NEW YAMAHA WR155R Journey of The Brave เปิดเส้นทางใหม่ไปกับใจที่กล้า สีใหม่! พร้อม Accessories แต่งสุดเท่! พร้อมการรับประกัน 5 ปี!

บริษัท ไทยยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กระตุ้นตลาดพร้อมปลุกกระแส เอ็นดูโร่ ไบค์ ครั้งใหม่! พร้อมส่ง NEW YAMAHA WR155R “Journey of The Brave เปิดเส้นทางใหม่ไปกับใจที่กล้า” ออกสู่ตลาดเมืองไทยด้วยสีใหม่ พร้อม Accessories แต่งพร้อมลุยสุดเท่! และการรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กม.

สำหรับ NEW YAMAHA WR155R รถสายพันธุ์ Enduro ระดับโลกอย่าง WR Series ยังคงตอบสนองความเร้าใจในการขับขี่ด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ 155 ซีซี จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VVA (Variable Value Actuation) และพร้อมลุยทุกเส้นทางทั้งออนโรดและออฟโรดด้วยระบบกันสะเทือนหน้า KYB ขนาด 41 มม. และระบบกันสะเทือนหลัง Linked-Type Monocross ที่สามารถปรับค่าความแข็งได้ 5 ระดับตามน้ำหนักผู้ขับขี่ ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยมทำให้สนุกในทุกเส้นทางการขับขี่ พร้อมถังน้ำมันความจุขนาด 8.1 ลิตร ให้คุณไปได้ไกลกว่าเดิม

NEW YAMAHA WR155R “Journey of The Brave เปิดเส้นทางใหม่ไปกับใจที่กล้า” ให้ความล้ำสมัยด้วยหน้าปัด Full LCD Digital Meter ที่แสดงข้อมูลได้อย่างครบถ้วนและชัดเจน มาพร้อมตัวเลขบอกตำแหน่งเกียร์ เพื่อรองรับการขับขี่ทั้งทางเรียบและทางลุย และมาพร้อมเบาะนั่ง Flat Seat ที่สามารถรองรับการขับขี่ทุกท่วงท่า พร้อมเฟรมที่ออกแบบเพื่อความสนุกสนานในการขับขี่ทั้งออนโรดและออฟโรด NEW YAMAHA WR155R “Journey of The Brave เปิดเส้นทางใหม่ไปกับใจที่กล้า” มีให้เลือกเป็นเจ้าของด้วยกัน 2 เฉดสี คือ YAMAHA BLUE สีน้ำเงินที่ให้ความเร้าใจแบบเดียวกับทีมแข่งยามาฮ่าเรซซิ่งทีม และ YAMAHA BLACK สีดำดุดัน ที่ตัดกับเฟรมสีเขียวพาสเทลพร้อมโลโก้ WR สีขาว-เหลือง ซึ่งให้ความเท่สะดุดตาทุกมุมมอง
นอกจากนี้ NEW YAMAHA WR155R “Journey of The Brave เปิดเส้นทางใหม่ไปกับใจที่กล้า” สีใหม่! ยังมาพร้อมกับ Accessories แต่งสุดเท่! ที่มีให้เลือกช้อปกันเต็มพิกัด คือ ชุดเบาะปรับระดับ, ตัวกันกระแทกแฮนด์, ชุดครอบด้านล่างอะลูมิเนียม, ชุดการ์ดแฮนด์ ซ้าย-ขวา, ชุดรองปลอกแฮนด์ และชุดปลอกครอบโช้ค ซึ่งนอกจากจะเท่อย่างมีสไตล์แล้วยังพร้อมลุยได้อย่างเต็มพิกัดในทุกเส้นทางทั้งออนโรดและออฟโรดอีกด้วย
สำหรับ NEW YAMAHA WR155R “Journey of The Brave เปิดเส้นทางใหม่ไปกับใจที่กล้า” พร้อมวางจำหน่ายในราคาแนะนำเริ่มต้น 119,000 บาท พร้อมการรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กม. โดยสามารถเลือกเป็นเจ้าของได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263- 9999 พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่
Facebook : Yamaha Society Thailand
Instagram : @Yamaha Society Thailand
Youtube : Yamaha Society Thailand
Line OA : @ Yamahasociety

ได้เวลาแล้ว! MOTOR EXPO 2022 รวมรถยนต์ 35 แบรนด์ จักรยานยนต์ 17 แบรนด์

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39” พร้อมจัดแสดงรถยนต์ จักรยานยนต์ รุ่นใหม่ สินค้าเกี่ยวเนื่อง คับคั่ง 1-12 ธันวาคม 2565 คนรักรถพลาดไม่ได้ ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39” เผยว่า “ปีนี้จัดงานภายใต้แนวคิด “ได้เวลา…สัมผัสอนาคต – It’s TIME…Come Touch the FUTURE” มีค่ายรถยนต์เข้าร่วมงานทั้งหมด 35 แบรนด์ จาก 10 ประเทศ รถจักรยานยนต์ 17 แบรนด์ จาก 8 ประเทศ โดยทุกค่ายพร้อมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ และมอบโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะผู้ซื้อภายในงาน”
รถยนต์ 35 แบรนด์ ได้แก่ AUDI, BENTLEY, BMW, BYD, FORD, GREAT WALL MOTOR, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, JEEP, KIA, LAMBORGHINI, LEXUS, MASERATI, MAZDA, MERCEDES-BENZ, MG, MINE, MINI, MITSUBISHI, MOKE, NETA, NISSAN, PEUGEOT, POCCO, PORSCHE, SUBARU, SUZUKI, TOYOTA, VOLT, VOLVO รวมถึงชุดแต่ง และรถยนต์จากผู้นำเข้าอิสระ ได้แก่ BMW M PERFORMANCE, CARLSSON, M’Z SPEED และ SWIFT
รถจักรยานยนต์ 17 แบรนด์ ได้แก่ ALPHA VOLANTIS, BMW MOTORRAD, DUCATI, EM, FELO, HARLEY-DAVIDSON, HONDA, HUSQVARNA, KAWASAKI, KTM, LAMBRETTA, ROYAL ENFIELD, SCOMADI, SOLAR, SUZUKI, TRIUMPH และ YAMAHA
นอกจากนี้ ยังมีรถมือสอง 6 แบรนด์ ได้แก่ BMW PREMIUM SELECTION, CARSOME, JUST CAR, MERCEDES-BENZ CERTIFIED PRE-OWNED VEHICLES, MOTORIST และ VOLVO SELEKT
ส่วนกิจกรรมคืนกำไรให้ผู้ชมทั้ง ซื้อรถ…ชิงรถ / ซื้อบัตร…ชิงรถ / ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์ / ชม MOTOR EXPO ONLINE PLATFORM ชิงรางวัล มีรายละเอียดดังนี้
1. “ซื้อรถ…ชิงรถ” เมื่อจองหรือซื้อรถยนต์ใหม่ภายในงาน มีสิทธิ์ชิงรถยนต์ NEW MG ZS EV รุ่น X มูลค่า 1,269,000 บาท จำนวน 1 รางวัล
2. “ซื้อบัตร…ชิงรถ” ผู้ซื้อบัตรชมงาน มีสิทธิ์ชิงรถยนต์ VOLT CITY EV รุ่น FOR-FOUR มูลค่า 425,000 บาท จำนวน 1 รางวัล
3. “ซื้อสินค้า…ชิงรถ” เมื่อซื้อสินค้าภายในงานจากร้านค้าที่ร่วมรายการรับโชค 2 ชั้น ชั้นที่ 1 รับสิทธิ์จับสลาก เพื่อลุ้นรับของรางวัลทั้งหมด 2,122 รางวัล ชั้นที่ 2 ลุ้นชิงรถยนต์ MITSUBISHI MIRAGE 1.2 ACTIVE CVT A/T มูลค่า 509,000 บาท จำนวน 1 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
4. “ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์” เมื่อจองหรือซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ในงาน มีสิทธิ์ชิงรางวัล รถจักรยานยนต์ YAMAHA รุ่น MT-09 มูลค่า 439,000 บาท จำนวน 1 รางวัล
5. “ชม MOTOR EXPO ONLINE PLATFORM ชิงรางวัล” ผู้ชมงาน MOTOR EXPO ONLINE PLATFORM ผ่านลิงค์จาก https://op.motorexpo.co.th ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 – 31 ธันวาคม 2565 มีสิทธิ์ลงทะเบียนเพื่อชิงรางวัล NEW APPLE WATCH SERIES 8 รุ่น GPS (ตัวเรือน 41 มม.) รางวัลละ 15,900 บาท จำนวน 5 รางวัล รวมมูลค่า 79,500 บาท
ส่วน “MOTOR EXPO EXCLUSIVE VISITOR” เป็นแพคเกจชมงานแบบวีไอพี เพียง 500 บาท รับสิทธิพิเศษ ที่จอดรถ VIP ณ ลานจอดรถ P1 (1 คัน/1 สิทธิ์) ฟรีค่าจอด 3 ชม. พื้นที่รับรองพิเศษ EXCLUSIVE VISITOR LOUNGE บัตรเข้าชมงาน ULTIMATE VIP 2 ใบ บริการนำชมรถโดยพนักงานขายของแบรนด์ที่ลูกค้าสนใจ และบริการพิเศษจากผู้จัดงานอีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ JOIN BOAT PLATFORM โดยงาน MOTOR EXPO 2022 ได้ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจเรือจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมเรือ และการท่องเที่ยวทางน้ำ จัดแสดงเรือกว่า 20 แบรนด์ อาทิ BENETEAU, COBALT, CRANCHI, FERRETTI, IGUANA, JEANNEAU, LINDER, MALIBU, PRINCESS, RIVA, REGAL, SAXDOR เป็นต้น คาดว่าจะมียอดจองเรือในงานกว่า 50 ลำ เงินสะพัดกว่า 200 ล้านบาท
“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39” จัดขึ้น ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2565 มีการถ่ายทอดสดงานทาง ททบ. 5 วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม 2565 เวลา 14.35-15.35 น. ไทยรัฐ TV วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2565 เวลา 14.00-15.00 น. และชมรีวิวรถที่แสดงในงาน และรับสิทธิพิเศษมากมายผ่าน “MOTOR EXPO ONLINE PLATFORM” งานคู่ขนานในสื่อดิจิทอลครบวงจร ได้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.motorexpo.co.th

