“ก้อง-สมเกียรติ” ฝ่าฝนซิวกริดแถว 5 ลุ้นล่าแต้ม โมโตทู สนาม 9 วันอาทิตย์นี้

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” เจองานสุดท้าทายหลังฝ่าฝนคว้ากริดแถวที่ 5 ในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ สนาม 9 ที่ สหราชอาณาจักร เจ้าตัวหวังเก็บแต้มให้มากที่สุดกับงานหินในสุดสัปดาห์นี้ ที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต

โดยก่อนเริ่มต้นโปรแกรมในวันเสาร์ ปรากฏว่ามีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลให้เป็นงานยากสำหรับนักบิดทุกคน โดย “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยหมายเลข 35 จากสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ที่ผ่านเข้าสู่รอบ Q2 แบบอัตโนมัติ พยายามอย่างหนักในการล่ากริดกลุ่มหน้า ก่อนจะคว้าอันดับ 15 มาครองด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 19.316 วินาที และจะได้เริ่มเกมจากแถวที่ 5 ในการไล่ล่าแต้มในสุดสัปดาห์นี้

ส่วนผลการแข่งในรอบ “โมโตจีพี สปรินต์” ปรากฏว่า โจอัน เมียร์ นักบิดสแปนิชหมายเลข 36 จาก เรปโซล ฮอนด้า คัมแบ็กกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ก่อนจะคว้าอันดับ 17 ไปครอง ตามด้วยทีมเมทอย่าง มาร์ค มาร์เกซ เจ้าของหมายเลข 93 ในอันดับ 18 ขณะที่ ทาคาอากิ นาคากามิ นักบิดญี่ปุ่นหมายเลข 30 จาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า จบเรซในอันดับ 20 ตามด้วยทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อิเคร์ เลกัวน่า หมายเลข 27 ในอันดับ 22

ทั้งนี้ “ก้อง” สมเกียรติ มีคิวดวลความเร็ว โมโตทู รอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคมนี้ 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านั้นในเวลา 19.00 น. จะเป็นการแข่งขันในรุ่น โมโตจีพี ถ่ายทอดสดทาง PPTVHD36 และ True Visions SPOTV
แฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารของ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา พร้อมส่งกำลังใจเชียร์ยอดนักบิดไทยในศึก โมโตจีพี รุ่นโมโตทู ตลอดทั้งฤดูกาล 2023 และติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

“ยามาฮ่า” คอนเฟิร์ม “กวาร์ตาราโร” ฟิตเต็มถังมั่นใจฟอร์แม็ตช์ใหม่ปัจจัยช่วยรถแข่งลงตัว

“มอนสเตอร์ ยามาฮ่า” ยอดทีมในศึก โมโตจีพี เผยความพร้อมก่อนลุยศึก บริติช กรังด์ปรีซ์ ชี้ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร นักบิดเฟรนช์คัมแบ็กสู่ความฟิตสมบูรณ์จากอาการบาดเจ็บที่เท้า เชื่อรูปแบบใหม่ของสุดสัปดาห์การแข่งขัน จะช่วยให้หาความลงตัวของรถแข่งได้ดีขึ้นในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังศึก โมโตจีพี 2023 ได้ฤกษ์กลับมาดวลความเร็วครึ่งฤดูกาลหลังแล้ว โดยจะเดินทางไปที่ ซิลเวอร์สโตน สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 4-6 สิงหาคมนี้ ในรายการ บริติช กรังด์ปรีซ์ก่อนเข้าสู่ บริติช กรังด์ปรีซ์ ยอดทีมอย่าง มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ทีม ได้มีการยืนยันแยกทางกับ ฟรานโก มอร์บิเดลลี นักบิดอิตาเลียนหลังสิ้นฤดูกาลนี้ พร้อมกับเซ็นสัญญาดึงตัว อเล็กซ์ รินส์ นักบิดสแปนิชเข้าสู่ทีม เพื่อร่วมงานกับ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ในฤดูกาล 2024
มัสซิโม เมเรกัลลี ผู้อำนวยการ มอนสเตอร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี ทีม กล่าวว่า “ในที่สุดเราก็กลับมาจากซัมเมอร์เบรกที่ยาวนานแล้ว ฟาบิโอ หายจากอาการบาดเจ็บ ขณะที่ แฟรงกี้ จะใช้เวลาที่เหลือใน โมโตจีพี อย่างเต็มที่ ดังนั้นเราจะเริ่มต้นครึ่งฤดูกาลหลังด้วยแรงจูงใจ และความมุ่งมั่นมากกว่าเดิม เรายังเหลือ 12 เรซของปีนี้ในช่วง 4 เดือนที่เหลืออยู่ การปรับตัวเข้ากับรูปแบบใหม่ในวันศุกร์สำคัญมาก เราจะต้องทำงานให้ราบรื่นที่สุดและรักษามาตรฐานที่ดีเอาไว้จนถึงช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน”
กวาร์ตาราโร กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีมาก เพราะ 5 สัปดาห์ที่เบรกไปช่วยให้ผมฟื้นฟูสภาพร่างกายอย่างมากจากอาการบาดเจ็บที่เท้า ผมสามารถลุกขึ้นมาฝึกซ้อมได้หลังผ่านการพักไป 1 สัปดาห์ แน่นอนว่าการใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนช่วยเพิ่มพลัง ทำให้ผมเดินทางมาที่ สหราชอาณาจักรด้วยทิศทางที่ยอดเยี่ยม”
“ผมเฝ้ารอการแข่งขันที่ ซิลเวอร์สโตน โดยเฉพาะกับการที่จะได้เจอแฟนๆ อีกครั้งหลังซัมเมอร์เบรกที่ยาวนาน ซึ่งนอกเหนือจากนั้นคือรูปแบบของสุดสัปดาห์การแข่งขันที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ในการผ่านเข้าสู่ Q2 แต่สำหรับผมโดยรวมมันค่อนข้างโอเค ผมคิดว่ามันน่าจะง่ายกว่าที่ผ่านมา” กวาร์ตาราโร เผย
ด้าน มอร์บิเดลลี กล่าวว่า “ช่วงพักเบรกช่วยเพิ่มพลังให้ผมอย่างมาก เราเหลือ 12 สนามที่เหลือในปีนี้ และด้วยรูปแบบใหม่ของวันศุกร์จะทำให้เรามีโอกาสทดลองหลายอย่างมากขึ้น ผมคิดว่านั่นคือการเปลี่ยนแปลงที่สมบูรณ์แบบ แน่นอนว่าเราต้องการการเริ่มต้นที่สดใสในครึ่งฤดูกาลหลัง”
ศึก บริติช กรังด์ปรีซ์ จะเข้าโปรแกรมการซ้อมในวันศุกร์ที่ 4 สิงหาคมนี้ ก่อนควอลิฟายและดวลความเร็วรอบ “สปรินต์” ในวันเสาร์ที่ 5 สิงหาคมนี้ และแข่งขันรอบไฟนอลในวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคมนี้ 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง SPOTV และ PPTVHD36

