
“ไอเดีย” กฤตภัทร คว้าแชมป์ AP250 Race 2 Motegi

“ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” พาทีมนักบิดไทยพัฒนาฝีมือผ่านอุปสรรคได้อย่างยอดเยี่ยม ในการแข่งขันเรซที่ 1 รุ่นท็อปสุดของรายการ เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (ASB1000) “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ หมายเลข 41 บิด Honda CBR1000RR-R ครองหัวแถวตั้งแต่เริ่มสตาร์ตในอันดับที่ 5 รับมือกับการบุกอย่างหนักของนักแข่งเจ้าถิ่นที่มีความถนัดสนามมากกว่า สามารถขึ้นมารั้งกลุ่มนำได้ทันทีขยับขึ้นมารั้งอันดับที่ 1 อย่างไรก็ดีช่วง 3 รอบสุดท้ายเสียโอกาสลุ้นชัยชนะจากอุบัติเหตุที่สูญเสียการควบคุมรถหลุดออกจากสนาม แต่ “ชิพ-นครินทร์” ฮึดสู้ยกรถแข่งขึ้นมาเก็บคะแนนสะสมเพื่อลุ้นแชมป์ประจำปี ก่อนเข้าเส้นชัยมาในอันดับที่ 12
ขณะที่ รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS600) นักบิดสายเลือดใหม่ บิด Honda CBR600RR ลงต่อสู้กวาดคะแนนสะสมได้ครบทั้ง 3 คัน นำทีมโดย “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว หมายเลข 31 เริ่มสตาร์ตกริดที่ 12 พยายามขึ้นมาต่อสู้ในกลุ่มหน้าในช่วงต้นเกม สามารถคว้าท็อป 10 มาครอง โดยมี “ไฮเปค” กฤษฎา ธนะโชติ หมายเลข 18 ออกสตาร์ตที่ 14 แซงคู่แข่งเข้ามาเป็นอันดับที่ 11 และ “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร หมายเลข 20 ออกสตาร์ตที่ 15 เข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับที่ 14 เก็บประสบการณ์พร้อมคะแนนสะสมจากเรซนี้ได้ทั้ง 3 คัน
ทั้งนี้ การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเรซที่ 2 ของรายการ FIM Asia Road Racing Championship 2025 สนามที่ 3 จะดวลความเร็วกันต่อในวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2568 นี้ ที่สนามโมบิลิตี้ รีสอร์ต โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น ถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊ https://web.facebook.com/AsiaRoadRacing
แฟนความเร็วชาวไทยสามารถส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าพร้อมติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#ThaiHonda #Motorsport #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RaceToTheChampion #ARRC2025 #AsiaRoadRacingChampionship2025 #HondaCBR #Chip41 #Kaowkong20 #Mix31 #HiPeck18 #Idemitsu #Sittipol #KrungsriAuto #YumYum #KELA #Kushitani #SHOWA #SKF #KOWA #NGK #DID #ARAI #RCB #RuamJaiRakHospital #GariGari #EEST #DiosDesign #Nissin
ศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 11 รายการ เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ที่ ซัคเซนริง เซอร์กิต ประเทศเยอรมนีเมื่อวันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา การแข่งขัน “สปรินต์เรซ” ต้องดวลความเร็วท่ามกลางสายฝน แข่งขันทั้งสิ้น 15 รอบสนาม โดย “โยฮันน์ ซาร์โก” นักบิดจอมเก๋าชาวฝรั่งเศส หมายเลข 5 จาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า พารถแข่ง RC213V บิดฝ่าสายฝนถึงมีข้อผิดพลาดจังหวะออกตัว แต่สามารถไต่แซงคู่แข่งขึ้นมาเข้าเส้นชัยอันดับ 7 ด้วยเวลารวม 22 นาที 37.837 วินาที
ส่วน “โจอัน เมียร์” หมายเลข 36 นักบิดสแปนิชจาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี และทีมเมทชาวอิตาเลียนอย่าง “ลูกา มารินี” หมายเลข 10 เจอปัญหาเล่นงานในแทร็กเปียก ตามเข้าเส้นชัยอันดับ 14 และ 16 ตามหลังผู้ชนะคนละ 23.077 วินาที และ 29.220 วินาที ตามลำดับ
ขณะที่ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งชาวไทย หมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย พยามอย่างสุดความสามารถ บิดคว้ากริดที่ 21 ในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ มาครอง ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 37.758 วินาที เริ่มไล่ล่าแต้มจากกริดในแถวที่ 7
