ยามาฮ่า โมโตชาลเลนจ์ สุดเดือด ภูผา อีเทค “ดับเบิ้ลวินเนอร์” เก็บคะแนนขึ้นนำ

 เทคโนกาฬสินธุ์ – ดรุณาโปลีเทคนิค -พังโคนฯ ชิงโพเดียมสุดมัน

YAMAHA Moto Challenge ซีซัน 9 โครงการเรียนรู้วิชาชีพมอเตอร์สปอร์ต โชว์เชิงจาก 2 สนามที่ผ่านมา พร้อมสร้างเกมการแข่งขันสุดมัน ด้วยเชิงชั้นแห่งความเร็ว บนรถแข่ง YAMAYA R15 สุดประทับใจในการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมสนามที่ 3 สนาม ไทยแลนด์ เซอร์กิต

เกมสตาร์ทด้วยความท้าทายของ วรายุทธ ท้าวขุนราชา #135 จากดรุณาโปลีเทคนิค ราชบุรี ออกสตาร์ทจากกริดที่ 7 ชิงเกมเปิดคันเร่งเข้าสู่โค้งที่ 1 ได้เป็นคันแรก ตามเบียดด้วย เดอะวินเนอร์จากสนามที่ 2 ภูริณัฐ ศรีบุรินทร์ #915 จากเทคโนโลยีภาคตะวันออก อดิศร ผาลา #5 จากไดโนซ่าทีม อาชีวศึกษากาฬสินธุ์ สวนแก้ว พระนอนเขต #19 จากฐานเทคโนโลยี ธนาธิป สังสุต #19 จากภักดีพาณิชยการกำแพงเพชร และสุริยา คำปลิว #93 จากพังโคนพณิชยการ โดยตลอด 10 รอบ นักแข่ง 6 คัน ต่างมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามลิมิต ทำให้บทเรียนรู้จาก 2 สนามแรกได้นำมาเป็นประสบการณ์ที่ดีในสนามที่ 3 นี้ ส่วนนักแข่งที่เหลือต่างประกบคันเร่งด้วยความท้าทายไปกับเพื่อนเด็กช่างด้วยกัน ซึ่งได้สร้างเกมสนุกสนานให้กับกองเชียร์ที่มาร่วมชมในสนามได้เร้าใจไปด้วยกัน

หลังจากเปิดคันเร่งดวลล้อกันอย่างสนุกสนานจนครบ 10 รอบ เป็นนักบิดจากอี-เทค ภูริณัฐ ศรีบุรินทร์ #915 ที่ใช้เวลาเพียงไม่นานกลับมาเป็นผู้นำการแข่งขัน และนำยาวจนจบการแข่งขันเข้าเก็บดับเบิ้ลโพเดียมวินเนอร์ คว้าชัยชนะบนสนามแข่งไทยแลนด์ เซอร์กิตแบบ 100% พร้อมทำเรซเบสต์แล็ปของเกมสนามนี้ที่ 1.40.896 นาที และทำคะแนนสะสมนำอยู่บนหัวแถวตารางอยู่ 57 แต้ม สำหรับอันดับ 2 เป็นของ อดิศร ผาลา #5 อันดับ 3 เป็นของ สุริยา คำปลิว #93 จากพังโคนพณิชยการ อันดับ 4 วรายุทธ ท้าวขุนราชา #135 จากดรุณาโปลีเทคนิค และอันดับ 5 สวนแก้ว พระนอนเขต #19 จากฐานเทคโนโลยี

การแข่งขัน YAMAHA Moto Challenge ซีซัน 9 ในสนามสุดท้ายจะกลับคืนสู่ สนามแข่งช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ ในช่วงเปิดเทอม 2 เดือนพฤศจิกายน 2567 นี้โดยจะทำการแข่งขันด้วยกัน 2 เรซ ร่วมติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook : YAMAHA THAILAND RACING TEAM และ YAMAHA Moto Challenge

—————————–
#60ปีไทยยามาฮ่ามอเตอร์ #69ปียามาฮ่ามอเตอร์ #ดีใจที่ได้เจอ
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaMotoChallenge

New Yamaha MT-09 Y-AMT 2024 SYMBIOSIS WITH DARKNESS ไฮเปอร์เน็กเก็ด

New Yamaha MT-09 Y-AMT 2024 ไฮเปอร์เน็กเก็ด ที่เรียกด่า ดุ ดิบ แต่ควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส อรรถรสความแรงเร้าใจยังเหมือนเดิม

มันถูกพัฒนาต่อมาจาก MT-09 รุ่นมาตรฐาน ที่เพิ่งเปิดดตัวได้ไม่นานมานี้เอง โดยการพัฒนาครั้งนี้เรียกได้ว่ามีการอัพเกรดใหม่ ด้วยรหัสต่อท้าย Y-AMT ซึ่งเป็นระบบเกียร์ใหม่ เป็นครั้งแรกในรถบิ๊กไบค์ของยามาฮ่า ทำให้รถรุ่นนี้สามารถเปลี่ยนเกียร์เองโดยอัตโนมัติ หรือจะเลือกขับขี่ด้วยระบบเกียร์แมนน้วน ยังสามารถทำได้โดยเพียงนิ้มสัมผัสผ่านปุ่มที่ประกับแฮนด์ฝั่งซ้าย เหมือนกับแพดเดิลชิปในรถยนต์

Yamaha Y-AMT (Yamaha Automated Manual Transmission) มันคืออะไรล่ะ นั่นไง! มันคือระบบเกียร์อัจฉริยะ ที่สามารถเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้ก้านคลัทช์ และคันเกียร์ เพิ่มสนุกและไม่ต้องกังวลกับการใช้คลัทช์เปลี่ยนเกียร์ หรือการออกตัวดับของไบค์มือใหม่ทั้งหลาย ในการควบคุมรถจักรยานยนต์ตามต้องการ

ซึ่งโดยพื้นฐานจริงๆ แล้วมันคือระบบเกียร์ธรรมดาทั่วไป เพียงแต่เพิ่มชุดระบบช่วยการเปลี่ยนเกียร์โดยอัตโนมัติเข้ามา ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องใช้ก้านคลัทช์ และไม่ต้องใช้คันเกียร์ อีกต่อไป เพราะเค้าไม่มีมาให้ตั้งแต่ไลน์ผลิต ช่วยทำให้การขับขี่รถบิ๊กไบค์สะดวกสบายมากขึ้น ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน, การเดินทางไกล หรืออยากไปโลดแล่นในสนามแข่ง