“ชิพ-นครินทร์” คว้าที่นั่งร่วมทีม Honda Asia-Dream Racing with SHOWA บิด CBR1000RR-R ลงแข่งขัน Suzuka 8 Hours ครั้งที่ 44 ท้าทายลิมิตด้วยเรซในตำนาน

“ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ยอดนักบิดไทย สังกัดฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่เติบโตมากับโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” โดยก้าวขึ้นไปท้าทายจากระดับเอเชียไปสู่ระดับโลก ในการแข่งขัน รายการเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ในรุ่น โมโตทรี มาแล้ว ได้เตรียมพบกับความท้าทายใหม่ เมื่อได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมทีม Honda Asia-Dream Racing with SHOWA ลงทำการแข่งขันศึกสองล้อในตำนานอย่าง Suzuka 8 Hours ครั้งที่ 44 ที่สนามซูซูกะ ประเทศญี่ปุ่น

Honda Asia-Dream Racing with SHOWA จะลงสนามด้วยยอดตัวแข่งที่เป็นตัวท็อปของ CBR Series อย่าง CBR1000RR-R FIREBLADE SP ซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์โลกของการแข่งขัน FIM Endurance World Championship โดยที่ “ชิพ-นครินทร์” จะลงทำหน้าที่ร่วมกับทีมเมทคือ โมฮัมหมัด ซัควาน ไซดี้ นักบิดมาเลเซีย และ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ นักบิดอินโดนีเซีย เป็นการรวมพลังยอดนักบิดเอเชียของฮอนด้าในการแข่งขันรายการสุดโหดครั้งนี้ ซึ่งจะใช้เบอร์ประจำทีมคือหมายเลข 88
การแข่งขันรายการ Suzuka 8 Hours ถูกบรรจุอยู่ในตารางการแข่งขันของรายการ FIM Endurance World Championship 2023 สนามที่ 3 ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยแข่งกัน 8 ชั่วโมงเต็มด้วยรถแข่ง 1 คันและนักแข่ง 3 คนในทีม ชัยชนะจึงไม่ได้เป็นการขับขี่ในสนามที่เร็วที่สุดเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับการทำงานของทุกคนในทีม การทำงานร่วมกันของนักแข่ง เพราะตลอด 8 ชั่วโมงนี้จะมีการเปลี่ยนตัวนักแข่ง เติมน้ำมัน เปลี่ยนยาง ทุกขั้นตอนของการเข้าพิทนั้นต้องใช้เวลาน้อยที่สุด เมื่อครบ 8 ชั่วโมงผู้ชนะคือผู้ที่ทำระยะทางได้มากที่สุด
การแข่งขัน Suzuka 8 Hours ยังมีความพิเศษที่นักบิดในรายการระดับโลกอย่างโมโตจีพี หรือ รายการ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ รวมถึงทีมโรงงานต่างๆ ฟอร์มทีมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งการที่ “ชิพ-นครินทร์” นักบิดของไทยได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนักบิดไทยและผลงานจากการลงสนามแข่งขันภายใต้สังกัด “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ เป้าหมายของ Honda Asia-Dream Racing with SHOWA ในการแข่งขัน Suzuka 8 Hours ปีนี้ตั้งเอาไว้ที่ ท็อป 10 หลังจากที่เมื่อฤดูกาลที่แล้วจบอันดับที่ 11 โดยเป็นการตั้งเป้าหมายที่ท้าทายขีดจำกัดของนักแข่งและทีมขึ้นไปอีกระดับ ซึ่ง “ชิพ-นครินทร์” นักบิดไทยจะร่วมเป็นคีย์แมนสำคัญหนึ่งในทีม
สำหรับ “ชิพ-นครินทร์” ปัจจุบันสร้างผลงานอันสุดแข่งแกร่งในรายการระดับท็อปของประเทศไทยและเอเชียกับยอดตัวแข่ง Honda CBR Series ด้วยการคว้าชัยชนะและนำจ่าฝูงในตารางคะแนนสะสมรุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี รายการ OR BRIC Superbike 2023 กับตัวแข่ง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 41 พร้อมลงแข่งขันและทำผลงานรั้งกลุ่มนำลุ้นโพเดียมอย่างต่อเนื่องในการแข่งขัน Asia Road Racing Championship 2023 รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS600) กับตัวแข่ง Honda CBR600RR
ทั้งนี้ ศึกทรหดในตำนาน การแข่งขันรายการระดับนานาชาติอย่าง Suzuka 8 Hours ครั้งที่ 44 จะลงทำการแข่งขันในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ที่สนามซูซูกะ ประเทศญี่ปุ่น