สำหรับ ศึก เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ จะดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ เริ่มต้นด้วย โมโตทรี 16.00 น. ต่อด้วย โมโตทู 17.20 น. และ โมโตจีพี 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง TrueVisions SPOTV
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #IdemitsuHondaLCR #LCRHonda #JZ5 #HondaHRC #JM36 #LM10 #HondaTeamAsia #Moto3 #TB5 #Gonz #GermanGP
“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ยอดนักบิดเฟรนช์จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี สร้างเซอร์ไพรส์แทร็กฝนสตาร์ตกริดที่ 7 บิดคว้าโพเดียมอันดับ 3 สปรินต์เรซ ในคึก โมโตจีพี 2025 สนาม 11 เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ขณะ แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสซี่จาก พรีมา พรามัค ยามาฮ่า ยังร้อนแรงบิดซิวท็อป 5 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่ ซัคเซนริง เซอร์กิต ประเทศเยอรมนี
ศึก เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบ “สปรินต์เรซ” เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย ส่งผลให้สถานการณ์ของการแข่งขันมีความเข้มข้น และพลิกผันอย่างมาก
โดย กวาร์ตาราโร ที่แม้จะได้เริ่มเกมจากกริดที่ 7 แต่ออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยม ทะยานขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ตั้งแต่รอบแรก ก่อนที่จะไต่ขึ้นไปอยู่อันดับ 2 ในช่วงกลางเรซ และบิดฝ่าฝนเข้าป้ายในอันดับ 3 ด้วยเวลา 22 นาที 30.108 วินาที คว้าโพเดียม “สปรินต์เรซ” มาครองได้สำเร็จ ตามหลังผู้ชนะ 4.361 วินาที ด้านทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อเล็กซ์ รินส์ เค้นไม่ขึ้นเข้าเส้นชัยในอันดับ 15 ตามหลัง 23.575 วินาที
ส่วน แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสเตรเลียนจาก พรีมา พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี สร้างผลงานได้ดีอีกครั้ง โดยเริ่มเกมจากกริดที่ 9 ไล่แซงขึ้นมาคว้าอันดับ 5 ตามหลังผู้ชนะ 9.405 วินาที ด้านทีมเมทชาวโปรตุกีสอย่าง มิเกล โอลิเวียร่า จบการแข่งขันในอันดับ 11 ตามหลังหัวแถว 19.486 วินาที
ทั้งนี้ การแข่งขันรอบ “เมนเรซ” ของศึก เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ เวลา 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง SPOTV
—————————–
#RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP25 #TheBlueShift
#YamahaFactoryRacingTeam
#MonsterEnergyYamahaMotoGP #FQ20 #AR42
#PrimaPramacYamaha
#JM43 #MO88
“ตี” อนุภาพ ซามูล ยอดนักบิดจอมเก๋าชาวไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม โชว์ประสบการณ์ระดับโลก ไล่แซงดุเดือดจากกริดที่ 10 ทะยานคว้าชัยชนะเรซแรกในศึกสองล้อชิงแชมป์เอเชีย ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี พาเพลงชาติไทยบรรเลงกระหึ่มที่ประเทศญี่ปุ่น ขณะ “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ นักบิดรุ่นน้องสู้สุดมันขึ้นนำก่อนคว้าท็อป 4 ในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2025 สนาม 3 ดวลความเร็วเรซแรกเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ โมบิลิตี้ รีสอร์ต โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้การติดตามของแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย
ไฮไลต์อยู่ที่การลุ้นผลงานนักบิดไทย โดยเฉพาะ “ตี” อนุภาพ ซามูล จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ซึ่งเป็นครั้งแรกของเจ้าตัวกับการแข่งขันที่ โมเตกิ และได้ออกตัวจากกริดที่ 10 เป็นงานที่ท้าทายอย่างมาก กับเกมที่ดวลกันทั้งสิ้น 12 รอบสนาม