โดยตัวระบบจะมีโหมดมาให้เลือก 2 แบบ ได้แก่โหมด AT และโหมด MT โดยการทำงานของชุดกลไกการเปลี่ยนเกียร์ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีความรู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โหมด AT ระบบจะคำนวณรอบเครื่องยนต์ และจดจำสไตล์การใช้งาน เพื่อเปลี่ยนเกียร์ให้สัมพันธกัน แต่มันก็สามารถที่จะเปลี่ยนเกียร์ด้วยปุ่มได้ด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันการลงเนินที่มีความเร็วเพิ่มขึ้น จะได้เชนลดเกียร์เองได้ ยังแยกย่อยเป็น D / D+ ด้วยรอบเครื่องยนต์ และแรงม้าที่แตกต่างอีกด้วย ส่วนโหมด MT เน้นสนุกและเร้าใจ เปลี่ยนได้ตามใจพระเดชพระคุณท่านเลย และมันแทบไม่รู้สึกถึงการเข้าเกียร์เลย แต่จะมีเสียง และแรงกระชากนิดหน่อย ได้อารมณ์สปอร์ต

โดยในตัว MT-09 Y-AMT มี สมาร์ทคีย์ ติดมาให้ที่เหมือนกับตัว MT-09SP แต่จะไม่มีในเรื่องของระบบเบรกด้านหน้าที่เป็น Brembo Stylema โช้คหน้า KYB Premium และ โช้คเดี่ยวของ Ohlins รุ่นนี้ แต่จะให้เป็นโช้คหัวกลับ และโช้คหลังเดี่ยว สามารถปรับค่าพรีโหลดได้ตามปกติ เหมือนในตัวของ MT-09

ประกับแฮนด์ซ้าย จะเป็นส่วนที่ใช้ควบคุมการทำงานของระบบไฟฟ้าต่างๆ ของรถ และใช้ควบคุมหน้าจอเรือนไมล์ รวมถึงระบบล็อกความเร็ว และปุ่มเพิ่ม/ลดเกียร์แบบแมนน้วน ประกับแฮนด์ขวา ประกอบด้วยปุ่มสลับโหมดเกียร์อัตโนมัติ/แมนนวล, ปุ่ม Off/run/start และปุ่มเปลี่ยนโหมดการขับขี่เบาะนั่งแบบ 2 ตอน ความสูง 825 มม. แบ่งตอนผู้ขับขี่กับผู้โดยสารออกจากกัน

Yamaha MT-09 Y-AMT 2024 ใช้เครื่องยนต์ Crossplane 3 สูบเรียง ขนาด 890 ซีซี DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ มอบพละกำลังสูงสุด 119 แรงม้า ที่ 10,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 93 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที โดยตัวรถรุ่นนี้มีควิกชิพเตอร์ ทั้ง UP และ Down มาให้ แต่ก้านชิพเตอร์จะถูกติดตั้งไว้ด้านข้างของเครื่องยนต์มีขนาดสั้น และไม่เทอะทะออกมาให้เกะกะ

แต่จริงๆ แล้ว ก่อนหน้านี้ ยามาฮ่า เป็นผู้นำด้านระบบเกียร์อัตโนมัติในรถจักรยานยนต์โดยพัฒนาระบบ YCC-S (Yamaha Chip Controlled Shift) สำหรับรถสปอร์ตทัวร์เร่อร์ (Sport Tourer) ใน YAMAHA FJR1300 โดยมีระบบคลัทซ์ไฮดรอลิกอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ธรรมดาโดยใช้คันเกียร์แบบใช้นิ้ว หลังจากนั้นได้พัฒนาเป็นระบบ Y-AMT ที่สามารถตอบสนองการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มฟิลลิ่งการขับขี่ที่เร้าใจของเกียร์ธรรมดา ทั้งยังได้เพิ่มความสะดวกสบายจากเกียร์อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ต่างจากระบบ YCC-S ที่กระตุ้นด้วยไฮดรอลิก ขณะที่ Y-AMT ใช้แอคชูเอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Actuator) สองตัวเพื่อดำเนินการ”

อุ่นเครื่องครั้งใหญ่! MotoGP Fan Festival 2024 กระหึ่ม แฟนความเร็วแห่ร่วมชม-เชียร์นักบิดคนโปรดแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

MotoGP Fan Festival 2024 กับเส้นทางการจัดกรังปรีซ์อันดับหนึ่งของโลกบนผืนแผ่นดินไทย 

ถนนสู่โมโตจีพีไทยสุดคึกคัก สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ผนึกพันธมิตร เนรมิตเฟสติวัลสุดยิ่งใหญ่เอาใจแฟนความเร็ว กิจกรรมขยายฐานความนิยมสู่เส้นทางการจัดกรังปรีซ์อันดับหนึ่งของโลกบนผืนแผ่นดินไทย ที่พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ ความยิ่งใหญ่และการจดจำอีกครั้ง

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 กันยายน 2567 สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ผนึกพันธมิตร ได้แก่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG, น้ำแร่ธรรมชาติ ตรา ช้าง และ ค่ายรถจักรยานยนต์ชื่อดัง ฮอนด้า ยามาฮ่าและดูคาติ ตอกย้ำความยิ่งใหญ่และกระแสความนิยมโมโตจีพีในประเทศไทย จัดใหญ่จัดเต็มกิจกรรม MotoGP Fan Fest 2024 Road to PT Grand Prix of Thailand ที่ ร้านจับแพะชลแกะ ราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ เพื่อขยายฐานแฟนคลับและอุ่นเครื่องก่อนที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันศึกสองล้อรายการใหญ่ที่สุดของโลก โมโตจีพีวิถีไทย ระหว่าง 25– 27 ตุลาคม 2567 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

บรรยากาศภายในงานมีกองทัพแฟนคลับโมโตจีพีและสื่อมวลชน ร่วมงานมากกว่า 500 คน ร่วมชม-เชียร์ ร่วมลุ้นนักบิดที่ชื่นชอบกับการแข่งขัน สนามที่ 12 อรากอน จีพี ประเทศสเปน พร้อมช่วยกันส่งเสียงเชียร์ นักบิดที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวไทย “ก้อง”สมเกียรติ จันทรา และลุ้นรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ส่งมอบประสบการณ์สุดล้ำค่าให้กับแฟนคลับโมโตจีพี อาทิ บัตร Paddock สำหรับกระทบไหล่นักบิดดังแบบใกล้ชิด, บัตร Pit Walk ที่ผู้ถือบัตรจะสามารถชมรถแข่งมูลค่าหลายร้อยล้านและพิตการทำงานของทีมชื่อดังของโลก, ของที่ระลึก ThaiGP Collection ลิขสิทธิ์แท้และของรางวัลอื่นๆมากมาย โดยมีคอนเสิร์ตจากศิลปินรุ่นใหญ่ วงร็อกหัวดำ นำโดย ปู-อานนท์ สายแสงจันทร์ และวง BLACKHEAD ที่นำเพลงฮิตมากมายมาให้ฟังอย่างจุใจ

นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดเผยว่า กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการสานต่อความสำเร็จกับการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพีอีกครั้ง เทศกาลกีฬายักษ์ใหญ่ระดับเวิลด์คลาส ที่จัดเป็นปีที่ 5 ซึ่งสนามประเทศไทยเคยสร้างสถิติด้วยการเป็นแชมป์สนามแข่งที่มีผู้ชมสูงสุด และถือเป็นสนามที่มีผู้ชมจำนวนมากสนามหนึ่งของโลก ตลอด 4 ปีที่จัดการแข่งขัน MotoGP สร้างปรากฎการณ์มากมาย ทุกปีหลังเปิดจำหน่ายบัตร เพียงเปิดจองวันแรก บัตรที่นั่งแกรนด์สแตนด์ก็ถูกจองเต็มในเวลาไม่กี่นาที รวมถึงบัตรที่นั่งไซด์สแตนด์, สแตนด์พิเศษของนักแข่งต่างๆ ก็ถูกจับจองหมดก่อนถึงการแข่งขันเช่นกัน รวมถึงที่พักในจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง ถูกจองเต็มล่วงหน้าตั้งแต่ดอร์น่า สปอร์ต ประกาศปฏิทินการแข่งขันในแต่ละปี เรียกว่าที่พักถูกจองเต็ม ก่อนที่จะเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมเสียอีก ทั้งยังได้รับคำชื่นชมในส่วนการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ทั้งในและนอกสนาม ดึงเสน่ห์ท้องถิ่นสู่งานมหกรรมกีฬาระดับอินเตอร์ ต้อนรับแฟนมอเตอร์สปอร์ตหลายแสนคนจากทั่วโลก ต่อยอดจนไปถึงการที่นักท่องเที่ยวและผู้เข้าร่วมชมการแข่งขันโมโตจีพี รวมถึงผู้ติดตาม ได้จับจ่าย ซื้อสินค้าและบริการในพื้นที่ ท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ มีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 4-5 พันล้านบาทต่อปี

“ในการนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขัน ต้องการจะขยายฐานแฟนคลับ รวมทั้งสร้างกระแสการรับรู้ อุ่นเครื่องความสนุกให้กับแฟนๆโมโตจีพีในประเทศไทย ซึ่งโมโตจีพีเป็นอีกชนิดกีฬายอดนิยมของโลก สร้างความสนุกสนานและประทับใจ ถ่ายทอดสู่ 207 ประเทศ ผู้ชมกว่า 800 ล้านคนทั่วโลก จึงได้จัดกิจกรรมในครั้งนี้ พร้อมทั้งต้องการเชิญชวนคนไทย ร่วมชมและเชียร์การแข่งขันไปจนถึงวาระที่ไทยเป็นเจ้าภาพในสนามที่ 18 รวมทั้งร่วมแสดงพลังเข้าชมที่สนามแข่ง เชียร์และส่งกำลังใจ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยให้สามารถคว้าชัยโฮมเรซ เป็นการส่งท้ายในรุ่นโมโตทู ก่อนขึ้นไปสู่การแข่งขันระดับพรีเมียร์คลาส สร้างชื่อเสียง ความภาคภูมิใจ นำกีฬามาสร้างประโยชน์มหาศาลสู่ประเทศชาติอย่างยั่งยืน”

ส่วนบัตรชมการแข่งขันยังสามารถจับจองกันได้ผ่านช่องทาง Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือเว็บไซด์ allticket ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ Chang Circuit Buriram

ไทยฮอนด้า คว้ารางวัล ‘The Most Powerful Brands of Thailand 2024’ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7

ไทยฮอนด้า สุดยอดแบรนด์รถจักรยานยนต์ที่ทรงพลังของประเทศไทย
ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย คว้ารางวัล ‘The Most Powerful Brands of Thailand 2024’ หรือ ‘สุดยอดแบรนด์ทรงพลังของประเทศไทย 2024’ ในกลุ่มยานยนต์ (Automotive) ซึ่งจัดโดยภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย งานนี้ถือเป็นการสํารวจแบรนด์ครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์หนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ สะท้อนความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศมาอย่างยาวนาน
คุณนคร วิมลจิตรสอาด ผู้จัดการทั่วไปสายงานการสื่อสารการตลาด บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “รางวัล The Most Powerful Brands of Thailand 2024 นับเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจที่ยืนยันถึงความสำเร็จของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ที่ได้พัฒนาส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดสู่มือผู้บริโภค ทั้งด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ พร้อมที่จะตอบสนองและมุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณค่าใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าในหลากหลายรูปแบบให้ตรงใจผู้บริโภคอยู่เสมอ ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้ทำให้ฮอนด้าสามารถครองใจผู้บริโภคและคว้ารางวัลฯ ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและการสนับสนุนฮอนด้ามาโดยตลอด”
สำหรับการประเมินความแข็งแกร่งของแบรนด์ในครั้งนี้ พิจารณาครอบคลุม 4 มิติ ได้แก่ ความตระหนักในแบรนด์ (Awareness) ความชื่นชอบในแบรนด์ (Preference) การใช้ผลิตภัณฑ์ (Usage) และภาพลักษณ์ (Image) เป็นการวิเคราะห์ความสำเร็จของแบรนด์ในด้าน Market Share, Mind Share และ Heart Share โดยสํารวจกลุ่มตัวอย่างจํานวน 24,000 ตัวอย่าง แบ่งเป็นกลุ่มในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 12,000 ตัวอย่าง และใน 13 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศอีก 12,000 ตัวอย่าง อายุระหว่าง 18-69 ปี ที่มีความหลากหลายทางเพศและช่วงอายุ โดยทุกคนจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการด้วยตนเอง เพื่อให้การประเมินแบรนด์มีความถูกต้องและแม่นยํา
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://bit.ly/thaihondabigbike
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
เฟซบุ๊กฮอนด้าบิ๊กไบค์ : www.facebook.com/HondaBigBikeTH/
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #Thaihonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou

“ก้อง-สมเกียรติ” โชว์ฝีมือระดับโลก! ไล่แซงเดือด คว้าท็อป 6 โมโตทู อารากอน

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ไล่แซงคู่แข่งอย่างดุเดือดจากกริดที่ 14 ทะยานคว้าท็อป 6 

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” พิสูจน์ฝีมือระดับโลก ระเบิดฟอร์มเก่งไล่แซงคู่แข่งอย่างดุเดือดจากกริดที่ 14 ทะยานคว้าท็อป 6 ในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 สนาม 12 รายการ อารากอน กรังด์ปรีซ์ หลังจบเรซสุดมันส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ที่ มอเตอร์แลนด์ อารากอน ประเทศสเปน

