถในคลาสเดียวกัน

เครื่องยนต์ eSP+ ใหม่ 4 วาล์ว ให้สมรรถนะที่เหนือกว่า จากคุณสมบัติอันโดดเด่น 3 ประการ ได้แก่
1.แรงขึ้น ด้วยแรงอัดจากวาล์ว 4 วาล์ว มาพร้อมกระเดื่องวาล์วแบบโรลเลอร์ยูนิแคม ช่วยลดแรงเสียดทาน เครื่องยนต์ทำงานไหลลื่น ให้อัตราเร่งเร็วแรงสั่งได้ดั่งใจ รวมถึงจากการเพิ่มปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี) ที่มากขึ้น โดยปรับขนาดกระบอกสูบและระยะชักใหม่ จากเจนเนอเรชั่นก่อนอยู่ที่ 57.3×57.9 มม. ขยับขึ้นเป็น 60×55.5 มม. ควบคู่กับการเพิ่มอัตราส่วนกำลังอัดสูงที่สุดในคลาสถึง 12 : 1 เทียบเท่ากับบิ๊กไบค์ระดับซูเปอร์สปอร์ต
2.ลื่นขึ้น ด้วยการยกระดับระบบหล่อลื่นในเครื่องยนต์ นำโดยหัวฉีด Piston Oil Jet เสริมการฉีดน้ำมันหล่อลื่นบริเวณใต้ลูกสูบ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากสนามแข่ง ช่วยลดแรงเสียดทานและระบายความร้อน ประสานการทำงานกับการพัฒนาชุดดันโซ่ไทมมิ่งแบบไฮโดรลิค ใช้แรงดันจากน้ำมันเครื่องมากดโซ่ราวลิ้นและแปรผันตามรอบเครื่องยนต์ ช่วยลดแรงเสียดทานและแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ในทุกรอบความเร็วตั้งแต่รอบต่ำถึงรอบสูง
3.ขับขี่นุ่มนวลยิ่งขึ้น ต่อเนื่องจากการลดแรงสั่นสะเทือนของชุดดันโซ่ไทมมิ่งแบบไฮโดรลิค ด้วยการออกแบบชุดเพลาข้อเหวี่ยงใหม่ ที่มาพร้อมการเพิ่ม Roller Bearing เสริมความแข็งแรงและลดแรงสั่นของเครื่องยนต์ อีกทั้งยังช่วยส่งกำลังได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของขุมพลังเครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว ที่ติดตั้งอยู่ใน All New PCX160 รถพรีเมียม เอ.ที. ระดับท็อปรันเนอร์ พร้อมให้ผู้ขับขี่ชาวไทยได้สัมผัสแล้วที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ โดยวางจำหน่ายด้วยราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 85,900 บาท สำหรับผู้สนใจ All New PCX160 สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ : www.aphonda.co.th เฟซบุ๊ก : www.fb.com/hondamotorcyclethailand และยูทูบ : www.youtube.com/hondamotorcycletha

All New YAMAHA AEROX SPORT AUTOMATIC LEADER

สปอร์ต…อัจฉริยะ ที่สุดแห่งสปอร์ตออโตเมติกพร้อม Y-Connect เทคโนโลยีใหม่สุดล้ำครั้งแรกในประเทศไทย! บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำรถจักรยานยนต์ออโตเมติกของเมืองไทยอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมรุกตลาดฝ่าวิกฤติการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และกระตุ้นตลาดรถจักรยานยนต์ให้คึกคักยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด All New YAMAHA AEROX…SPORT AUTOMATIC LEADER สปอร์ต…อัจฉริยะ ที่สุดแห่งสปอร์ตออโตเมติก ที่มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ตใหม่รอบคัน ดุดันตามแบบฉบับรถ Super Sport สายพันธุ์ R-Series DNA ด้วย Full Cowling พร้อม Air Management Layer Design และ X Iconic ใหม่! สมรรถนะทรงพลังด้วยความแรงจากเครื่องยนต์บลูคอร์ 155 ซีซี ใหม่! ผสานวาล์วแปรผันอัจฉิรยะ VVA พร้อมเทคโนโลยีใหม่ Y-Connect ครั้งแรกในประเทศไทยของรถคลาส 150 ซีซี! เชื่อมต่อข้อมูลรถเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ทันสมัยทุกการใช้งาน และมั่นใจในการรับประกันมากกว่าถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร
สำหรับ All New YAMAHA AEROX ยังคงให้ความสปอร์ตเร้าใจในทุกจังหวะ การบิดคันเร่ง ด้วยเครื่องยนต์ใหม่! ที่สามารถให้แรงม้าและแรงบิดเพิ่มขึ้น ด้วยเครื่องยนต์บลูคอร์ ขนาด 155 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVA ทรงพลังด้วยกำลัง 15.4 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 13.9 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงตั้งแต่ออกตัว พร้อมตอบสนองดีเยี่ยมทุกอัตราเร่งสไตล์รถสปอร์ต ระบบระบาย ความร้อนด้วยน้ำแบบเต็มระบบ พร้อมลูกสูบแบบ Forged แข็งแกร่ง ทนทาน All New YAMAHA AEROX ได้รับการออกแบบด้วยดีไซน์ใหม่หมดให้ความรู้สึกสปอร์ตรอบคัน ดุดันตามแบบฉบับรถ Super Sport สายพันธุ์ R-Series DNA ด้วย Full Cowling พร้อม Air Management Layer Design และ X Iconic ใหม่! โดยมาพร้อมกับ ไฟหน้าใหม่! New! FULL LED HEADLIGHT และ Daytime running lights สปอร์ตโฉบเฉี่ยว สว่างชัดเจนกว่าเดิมเพื่อทัศนวิสัยที่ดีขึ้น สอดรับอารมณ์ซูเปอร์สปอร์ตด้วยช่วงท้ายสั้นและไฟท้ายใหม่! New! LED TAILLIGHT สว่างจัด ชัดเจน พร้อมที่จับกันตกแบบ Build in All New YAMAHA AEROX ยังโดดเด่นด้วยฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำ! ด้วย New! LCD DIGITAL SPORT METER หน้าจอดิจิทัลแบบ LCD ใหม่! สปอร์ตจัดเร้าใจด้วยกราฟิกแสดงผลวัดรอบแบบใหม่ พร้อมแสดงผลครบทุกฟังก์ชั่น รวมทั้งการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น Y-Connect และฟังก์ชั่นใหม่สวิตซ์เปลี่ยนโหมดหน้าจอง่ายขึ้นที่แฮนด์ซ้าย พรีเมี่ยมสุด! ด้วย SMART KEY SYSTEM ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (เฉพาะรุ่น ABS) สะดวกสบายในการเปิดหรือปิด สตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์ / ปลดล็อคแฮนด์ / ปลดล็อคเบาะ / ปลดล็อคฝาถังน้ำมัน พร้อมสัญญาณ ANSWER BACK ตอบสนองการใช้งานอย่างต่อเนื่องด้วย D/C CHARGING SOCKET ช่องเสียบเพื่อชาร์จแบตเตอรี่มือถือ ช่วยให้ไม่พลาดทุกการติดต่อ และช่องเก็บของด้านหน้าพร้อมฝาปิด รวมถึง MEGA BOX ที่เก็บของขนาดใหญ่ความจุ 25 ลิตร เก็บของได้จุใจ ใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้ และเติมน้ำมันได้ง่ายด้วยฝาถังน้ำมันด้านหน้า พร้อม New! FUEL TANK 5.5L ถังน้ำมันที่ใหญ่ขึ้นขนาด 5.5 ลิตร เติมน้ำมันได้มากขึ้น ไปได้ไกลกว่า
All New YAMAHA AEROX ยังตอบสนองการขับขี่อย่างเต็มสมรรถนะด้วย ระบบดิสก์เบรกหน้า ที่มาพร้อมระบบเบรก ABS (เฉพาะรุ่น ABS) ป้องกันล้อล็อคขณะเบรกกะทันหัน ช่วยไม่ให้เสียการควบคุม ปลอดภัยอีกขั้นแบบรถสปอร์ตชั้นนำ เท่สุดเร้าใจ! ด้วย REAR SUSPENSIONS SUB-TANK ระบบกันสะเทือนหลังแบบซับแทงค์ (เฉพาะรุ่น ABS) ดูดซับแรงกระแทกดีเยี่ยม ลดแรงสะท้านในการขับขี่ ให้อารมณ์รถสปอร์ตตัวจริง และให้ความมั่นใจในทุกเส้นทางการขับขี่ด้วยยางหลังใหญ่ 140 มม. ล้อแม็กซ์ 14 นิ้ว ใหญ่สุดในคลาสสปอร์ตออโตเมติก เฉียบคมทุกการเข้าโค้ง มั่นใจทุกการคอนโทรลแบบรถสปอร์ต พร้อมตอบโจทย์เรื่องความประหยัดด้วย Stop & Start System ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ พร้อม SMART MOTOR GENERATOR เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน เมื่อรถหยุดในการจราจรติดขัดเกิน 5 วินาที และเครื่องยนต์จะดับทันทีในกรณีที่ขับขี่มาด้วยความเร็วแล้วเบรกจนรถหยุด ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นกว่าเดิม
All New YAMAHA AEROX มาพร้อมกับ NEW TECHNOLOGY เทคโนโลยีใหม่! ไฮเทคเหนือชั้นแอพลิเคชั่น Y-Connect เชื่อมต่อชีวิตสมาร์ทสุดล้ำ โดยเป็นแอพพลิเคชั่นที่เชื่อมต่อข้อมูลรถผ่าน CCU ช่วยให้สามารถรับรู้ข้อมูลต่างๆ ของรถและลักษณะการขับขี่ที่แสดงผลบนสมาร์ทโฟนอย่างง่ายดาย ด้วยโหมดฟังก์ชันต่างๆ ในการใช้งานอย่างครบครัน ช่วยให้หมดกังวลในการใช้งาน สะดวกสบาย สนุกเร้าใจในการขับขี่ ซึ่งมีด้วยกันถึง 8 ฟังก์ชั่น คือ
WORRY-FREE หมดกังวลในการใช้งาน
1. MAINTENANCE RECOMMENDED – แจ้งเตือนการบำรุงรักษา สามารถแจ้งสถานะของน้ำมันเครื่องและแบตเตอรี่ พร้อมทั้งแจ้งเตือนการบำรุงรักษาโดยระบบจะแสดงผลเป็นสีเขียว เหลืองและแดงตามระยะการใช้งาน
2. MALFUNCTION NOTIFICATION – แจ้งเตือนเครื่องยนต์เกิดปัญหา เมื่อเครื่องยนต์มีความผิดปกติจะมีการแจ้งเตือนให้ทราบ โดยสามารถตั้งค่าให้ส่งข้อมูล สถานที่ เวลา และอื่นๆ แจ้งไปยังศูนย์บริการของผู้จำหน่ายยามาฮ่าที่กำหนดเพื่อขอความช่วยเหลือได้โดยอัตโนมัติ
3. PARKING LOCATION – แสดงตำแหน่งจอดรถล่าสุด สามารถแสดงตำแหน่งที่จอดรถล่าสุดด้วย GPS ของมือถือ ช่วยในการหาจุดจอดรถเมื่ออยู่ในลานจอดรถหรือพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ดี
CONVENIENCE สะดวกสบาย
4. METER INDICATOR – แจ้งเตือนการติดต่อเข้ามือถือบนจอหน้าปัดรถ เมื่อมีสายเรียกเข้า อีเมล์ หรือการแจ้งเตือนข้อความบนมือถือ จะมีสัญญาณกระพริบแจ้งเตือน พร้อมแสดงระดับแบตเตอรี่มือถือบนจอหน้าปัดเรือนไมล์รถ พร้อมอัพเดทเวลาอัตโนมัติตามมือถือเมื่อเชื่อมต่อ
5. CONTACT FORM – ช่องทางการติดต่อยามาฮ่า สามารถติดต่อส่งข้อมูลแจ้งเรื่อง หรือปัญหาให้ทางยามาฮ่าหรือผู้จำหน่ายทราบเบื้องต้นได้จากแอพพลิเคชั่น เพิ่มช่องทางในการติดต่อให้สะดวกขึ้น
6. FUEL CONSUMPTION – แสดงข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง สามารถแสดงอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยกับระยะทางในการขับขี่ ซึ่งเลือกดูได้ทั้งแบบรายวันหรือรายเดือน
EXCITEMENT สนุกเร้าใจในการขับขี่
7. REVS DASHBOARD – แสดงมาตรวัดสมรรถนะขณะขับขี่ สามารถแสดงข้อมูลการทำงานต่างๆ ของเครื่องยนต์ในการขับขี่แบบ Real Time ได้แก่ ระดับการเปิดของลิ้นเร่ง – จำนวนการหมุนของเครื่องยนต์ต่อนาที – อัตราเร่งวัดการขับขี่ แบบประหยัดพลังงาน – อุณหภูมิหม้อน้ำ – อุณหภูมิอากาศในห้องเครื่องด้วยกราฟิกเคลื่อนไหว 2 สไตล์
8. RANKING – แสดงอันดับในการขับขี่ สามารถแสดงการจัดอันดับในการขับขี่เปรียบเทียบกับผู้ขับขี่ยามาฮ่าทั่วโลกในรุ่นที่มี Y-Connect เช่นกัน โดยเลือกดูได้ทั้งโหมดระยะทางและการขับขี่แบบประหยัดพลังงาน
สำหรับ All New YAMAHA AEROX…SPORT AUTOMATIC LEADER สปอร์ต…อัจฉริยะ ที่สุดแห่งสปอร์ตออโตเมติก มีให้เลือกเป็นเจ้าของด้วยกันถึง 2 เวอร์ชั่น คือ เวอร์ชั่น STANDARD ในราคา 67,500 บาท ซึ่งมีด้วยกัน 3 สี คือ สีดำ-แดง (Power Black), สีเขียว-ดำ (Faster Turquoise) และสีแดง-ดำ (Alpha Red) และเวอร์ชั่น ABS ในราคา 78,500 บาท ที่มีให้เลือก 3 สีเช่นกันคือ สีน้ำเงิน-เทา (Racing Blue) สีดำ (Dark night) และ สีเทา (Silver Light)
โดยสามารถพบกับรถจักรยานยนต์ All New YAMAHA AEROX…SPORT AUTOMATIC LEADER สปอร์ต…อัจฉริยะ ที่สุดแห่งสปอร์ตออโตเมติก ได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263- 9999 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ที่
Facebook : Yamaha Society Thailand
Instagram : @Yamaha Society Thailand
Youtube : Yamaha Society Thailand