อย่างไรก็ดี “ตี-อนุภาพ” และรถแข่ง YZF-R6 คู่ใจหมายเลข 500 ก็เริ่มต้นเกมอย่างดุดัน ทะยานขึ้นมารั้งท็อป 3 ได้ตั้งแต่ช่วง 3 รอบแรก ก่อนจะขยับขึ้นเป็นหัวแถว และบิดเข้าป้ายเป็นคันแรก ผงาดคว้าชัยชนะเรซแรกของรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ไปครอง โดยเฉือนคู่แข่งชาวมาเลเซียอย่าง คาสมา แดเนียล คาสมายูดิน อันดับ 2 เพียง 0.1 วินาทีเท่านั้น พร้อมกับทะยานขึ้นรั้งจ่าฝูงบนตารางคะแนนสะสมในรุ่นนี้ทันที แซงคู่แข่งขึ้นไป 5 คะแนน
ส่วนการแข่งขันในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี เป็นอีกหนึ่งคลาสที่เด็กไทยมีลุ้นชัยชนะ โดย “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ ดาวรุ่งเลือดใหม่จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ไล่บี้อย่างสุดมันจากกริดที่ 7 พารถแข่ง YZF-R3 ลายพิเศษหมายเลข 39 ทะยานขึ้นเป็นหัวแถวได้จนถึงรอบสุดท้าย ภายใต้การขับเคี่ยวอย่างหนัก ก่อนจะบิดเข้าป้ายในอันดับ 4 ตามหลังผู้ชนะเพียง 0.191 วินาทีเท่านั้น จบเรซนี้ขยับรั้งอันดับ 3 บนตารางคะแนนสะสม ตามหลังจ่าฝูง 35 คะแนน
ทั้งนี้ 2 นักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม จะดวลความเร็วเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ เริ่มต้นด้วยรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ในเวลา 12.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ต่อด้วยรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เวลา 13.20 น. ถ่ายทอดสดทาง เฟซบุ๊ก : Asia Road Racing Championship
—————————-
#YamahaThailandRacingTeam
#RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #No1RacingTeam
#YamahaSocietyThailand #YamahaRidersclubThailand
#RaceMachine #ARRC2025 #TheBlueShif #YamahaR6 #AS51 #YamahR3 #KK39
#YamahaThailandRacingOfficial
“ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ หมายเลข 85 ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” โชว์ความเร็วระดับท็อปในศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลกรายการ “เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ 2025” สนาม 5 ด้วยการคว้ากริดที่ 6 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 28.352 วินาที กับครั้งแรกของชีวิตที่ลงบิด โดยทำเวลาตามหลังเจ้าของโพลเพียง 0.336 วินาทีเท่านั้น ที่ ซัคเซนริง เซอร์กิต ประเทศเยอรมนี สร้างโอกาสลุ้นโพเดียมอย่างเต็มตัวในสุดสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” จะดวลเรซแรกในวันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคมนี้ เวลา 21.15 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยเรซที่ 2 จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ เวลา 20.30 น. ถ่ายทอดสดทาง เฟซบุ๊ก Red Bull MotoGP Rookies Cup
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #RoadToMotoGP #TheNextSuccessor #RookiesCup #Maikiw #Maikiw85 #KS85 #RookiesCup
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าบิ๊กไบค์ในเมืองไทย เปิดตัวบิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด “New YAMAHA TMAX 2025” ภายใต้สโลแกน “Nothing but the MAX” โดยชูจุดเด่นความพรีเมี่ยมหรูหรา พร้อมสมรรถนะที่เหนือระดับ ด้วยการพัฒนาครั้งใหญ่ในหลายด้าน เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดในทุกเส้นทาง
โดยนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกของ YAMAHA TMAX ในปี 2001 ได้สร้างปรากฏการณ์แห่งความสำเร็จในกลุ่มรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 400,000 คัน ทั่วโลก และสำหรับในปี 2025 นี้ YAMAHA TMAX ได้เดินทางมาถึงเจเนอเรชันที่ 9 พร้อมแนวคิดในการพัฒนาใหม่ “Maximize the Moment – Refined” โดยเน้นย้ำถึงการยกระดับรายละเอียดในทุกมิติ