การแข่งขันเรซนี้ดวลกันทั้งสิ้น 19 รอบสนาม โดย “ก้อง-สมเกียรติ” เริ่มเกมจากกริดที่ 14 ก่อนพารถแข่งคู่ใจหมายเลข 35  จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย แซงผ่านคู่แข่งได้ถึง 8 อันดับ บิดเข้าป้ายในอันดับ 6 ด้วยเวลา 36 นาที 7.462 วินาที พร้อมเก็บ 10 แต้ม รวมเป็น 74 คะแนน รั้งอันดับ 11 บนตารางคะแนนสะสม โมโตทู 2024 หลังผ่าน 12 สนามแรกของปี

ด้าน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทย หมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ สามารถบิดขยับแซงคู่แข่งจากกริดที่ 27 ไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 16 ในช่วงกลางเรซ มีลุ้นแต้มอย่างเต็มตัว แต่โชคร้ายพลาดล้มอย่างน่าเสียดาย

ทั้งนี้ 2 นักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” มีคิวดวลความเร็วสนามถัดไประหว่างวันที่ 6-8 กันยายนนี้ ที่ มิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเชลลี ประเทศอิตาลี ในรายการ ซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์

แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา และ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี แบบเต็มฤดูกาล พร้อมติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวนักบิดฮอนด้าทุกคน ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ : Race to The Dream

#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #MotoGP #Moto2 #SC35 #Kong #IdemitsuHondaTeamAsia #Moto3 #TB5 #Gonz #AragonGP

“ก้อง-สมเกียรติ” ซิวกริดแถว 5 โมโตทู อารากอน

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยกระดับคว้ากริดที่ 14 มาครอง

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” คว้ากริดแถว 5 ในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 สนาม 12 รายการ อารากอน กรังด์ปรีซ์ ต้องเจองานสุดท้าทายอีกครั้งในการล่าผลงาน ที่ มอเตอร์แลนด์ อารากอน ประเทศสเปน วันอาทิตย์นี้

การควอลิฟายของรุ่น โมโตทู มีขึ้นเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่ง “ก้อง-สมเกียรติ” เจอปัญหาอย่างหนักในการยึดเกาะ ก่อนพารถแข่งหมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ยกระดับคว้ากริดที่ 14 มาครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 52.778 วินาที

ด้าน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งชาวไทย หมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย พยายามอย่างหนักในการกดเวลา ก่อนจะโชคร้ายพลาดล้มในรอบควอลิฟายอย่างน่าเสียดาย โดยจะได้ออกตัวจากท้ายแถว

ทั้งนี้ ศึก อารากอน กรังด์ปรีซ์ จะดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายนนี้ เริ่มต้นด้วย โมโตทรี 16.00 น. ต่อด้วย โมโตทู 17.15 น. และปิดท้ายด้วย โมโตจีพี 19.00 น. ถ่ายทอดสดทาง SPOTV

#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #MotoGP #Moto2 #SC35 #Kong #IdemitsuHondaTeamAsia #Moto3 #TB5 #Gonz #AragonGP

โรยัล เอ็นฟีลด์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง 

โรยัล เอ็นฟีลด์ พร้อมเดินหน้าเสริมแกร่งธุรกิจในประเทศไทย

โรยัล เอ็นฟีลด์ ผู้นำระดับโลกในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง (250cc-750cc) ประกาศความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง พร้อมเผยไฮไลท์ทางธุรกิจและแผนกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ โดยความสำเร็จของบริษัทฯ เป็นผลมาจากแผนกลยุทธ์ทางการตลาด เสริมทัพด้วยรถจักรยานยนต์ที่หลากหลายและทันสมัย พร้อมทั้งการขยายตัวแทนจำหน่ายเพื่อครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทั่วประเทศ

โรยัล เอ็นฟีลด์ ได้สร้างตัวเองเป็นผู้นำในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางได้อย่ำงสำเร็จทั้งในอินเดียและทั่วโลก ไปจนถึงการสร้างมาตรฐานใหม่ จากการเป็นแบรนด์พรีเมียมระดับโลกรายแรกจากอินเดีย โดยมีโรงงานผลิตที่ทันสมัยสามแห่งในอินเดีย ศูนย์เทคนิคสองแห่งในสหราชอาณาจักรและอินเดีย และเครือข่ายบริษัทสาขาที่แข็งแกร่งทั่วโลก รวมถึง โรยัล เอ็นฟีลด์ ในประเทศไทย
โรยัล เอ็นฟีลด์ ประสบความสำเร็จในประเทศไทยนับตั้งแต่การเข้าสู่ตลาดในปี 2558 และเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีลูกค้ามากกว่า 20,000 ราย ตัวแทนจำหน่ายกว่า 30 แห่ง ใน 24 จังหวัด โดยสร้างชุมชนที่แข็งแกร่งด้วยคลับมากกว่า 50 คลับทั่วประเทศไทย ความสำเร็จนี้มาจากแผนกลยุทธ์ที่หลากหลาย รวมถึงแคมเปญทางการตลาดในประเทศไทย การมีส่วนร่วมของชุมชนการขับขี่ที่แข็งแกร่ง โครงการฝึกอบรมผู้ขับขี่ อิสระในการแต่งรถหรือคัสตอม
กลยุทธ์ทางธุรกิจปี 2567 ของ โรยัล เอ็นฟีลด์ ในประเทศไทย มุ่งเน้นไปที่การมอบประสบการณ์การขับขี่และบริการหลังการขาย การมีส่วนร่วมของชุมชนการขับขี่ที่แข็งแกร่ง
  • แคมเปญทางการตลาด: ผสมผสานกิจกรรมทางการตลาดและแคมเปญแบบบูรณาการเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น
  • รถมอเตอร์ไซค์สำหรับนักขับขี่ทุกประเภท: เปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องที่ตอบสนองกับผู้ขับขี่ชาวไทยทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชี
  • เปิดโอกาสการเข้าถึงสถาบันทางการเงิน: ร่วมมือกับสถาบันการเงินพื่อเสนอแนวทาง / ทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินได้
  • การพัฒนาธุรกิจฟลีท: ขยายธุรกิจฟลีทเพื่อเข้าถึงโอกาสทางการค้
  • การขยายไลน์สินค้าไลฟ์สไตล์และเครื่องแต่งกาย: เปิดตัวคอลเลกชันเครื่องแต่งกายใหม่ด้วยการออกแบบที่หลากหลายและโดนใจลูกค้ามากขึ้น
  • การขยายตัวแทนจำหน่าย: การขยายตัวแทนจำหน่ายเพื่อครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทั่วประเทศ
  • ขยายการรับรู้ของแบรนด์บนดิจิตัลแพลตฟอร์ม: ให้ความสำคัญกับการตลาดออนไลน์และกลยุทธ์เพื่อมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น
คุณ อนุจ ดัว หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ โรยัล เอ็นฟีลด์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของโรยัล เอ็นฟีลด์ กล่าวว่า “เรารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จของเราในประเทศไทยและรู้สึกขอบคุณสำหรับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากลูกค้า ตัวแทนจำหน่าย และพันธมิตรของเรา เรายังคงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์และประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมซึ่งสอดคล้องกับชุมชนผู้ขับขี่ชาวไทย แผนกลยุทธ์ของเราสำหรับปี 2567 และในอนาคตจะช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางและพร้อมเดินหน้าเสริมแกร่งธุรกิจในประเทศไทยให้มั่นคง”
“แม้จะมีความท้าทายจากทั้งทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง แต่ โรยัล เอ็นฟีลด์ ยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตในประเทศไทย บริษัทคาดการณ์การเติบโตของยอดขายไว้ที่ 10-20% ในปีงบประมาณ 2567/2568 ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากกลยุทธ์การขยายธุรกิจ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และการมีส่วนร่วมของชุมชนที่แข็งแกร่ง”
“ที่ โรยัล เอ็นฟีลด์ เราไม่ได้ขายแค่รถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น แต่เราขายประสบการณ์การขับขี่และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ของเราจัดกิจกรรมขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ทำให้เราสร้างความแตกต่างด้วยผลิตภัณฑ์และวัฒนธรรมการขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์” คุณ อนุจ ดัว กล่าวปิดท้าย
จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง แผนกลยุทธ์และความมุ่งมั่นในการเดินหน้าลุยธุรกิจ ทำให้บริษัทอยู่ในจุดที่จะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย อีกทั้งการขยายเครือข่าย เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และสร้างความเหนียวแน่นในชุมชนของผู้ขับขี่ บริษัทพร้อมที่จะเสริมสร้างความเป็นผู้นำในกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดกลางและมีส่วนร่วมในการเติบโตของวัฒนธรรมการขับขี่ของ โรยัล เอ็นฟีลด์ ในประเทศไทยตลอดไป