ไทยฮอนด้าเปิดตัว New Honda GROM เอาใจคนรักสปอร์ตมินิไบค์ กับ 2 สีสันใหม่ เร้าใจกว่าเดิม

ไทยฮอนด้าเปิดตัว New Honda GROM ตอบสนองความต้องการของวัยรุ่นสายสปอร์ต ด้วย 2 สีสันใหม่ รุ่น ABS สีเทา-ดำใหม่ โดดเด่นด้วยลวดลายพิเศษบนตัวรถ เพิ่มความเท่ สปอร์ต ดุดัน ให้ผู้ใช้งาน และรุ่น STD สีน้ำเงิน-ดำใหม่ เพิ่มสีสันให้การขับขี่ สนุกเร้าใจมากยิ่งขึ้น ภายใต้คอนเซปต์ “Hype up your ride รออะไร…ถ้าใจมันเร้า” พร้อมวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ

New Honda GROM โดดเด่นด้วยสีสันที่โดนใจ ลงตัวกับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบมินิไบค์สายสปอร์ต ไฟหน้า Full LED Headlight ดีไซน์โฉบเฉี่ยว แผงหน้าปัดเรือนไมล์ดิจิทัลแบบ Full LCD Panel แสดงผลครบถ้วนรวมถึงตำแหน่งเกียร์ ล้อแม็กพร้อมยางหน้ากว้างแบบ Tubeless ขนาด 12 นิ้ว สไตล์บิ๊กไบค์ พร้อมเสริมความมั่นใจด้วยดิสก์เบรกหน้า-หลัง และระบบเบรก ABS with G-Sensor เทคโนโลยีจากสนามแข่งรถซูเปอร์สปอร์ตระดับท็อป

New Honda GROM ออกแบบมาเพื่อกลุ่มคนที่ชื่นชอบการขับขี่สนุกในเมืองแต่ใจรักความสปอร์ต ด้วยเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 125 ซีซี ระบบหัวฉีด PGM-FI พร้อมทั้งส่งกำลังด้วยคลัตช์มือ และชุดเกียร์ 5 สปีด ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ บิดสนุกแบบรถสปอร์ต
ไทยฮอนด้าพร้อมวางจำหน่าย New Honda GROM แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ
มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น ABS สีเทา-ดำใหม่ ราคาแนะนำ 77,900 บาท และรุ่น Standard มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน-ดำใหม่ สีแดง และสีดำ ราคาแนะนำที่ 69,900 บาท
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ New Honda GROM ได้ที่
เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊ก : www.fb.com/hondamotorcyclethailand

2022 CRF250R

ยืนยันว่า ยังคงเป็นรถที่มีความแข็งแกร่งเพียงพอ และมีประสิทธิภาพที่ดีพอสำหรับการชิงชัยเพื่อลุ้นตำแหน่งแชมป์โลกในระดับ MX2 อีกด้วย นั่นคือสิ่งที่ Honda กล่าวถึง ยืนยันว่า ยังคงเป็นรถที่มีความแข็งแกร่งเพียงพอ และมีประสิทธิภาพที่ดีพอสำหรับการชิงชัยเพื่อลุ้นตำแหน่งแชมป์โลกในระดับ MX2 อีกด้วย นั่นคือสิ่งที่ Honda กล่าวถึง CRF250R โมเดลปีล่าสุดที่พัฒนาออกมาสู่ตลาดสำหรับปี 2023 แถมยังเปิดตัวมาก่อนถึงช่วงครึ่งปีของปี 2022 อีกต่างหาก

ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในส่วนของกลไกชิ้นส่วนเครื่องยนต์ Mechanically unchanged for 2023 the CRF250R หากย้อนหลังไปห้าปีที่แล้วพวกเขาได้ทำการอัพเดทครั้งใหญ่กับการยกเครื่องขนานใหญ่ให้กับ 2018 CRF250R ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามแพลนจากการพัฒนาที่ทำไปก่อนหน้านี้กับเรือธงอย่าง 2017CRF450R ดังนั้นแนวคิดและคอนเซ็ปท์ต่างๆที่ทำไปเหล่านั้นจึงถูกนำมาปรับใช้กับการพัฒนา 2018 CRF250R ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาตามคำจำกัดความ คือ Absolute Holeshot เพราะฉะนั้นเครื่องยนต์ใหม่ a brand new DOHC engine และยังรวมถึงระบบกันสะเทือน Showa suspension ของ CRF250R จึงถูกพัฒนาไปในแนวทางเดียวกันนั่นเอง และเช่นเดียวกันในโมเดลถัดจากนั้นนับถัดจาก 2018 CRF250R ก็พัฒนาตามหลังในแบบเดียวกับที่ทำกับในรุ่นใหญ่อย่าง CRF450R

อย่างไรก็ตามด้วยแพลนการพัฒนารถดังกล่าว ได้มาถึงโมเดลปี 2022 การตกผลึกของ CRF250R ได้ผลรับออกมา คือ เป็น MXer ขนาดสองแรงครั้ง หรือ 250F ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่พวกเขาผลิตออกมา ซึ่งระบุชัดเจนว่า มันคือ The Strongest Ever ดังนั้นจึงมีการอัพเดทน้อยมากกับ 2023 CRF250R ที่เห็นชัดเจนก็มีกราฟฟิคและลวดลายโลโก้เป็นส่วนหลักที่มีการเปลี่ยนแปลงจากโมเดลเดิมขณะที่ในส่วนระบบอิเล็คทรอนิคส์นั้นก็มีการติดตั้งมาไม่น้อยหน้ารุ่นใหญ่เช่นกัน โดย HRC Launch Control ก็จะมีอ๊อพชั่นสำหรับใช้ในการออกตัวอยู่สามตัวเลือก คือ

Level 3 – 10,000rpm, muddy conditions/novice.

Level 2 – 11,750rpm, dry conditions/standard.

Level 1 – 13,000rpm, dry conditions/expert.