CL Reflection Trip “ทริปสะท้อนตัวตน

Honda CL500 รถสไตล์ Scrambler ที่มาพร้อมคอนเซปต์ A Reflection of You ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนแอคทีฟ ที่รักการท่องเที่ยว ชื่นชอบการผจญภัยดีไซน์ลงตัวกับความคลาสสิค ไฟหน้าทรงกลม ควบคุมรถดั่งใจด้วยแฮนเดิลบาร์ยกสูง ออกแบบองศาให้รับกับท่านั่ง พร้อมเบาะสไตล์ Scrambler นั่งสบายไปได้ทุกสภาพเส้นทาง ถังน้ำมัน ขนาด 12 ลิตร พร้อม Rubber Pad ด้านข้างให้ความกระชับ รับกับเบาะที่หนานุ่ม และมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 500 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ อัดแน่นด้วยระบบการช่วยให้การขับขี่มั่นใจ และปลอดภัย
โช้คอัพหน้าเทเลสโคปิก ขนาดแกน 41 มม. ระยะยุบ 150 มม. พร้อมยางหุ้มแกนโช้คป้องกันสิ่งสกปรกในการลุยทางใน ด้านระบบเบรก ใช้ดิสก์เบรกเดี่ยว พร้อมปั้มเบรก 2 พอร์ต ของ Nissin และระบบ ABS ตัวล้อหน้า ใช้ล้อแม็กอัลลอยขนาด 19 นิ้ว ล้อหลัง 17 นิ้ว ท่อไอเสียเดินแบบยกสูงขนาบด้านข้าง ตามสไตล์ของ Scrambler
เข้าสู่การเดินทาง CL Reflection Trip ทริปสะท้อนตัวตน การขับขี่กับเส้นทางธรรมชาติบริเวณเขาใหญ่ (วังน้ำเขียว) เส้นทางมีโค้งให้เล่นลองพลิกเลี้ยวคอนโทรลดชว์ความคล่องตัว สัมผัสได้ถึงสมรรถนะของช่วงล่างมันตอบสนองได้ดี ด้วยตัวเบาะนั่งแบบตอนเดียววางยาวที่ให้สัมผัสความนุ่มได้ดีมาก ซึ่งรับกับตัวแฮนด์บาร์ทรงกว้างแบบยกสูงได้อย่างพอดี ไม่ว่าคุณจะมุดลัดเลาะไปกับการขับขี่ภายในเมืองใหญ่ หรือการเดินทางออกท่องเที่ยวต่างจังหวัดคุณจะสามารถบังคับเลี้ยว และควบคุมรถคันนี้ได้อย่างมั่นใจ
พละกำลังเครื่องยนต์แบบ 2 สูบเรียง 500 ซีซี. จัดได้ว่าเพียงพอทั้งต่อการใช้ ตัวเครื่องยนต์มีกำลัง และรอบคันเร่งให้ใช้ในทุกจังหวะ จะออกตัว หรือเร่งแซง มีทอร์คให้ได้เล่นพร้อมทะยานไปข้างหน้า บิดกระชากด้วยรอบ 6000 รอบ/นาที มีหน้าลอยเหมือนกัน หรืออยากขับขี่แบบชิวๆ ก็ให้ความสมูทลื่นไหล
ดิสก์เบรกที่ให้มาพร้อมระบบ ABS ทั้งหน้าและหลัง ตอบสนองสั่งการได้รวดเร็วตามสไตล์ของ Honda ชลอหยุดด้วยระยะที่ไม่ไกล จังหวะฉุกเฉินกดเต็มๆ ก็เอาอยู่ล้อไม่มีล็อก ด้วยระบบ ABS โช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิค พร้อม และด้านหลังเป็นแบบสปริงคู่ที่สามารถปรับได้ถึง 5 ระดับ เป็นการรองรับการขับขี่ บางเส้นทางมีหลุมมีบ่อ ช่วงล่างที่มีความนุ่มและหนึบรูดผ่านได้สบาย มันตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม
ล้อแม็กที่ถูกรัดมาด้วยตัวยางแบบกึ่ง มีร่องดอกยาง ทำให้พามันลงไปลุยในเส้นทางออฟโรดได้ แต่ไม่ถึงกับวิบากจนเกินไป นั่นจุดเด่นที่ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวสนุกขึ้น เพราะในบางครั้งในการเดินทางอาจจะเจอกันเสนทางที่คาดมาถึง หรืออยากจะลงไปขี่ลุยเพื่อแอคชั่นถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนๆ ก็ได้