สมเกียรติ จันทรา ได้เป็นนักแข่งชาวไทยคนแรกที่เข้าร่วมการแข่งขัน โมโตจีพี แบบเต็มฤดูกาล

ก้อง สมเกียรติ จันทรา จะได้เลื่อนชั้นสู่ “โมโตจีพี” กับทีม ฮอนด้า แอลซีอาร์ ตั้งแต่ฤดูกาล 2025 เป็นต้นไป

ก้อง สมเกียรติ จันทรา ปัจจุบันกำลังแข่งขันในระดับ โมโตทู กับ อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย จะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปในรุ่นสูงสุดของการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ “โมโตจีพี” กับทีม ฮอนด้า แอลซีอาร์ (Honda LCR) ตั้งแต่ฤดูกาล 2025 เป็นต้นไป

การเลื่อนชั้นในครั้งนี้ทำให้ก้อง สมเกียรติเป็นนักแข่งชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ได้ลงแข่งขันศึกมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รุ่นสูงสุด หรือ “โมโตจีพี” แบบเต็มฤดูกาล

ก้อง สมเกียรติ จันทรา เปิดตัวอย่างน่าประทับใจด้วยการคว้าชัยชนะในเรซ 1 ของการแข่งขัน Shell Advance Asia Talent Cup ในปี 2015 และจบอันดับที่ 2 ในตารางคะแนนสะสมของปีนั้น ก่อนที่จะคว้าตำแหน่งแชมป์ในปีถัดไป หลังจากนั้นได้ยกระดับไปเข้าร่วมแข่งขัน FIM CEV Repsol Moto3 Junior World Championship ในปี 2017 และได้สิทธ์ไวลด์การ์ดในการแข่งขัน มอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รุ่น “โมโตทรี” ที่ประเทศไทย ในปี 2018 และเลื่อนชั้นไปสู่ระดับ “โมโตทู” โดยได้ร่วมทีมกับ อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในปี 2019 ก่อนจะคว้าชัยชนะครั้งแรกในศึก Grand Prix of Indonesia ปี 2022 เป็นนักบิดชาวไทยคนแรกที่คว้าชัยชนะในระดับ “โมโตทู”

หลังจากนั้น ก้อง สมเกียรติ ยังได้สร้างผลงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการคว้าชัยชนะในรายการ Grand Prix of Japan ในปี 2023 ปัจจุบันในปี 2024 ก้อง สมเกียรติ มีคะแนนอยู่ในอันดับที่ 10 ของตารางคะแนนสะสม หลังผ่านการแข่งขันสนามที่ 11 ประเทศออสเตรีย

การเลื่อนชั้นของ ก้อง สมเกียรติ ขึ้นสู่ระดับ โมโตจีพี นับเป็นความสำเร็จของโครงการพัฒนานักบิดของฮอนด้าในการสร้างนักบิดเอเชียสู่การแข่งขันระดับสูงสุด ผ่านการแข่งขันรายการ “อิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ” และการผลักดันเข้าสู่สังกัด ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในรุ่น โมโตทู และ โมโตทรี เช่นเดียวกับ ทาคาอากิ นาคากามิ ที่เคยสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ลงแข่งขันในรุ่น โมโตทู ก่อนจะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปร่วมทีม ฮอนด้า แอลซีอาร์ (Honda LCR) ในโมโตจีพี ในเวลาต่อมา

■ก้อง สมเกียรติ จันทรา กล่าวว่า

“ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เข้าร่วมทีมฮอนด้าแอลซีอาร์ (Honda LCR) การก้าวเข้าสู่ โมโตจีพี เป็นความฝันของผมเสมอมา และในที่สุดผมก็สามารถทำความฝันนั้นให้เป็นจริงได้ ขอบคุณทุกๆ แรงสนับสนุน และผู้ที่ให้การสนับสนุนผมมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพจนถึงปัจจุบัน สำหรับฤดูกาลถัดไป ผมสัญญาที่จะยังคงมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ พยายามอย่างเต็มที่ และสนุกกับการผจญภัยครั้งใหม่นี้ แม้จะเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ”

■ ลูซิโอ เช็คคิเนลโล ซีอีโอและผจก. ทีม ฮอนด้า แอลซีอาร์ (Lucio Cecchinello, Honda LCR Team Principal and CEO) กล่าวว่า

“ในนามของแอลซีอาร์ เราเชื่อว่านี่คือเวลาที่เหมาะสมในการต้อนรับนักบิดชาวเอเชียที่มีความสามารถอย่าง ก้อง สมเกียรติ จันทรา ที่จะได้รับโอกาสที่จะเข้าร่วมแข่งขันในสุดยอดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบระดับโลก จากประสบการณ์หลายปีในโมโตทู เขาได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและทักษะที่จะเติบโตและกลายเป็นนักบิดที่แข็งแกร่งในโมโตจีพี ทีมแอลซีอาร์ และฮอนด้าจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสนับสนุนเขาตลอดช่วงต่างๆ ของโครงการใหม่นี้”