เช่นเดียว EMSB-Engine Mode Select Button นั้นก็จะมีออกแบบมาให้เลือกใช้ได้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่และเลเวลของผู้ขับขี่เอง คือ Mode 1 (Standard), Mode 2 (Smooth) และ Mode 3 (Aggressive)  ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้จากคู่มือติดรถ

BRAKE ;   Rear 240mm hydraulic wave disc  โมเดลปีล่าสุดที่พัฒนาออกมาสู่ตลาดสำหรับปี 2023 แถมยังเปิดตัวมาก่อนถึงช่วงครึ่งปีของปี 2022 อีกต่างหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในส่วนของกลไกชิ้นส่วนเครื่องยนต์ Mechanically unchanged for 2023 the CRF250R หากย้อนหลังไปห้าปีที่แล้วพวกเขาได้ทำการอัพเดทครั้งใหญ่กับการยกเครื่องขนานใหญ่ให้กับ 2018 CRF250R ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามแพลนจากการพัฒนาที่ทำไปก่อนหน้านี้กับเรือธงอย่าง 2017CRF450R ดังนั้นแนวคิดและคอนเซ็ปท์ต่างๆที่ทำไปเหล่านั้นจึงถูกนำมาปรับใช้กับการพัฒนา 2018 CRF250R ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาตามคำจำกัดความ คือ Absolute Holeshot เพราะฉะนั้นเครื่องยนต์ใหม่ a brand new DOHC engine และยังรวมถึงระบบกันสะเทือน Showa suspension ของ CRF250R จึงถูกพัฒนาไปในแนวทางเดียวกันนั่นเองและเช่นเดียวกันในโมเดลถัดจากนั้นนับถัดจาก 2018 CRF250R ก็พัฒนาตามหลังในแบบเดียวกับที่ทำกับในรุ่นใหญ่อย่าง CRF450Rอย่างไรก็ตามด้วยแพลนการพัฒนารถดังกล่าว ได้มาถึงโมเดลปี 2022 การตกผลึกของ CRF250R ได้ผลรับออกมา คือ เป็น MXer ขนาดสองแรงครั้ง หรือ 250F ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่พวกเขาผลิตออกมา ซึ่งระบุชัดเจนว่า มันคือ The Strongest Ever ดังนั้นจึงมีการอัพเดทน้อยมากกับ 2023 CRF250R ที่เห็นชัดเจนก็มีกราฟฟิคและลวดลายโลโก้เป็นส่วนหลักที่มีการเปลี่ยนแปลงจากโมเดลเดิมขณะที่ในส่วนระบบอิเล็คทรอนิคส์นั้นก็มีการติดตั้งมาไม่น้อยหน้ารุ่นใหญ่เช่นกัน โดย HRC Launch Control ก็จะมีอ๊อพชั่นสำหรับใช้ในการออกตัวอยู่สามตัวเลือก คือ

Level 3 – 10,000rpm, muddy conditions/novice.

Level 2 – 11,750rpm, dry conditions/standard.

Level 1 – 13,000rpm, dry conditions/expert.

เช่นเดียว EMSB-Engine Mode Select Button นั้นก็จะมีออกแบบมาให้เลือกใช้ได้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่และเลเวลของผู้ขับขี่เอง คือ Mode 1 (Standard), Mode 2 (Smooth) และ Mode 3 (Aggressive)  ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้จากคู่มือติดรถ

“ยามาฮ่า”ฉลอง 20 ปีแห่งความสำเร็จ เปิดตัว NEW GRAND FILANO HYBRID CONNECTED

“ยามาฮ่า”ฉลอง 20 ปีแห่งความสำเร็จเปิดตัว NEW GRAND FILANO HYBRID CONNECTED สานต่อบทบาทผู้นำรถจักรยานยนต์ออโตเมติกของเมืองไทย ชูความพรีเมียมใหม่…คอนเน็คให้ชีวิตมีคลาส เขย่าตลาดไตรมาส 4 บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์คุณภาพชั้นนำของโลก ตอกย้ำความสำเร็จภายใต้บทบาท “ผู้นำรถจักรยานยนต์ออโตเมติก” ของเมืองไทย ฉลองครบรอบ 20 ปีความสำเร็จ “YAMAHA…IT’S AUTOMATIC 20 YEARS SUCCESS” ด้วยการเปิดตัว NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID CONNECTED ออโตเมติกพรีเมียมแฟชั่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล F Series
นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ยามาฮ่ามีความภูมิใจในการเป็นผู้นำรถจักรยานยนต์ออโตเมติกในไทย เริ่มจากในปี 2002 ด้วยการเปิดตัว YAMAHA NOUVO “ออโตเมติกรุ่นแรก” ของไทย ในปี 2004 ได้เปิดแคมเปญ SWITCH…Make Your Life Difference ยามาฮ่า…ชีวิตที่แตกต่าง ในปี 2006 ยามาฮ่ารุกหนักเปิดตัว YAMAHA FINO “ออโตเมติกแฟชั่น” ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของ segment FASHION AUTOMATIC ของยามาฮ่า พร้อมจัดกิจกรรม FINO Makes the World Record ด้วยการบันทึกสถิติ Guinness World Records ปี 2015 จุดเริ่มต้นกับสายพันธุ์ “MAX Series” ด้วย YAMAHA NMAX 155 ปี 2018 สร้างปรากฎการณ์ครั้งใหม่ด้วยการเปิดตัว YAMAHA GRAND FILANO HYBRID “ออโตเมติกไฮบริดรุ่นแรก” ของไทย และปี 2021 กับ Y-Connect Application ครั้งแรกที่ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลรถบนมือถือได้อย่างง่ายดาย ปี 2022 ยามาฮ่าส่ง All New YAMAHA FAZZIO HYBRID CONNECTED ออโตเมติก Trendy Fashion for New Generation
ความสำเร็จของ YAMAHA GRAND FILANO เริ่มต้นในปี 2012 ที่เปิดตัว YAMAHA FILANO ด้วยดีไซน์สไตล์ยูโรเปี้ยน คลาสสิก ปี 2014 ต่อยอดความนิยมด้วยการส่ง YAMAHA GRAND FILANO ดีไซน์ทันสมัย เรียบแต่หรู ปี 2018 ได้ยกระดับและพัฒนาเทคโนโลยีด้วยการเปิดตัว YAMAHA GRAND FILANO HYBRID “ออโตเมติกไฮบริดรุ่นแรก” ของไทย ด้วยสมรรถนะที่ดีขึ้น ดีไซน์โดดเด่น สีสันสวยงาม ทำให้ YAMAHA GRAND FILANO HYBRID ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ ด้วยกระแส YAMAHA GRAND FILANO HYBRID ทำให้เกิดกิจกรรมตอบสนองความต้องการ และสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า เช่น Automatic is NOW! และ Automatic Check in ที่ได้รับความนิยมและการตอบรับจากลูกค้าทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
และนี่คือสิ่งที่ยามาฮ่ามีความภาคภูมิตลอดระยะเวลา 20 ปีแห่งความเป็น “ผู้นำรถจักรยานยนต์ออโตเมติก” ตลอดจนการเป็น Trendsetter โดยยามาฮ่ายังคงคิดค้นและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้ายามาฮ่าให้ตอบโจทย์ และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ซึ่งในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ยามาฮ่าขอแนะนำ “ออโตเมติกพรีเมียมแฟชั่น” รุ่นใหม่ล่าสุด NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID CONNECTED มาร่วมส่งต่อความสำเร็จไปอีกครั้งกับการเป็น YAMAHA AUTOMATIC LEADER ต่อไป”
นายภาณุพล กิตติคำรณ รองผู้จัดการใหญ่ด้านการขาย และการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ว่า “นับเป็นโอกาสอันดีอีกครั้งกับการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ที่รวมอยู่ใน F Series ได้แก่ รถจักรยานยนต์ออโตเมติกซีรีส์แฟชั่น FINO, FAZZIO และ GRAND FILANO ซึ่งความสำเร็จของ GRAND FILANO เกิดขึ้นจาก 4 องค์ประกอบหลัก ที่ผู้ใช้ชื่นชอบด้วยกัน 1. การมีดีไซน์ สีสัน สวยงาม 2. การขับขี่ที่ง่าย เหมาะกับทุกคน 3. ประหยัดน้ำมัน ด้วยเครื่องยนต์บลูคอร์ไฮบริด 4. สะดวกสบาย ด้วยฟังก์ชันที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและในวันนี้ขอแนะนำ NEW CHAPTER OF GRAND ด้วยรถจักรยานยนต์ออโตเมติกพรีเมียมแฟชั่นใหม่ล่าสุด NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID CONNECTED ความพรีเมียมใหม่…คอนเน็คให้ชีวิตมีคลาส LIVE HIGH IN SMART PREMIUM STYLE กับการออกแบบในคอนเซ็ปต์ Classic Beyond Time สวยงามคลาสสิกเหนือกาลเวลาด้วยความ High… High Class Design ยกระดับการออกแบบให้ดูพรีเมียมมากยิ่งขี้น ด้วยดีไซน์ใหม่รอบคัน ไฟ Full LED ดีไซน์ใหม่ทั้งหมด โดดเด่นด้วย F-Icon สัญลักษณ์ใหม่หรูหรา
High Modern Features ด้วยการออกแบบหน้าจอเรือนไมล์ใหม่แบบ Digital Meter LCD ที่มาพร้อมกับหน้าจอแบบ TFT เชื่อมต่อชีวิตสุดล้ำด้วย Y-Connect Application พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบ UBS (Unified Brake System) ในรุ่น Standard Version
High End Functions ตอบใจทย์การใช้งานที่ผู้ใช้ชื่นชอบ แรงจัดประหยัดน้ำมันด้วยเครื่องยนต์บลูคอร์ Hybrid ขนาด 125 ซีซี พร้อมด้วยระบบ SSS (Stop and Start System) ช่องเก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ถึง 27 ลิตร เติมน้ำมันได้สะดวกสบายที่ช่องเติมน้ำมันด้านหน้า และช่องต่อไฟสำรองสามารถชาร์จแบตเตอรี่มือถือได้ทุกที่ทุกเวลา เสริมความปลอดภัยด้วยระบบเบรกแบบ ABS พร้อมกับกุญแจรีโมทอัจฉริยะทในรุ่น ABS Version”
NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID CONNECTED มาพร้อม 2 รุ่นทางเลือก ประกอบด้วย
รุ่น ABS Version มีด้วยกัน 3 สี ได้แก่
• สีน้ำตาล Champagne Gold
• สีเขียว Royal Green
• สีดำ Million Black
รุ่น STD Version มีให้เลือกด้วยกัน 4 สี ได้แก่
• สีฟ้า Classy Blue
• สีเทา Luxury Gray
• สีแดง Richy Red
• สีน้ำเงิน Highest Blue
NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID CONNECTED มาพร้อมราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 64,700 บาท ในรุ่น STD Version และราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 69,200 บาท ในรุ่น ABS Version
นายจิรภัทร สายเพชร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดกลุ่มรถออโตเมติก และสนับสนุนการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า“NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID CONNECTED ออโตเมติกออโตเมติกพรีเมียมแฟชั่น 125 ซีซี ดีไซน์ใหม่ หรูหราสง่างาม พร้อมกับความโมเดิร์นขึ้นอีกระดับจากฟีเจอร์ใหม่ ๆ โดยออกแบบให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า จึงถูกสื่อสารภายใต้คอนเซ็ปท์ “LIVE HIGH IN SMART PREMIUM STYLE” เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบดีไซน์แฟชั่น มีไลฟ์สไตล์บ่งบอกถึงความเป็นตัวตน ใช้ชีวิตแบบสมาร์ท ต้องการความสะดวกสบาย มีความคิดสร้างสรรค์ อินเทรนด์ และเป็นตัวของตัวเอง
สำหรับ NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID CONNECTED สามารถเพิ่มความสวยงามในแบบ HIGH STYLE CUSTOMIZED ด้วยชุดแต่งของแท้จากยามาฮ่าในแบบ GRAND TOURING STYLE และ GRAND SPORT STYLE เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และดูพรีเมียมมากยิ่งขึ้น เข้ากับไลฟ์สไตล์สอดคล้องกับการใช้งานจริง และที่ขาดไม่ได้กับ HIGH FASHION COLLECTIONS ชุดเครื่องแต่งกายในแบบ Smart Exclusive และ Casual Modern classic”
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้แล้วที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ พร้อมความมั่นใจในคุณภาพสินค้า ด้วยการรับประกันคุณภาพทั้งคันตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263-9999 พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่
Facebook : Yamaha Society Thailand
Instagram : @Yamaha Society Thailand
YouTube : Yamaha Society Thailand
Line OA : @Yamahasociety