“ราซกัตลิโอกลู” ไล่บดกลุ่มหัวแถว คว้าดับเบิลโพเดียม “เช็ก ราวนด์”

โทปรัค ราซกัตลิโอกลู ดาวบิดสังกัดพาต้า ยามาฮ่า โพรมิทิออน เวิลด์เอสบีเค ยังคงขับเคี่ยวในกลุ่มหัวขบวนได้อย่างเข้มข้น ก่อนจะบิดคว้าดับเบิลโพเดียม จากการชิงชัยในสนาม 8 ศึกเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ 2023 ที่ ออโตโดรม โมสต์ บวกแต้มรั้งรองจ่าฝูงบนตารางแชมเปียนชิพศึกซูเปอร์ไบค์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ 2023 สนามที่ 8 ของฤดูกาล ดวลความเร็วระหว่างวันที่ 28-30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ ออโตโดรม โมสต์ สาธารณรัฐเช็ก ระยะทางต่อรอบ 4.219 กิโลเมตร ชิงชัยทั้งสิ้น 3 เรซ ในรายการอาเซอร์บิส เช็ก ราวนด์ โดย โทปรัค ราซกัตลิโอกลู ดาวบิดสังกัดพาต้า ยามาฮ่า โพรมิทิออน เวิลด์เอสบีเค คว้าโพลเป็นสนามที่ 2 ติดต่อกัน
และยังคงเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมของ ดาวบิดเติร์กดีกรีแชมป์โลก ที่ไล่บดกับนักบิดในกลุ่มหัวแถวเพื่อชิงตำแหน่งสูงสุดบนโพเดียม และบิดเข้าเส้นชัยอันดับ 2 จากการชิงชัยในเรซแรก ทั้งยังรักษาฟอร์มอันยอดเยี่ยมของตนเองไว้ได้ในเกมซูเปอร์โพลเรซ สามารถยกระดับผลงานซิ่งคว้าแชมป์มาครอง ก่อนจะพลาดท่าล้มในเรซที่ 2
ด้าน อันเดรีย โลคาเทลลี่ เพื่อนร่วมสังกัด พาต้า ยามาฮ่า โพรมิทิออน เวิลด์เอสบีเค ทำได้ดีที่สุดด้วยการซิ่งคว้าอันดับ 6 จากการชิงชัยในเรซแรก ทว่าพลาดท่าล้มในรอบซูเปอร์โพลเรซ ก่อนจะส่งท้ายเกมที่ สาธารณรัฐเช็ก ด้วยการซิ่งจบการแข่งขันในอันดับ 7
จากผลการแข่งขันดังกล่าวส่งผลให้ โทปรัค ราซกัตลิโอกลู ยังรั้งรองจ่าฝูงบนตารางแชมเปียนชิพ หลังเก็บไปได้ทั้งสิ้น 353 คะแนน ตามด้วย อันเดรีย โลคาเทลลี่ ในอันดับ 3 มีทั้งสิ้น 251 คะแนน ก่อนลงทำการแข่งขันสนามถัดไปในวันที่ 8-10 กันยายน ณ เซอร์กิต เดอ เนแวร์ส แมกนีย์-คูร์ส ประเทศฝรั่งเศส

“ตี-อนุภาพ” ฮึดสู้! คว้าท็อป 8 เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต สาธารณรัฐเช็ก

“ตี” อนุภาพ ซามูล ยอดนักบิดไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม สวมบทนักสู้ในศึก เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต แชมเปียนชิพ 2023 สนาม 8 เรซที่ 2 พลาดล้มแต่ฮึดยกรถขึ้นมาลุยต่อ ก่อนไล่แซงบิดคว้าท็อป 8 อย่างดุเดือดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ สาธารณรัฐเช็ก โดยนับเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเขาเองในฤดูกาลนี้

ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รายการ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2023 สนาม 8 ดวลความเร็วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ ออโตโดรม โมสต์ สาธารณรัฐเช็ก โดยในรุ่น เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต เวิลด์ แชมเปียนชิพ ซึ่ง “ทีมไทย” อย่าง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม เข้าร่วมการแข่งขันเป็นฤดูกาลแรกเกมสนามนี้ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ยังคงต้องใช้บริการ แอนดี้ เวอร์ดัว นักบิดเฟรนช์ลงทำหน้าที่ร่วมกับ “ตี” อนุภาพ ซามูล เช่นเคย เนื่องจาก “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ยังไม่กลับมาสมบูรณ์เต็มร้อยหลังผ่าตัดอาร์มปั๊ม
ไฮไลต์ของสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ในเรซ 2 ซึ่งดวลกันเมื่อวันอาทิตย์ ภายใต้สภาพอากาศแปรปรวน โดย “ตี” อนุภาพ สามารถขยับขึ้นมาเป็นผู้นำได้ก่อนพลาดล้ม แต่สวมบทนักสู้ยกรถแข่ง YZF-R6 คู่ใจหมายเลข 51 ขึ้นมาบิดเข้าป้ายในอันดับ 8 ได้สำเร็จตามหลัง ทาร์ราน แม็คเคนซี นักบิดสหราชอาณาจักรผู้ชนะ 1 นาที 27.822 วินาที นับเป็นการปลดล็อกขยับขึ้นมาทำผลงานที่ดีที่สุดของตนเองในฤดูกาลแรกกับเกมระดับโลก ด้าน แอนดี้ เข้าป้ายอันดับ 17ผ่านการแข่งขัน 8 สนาม อนุภาพ รั้งอันดับ 21 บนตารางแชมเปียนชิพ ซูเปอร์สปอร์ต เวิลด์ แชมเปียนชิพ เก็บไปทั้งสิ้น 22 คะแนน ขณะที่ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม รั้งอันดับ 16 บนตารางคะแนนสะสมประเภททีม มีทั้งสิ้น 41 คะแนน
ทั้งนี้ศึก เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต แชมเปียนชิพ 2023 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 กันยายนนี้ ที่ สนาม แม็กนีย์-คูร์ส ประเทศฝรั่งเศส แฟนชาวไทยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ได้ที่ Facebook. : Yamaha Thailand Racing Team

‘Let’s มันส์ One Day by ADV160’ ขับขี่ตะลุยรอบเมืองขอนแก่น

ฮอนด้า จัดกิจกรรมให้กับลูกค้าชาวขอนแก่น กับกิจกรรม ‘Let’s มันส์ One Day by ADV160’ พาลูกค้าขับขี่รถจักรยานยนต์ All New ADV160 ตะลุยรอบจังหวัดขอนแก่น เป็นการรวมตัวของเหล่าคอมมิวนิตี้กลุ่มคนขับขี่จักรยานยนต์ SUV Bike เพื่อร่วมกิจกรรมขับขี่บนเส้นทาง Mini Adventure รอบจังหวัดขอนแก่น โดยมีผู้สนใจนำรถจักรยานยนต์เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดกว่า 40 คัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับไฮไลต์กิจกรรมในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทดสอบสมรรถนะการขับขี่รถจักรยานยนต์ Honda ADV160 และทดสอบการใช้งานของเครื่องยนต์ eSP+ อย่างเต็มประสิทธิภาพ ขับขี่ทั้งเส้นทางในเมือง และนอกเมือง ตะลุยเส้นทางดินสุดมันส์ที่บ้านนอกคอกควาย และขับขี่ไปยังเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งเป็นสถานที่แลนด์มาร์คที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่น และปิดกิจกรรมด้วยการร่วมรับประทานอาหารเย็นพร้อมมอบของรางวัลจากทางฮอนด้า ซึ่งกิจกรรมนี้รวมทั้งความมันส์ และความสนุก มอบประสบการณ์ที่พิเศษให้กับลูกค้าพร้อมกับได้ลุยไปกับ Honda All New ADV160

ฮอนด้า ไม่หยุดส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ผู้ที่สนใจต้องการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งต่อไป ติดตามรายละเอียดได้ที่ Honda Wing Center ทุกสาขา

ฮอนด้าผงาดคว้าโพเดียมเหมาชัยชนะ TrialGP อิตาลี ปักหลักต่อเนื่องแชมป์ 6 เรซ ครองจ่าฝูงตารางคะแนนชิงแชมป์โลก

การแข่งขัน TrialGP World Championship 2023 สนามที่ 6 ประเทศอิตาลี “โทนี่ โบ” นักบิดสแปนิช สังกัด เรปโซล ฮอนด้า ระเบิดฟอร์มสุดแกร่งด้วยการเหมาชัยชนะทั้ง 2 เรซ ขณะที่ “กาเบียล มาเซลลี่” ทีมเมท ทำผลงานคว้าอันดับ 2 ในเรซที่ 2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

การแข่งขันเรซที่ 1 เมื่อวันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา “โทนี่ โบ” เริ่มต้นได้อย่างดีบวกกับการเตรียมรถแข่งที่สมบูรณ์ของฮอนด้า ส่ง “โทนี่ โบ”คว้าชัยชนะอีกครั้งโดยเป็นการชนะเรซที่ 5 ติดต่อกันของยอดนักบิดสแปนิช ทางด้านของ “กาเบียล มาเซลลี่” แม้จะเริ่มต้นวันได้ไม่ดีนัก แต่พยายามทำผลงานในช่วงหลังของเรซคว้าอันดับที่ 5 มาครอง

การแข่งขันเรซที่ 2 ดวลกันต่อในวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม “โทนี่ โบ” ยังคงสร้างผลงานสุดยอดเยี่ยมด้วยการคว้าแชมป์และเป็นผู้ชนะติดต่อกันเป็นเรซที่ 6 ขณะที่ “กาเบียล มาเซลลี่” ทีมเมท ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันตามมาด้วยการคว้าอันดับที่ 2 ในเรซนี้