■โคจิ วาตานาเบะ ประธานฮอนด้า เรซซิ่ง คอร์ปอเรชั่น (Koji Watanabe, Honda Racing Corporation President) กล่าวว่า

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศการเลื่อนชั้นของก้อง สมเกียรติ จันทรา ขึ้นสู่โมโตจีพี และเรามั่นใจว่าความพยายามอันยาวนานของฮอนด้าในการนำพานักบิดจากเอเชียสู่เวทีโลกจะเริ่มเห็น ผล และมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมกีฬามอเตอร์สปอร์ตในภูมิภาคนี้ในอนาคต เราหวังว่านักบิดจากฮอนด้าจะยังคงโดดเด่นในระดับพรีเมียร์คลาสและเป็นนักบิดกรังด์ปรีซ์ที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนจำนวนมาก”

■เกี่ยวกับ ก้อง สมเกียรติ จันทรา

วันเกิด: 15 ธันวาคม 2541 (อายุ 25 ปี )

สถานที่เกิด: ประเทศไทย

ไฮไลท์เส้นทางอาชีพนักแข่ง:

2015 (พ.ศ. 2558): Asia Talent Cup – อันดับที่ 2

2016 (พ.ศ. 2559): Asia Talent Cup – แชมป์

2017 (พ.ศ. 2560): FIM CEV Repsol Moto3 Junior World Championship – อันดับที่ 11

2018 (พ.ศ. 2561): FIM CEV Repsol Moto3 Junior World Championship – อันดับที่ 8

2019 (พ.ศ. 2562): FIM Grand Prix World Championship Moto2 – อันดับที่ 21

2020 (พ.ศ. 2563): FIM Grand Prix World Championship Moto2 – อันดับที่ 25

2021 (พ.ศ. 2564): FIM Grand Prix World Championship Moto2 – อันดับที่ 18

2022 (พ.ศ. 2565): FIM Grand Prix World Championship Moto2 – อันดับที่ 10

2023 (พ.ศ. 2566): FIM Grand Prix World Championship Moto2 – อันดับที่ 6

2024 (พ.ศ. 2567): FIM Grand Prix World Championship Moto2 – อันดับที่ 10*

* หลังการแข่งขันสนามที่ 11 รายการ Austrian Motorcycle Grand Prix

■เกี่ยวกับทีม ฮอนด้า แอลซีอาร์ (Honda LCR)

ผู้จัดการและซีอีโอ: ลูซิโอ เช็คคิเนลโล

ก่อตั้ง: ปี 1996 (พ.ศ. 2539)

สำนักงานใหญ่ของทีม: เมืองโมนาโก

ฮอนด้าประกาศความสำเร็จ สุดยิ่งใหญ่ “โทนี่ โบ” กดชัยชนะสนาม 6

 “โทนี่ โบ” ทำสถิติคว้าแชมป์โลกแบบเอาท์ดอร์สมัยที่ 18 ใน TrialGP 2024

Repsol Honda Team ประกาศความสำเร็จคว้าแชมป์ TrialGP 2024 ด้วยผลงานของยอดนักขี่ไต่เขาชาวสเปน “โทนี่ โบ” หลังจากคว้าชัยชนะในการแข่งขัน ทำคะแนนทิ้งขาดคว้าแชมป์โลกซีซั่นนี้ ขณะที่ทีมเมท “กาเบียล มาเซลลี่” ขึ้นโพเดียมอันดับที่ 3 สนามที่ 6 ที่ กาฮอร์ ในประเทศฝรั่งเศส (Cahors, France) สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

การแข่งขันรอบแรก “โทนี่ โบ” เริ่มต้นได้อย่างร้อนแรงด้วยการขึ้นนำ แม้ว่ารอบที่สองจะเสียคะแนน แต่ก็สามารถปรับปรุงผลงานได้ในช่วงการแข่งขันที่เหลือ โดยการคว้าชัยชนะในสนามนี้ส่งผลให้ “โทนี่ โบ” ผงาดคว้าแชมป์โลก TrialGP 2024 ไปทันทีโดยไม่ต้องไปลุ้นถึงสนามสุดท้าย ทำสถิติเป็นแชมป์โลกแบบเอาท์ดอร์สมัยที่ 18

ทางด้านทีมเมท “กาเบียล มาเซลลี่” เริ่มต้นได้ดีตั้งแต่รอบแรกและต่อสู้อย่างแข็งแกร่งเพื่อรักษาผลงานบนโพเดียม ก่อนที่จะคว้าอันดับที่ 3 ได้สำเร็จ หลังการแข่งขันสนามนี้จบลง “กาเบียล มาเซลลี่” รั้งอันดับที่ 2 คะแนนสะสม 150 คะแนน และ “โทนี่ โบ” เก็บคะแนนสะสมทิ้งขาดไปแล้ว 197 คะแนน

ขณะที่โปรแกรมการแข่งขัน TrialGP 2024 สนามที่ 7 ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของฤดูกาลนี้ จะแข่งขันกันที่ ริโปลล์ ในประเทศสเปน(Ripoll, Spain) ระหว่างวันที่ 14-15 กันยายน นี้

#ThaiHonda #HRC #RaceToTheDream #HondaRacingThailand #MotorSport #HondaBigBike #ExcitesTheWorld #HondaRacingCorporation #FIMTrailGP

ยามาฮ่า เปิดราคา YAMAHA MT-09 Y-AMT ไฮเปอร์เน็กเก็ตแบบสุดเร้าใจที่ 5.19 แสนบาท ในงาน Big Motor Sale 2024

ยามาฮ่าฉลองครบรอบ 60ปี ยกทัพจัดโปรโมชันแบบจัดเต็ม

นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วย มร.ฮิเดฮิโกะ ทาคากิ รองประธานกรรมการบริหาร นายภาณุพล กิตติคำรณ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า นายกัมพล พรสูงส่ง รองผู้จัดการใหญ่ด้านการขาย บริการ และอะไหล่ นายธนะชัย เลขวนิชกุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจรถบิ๊กไบค์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับ นายจรวย ขันมณี ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน Big Motor Sale นายจตุพร ขันมณี รองประธานบริหาร นางสาวจิตต์จรวย ขันมณี รองประธานบริหาร บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป จำกัด นางสาวกนกกาญจน์ แก้วตระกูลโชติ คณะกรรมการอำนวยการจัดงาน Big Motor Sale ในพิธีเปิด บูธ YAMAHA THE PATH OF LIFE อย่างเป็นทางการในงาน Big Motor Sale