ALPHA VOLANTIS เปิดตัวรถจักรยานยนต์พรีเมียมออโตเมติกรุ่นแรก HORIZON 300 ดีไซน์ Futuristic Premium

บริษัท ทริลเลี่ยน มอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์รายล่าสุดของประเทศไทย เปิดตัวรถจักรยานต์พรีเมียมแบรนด์ ALPHA VOLANTIS (อัลฟ่า โวแลนทิส) อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด “INVENTING THE FUTURE” สะท้อนความตั้งใจในการสร้างสรรค์และผลิตยนตรกรรมสองล้อดีไซน์ล้ำสมัยระดับพรีเมียมสู่ตลาดรถจักรยานยนต์ในเมืองไทย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่แห่งอนาคตด้วยรถจักรยานยนต์ออโตเมติกรุ่นแรก HORIZON300 (ฮอไรซอน300) บริษัท ทริลเลี่ยน มอเตอร์ จำกัด เริ่มต้นจดทะเบียนพร้อมก่อตั้งโรงงาน เพื่อเป็นฐานการผลิตรถจักรยานยนต์ที่มีกระบวนการผลิต และการจัดการระดับมาตรฐานสากล ด้วยงบประมาณลงทุน 600 ล้านบาท โดยโรงงานผลิตตั้งอยู่ที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ครอบคลุมพื้นที่ 200 ไร่ ด้วยความต้องการที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์สองล้อให้ตอบสนองความต้องการด้านดีไซน์ที่สวยงามและตอบโจทย์การขับขี่ไปพร้อมๆกัน
นายธีระ ธีรติ ประธานบริหาร บริษัท ทริลเลี่ยน มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ในนามของแครี่บอย ผู้นำอุตสาหกรรมหลังคาไฟเบอร์กลาส ชุดแต่งประดับยนต์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับรถกระบะมากว่า 40 ปี เรามุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต และการออกแบบอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เราเป็นที่ยอมรับในวงกว้างทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ จนถึงทุกวันนี้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมานี้เอง ที่ทำให้เรามองเห็นโอกาสในตลาดรถจักรยานยนต์ในเมืองไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยศักยภาพด้านการผลิต การออกแบบ และมาตรฐานคุณภาพ ทำให้เรามีความมั่นใจและมีความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดรถจักรยานยนต์ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ภายใต้ชื่อ อัลฟ่า โวแลนทิส เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและความพึงพอใจของผู้บริโภคอย่างสูงสุด ในโอกาสนี้ ผมขอแนะนำ บริษัท ทริลเลี่ยน มอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ อัลฟ่า โวแลนทิส อย่างเป็นทางการ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกท่าน”
Alpha Volantis ยนตรกรรมสองล้อระดับพรีเมียมแบรนด์ Alpha Volantis ได้รับแรงใจจากดวงดาว โดยดาวอัลฟ่าได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นดวงแรกและเป็นดาวที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวโวแลนทิส เปรียบเสมือนรถจักรยานยนต์แบรนด์อัลฟ่า โวแลนทิส ที่ได้เริ่มต้นจุดประกายสรรค์สร้างยนตรกรรมสองล้อระดับพรีเมียมรุ่นแรก พร้อมพุ่งทะยานด้วยความสง่างาม สะท้อนตัวตนทุกการขับขี่ โดดเด่นทุกความเป็นคุณในทุกเส้นทาง นายธีรวิทย์ ธีรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริลเลี่ยน มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “แบรนด์ ALPHA VOLANTIS (อัลฟ่า โวแลนทิส) มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีดีไซน์สวยตอบโจทย์ทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ และพร้อมที่จะส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่มากกว่าการเดินทางให้กับผู้ใช้ รวมถึงการขยายการบริการที่มีคุณภาพระดับมาตรฐานสากล เพื่อรองรับผู้ขับขี่ในอนาคต อีกทั้ง จัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้และกิจกรรมเพื่อผู้ใช้รถ เราเชื่อมั่นว่า รถจักรยานยนต์พรีเมียมออโตเมติกรุ่นแรก HORIZON 300 และ HORIZON 150 จะตอบสนองไลฟ์สไตล์การขับขี่และสร้างความโดดเด่นทุกความเป็นคุณอย่างแน่นอน”
HORIZON 300 รถจักรยานยนต์พรีเมียมออโตเมติกรุ่นแรก
• HORIZON 300 เติมเต็มกลิ่นอายความคลาสสิกผสานความล้ำสมัยด้วยดีไซน์ Futuristic Premium ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่อยู่ในมิติตัวรถขนาดคล่องตัว กับขุมพลังเครื่องยนต์ 276 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้แรงบิดสูงสุดที่ 21.8 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที มอบพละกำลังขนาด 13.6 กิโลวัตต์ ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงได้ต่อเนื่องเต็มสมรรถนะ ไร้กังวลในทุกเส้นทางขับขี่แม้ในระยะทางไกล ด้วยถังน้ำมันขนาด 9 ลิตร
• HORIZON 300 shine your elegance โดดเด่นทุกความเป็นคุณ ยกระดับที่สุดแห่งความหรูหรากับพื้นผิวรถที่ถูกออกแบบด้วยความพิถีพิถัน ดีไซน์ระดับพรีเมียมกับชุดตกแต่งโครเมียมรอบคันด้วยเทคนิค satin chrome (ซาตินโครม) นับเป็นการออกแบบระดับเดียวกับรถยนต์แบรนด์ยุโรป สอดรับกับท้ายรถรูปทรงเพรียวลมพร้อม air intake เพื่อระบายความร้อนภายใต้เบาะออกทางด้านข้างด้วย side vent สะท้อนความโดดเด่นยิ่งขึ้นกับระบบไฟส่องสว่าง full LED รอบคัน พร้อมไฟหน้า Day time running light และชุดไฟเลี้ยวรวมกันในชิ้นเดียว ส่วนมาตรวัดความเร็วเป็นแบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ ปรับความสว่างโดยอัตโนมัติ ง่ายต่อการใช้งานทั้งกลางวันและกลางคืน
• HORIZON300 ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะรูปทรงพรีเมี่ยมล้ำสมัย สามารถคัสตอมได้ มาพร้อมช่องเก็บของใต้เบาะที่ใส่หมวกกันน็อคแบบเปิดหน้าได้ รองรับไลฟ์สไตล์ดิจิทัลด้วยที่ชาร์จไฟสำรองอเนกประสงค์ USB สองช่อง มีช่องเก็บของด้านหน้าล็อกกุญแจได้ รวมถึงช่องเก็บถุงมือและช่องเก็บของที่ง่ายต่อการใช้งาน
• HORIZON300 มีสีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Alpha Bule, สีเทา Hazy Sky Gray และ สีดำ Deep Space Black เปิดราคาอย่างเป็นทางการที่ 129,900 บาท สุดเอ็กคลูซีฟ!!!! ราคาพิเศษ 119,900 บาท เพียง 600 คันแรกเท่านั้น เริ่มเปิดให้จองในงาน Thailand International Motor Expo 2022 Horizon150 รถจักรยานยนต์ออโตเมติกขนาดเล็ก ตอบรับทุกความคล่องตัว ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
HORIZON150 ได้รับการออกแบบในสไตล์ modern classic ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง ด้วยเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศขนาด 150 ซีซี ให้แรงบิดสูงสุดที่ 8.5 นิวตัน-เมตร ที่ 5000 รอบต่อนาที มอบพละกำลังขนาด 7.4 กิโลวัตต์ ที่ 6500 รอบต่อนาที ตอบรับทุกความคล่องตัวในเมืองด้วยน้ำหนักตัวรถเพียง 118 กิโลกรัม ขับขี่มั่นใจวิ่งได้ต่อเนื่องด้วยถังน้ำมันใหญ่ 6.8 ลิตร พร้อมเสริมความมั่นใจด้วยระบบดิสก์เบรคหน้า-หลัง เพิ่มเติมความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบ Share Brake System หรือ SBS ระบบช่วยกระจายแรงเบรคระหว่างล้อหน้ากับล้อหลัง ช่วยปรับเสถียรภาพให้ผู้ขับขี่ไม่เสียการทรงตัว แม้บนผิวทางที่ขรุขระ
• HORIZON150 สะท้อนตัวตนทุกการผู้ขับขี่ให้โดดเด่นทุกความเป็นคุณ ด้วยดีไซน์ที่หรูหราในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น ชุดตะแกรงระบายความร้อนด้านข้างพร้อมโลโก้ ALPHA VOLANTIS สามมิติ ดีไซน์ด้านท้ายทรง tear drop shape สไตล์คลาสสิคสปอร์ต สอดรับกับชุดแต่งโครเมียมรอบคัน มาพร้อมด้วยชุดไฟส่องสว่าง full LED ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย รวมถึงมาตรวัด 2 สไตล์ ครบทุกฟังก์ชั่น
HORIZON150 ตอบโจทย์ความอเนกประสงค์ทุกรูปแบบด้วยเบาะตอนเดียว มาพร้อมช่องเก็บของใต้เบาะที่ใส่หมวกกันน็อคแบบเปิดหน้าได้ มีช่องเก็บของด้านหน้าล็อกกุญแจได้ รวมถึงมีช่องเก็บถุงมือ ช่องเก็บของ และตะขอแขวนเกี่ยวอเนกประสงค์ เพื่อรองรับการใช้งานที่หลายหลาย อีกทั้งรองรับไลฟ์สไตล์ดิจิทัลด้วยที่ชาร์จไฟสำรองอเนกประสงค์ USB ถึงสองช่อง
• HORIZON150 มีสีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีฟ้า Vivid Blue , สีแดง Deeply red , สีขาว Crystal White และ สีดำ Deep Space Black เปิดราคาอย่างเป็นทางการที่ 72,500 บาท สุดเอ็กซ์คลูซีฟ!!!! ราคาพิเศษ 69,500 บาท เพียง 500 คันแรกเท่านั้น พร้อมเปิดให้จองในงาน Thailand International Motor Expo 2022

YZ125&YZ85 bLUcRU FIM Europe Super Finale

แม้กระแสรถโมโตครอสปัจจุบันส่วนมากจะเป็นเครื่องยนต์สี่จังหวะ ทว่าบางค่ายผู้ผลิตต่างก็ยังคงเดินหน้าเปิดไลน์การผลิตอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งผู้ผลิต Yamaha ก็คือหนึ่งในนั้น อีกทั้งยังจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ให้กับรถโมโตครอสเครื่องยนต์สองจังหวะอย่าง YZ125 และ YZ85 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงสามสี่ปีล่าสุดมานี้ ทาง Yamaha Europe ได้จัดการแข่งขัน สำหรับนักแข่งระดับเยาวชนและดาวรุ่งอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเข้าไปจับมือกับ FIM Europe หรือสมาพันธ์รถจักรยานยนต์แห่งยุโรป ด้วยการเข้าไปเป็นหนึ่งในซํพพอร์ทเรซของการแข่งขันโมโตครอสชิงแชมป์ยุโรป และในบางครั้งก็อาจจะเข้าไปแจมกับบางสนามของรายการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมชิงแชมป์โลกอย่าง MXGP ด้วยเช่นกัน

YZ bLUcRU Cup ที่เป็นการชิงชัยของเหล่านักแข่งเยาวชน ผู้ที่ใช้รถแข่ง YZ125 และ YZ85 ที่จะมีโอกาสได้ไต่เต้าเส้นทางการเป็นนักแข่งอาชีพ โดยในปี 2022 นี้ มีนักแข่งมาร่วมสมัครมากกว่า 100คน จนกระทั่งผ่านการคัดเลือกมาถึงรอบสุดท้าย หรือ Super Finale ที่จะตัดสินหาผู้ชนะประจำปี โดยมาชิงชัยกันที่ประเทศฝรั่งเศส ที่สนามระดับตำนานอย่าง Saint Jean D’Angely ซึ่งผู้คว้าชัยชนะใน YZ bLU cRU FIM Europe Cup SuperFinale เป็นนักแข่งเยาวชนอิตาเลี่ยน อย่าง Nicola Salvini กับ เยาวชนจากบัลกาเรียนอย่าง Dani Tsankov ที่คว้าชัยในรุ่น YZ125 และ YZ85 ตามลำดับ ซึ่งไรดิ้งได้นำภาพบรรยากาศการแข่งขันของนักแข่งเยาวชนยุโรปในรายการนี้มาได้ชมกัน