จบการแข่งขันสนามนี้ “โทนี่ โบ” รั้งอันดับผู้นำในตารางคะแนนสะสมอย่างเหนียวแน่นมีแต้ม 231 คะแนน ทางด้านของ “กาเบียล มาเซลลี่” รั้งอันดับที่ 3 ของตารางคะแนน มี 161 คะแนน
ทั้งนี้ หลังการแข่งขันสนามนี้ TrialGP จะเข้าสู่ช่วงเบรกระหว่างฤดูกาล ก่อนที่จะกลับมาแข่งขันกันอีกครั้งตามโปรแกรม สนามที่ 7 ระหว่างวันที่ 1 – 3 กันยายนนี้ ที่ประเทศฝรั่งเศส

 

ยามาฮ่าส่งทัพกิเลนผยองจูเนียร์ลุยศึกฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ศึก IWATA U-12 International Football Championship 2023 ที่ประเทศญี่ปุ่น

นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร นางสาวบัวทิพย์ จันทร์ดำรงกุล รองผู้จัดการใหญ่ด้านวางแผนการค้าและการตลาด นายพลัฏฐ์ ประวีร์ชานนท์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดกลุ่มรถสปอร์ตและกลุ่มรถครอบครัว บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ถ่ายภาพร่วมกับทัพนักเตะสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ที่เดินทางไปร่วมทำการแข่งขันฟุตบอลรายการ IWATA U-12 International Football Championship 2023 ร่วมกับ 9 ทีมเยาวชนชั้นนำจากลีกญี่ปุ่น และ 1 ทีมจากประเทศเกาหลีใต้ โดยในการแข่งขันในครั้งนี้ได้รับการผลักดันจาก บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น

ซึ่งเป็นเจ้าของสโมสรจูบิโล อิวาตะ ทีมดังของลีกประเทศญี่ปุ่น และสมาคมฟุตบอลเมืองชิซูโอกะ มีความมุ่งเน้นในการพัฒนาเยาวชนด้วยกีฬาฟุตบอลโดยจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 โดยมีทีมดังเข้าร่วมชิงชัยทั้งหมด 12 ทีม แบ่งเป็น สายเอ

ประกอบด้วย สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด, สโมสร จูบิโล อิวาตะ, อุราวะ เรดไดมอนส์, สโมสรฟาเจียโน่ โอกายามะ, สโมสรซูวอน ซัมซุง, ชิซูโอกะ ทีซี และสายบีประกอบด้วย สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, สโมสรโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส, สโมสรนาโกย่า แกรมปัส, สโมสรชิมิซึ เอส-พัลซ์, สโมสร โตเกียว ทีซี และสโมสรชิซูโอกะ เวสท์ ทีซี

สำหรับการแข่งขันรายการ IWATA U-12 International Football Championship 2023 จะมีการแข่งขันระหว่างวันที่ 27-30 กรกฎาคม 2566 ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยยามาฮ่าได้เดินทางมาร่วมส่งทัพกิเลนผยอง จูเนียร์ ไปทำการแข่งขันเพื่อพัฒนา และสร้างประสบการณ์ในการแข่งขันระดับนานาชาติให้กับนักเตะเยาวชน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเร็วๆ นี้

“ก้อง-สมเกียรติ” ส่งต่อแรงบันดาลใจสู่นักบิดรุ่นเยาว์ “ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์” ต่อยอดฝันนักบิดไทย สู่ “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์”

การมี “ไอดอล” ที่ประสบความสำเร็จนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับเยาวชนที่ต้องการต้นแบบในการก้าวไปสู่ความสำเร็จ และการได้พบกับ “ไอดอล” ที่มาสร้างแรงบันดาลใจถึงสนามแข่ง ยิ่งเติมเต็มแรงจูงใจและไฟฝันให้กับเด็กๆ เหล่านี้มากขึ้นไปอีก