สำหรับไฮไลต์สำคัญของ New YAMAHA TMAX 2025 ที่ได้รับการยกระดับไปอีกขั้น ได้แก่
• ปรับโฉมด้านหน้าใหม่ : โดยตัวรถถูกออกแบบให้มีภาพลักษณ์ที่ดูนุ่มนวลขึ้น ด้านหน้าของ New YAMAHA TMAX 2025 ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โคมไฟหน้าแบบใหม่ พร้อมไฟหรี่ด้านหน้า (Position Lights) ถูกเปลี่ยนให้เป็นเส้นต่อเนื่องแบบเรียบหรูโดดเด่น บริเวณขอบด้านนอก และด้านล่างของไฟหน้ามีรูปทรงคล้ายตัว “T” เพื่อให้รถได้มีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัว
• เครื่องยนต์ผ่านมาตรฐาน Euro5+ และการอัปเดต ECU : เครื่องยนต์ผ่านข้อกำหนดการปล่อยไอเสียของมาตรฐาน Euro5+ มีการอัพเดท ECU เพื่อให้ยังคงรักษากำลัง และสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม
• คลัตช์ถูกปรับแต่งใหม่เพื่อการเร่ง และการขับขี่ในสถาพจราจรที่ติดขัด : New YAMAHA TMAX 2025 มาพร้อมกับระบบคลัตช์แบบ Wet-Type Multi-Disc Centrifugal Clutch เพื่อให้เหมาะกับพลังเครื่องยนต์ที่สูง โดยใน New YAMAHA TMAX 2025 ได้มีการปรับแต่งคลัตช์ใหม่ให้ทำงานได้นุ่มนวล และทำงานได้อย่างต่อเนื่องในทุกสถานการณ์การขับขี่ เช่น เมื่อเร่งคันเร่งจากจุดหยุดนิ่ง และยังใช้งานได้ง่ายในสภาพการจราจรติดขัด โดยการลดจำนวนตุ้มคลัตช์จาก 12 เหลือ 10 ชิ้น พร้อมกับการปรับแต่งสปริงคลัตช์ใหม่
• ระบบช่วยเหลือการขับขี่ และการควบคุมเบรก (BC) : เป็นครั้งแรกที่ New YAMAHA TMAX 2025 ใช้ระบบ“Inertial Measurement Unit” (IMU) เซ็นเซอร์อัจฉริยะที่คอยทำหน้าที่ตรวจจับค่าความสมดุลต่างๆ ในตัวรถ และระบบควบคุมเบรก BC โดยระบบ BC จะเก็บข้อมูลจาก
1.) ความเร็วล้อหน้า
2.) ความเร็วล้อหลัง
3.) ข้อมูลจาก IMU จากนั้นจะส่งข้อมูลไปยังชุดไฮดรอลิก (ซึ่งรวมถึงหน่วยควบคุม ABS) เพื่อทำการคำนวณแบบเรียลไทม์ และช่วยให้ระบบ BC สามารถควบคุมแรงเบรกที่ล้อหน้าและล้อหลังได้เมื่อมีการใช้งาน ABS
– ในค่ามาตรฐานที่เปิดใช้งานอยู่ นอกเหนือจากการทำงานตามปกติของระบบ ABS แล้ว ระบบ BC ยังช่วยลดการเพิ่มขึ้นของแรงเบรกในกรณีที่มีการเบรกอย่างรุนแรงและกะทันหัน นอกจากนี้ ยังควบคุมการเบรกให้เริ่มทำงานเร็วขึ้นตามมุมเอียงของรถ ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกมั่นคงและลดโอกาสล้อล็อก
– ระบบ BC สามารถปิดการทำงานได้ผ่านสวิตช์ และเมื่อปิดแล้ว ระบบจะทำงานเฉพาะระบบ ABS ปกติโดยไม่มีฟังก์ชัน ABS ขณะเข้าโค้ง• Machine-cut wheels เพื่อความสวยงามของล้ออลูมิเนียม (เฉพาะรุ่น Tech MAX) : ล้อของรุ่น Tech MAX ผ่านกระบวนการหล่อด้วยแม่พิมพ์เฉพาะที่สามารถสร้างรายละเอียดได้อย่างประณีต ก่อนจะถูกขึ้นรูปและตัดด้วยเครื่องจักร
• ปลอกแฮนด์ปรับความร้อน ที่มาพร้อมกับสเปคใหม่ (เฉพาะรุ่น Tech MAX) : ให้กำลังความร้อนสูงขึ้น ดีไซน์ใหม่ที่ทำให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น ระบบลดกำลังไฟอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้แบตเตอรี่หมดดเร็วโดยไม่จำเป็น
• Emergency Stop Signal (ESS) : เมื่อระบบตรวจจับได้ว่ามีการเบรกอย่างกะทันหัน ไฟเลี้ยวหน้าและหลังจะกระพริบโดยอัตโนมัติเพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่คนอื่นว่ารถกำลังชะลอความเร็วอย่างรวดเร็วกว่าปกติ
• เบาะนั่งลายใหม่ (เฉพาะรุ่น Tech MAX) : เบาะนั่งมาพร้อมวัสดุหุ้มแบบใหม่ ลงตัวทั้งในด้านความลื่นที่เหมาะสมและความกระชับขณะนั่ง
• ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS) (เฉพาะรุ่น Tech MAX) : ระบบนี้ทำหน้าที่ตรวจสอบแรงดันลมยางของรถตลอดเวลา และแสดงผลบนหน้าจอมาตรวัด หากแรงดันลมยางลดลงมากกว่าค่ามาตรฐาน ระบบจะแสดงสัญญาณเตือน
• ระบบ Cruise Control ที่สามารถโชว์ค่าความเร็วที่ตั้งไว้บน display (เฉพาะรุ่น Tech MAX) : ค่าความเร็วที่ตั้งไว้จะแสดงบนหน้าจอมาตรวัด ซึ่งเป็นประโยชน์เมื่อมีความแตกต่างระหว่างความเร็วที่ตั้งไว้กับความเร็วของรถ เช่น ในกรณีที่เปิดใช้งานระบบ Cruise Control อีกครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนค่าความเร็วที่ตั้งไว้ ระบบใหม่นี้ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มหรือลดค่าความเร็วที่ตั้งไว้ครั้งละ 1 กม./ชม. ด้วยการกดสวิตช์เพียงครั้งเดียว หรือครั้งละ 10 กม./ชม. ด้วยการกดสวิตช์ค้างไว้ ซึ่งทำให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
• ปรับรูปแบบการแสดงผลบนหน้าจอ TFT ใหม่ : หน้าจอสี TFT 7 นิ้ว ซึ่งยังคงมี 3 รูปแบบการแสดงผลให้เลือกและในรุ่นใหม่มีการปรับปรุงรูปแบบการแสดงผลแบบ Authentic Style ใหม่ โดยใช้ดีไซน์แบบ Flat Look ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก GUI (Graphical User Interface) ของสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ดิจิทัลอื่นๆ ทำให้เหมาะกับผู้ใช้ในยุคปัจจุบันที่คุ้นเคยกับการใช้งานสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ดิจิทัลอื่นๆ เป็นอย่างดี ขณะที่รูปแบบการแสดงผลแบบ Sporty Style และ Intelligent Style ยังมีให้เลือกใช้เหมือนเดิม
• CCU ที่ใช้งานร่วมกับแอป YAMAHA Connect (Y-Connect) : TMAX รุ่นใหม่มีการอัปเกรด CCU ให้มีประสิทธิภาพการเชื่อมต่อและความสะดวกในการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น พร้อมรองรับการใช้งานกับแอป “Y-Connect” ซึ่งสามารถแสดงข้อมูลการจัดการรถต่างๆ การแจ้งเตือนสายเรียกเข้าและข้อความ รวมถึงเนื้อหาต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความบันเทิงระหว่างการขับขี่
สำหรับ “New YAMAHA TMAX 2025” มีวางจำหน่าย 2 รุ่น คือ YAMAHA TMAX Tech MAX จำหน่ายในราคา 569,000 บาท พร้อม 2 สี ให้เลือกได้แก่ Dark Magma และสีใหม่ Ceramic Grey ส่วนอีกรุ่นคือ YAMAHA TMAX560 จำหน่ายในราคา 539,000 บาท โดยมี 2 สี ให้เลือกได้แก่ Icon black และ Teck Kamo
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ไรเดอร์คลับ ทั้ง 16 สาขาทั่วประเทศ และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263- 9999 ติดตามข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ที่ www.yamaha-motor.co.th/bigbike
Facebook : Yamaha Riders club Thailand
Instagram: YamahaRidersclubThailand
YouTube: Yamaha Riders club Thailand
TikTok: Yamaha Riders club TH
ศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 11 รายการ เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ผ่านการซ้อมวันแรกในรอบแบ่งกลุ่ม (Practice) เมื่อวันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ ซัคเซนริง เซอร์กิต ประเทศเยอรมนี
ผลซ้อมในรุ่น โมโตจีพี ปรากฏว่า “โยฮันน์ ซาร์โก” หมายเลข 5 นักบิดเฟรนช์จาก ฮอนด้า แอลซีอาร์ สามารถทำผลงานได้ดีที่สุด จบวันแรกในอันดับ 12 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 19.964 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 0.893 วินาที ด้าน ฮอนด้า เอชอาร์ซี “โจอัน เมียร์” หมายเลข 36 นักบิดสแปนิชรั้งอันดับ 15 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 20.099 วินาที ตามจ่าฝูง 1.028 วินาที ตามด้วยทีมเมทชาวอิตาเลียนอย่าง “ลูกา มารินี” หมายเลข 10 ที่เพิ่งกลับมาจากอาการบาดเจ็บในรอบกว่า 2 เดือนในอันดับ 18 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 20.309 วินาที ตามหลัง 1.238 วินาที
ขณะที่ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี หมายเลข 5 นักบิดดาวรุ่งชาวไทยจาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย พลาดล้มจากการซ้อมครั้งแรก แต่ยังสู้สุดความสามารถกดคันเร่งรั้งอันดับ 22 จากการซ้อมของรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 26.409 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 1.642 วินาที