75 ปี Lambretta เปิดตัวใหม่สองโมเดล

สำหรับปีนี้เป็นวาระครบรอบ 75 ปี ของ Lambretta ที่มีความเป็นมาในแวดวงรถจักรยานยนต์ในช่วง 1947-2022 ก็รวมเบ็ดเสร็จเป็นตัวเลขดังกล่าว ดังนั้นทาง Lambretta จึงทยอยจัดกิจกรรมในวาระพิเรศษรวมทั้งเปิดตัวสองโมเดลใหม่ อย่าง G350 SPECIAL กับ X300 ซึ่งในรุ่น GT350 นั้นจะเป็นเรือธงของค่าย

ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาได้ส่ง G-SPECIAL ออกมาจัดแสดงในงาน 2019 EICMA โดยในตอนนั้นได้ใช้ชื่อว่า G325Special ก่อนจะพัฒนาเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด G350 ในปัจจุบัน และเนื่องจากช่วงเวลานี้เป้นวาระครบรอบ 75 ปี ของค่าย พวกเขาจึงส่ง G350 Special นี้ออมาเผยโฉม พร้อมจัดวางตำแหน่งให้เป็นเรือธงของค่ายอีกด้วย ซึ่งจะมีราคาเริ่มต้นที่ 7,200 ยูโร สำหรับตัวรถนั้นยังคงความคลาสสิคแบบดั้งเดิม ด้วย steel full monocoque frame โดยเน้นความเป็น High quality หรือชิ้นส่วนคุณภาพสูงรวมทั้งกรรมวิธีในการผลิต ให้สมกับความเป็นรถระดับเรือธงของค่าย

ขณะที่ X300 นั้นจะเป็น high-end innovative design คือออกแบบให้มีความทันสมัยว่ากันว่า นี่คือการเปิดตัวที่ค่อนข้างสร้างความเซอร์ไพรส์ เพราะนี่คือ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไลน์อัพใหม่ของ Lambretta กับ X-series โดยกระบวนการออกแบบและขั้นตอนการผลิตอยู่ภายใต้ความสนใจอย่างใกลชิดของประธานอย่าง Walter Scheffrahn ที่เป็น Presdent of Lambretta
สำหรับ X300 กล่าวได้ว่าเป็น new generation ของ Lambretta ที่ต้องารรถในซีรี่ส์ใหม่ออมาสู่ตลาด ด้วยความทันสมัย ความเป็นสปอร์ตที่มากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของความเป็น Lambretta ควบคู่กันไป