ล่าสุดในการแข่งขัน “ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์” สนามที่ 4 ของฤดูปี 2023 “ก้อง” สมเกียรติ ได้เดินทางเข้าร่วมงาน ให้กำลังใจและคำแนะนำเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักบิดเยาวชนทั้ง 16 คน ในรุ่นที่ 5 ซึ่งมีขึ้นที่สนามโกคาร์ท ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดขวัญใจชาวไทยโลดแล่นอยู่ในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลที่ 5 ของตนเอง ภายใต้ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมและแข็งแกร่งอย่างมาก นั่นคือผลจากการ “พัฒนาตัวเอง” อย่างไม่หยุดยั้ง ยอดนักบิดไทยวัย 24 ปี ยืนอยู่บนยอดพีระมิดของโมเดล “เรซ ทู เดอะ ดรีม” โครงการปั้นนักบิดสู่ “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์” ของ ฮอนด้า ซึ่งเป้าหมายคือผลักดันให้มีนักบิดไทยก้าวขึ้นไปแข่งขัน “โมโตจีพี” ภายในปี 2025 ฮอนด้า สานต่อโครงการพัฒนานักกีฬาสายมอเตอร์สปอร์ตของพวกเขามากกว่า 30 ปี และโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ถือเป็นการพลิกโฉม “เรซซิ่ง อะคาเดมี่” ในระดับอาเซียนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยฮอนด้าวางรากฐานให้แก่เยาวชนอย่างมีแบบแผน ซึ่งเริ่มต้นจาก “ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์” ซึ่งปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 เพื่อผลิตนักบิดเยาวชนไทย “รุ่นต่อรุ่น” ด้วยรูปแบบสถาบันฝึกสอนสำหรับการแข่งขันที่มุ่งไปสู่ “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์” อย่างแท้จริง”ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์” ถูกก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 2017 นับตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมา พวกเขาปั้นนักบิดดาวรุ่งหลายรายของประเทศให้ก้าวขึ้นมาเป็นนักบิดในสังกัด “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ลงแข่งขันทั้งในระดับประเทศ และนานาชาติ
โดยเป็น “เรซซิ่ง อะคาเดมี่” รายแรกในประเทศไทยที่ริเริ่มโครงการคัดเลือกเยาวชนอายุ 9-14 ปี ด้วยการใช้ “เรซแมชชีน” อย่าง NSF100 ซึ่งมีต้นแบบมาจากรถแข่งโมโตทรี พร้อมกับชุดแข่งที่มีแอร์แบคเพื่อความปลอดภัยตามกฎข้อบังคับสำหรับรายการแข่งภายใต้การรับรองของ FIM (สำหรับนักบิดอายุต่ำกว่า 18 ปี) และมอบประสบการณ์ในสนามจริงที่ปรับเปลี่ยนหมุนเวียนฝึกสอนให้เยาวชนในรูปแบบต่างๆ
การฝึกสอนโดยเฮดโค้ชมืออาชีพระดับตำนาน “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์” อย่าง “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักบิดโมโตทูชาวไทย ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์กว่า 30 ปีที่โลดแล่นในสังเวียนความเร็วสู่รุ่นน้อง รวมถึงโค้ชสุดแกร่งอย่าง “ดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง คอยเสริมทักษะด้านต่างๆ พร้อมทัพนักบิดสังกัด ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ชุดปัจจุบันในทุกรายการมาฝึกสอนถ่ายทอดความรู้อย่างใกล้ชิด อาทิ “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช, “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์, “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์, “นิว” ปัณณสรณ์ แก้วสนธิ ฯ
ขณะที่ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ที่ได้เดินทางไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์” เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจและมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับเด็กๆ ตอกย้ำแนวทางการพัฒนาตัวเองของเขาส่งต่อไปยังนักบิดรุ่นน้อง
“ผมเริ่มสนใจมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เคยขี่เล่นบนตามท้องถนน ซึ่งรู้สึกว่าค่อนข้างอันตรายมาก เมื่อได้ผันตัวเข้ามาอยู่ในสนาม เราสัมผัสถึงความปลอดภัย เพราะทุกอย่างมีมาตรฐาน ทุกคนคอยสนับสนุน มันเริ่มตั้งแต่ตรงนั้นจนถึงทุกวันนี้
ผมอยากเชิญชวนน้องๆ ทุกคนที่มีความฝัน พยายามเดินตามความฝันของเรา ว่าเราชอบอะไร ก็ให้มีวินัยกับมัน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การฝึกซ้อม และพัฒนาทักษะการขับขี่ในสนาม สำหรับนักแข่งรถอาชีพนั้น ร่างกายสำคัญมากๆ รวมถึงสมองและจิตใจของเรา ต้องสัมพันธ์กันหมด เราต้องคิดตลอดว่ายังขาดตรงไหน เราต้องมีเพิ่มตรงไหน เพื่อลบทุกจุดบกพร่องของตัวเองในสนามแข่ง อย่าจำกัดความท้าทาย และท้าทายขีดจำกัดของตัวเองอยู่เสมอ เราต้องพัฒนาตนเอง อย่าหยุดในขณะที่คนอื่นไม่หยุด นั่นคือสิ่งที่ผมยึดถือมาตลอด” สมเกียรติ ฝากข้อความถึงน้องๆ
ปัจจุบัน “ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์” สร้างนักแข่งหลายคนขึ้นสู่สังเวียนการแข่งขันระดับนานาชาติ อาทิ “จิมมี่” บูรพา วันมูล ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่การแข่งขันดาวรุ่งชิงแชมป์เอเชียอย่าง เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2023 และสร้างเสริมประสบการณ์ในศึก ออล เจแปน โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2023
ยังมีเพชรเม็ดงามอย่าง “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร ซึ่งเป็นอีกคนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2023 และลงแข่งขันในศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2023 ร่วมกับทีมเมทดาวรุ่งของทีมอย่าง “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว
กลไกการพัฒนาถือว่ามีความสำคัญ แต่ “แรงบันดาลใจ” ก็สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือสิ่งที่ “ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์” ใช้ส่งต่อจาก “รุ่นสู่รุ่น” และเป็นสิ่งที่ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา พร้อมเสมอที่จะมอบให้กับน้องๆ นักแข่งเยาวชนเหล่านี้ เพื่อล่าความฝันในโลกของมอเตอร์สปอร์ต เช่นเดียวกับที่เขากำลังไล่ล่าความสำเร็จอยู่ขณะนี้
ร่วมลุ้นและให้กำลังใจ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ตลอดฤดูกาล 2023 พร้อมติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” และ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน” รวมถึงส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าทุกคนได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม: www.facebook.com/HondaRacingTeamTH
สำหรับน้องๆ ที่ต้องการจะคว้าฝัน สนใจจะก้าวเข้ามาสู่วงการ Motorsport เพื่อจะเป็นนักแข่งระดับโลก สามารถดูข้อมูลโครงการ ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์ ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ: https://www.facebook.com/HondaAcademyThailand