ทั้งนี้ ศึก เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟายและ “สปรินต์เรซ” ในวันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคมนี้ ก่อนจะดวลความเร็วรอบ “เมนเรซ” ในวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ เริ่มต้นด้วย โมโตทรี 16.00 น. ต่อด้วย โมโตทู 17.20 น. และ โมโตทรี 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง TrueVisions SPOTV
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #IdemitsuHondaLCR #LCRHonda #JZ5 #HondaHRC #JM36 #LM10 #HondaTeamAsia #Moto3 #TB5 #Gonz #GermanGP
“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ยอดนักบิดเฟรนช์จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี รีดฟอร์มเก่งทะยานคว้าอันดับ 4 ซ้อมวันแรก ในศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 11 เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ พร้อมควง แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสซี่จาก พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า ทะยานเข้าสู่ Q2 ได้สำเร็จ จากสัญญาณบวกที่ ซัคเซนริง เซอร์กิต ประเทศเยอรมนี
ศึก เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ผ่านการซ้อมอย่างเป็นทางการเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ภายใต้สภาพอากาศสดใส และการทำงานอย่างหนักของ มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ในการเดินหน้ายกระดับรถแข่ง YZR-M1 เพื่อขยับเข้าหากลุ่มหน้า
ตลอดการซ้อมวันแรกทั้งในรอบ FP1 และ PR กวาร์ตาราโร แชมป์โลก 1 สมัยชาวฝรั่งเศส ได้ทดลองชิ้นส่วน “หางหลังใหม่” เพื่อหาความลงตัว ก่อนจะเค้นความเร็วช่วงท้าย ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 19.524 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 0.453 วินาที เพียงพอให้ผ่านเข้าสู่ควอลิฟายรอบ Q2 แบบอัตโนมัติ ส่วนทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อเล็กซ์ รินส์ เจองานหิน จบวันแรกในอันดับ 19 ตามจ่าฝูง 1.597 วินาที
ขณะที่ แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสเตรเลียนจาก พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี เริ่มต้นการซ้อมวันแรกได้ยอดเยี่ยม รั้งอันดับ 8 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 19.367 วินาที ตามหลังหัวแถว 0.566 วินาที ผ่านเข้าสู่ Q2 ได้อีกครั้ง ส่วน มิเกล โอลิเวียร่า ทีมเมทชาวโปรตุกีสจบวันแรกในอันดับ 17 ตามหลังผู้นำ 1.131 วินาที
กวาร์ตาราโร กล่าวหลังจบการซ้อมวันแรกว่า “เรารู้ดีว่าสามารถทำความเร็วแบบ 1 รอบได้ดี แต่ความเร็วสำหรับการแข่งขัน (Race Pace) ยังเป็นสิ่งที่ต้องทำงานหนักมาก จริงๆ แล้วมันขึ้นอยู่กับการยึดเกาะมากกว่า ต้องทำให้รถมีอาการสไลด์น้อยลง เพื่อคุมไม่ให้ยางร้อนเกินไป ฟีลลิ่งกับล้อหน้าดีมาก ผมไม่รู้ว่าทีมอื่นเป็นยังไง แต่คิดว่าเราคือหนึ่งในรถที่ดีที่สุดในเรื่องนี้ แต่ในแง่บาลานซ์ของตัวรถ หวังว่าจะสามารถปรับปรุง และยกระดับได้อีกขั้น”
ทั้งนี้ ทัพนักบิดยามาฮ่า มีคิวลงจับเวลารอบควอลิฟาย เพื่อจัดอันดับสตาร์ตในบ่ายวันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคมนี้ ก่อนจะแข่งขัน “สปรินต์เรซ” ในคืนเดียวกัน 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ส่วน “เมนเรซ” จะดวลกันในวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทาง SPOTV
—————————–
#RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP25 #TheBlueShift
#YamahaFactoryRacingTeam
#MonsterEnergyYamahaMotoGP #FQ20 #AR42
#PrimaPramacYamaha
#JM43 #MO88