ไทยฮอนด้า รุกตลาดรถจักรยานยนต์ไตรมาสสุดท้าย เปิดตัว 3 โมเดลเรือธงโฉมใหม่ล่าสุด

ไทยฮอนด้า รุกตลาดรถจักรยานยนต์ไตรมาสสุดท้าย เปิดตัว 3 โมเดลเรือธงโฉมใหม่ล่าสุด นำทัพโดย All New Forza350 บิ๊กสกูตเตอร์ระดับท็อปคลาสพร้อมด้วย All New Wave125i รถครอบครัวยอดนิยม และ All New ADV160 รถ SUV Bike ไทยฮอนด้า ผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทย เปิดเกมรุกไตรมาสสุดท้ายของปี 2022 มุ่งสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยการเปิดตัว “All New Forza350” บิ๊กสกูตเตอร์ระดับท็อปคลาส ดีไซน์ใหม่รอบคันสไตล์สปอร์ตหรูดุดัน จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีที่มีมาให้แบบเต็มพิกัด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัลขั้นสุด เปิดตัวและจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่แรกของโลก พร้อมทั้งส่งมอบความสุขแห่งการขับขี่ ด้วยรถจักรยานยนต์ครอบครัวยอดนิยมตลอดกาลโฉมใหม่ล่าสุด All New Wave125i และ SUV Bike ที่คนไทยให้ความสนใจที่สุด All New ADV160 ที่มาพร้อมขุมพลังใหม่จากเครื่องยนต์ eSP+ และดีไซน์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมือง พร้อมวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “ฮอนด้าติดตามสภาพตลาด และสถานการณ์ความต้องการของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด ล่าสุด เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว ส่งผลให้ความต้องการของตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
“ฮอนด้าพร้อมส่งมอบความสุขเพื่อตอบสนองความต้องการของคนไทย ด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่พร้อมกันทีเดียวถึง 3 รุ่น ทั้งหมดล้วนแต่เป็นโมเดลระดับเรือธง หนึ่งในนั้นคือการเปิดตัว All New Forza350 ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยหรือที่เรียกว่า World Premiere โดยในครั้งนี้ได้รับการปรับโฉมให้มีความสปอร์ตหรู เป็นบิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับท็อปคลาส อีกสองรุ่นประกอบด้วย All New Wave125i รถครอบครัวโฉมใหม่ที่จะมาตอกย้ำความเป็นรถยอดนิยมของไทย และ All New ADV160 รถ SUV Bike ที่มาพร้อมกับการยกระดับขุมพลังใหม่ด้วยเครี่องยนต์ eSP+ และดีไซน์ใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองมากยิ่งขึ้น”
All New Forza350 มาพร้อมแนวคิด Ride The Exceptional มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ สปอร์ตเรียบหรู เกินคาด ดุดันเกินคลาส ผสานด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ เข้ากับสมรรถนะแรงสุดขีด พร้อมเชื่อมไลฟ์สไตล์ดิจิทัล โดดเด่นเกินใครในทุกเส้นทาง กับไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Dual LED Headlight สะดุดทุกสายตา และไฟท้ายดีไซน์ใหม่ สปอร์ตพรีเมียมลงตัวกับเส้นสายรอบคัน และชัดเจนเหนือชั้นกับ New Multi-Function Meter Design ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสความรู้สึกของความ Luxury Sport ให้ทุกเส้นทางที่ไป คือทางที่ใครก็ต้องยอม
All New Forza350 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง eSP+ 330 ซีซี แรงดั่งใจ เพิ่มกำลังขับเคลื่อน ลดแรงเสียดทาน แรงต่อเนื่องเต็มสมรรถนะ พร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้าที่ยกระดับประสบการณ์ขับขี่ให้มั่นใจอยู่ในคอนโทรล ด้วยระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ระบบตรวจจับและควบคุมล้อหน้า-หลังให้สัมพันธ์กัน ป้องกันรถเสียการทรงตัว Emergency Stop Signal (ESS) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีการเบรกกะทันหัน มาตรฐานความปลอดภัยระดับรถ Super Bike และ 2-Channel ABS (Anti-Brake System) ระบบเบรกทั้งด้านหน้าและด้านหลังช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อกระหว่างเบรกกะทันหัน
เพิ่มประสบการณ์ขับขี่ไปอีกขั้นกับเทคโนโลยีที่ยกระดับความปลอดภัย และความสะดวกสบายให้กับ All New Forza350 กับ Honda Smartphone Voice Control System (HSVCs) ความปลอดภัย…สั่งได้! ด้วยระบบสั่งการด้วยเสียงบนสมาร์ตโฟน เทคโนโลยีอัจฉริยะจากฮอนด้า เชื่อมต่อใช้งานสะดวก ผ่านแอปพลิเคชัน Honda RoadSync ควบคุมการทำงานฟังก์ชันต่าง ๆ ด้วยเสียงและกดสั่งการที่สวิตช์แฮนด์ โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน และเปิดสู่เอกลักษณ์ที่เหนือกว่าในทุกเส้นทาง กับกระจกบังลมหน้าระบบไฟฟ้า Electrically Adjustable Windscreen ที่ปรับระดับความสูงได้ถึง 150 มม. ช่วยลดแรงลมปะทะหน้าขณะขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความสะดวกอีกขั้นกับ Honda Smart Key รีโมตอัจฉริยะ และ In-Console USB Charger & Bottle Holder ที่เก็บของคอนโซลหน้าที่รองรับไลฟ์สไตล์ดิจิทัลด้วยที่ชาร์จไฟสำรองอเนกประสงค์
All New Forza 350 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่
รุ่น Roadsync Type (ติดตั้งระบบ HSVCs) มี มาพร้อมล้อสีทอง ด้วยราคาแนะนำที่ 181,000 บาท
และรุ่น Standard Type มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ (Mat Black), สีเทา-ดำ (Smoky Grey), สีแดง (Red) และสีน้ำเงิน (Blue) ราคาแนะนำที่ 179,000 บาท
พร้อมออพชั่นเสริมเพิ่มความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ด้วยชุดแต่งที่มีให้เลือก 2 รุ่น ประกอบด้วย