สำหรับงานในครั้งนี้ยามาฮ่าได้ทำการเปิดราคารถ YAMAHA MT-09 Y-AMT สุดยอดรถไฮเปอร์เน็กเก็ต สุดเร้าใจที่ราคา 519,000 บาท โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่อย่าง Y-AMT ทำให้สามารถขับขี่ได้อย่างสนุกและเร้าใจในเกียร์แบบ MT และ AT ที่สามารถเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส พร้อมกันนี้ ยามาฮ่ายังได้ยกทัพรถจักรยานยนต์มาจัดเสนอครบทุกเซกเมนต์ พร้อมจัดโปรโมชันสุดพิเศษภายในงานพร้อมรับ Gift Voucher ส่วนลดสูงสุดที่ 76,000 บาท

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถมาที่บูธ YAMAHA THE PATH OF FILE ภายในงาน BIG MOTOR SALE ได้ ระหว่างวันที่ 23 สิงหาคม – 1 กันยายน 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการ และการประชุมไบเทค บางนา

ไทยฮอนด้า เปิดตัว 2 Iconic Models ‘New Monkey Z125R Special Edition’ และ ‘New Honda CT125’

เสริมทัพบิ๊กไบค์คัสตอมพิเศษ ครั้งแรกที่งาน BIG MOTOR SALE 2024

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย ขนทัพรถจักรยานยนต์หลากหลายเซกต์เมนท์มาจัดแสดงในงาน ‘BIG MOTOR SALE 2024 เทศกาลแสดงยานยนต์ ประจำปี 2567’ พร้อมเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นพิเศษ ‘New Honda Monkey Z125R Special Edition’ รถเจ้าลิงสุดซ่าในตำนานยุค 80s ที่คัสตอมขึ้นมาพิเศษเปิดรับจองเฉพาะในงานนี้เท่านั้น อีกทั้งเอาใจสายเทรลด้วย ‘New Honda CT125’  2 เฉดสีใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสีของธรรมชาติ ‘สีเทา PEARL SMOKY GRAY’ และ ‘สีเบจ PEARL SUGARCANE BEIGE’ พร้อมด้วยรถบิ๊กไบค์ที่เสริมทัพรถคัสตอมพิเศษมาจัดแสดงภายในงานหลากหลายรูปแบบ ทั้งในกลุ่มรถแอดเวนเจอร์ และกลุ่มรถคลาสสิก รวมถึงรถบิ๊กไบค์ในคลาส 650Series ที่นำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Honda E-Clutch มาให้ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด พร้อมกับโปรโมชั่นสุดพิเศษที่มีเฉพาะในงานอีกด้วย
คุณวิวัฒน์ เลิศผาติ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารส่วนงานขายและการตลาด บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันรถจักรยานยนต์ไม่ได้มีไว้เพื่อขับขี่เท่านั้น แต่เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้แสดงความเป็นตัวตนและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้ขับขี่ ไทยฮอนด้า ในฐานะผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยจึงมุ่งมั่นนำเสนอจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรถ Iconic Models จาก CUB House ไปจนถึงรถบิ๊กไบค์ เพื่อส่งมอบคุณค่าของการใช้ชีวิตในหลากหลายรูปแบบ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์”
สำหรับ ‘New Honda Monkey Z125R Special Edition’ รถคัสตอมตัวใหม่ล่าสุดที่ผสานกลิ่นอายความคลาสสิกของยุค 80s มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ‘THE LEGACY IS BACK ลิงซ่าส์กลับมาซน’ ได้รับแรงบันดาลใจจาก Honda Monkey Z50R ในตำนาน ชูความคลาสสิกด้วยโลโก้ Classic Wing ปีกนกสีทองที่ตัดกับถังน้ำมันสีแดงอย่างลงตัว เข้าคู่กับเบาะสีน้ำเงินสุดแสบที่สะท้อนความซนของรถได้เป็นอย่างดี โดยเปิดรับจองเฉพาะที่งาน BIG MOTOR SALE 2024 เท่านั้น พร้อมรับหมวกกันน็อคดีไซน์สไตล์วิบากไม่ซ้ำใคร ในราคาแนะนำ 113,000 บาท
ตามด้วย ‘New Honda CT125’ ที่มาพร้อม 2 สีใหม่สุดพิเศษที่สะท้อนตัวตนแห่งการผจญภัยของผู้ขับขี่อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการดึงเฉดสีธรรมชาติมาถ่ายทอดภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘TRAILOR MADE’ ได้แก่ ‘สีเทา PEARL SMOKY GRAY’ ที่แสดงสีสันของเส้นทางสุดหินของการผจญภัย และ ‘สีเบจ PEARL SUGARCANE BEIGE’ แทนสีของทะเลทรายที่ พร้อมให้ไบค์เกอร์ออกไปเปิดเส้นทางสำรวจ เปิดรับจองตั้งแต่ในงานนี้เป็นต้นไป พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ทั้งหมด 3 เฉดสี ได้แก่ สีเทาใหม่ สีเบจใหม่ และสีแดง ในราคาแนะนำ 88,900 บาท
และสำหรับ ฮอนด้าบิ๊กไบค์ พร้อมส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่จอง Honda CBR1000RR-R ไทยฮอนด้า พร้อมพาไปสัมผัสประสบการณ์การขับขี่กับทริป Track Day ในสนามระดับโลก ณ เซปังอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย หรือแลกรับ Gift Voucher สูงสุดมูลค่า 100,000 บาท อีกทั้งเปิดโอกาสสำหรับ Honda XL750 Transalp XPEDITION ที่จะพาขับขี่ท่องเที่ยวผ่าน 3 ประเทศ ไทย-ลาว-เวียดนาม กับเส้นทาง น่าน-อุดมไชย-เดียนเปียนฟู-ซาปา ให้ได้ออกไปท้าทาย หรือแลกรับ Gift Voucher สูงสุดมูลค่า 30,000 บาท อีกทั้งยังมีรถแอดเวนเจอร์ และกลุ่มรถคลาสสิกที่คัสตอมมาจัดแสดงที่งานนี้เป็นครั้งแรก อีกด้วย
นอกจากนี้ ฮอนด้ายังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์หลากหลายรุ่น รวมถึงผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องจากฮอนด้า และผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างรถ Flash ที่เปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ นำมาให้ลูกค้าได้จับจอง เช่นเดียวกับการจัดกิจกรรมให้ผู้เข้าชมบูธได้ร่วมสนุกอย่างต่อเนื่อง พร้อมรับโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมาย ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม – 1 กันยายน นี้ ณ บูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้า (A34) ฮอลล์ 101-104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th/cubhouse
เฟซบุ๊ก CUB House : www.facebook.com/cubhousebyhonda
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
#MonkeyZ125R #TheLagacyisBack #HondaMonkey #CT125 #TrailorMade #CUBHouse
#HondaEclutch #650Series #CBR650R #CB650R #ExcitementInEveryBreath #HondaBigBike #HondaBigBikeThailand #ExcitesTheWorld
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand #ไทยฮอนด้า #ThaiHonda #HowWeMoveYou

เรซแห่งปี! ศึก Plan-B Media BRIC Superbike

ดวลทิ้งทวนก่อนศึกโมโตจีพี “บอสใหญ่” ลั่นมันส์ยกระดับ

 ศึกสองล้อเบอร์หนึ่งของไทย รายการ “แพลน-บี มีเดีย บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2024” สนามที่ 4 เตรียมดวลกัน 2 เรซสุดท้าย เพื่อตัดสินแชมป์ประจำปี ก่อนปรับสภาพสนามรองรับกรังด์ปรีซ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก “โมโตจีพี”  ด้านบอสใหญ่ “ตนัยศิริ” เผยสองล้อไทยยกระดับความมันส์สู่เรซอินเตอร์ มีนักแข่ง-ทีมช่างต่างชาติลงแย่งชิงโพเดียมมากขึ้น

ความเคลื่อนไหวการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ แพลน-บี มีเดีย บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2024 สนามที่ 4 เตรียมดวลความเร็ว 2 เรซสุดท้าย เพื่อตัดสินแชมป์ประจำปี ระหว่างวันที่ 5-8 กันยายน 2567 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยนับเป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างมากต่อการลุ้นแชมป์ประจำปีในทุกคลาส และมีการจัดพิธี Champion day มอบรางวัลและฉลองแชมป์ของทุกรุ่นอย่างยิ่งใหญ่

นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในฐานะแม่ทัพใหญ่ในการพาเรือธงของการแข่งขันรายการใหญ่ที่สุดของไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาฐานแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยเพิ่มขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก เห็นได้จากตัวเลขที่เราได้จัดแข่งขันโมโตจีพี ตลอด 4 ปี มีแฟนเข้าชมตั้งแต่ปี 2018 มากถึง 800,000 คน เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ดอร์น่า สปอร์ต เลือกใช้ประเทศไทยเป็นสนามเปิดฤดูกาลถึง 2 ปีซ้อน

“ในฝั่งของศึกชิงแชมป์ประเทศไทย เราได้ยกระดับสู่เป้าหมายในการเป็นรายการอับดับหนึ่งในระดับทวีปและภูมิภาค โดยทำการแข่งขันภายใต้กติกาเดียวกับการชิงแชมป์เอเชีย นำกฎของ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ มาบังคับใช้กับการแข่งขันในประเทศไทย ตลอดทั้งปีจะเห็นนักแข่ง-ทีมช่างต่างชาติ อาทิ สหรัฐอเมริกา, เบลเยี่ยม, รัสเซีย,อินเดีย,ไต้หวัน, ญี่ปุ่น ลงทำการแข่งขันและแย่งชิงโพเดียมในบ้านเรามากขึ้น

รวมทั้งนักบิดชาวไทยระดับมืออาชีพและนักบิดดาวรุ่งมากมาย มีทีมแข่งทีมช่างที่พัฒนาแบบก้าวกระโดด การมีผู้หญิงมีบทบาทกับการแข่งขันทั้งนักแข่งและทีมช่างที่เป็นผู้หญิง เหล่านี้เองเป็นบันไดสำคัญในการสร้างบุคลากรและพัฒนาวงการแข่งขันจักรยานยนต์ของไทยอย่างเต็มระบบ ด้วยการสร้างระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์แบบ เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า วงการสองล้อไทย  ทั้งมาตรฐานและความนิยม เทียบชั้นสากลได้อย่างแน่นอน โดยสนามสุดท้ายของปีนี้ จะยกระดับความมันส์ของการลุ้นแชมป์ที่แฟนความเร็วต้องห้ามพลาด  “

ด้าน “วรพงศ์ มาลาหวล” นักแข่งชื่อดังที่มีดีกรีระดับแชมป์ประเทศไทยหลายสมัย โลดแล่นในระดับเอเชียมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันยังคงลงแข่งขันรายการสูงสุดของทวีป อย่างเอเชีย โรด เรซซิ่ง ครองแชมป์เอเชียในปี 2022 ซัพพอร์ตเรซ รุ่น TVS Asia One Make กับอีกบทบาทคือการเป็นผู้จัดการทีมแข่งอย่าง “เอวีอาร์พี เรซซิ่งทีม” ซึ่งประกอบไปด้วยนักแข่งของไทยและนักแข่ง-ทีมช่างต่างชาติร่วมทีม อาทิ อินเดีย,ไต้หวัน เป็นทีมแข่งที่น่าจับตามองในแง่ของการพัฒนาทีมในด้านต่างๆ เพื่อเทียบชั้นกับทีมโรงงาน

วรพงศ์ กล่าวว่า  “การแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยนี้มีการแบ่งคลาส ทำให้นักแข่งแต่ละคนอยู่ในเวทีที่เหมาะสม เป็นเหมือนดาวที่จะฉายแสงออกมาได้ มีบันไดที่จะก้าวสูงขึ้นในขั้นต่อไปเรื่อยๆ โดยในปี 2023 ทีมของเราผลักดันให้ “มอส”ธเนศร วนิศรกุล เจ้าของร้านมนต์ นมสด เป็นแชมป์ SuperStock 1000 ST3  ด้วยวัย 50 กว่าปีได้สำเร็จ ตามสโลแกนที่ว่า anyone can be a hero ใครๆก็เป็นฮีโร่นักบิดได้ ส่วนการแข่งขันสนามสุดท้าย เชื่อว่านักแข่งและทีมแข่งทุกคนจะพยายามทำผลงานอย่างสุดความสามารถที่สุด อยากได้แรงเชียร์จากแฟนความเร็ว มาช่วยกันให้กำลังใจนักแข่งที่ลงทำการแข่งขันกันมากๆครับ”

ทั้งนี้ ศึก แพลนบี มีเดีย บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2024 สนามที่ 4 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 กันยายนนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยแข่งขัน 2 เรซ ในสุดสัปดาห์เดียวกัน โดยจะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมครั้งแรกในวันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน ก่อนจะซ้อมครั้งที่ 2 และจับเวลารอบควอลิฟายในวันศุกร์ที่ 6 กันยายน และดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศเรซแรกในวันเสาร์ที่ 7  กันยายน ก่อนจะปิดฉากเรซสุดท้ายเพื่อตัดสินแชมป์ในวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางแฟนเพจ Chang Circuit Buriram และ BRIC Superbike