ยามาฮ่าระเบิดศึกฟุตบอลกระชับมิตรสานสัมพันธ์กลุ่มบริษัทเช่าซื้อครั้งที่ 2

นายภาณุพล กิตติคำรณ รองผู้จัดการใหญ่ด้านการขายและการตลาด พร้อมด้วย นายจารุวัฒน์ มาลาพงษ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายเช่าซื้อและขายโครงการ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ให้เกียรติร่วมกิจกรรมฟุตบอลสานสัมพันธ์ระหว่างไทยยามาฮ่าและกลุ่มบริษัทเช่าซื้อ 7 บริษัท ณ สนามฟุตบอลระดับท็อปของไทยลีก ครั้งที่ 2 ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสานความสัมพันธ์ เพิ่มความสามัคคี ระหว่าง ไทยยามาฮ่าและบริษัทเช่าซื้อ โดยกิจกรรมครั้งนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากบริษัทเช่าซื้อทั้ง 7 บริษัท ได้แก่ บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด, บริษัท เอส ลีสซิ่ง จำกัด, บริษัท ฐิติกร จำกัด, บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด, บริษัท ไฮเวย์ จำกัด, บริษัท คาเธ่ย์ จำกัด และบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ลีส จำกัด

สำหรับกิจกรรมฟุตบอลกระชับมิตรสานสัมพันธ์กลุ่มบริษัทเช่าซื้อ ครั้งที่ 2 นี้ บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด สามารถคว้าแชมป์ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยในกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความสนใจและมีผู้เข้าร่วมในกิจกรรมมากกว่า 700 คน ณ สนามฟุตบอลสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อเร็วๆ

XMAX Connected ตอกย้ำบทบาทพรีเมียมสปอร์ตออโตเมติก 300 ซีซี

XMAX Connected ตอกย้ำบทบาทพรีเมียมสปอร์ตออโตเมติก 300 ซีซี. ยกระดับการใช้งานด้วยเทคโนโลยี Y-Connect และ Garmin Navigation System​ การันตีคุณภาพยอดขายอันดับ 1 ของโลก

ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ สานต่อความสำเร็จของพรีเมียมสปอร์ตออโตเมติกยอดขายอันดับ 1 ของโลก กับ YAMAHA XMAX Connected ภายใต้ขุมพลัง 300 ซีซี. โด่ดเด่นเร้าใจด้วยดีไซน์ MAX DNA X Motif Full LED มาพร้อมไฟหน้า ไฟท้ายดีไซน์โฉบเฉี่ยวสไตล์ X พร้อมหลอด LED เต็มออปชั่นรอบคัน
Frame Motif แฟริ่งรูปบูมเมอแรง แข็งแรงตามแบบฉบับ MAX Series แฟริ่งสปอร์ตดุดัน ควบคุมคล่องตัว ชิลด์หน้าดีไซน์ใหม่เสริมความพรีเมียม สามารถปรับได้ 2 ระดับลดแรงลมปะทะได้ดี
เติมเต็มความมั่นใจและปลอดภัยด้วย TCS ปรับสมดุลความเร็วของล้อหน้า และล้อหลังให้ทำงานสัมพันธ์กัน ด้วยเซนเซอร์ควบคุมป้องกันล้อหลังหมนุฟรี ไม่สูญเสียการควบคุมรถ พร้อมระบบเบรก ABS ทั้งล้อหน้า และล้อหลังป้องกันล้อล็อก เพิ่มความปลอดภัยเมื่อเบรกกะทันหัน
Extra MAX Function ตอบโจทย์การใช้งานเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ ด้วย Smart Key System จุดสวิตช์กุญแจควบคุมสั่งการทุกจุดรอบคัน เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี​ Y-Connected Application เพื่อความสะดวก เชื่อมข้อมูลรถส่งตรงยังสมาร์ทโฟน กับ 11 ฟังก์ชั่นสุดล้ำ
ล้ำหน้าเหนือใครกับหน้าจอแสดงผลแบบ 2 หน้าจอ บนจอสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว และ Digital LCD 3.2 นิ้ว แสดงครบทุกข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลรถ และการขับขี่ การแสดงสายเรียกเข้า และข้อความ SMS เชื่อมต่อแสดงผลการเล่นเพลงจากสมาร์ทโฟน แสดงสภาพอากาศ และเวลา
พิเศษล้ำเหนือใครกับ Garmin StreetCross แสดงระบบนำทางที่แม่นยำ พร้อมการค้นหาสถานที่ที่กำหนด โดยไม่เสียค่าบริการ พร้อมข้อมูลแบบเรียลไทม์ แสดงเส้นทาง และเส้นทางเลี่ยงที่เป็นไปได้ รวมถึงเวลาในการเดินทางโดยประมาณ แจ้งสภาพอากาศจุดหมายปลายทาง และแจ้งเตือนเส้นทางที่อาจจะไม่ปลอดภัย เช่น โค้งหักศอก ทางจำกัดความเร็ว และทางวิ่งผ่านสถานศึกษา