Forza Nitron Neon TH1 ราคาแนะนำที่ 221,800 บาท
Forza Yoshimura Gcraft Rising Spirit TH2 ราคาแนะนำที่ 206,900 บาท
* ชุดแต่ง Nitron Neon Edition ชุดแต่งพรีเมียมจากอังกฤษ ทุกเส้นสายบอกสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร เอาใจสายสปอร์ตด้วยระบบกันสะเทือนแบรนด์ Hi-end ระดับโลก รองรับการใช้งานทุกย่านความแรง
* ชุดแต่ง The Yoshimura X G’craft Rising Spirit Edition ตำนานจากญี่ปุ่น ที่ร่วมมือกับ H2C สำนักแต่งฮอนด้าที่ทั่วโลกยอมรับ สู่การปลดปล่อยสไตล์ใหม่ไม่ซ้ำทางใคร ด้วยท่อไอเสียจากสำนักแต่งสัญชาติญี่ปุ่น พร้อมทะยานสู่ความเร้าใจใหม่ที่เหนือกว่า
All New Wave125i มาพร้อมคอนเซปต์ “ผู้นำที่ทุกคนเชื่อมั่น” โดยมี “เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารส” เป็น พรีเซนเตอร์ เพื่อสะท้อนอัตลักษณ์ความเป็น “ผู้นำที่ทุกคนเชื่อมั่น” ทั้งตัวผลิตภัณฑ์และผู้ครอบครอง ให้สมกับเป็นรถจักรยานยนต์ครอบครัวระดับท็อปคลาสแห่งยุค
ดีไซน์สปอร์ตด้วยเฟรมใหม่ ออกแบบวัสดุและเทคนิคการเชื่อมต่อตัวถังให้แข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบาลง ควบคุมรถได้ง่ายและคล่องตัวกว่าเดิม เรือนไมล์ใหม่ LCD Multi Meter ผสานเทคโนโลยีจอแสดงผล เรียบหรูมีมิติ ออกแบบแยกส่วน ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ โฉบเฉี่ยว New X-clusive LED Tailight ครบครันทั้งไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมดีไซน์คอนโซลหน้าใหม่ New Front Pocket เพิ่มช่องใส่ของอเนกประสงค์ สะดวกใช้งานทันใจ ระบบกันสะเทือนใหม่ด้วยการเพิ่มระยะยุบของโช้คอัพด้านหน้าและด้านหลัง สามารถซับแรงกระแทก ช่วยให้ทรงตัวดียิ่งขึ้น พื้นที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ XL Size U-Box จุได้ 17 ลิตร ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบได้ ถังน้ำมันใหญ่ 5.4 ลิตร วิ่งได้ไกลขับขี่ได้ต่อเนื่อง สวิตช์กุญแจนิรภัยเพียงกดกุญแจเพื่อสั่งการ เปิด-ปิดล็อค-สตาร์ตเครื่องและเปิดเบาะนั่ง ได้ง่ายดาย
New Honda Smart Engine เทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดของคลาส 125 cc. ระบบหัวฉีด PGM-FI ยกระดับมาตรฐานใหม่แห่งรถครอบครัว สะท้อนความเชื่อมั่นด้วยสมรรถนะดีขึ้นกว่าที่เคย แรงล้ำหน้าด้วยการปรับระยะชักลูกสูบใหม่ และมอบอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 71.4กม./ลิตร เสริมด้วยระบบ Piston Oil Jet ช่วยระบายความร้อนดียิ่งขึ้น ลดการสึกหรอ ทนทานยืดอายุการใช้งาน ติดตั้งระบบปรับตั้งความตึงโซ่อัตโนมัติแบบ Hydraulic ใหม่ ส่งกำลังต่อเนื่องทุกรอบความเร็ว ลดการสะบัดและเสียงของเครื่องยนต์
All New Wave125i รุ่นสตาร์ทมือ ล้อแม๊ก 4 สีได้แก่ สีแดง-เทา, สีเทา-น้ำเงิน, สีขาว-แดง และสีดำ-เทา ราคาแนะนำที่ 56,500 บาท ส่วนรุ่นสตาร์ทมือ ล้อซี่ลวด โดยมี 3 สี ได้แก่ สีแดง, สีน้ำเงิน และสีดำ ราคาแนะนำที่ 54,300 บาท
All New ADV160 มาพร้อมคอนเซปต์ “Explore the Wild Urban มีทางใหม่ ให้ท้าทายทุกวัน” อัปเลเวลการขับขี่สไตล์ Honda SUV Bike หนึ่งเดียวในเมืองไทย ที่จะเปิดประสบการณ์ทางเมืองเดิม ๆ ให้ไม่เหมือนเดิม พร้อมกับโฉมใหม่ ที่อัปเลเวลดีไซน์ เท่แกร่งทุกมิติ ให้ความรู้สึกดุดัน แข็งแกร่ง โดดเด่นบนถนน เสริมด้วยแทคโนโลยีล้ำหน้ารอบคัน ที่พร้อมให้ผู้ขับกำหนดเส้นทางท้าทายใหม่ ๆ ได้ทุกวัน
All New ADV160 ยกระดับขุมพลังใหม่ด้วยเครื่องยนต์ eSP+ 157 ซีซี 4 วาล์ว ระบบหัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ อัปความแรงให้เร่งทันใจทุกช่วงความเร็ว ครั้งแรงของการเสริมทัพด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ระบบตรวจจับและควบคุมล้อหน้า-หลังให้สัมพันธ์กันป้องกันรถเสียการทรงตัว ผสานการออกแบบที่ตอบโจทย์รถสไตล์ SUV Bike กับความสูงเบาะใหม่ 780 มม. ขึ้น-ลง สะดวก นั่งสบายยิ่งกว่า เพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ได้มั่นใจ พร้อม Twin Subtank อันเป็นเอกลักษณ์ ซับแรงกระแทกได้นุ่มนวล ลุยได้ไม่หวั่นทุกทาง เปิดประสบการณ์ใหม่ในเมืองที่คุ้นเคย ได้อย่างมั่นใจเหนือใคร
All New ADV160 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย รุ่น Standard สี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ (Mat Black), สีเทา (Grey) และสีแดง (Red) ราคาแนะนำที่ 99,900 บาท โดดเด่นกว่าใคร ด้วยอุปกรณ์ตกแต่งรอบคันในรุ่นพิเศษ H2C x KITACO Racing Soul Edition รถสีดำ(Mat Black) ตัวท่อไอเสีย จาก Kitaco ยกระดับความท้าทาย ออกไปค้นพบเส้นทางใหม่ๆ ให้โดดเด่นเหนือใคร สไตล์ SUV BIKE ที่ H2C ร่วมมือกับแบรนด์ KITACO ราคาแนะนำที่ 108,200 บาท
“ฮอนด้า มุ่งมั่นที่จะพัฒนารถจักรยานยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ และพร้อมที่จะส่งมอบสิ่งดี ๆ ให้กับคนไทย ทั้งผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพระดับโลก เพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่คนไทยมีต่อฮอนด้ามาโดยตลอดจนทำให้เราครองความเป็นหนึ่งในตลาด และเราเชื่อมั่นว่า 3 โมเดลใหม่ล่าสุดนี้จะครองใจผู้ใช้ชาวไทยทุกคนอีกเช่นกัน” มร.ชิเกโตะ กล่าวสรุป
ทั้งหมดนี้ พร้อมวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า fb.com/hondamotorcyclethailand

“มาร์เกซ” โชว์ฟอร์มเก๋า คว้าท็อปไฟว์ “โมโตจีพี ไทยแลนด์”

มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัยจาก เรปโซล ฮอนด้า โชว์ประสบการณ์ระดับมาสเตอร์ คว้าท็อปไฟว์ในศึก โมโตจีพี 2022 สนาม 17 รายการ โออาร์ ไทยแลน กรังด์ปรีซ์ หลังบิดฝ่าฝนเกาะกลุ่มไล่บี้หน้าอย่างสุดมันส์ เรียกเสียงเฮจากแฟนๆ ชาวไทยจน สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์ แทบแตก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ศึก โมโตจีพี 2022 สนาม 17 รายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยเกมต้องล่าช้าออกไปเนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ก่อนจะกลับมาแข่งขันกันได้อีกครั้ง เกมเรซนี้ มาร์ค มาร์เกซ นักบิดสแปนิชเจ้าของหมายเลข 93 จาก เรปโซล ฮอนด้า ได้ออกสตาร์ตจากกริดที่ 8 และสามารถขยับขึ้นมาเกาะในกลุ่มหน้าได้อย่างรวดเร็ว โดยช่วงท้ายเจ้าของแชมป์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2 สมัย ไต่ขึ้นมาได้ถึงอันดับ 4
โดยจบการแข่งขัน 25 รอบสนามท่ามกลางสายฝน มาร์เกซ บิดเข้าป้ายในอันดับ 5 ด้วยเวลา 41 นาที 47.461 วินาที ตามหลัง มิเกล โอลิเวียร่า ผู้ชนะเพียง 2.958 วินาทีเท่านั้น ส่วนน้องชายอย่าง อเล็กซ์ มาร์เกซ เจ้าของหมายเลข 73 จาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า ผลงานร้อนแรงไล่แซงคู่แข่งจากกริดที่ 20 ทะยานขึ้นมาจบเรซในอันดับ 8 ตามหลัง 18.461 วินาที
ตามด้วย โปล เอสปาร์กาโร นักบิดสแปนิชหมายเลข 44 จาก เรปโซล ฮอนด้า ในอันดับ 14 ตามหลัง 23.646 วินาที ด้าน เท็ตซูตะ นากาชิม่า นักบิดญี่ปุ่นหมายเลข 45 จาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า นำรถแข่งเข้าป้ายในอันดับ 22 ตามหลัง 51.346 วินาที ผ่านการแข่งขัน 17 สนาม มาร์ค มาร์เกซ ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 13 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 84 คะแนน ตามด้วย อเล็กซ์ มาร์เกซ ในอันดับ 16 มี 50 คะแนน ส่วน เอสปาร์กาโร รั้งอันดับ 17 มี 49 คะแนน ขณะที่ ทาคาอากิ นาคากามิ นักบิดญี่ปุ่นไม่ได้ลงแข่งสนามนี้เนื่องจากอาการบาดเจ็บ รั้งอันดับ 18 มีทั้งสิ้น 46 คะแนน
สำหรับการแข่งขัน โมโตจีพี สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 ตุลาคมนี้ ที่ สนาม ฟิลลิป ไอส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ในรายการ ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์
แฟนๆ ความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสาร “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ที่สร้างประวัติศาสตร์นักแข่งไทยคนแรกที่คว้าโพล โมโตทู ร่วมส่งกำลังใจเชียร์ยอดนักบิดไทย ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

สู้ใหม่! แฟนชาวไทยส่งกำลังใจ “ก้อง-สมเกียรติ” หลังฝนถล่มทำพลาดล้ม โมโตทู โฮมเรซ

“แฟนชาวไทย” ทั้งประเทศส่งแรงใจถึง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู​เดอะ ดรีม” หลังลงบิดโฮมเรซด้วยฟอร์มระดับโลก ขึ้นนำเดี่ยวก่อนโดนฝนถล่มหนักจนพลาดล้มอย่างน่าเสียดาย จากการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รุ่น โมโตทู รายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ศึก โมโตจีพี 2022 ระเบิดความมันส์สนาม 17 รายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์” ในประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีแฟนชาวไทยเรือนแสนคนเข้าสู่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้กำลังใจ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดฮีโร่ชาวไทยจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย
เกมเรซนี้นักบิดชาวไทยเจ้าของหมายเลข 35 มีลุ้นคว้าชัยชนะอย่างเต็มตัว หลังผงาดคว้าโพลมาครองได้เป็นครั้งแรก และสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักบิดไทยคนแรกที่คว้าโพลในระดับ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ เรียกเสียงเชียร์จากแฟนชาวไทยได้อย่างล้นหลาม
อย่างไรก็ดี จุดเปลี่ยนสำคัญของการแข่งขันเกิดขึ้นเมื่อฝนตกลงมาก่อนเริ่มเกม ส่งผลให้กรรมการประกาศให้เป็น “เว็ตเรซ” และลดจำนวนรอบลงเหลือ 16 รอบสนาม
สมเกียรติ ออกสตาร์ตได้อย่างยอดเยี่ยม ขยับขึ้นเป็นผู้นำได้ตั้งแต่โค้งแรก และค่อยๆ ยืดระยะห่างจากอันดับ 2 ออกไปเรื่อยๆ ขณะที่ฝนก็ทวีความหนักอย่างต่อเนื่อง จากนั้นในรอบที่ 2 นักบิดไทยพลาดล้มอย่างน่าเสียดาย หลังเหยียบเข้ากับไลน์ที่มีน้ำอยู่จำนวนมากในโค้ง 4
โดย สมเกียรติ พยายามอย่างหนักที่จะเอารถมาแข่งขันต่อให้ได้ แต่รถแข่งสตาร์ตไม่ติด ส่งผลให้ต้องออกจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย ขณะที่แฟนชาวไทยต่างส่งกำลังใจให้อย่างไม่ขาดสาย เพราะรู้ว่าหากไม่มีจุดเปลี่ยนดังกล่าวชัยชนะจะอยู่แค่เอื้อมเท่านั้น
สำหรับการแข่งขัน โมโตทู สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 ตุลาคมนี้ ที่ สนาม ฟิลลิป ไอส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ในรายการ ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์
แฟนๆ ความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสาร “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ที่สร้างประวัติศาสตร์นักแข่งไทยคนแรกที่คว้าโพล โมโตทู ร่วมส่งกำลังใจเชียร์ยอดนักบิดไทย ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

“เขมินท์” ตอกเรคคอร์ดดาวบิดไทยคว้าแต้มโฮมเรซ “กวาร์ตาราโร” ยังรั้งจ่าฝูง หลังผ่าน 17 สนาม โมโตจีพี

ศึกโมโตจีพี 2022 สนามที่ 17 รายการโออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2022 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 กันยายน-2 ตุลาคม ณ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
“เคเค” เขมินท์ คูโบะ #81 นักบิดไทยสังกัด ยามาฮ่า วีอาร์โฟร์ตี้ซิกซ์ มาสเตอร์ แคมป์ ทีม ตอกเรคคอร์ดนักบิดไทยคนแรกที่คว้าแต้มได้ในเกมโฮมเรซ หลังไล่บดนักแข่งกลุ่มหัวแถวท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำ ก่อนจะบิดคว้าอันดับ 9 เป็นนักบิดหนึ่งเดียวของนักแข่งไทยที่จบการแข่งขันในสนามโฮมเรซ
ส่วนเกมในรุ่นใหญ่อย่าง โมโตจีพี ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร #20 แชมป์โลกคนปัจจุบันสังกัด มอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี แม้จะไม่สามารถคว้าแต้มติดมือหลังบิดจบการแข่งขันในอันดับ 17 ทว่ายังคงมีคะแนนสะสมรั้งอยู่ในอันดับที่ 1 ขณะเหลือการแข่งขันอีก 3 สนามในฤดูกาลนี้ สร้างโอกาสลุ้นคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน
ส่วนเพื่อนร่วมสังกัดอย่าง ฟรังโก มอร์บิเดลลี #21 สามารถทำผลงานท่ามกลางสายฝนได้อย่างยอดเยี่ยม บิดจบการแข่งขันในอันดับ 13 คว้าแต้มให้กับตนเองได้สำเร็จ
สำหรับ ศึกโมโตจีพี 2022 จะเว้นวรรค 1 สัปดาห์ ก่อนจะยกพลไปดวลความเร็วสนามถัดไปที่ ฟิลลิป ไอส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย