กรุงศรี ออโต้ ร่วมสร้างอนาคตที่ปลอดภัย ผนึกรัฐสภา และกรมการขนส่งทางบก

กรุงศรี ออโต้ สนับสนุนหมวกกันน็อกเด็ก 1,000 ใบ

“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน ผนึกกำลังร่วมกับคณะอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและด้านยานพาหนะเกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน รัฐสภา และกรมการขนส่งทางบก รณรงค์ให้เด็กไทยอายุ 4-12 ปี สวมหมวกกันน็อกทุกครั้งเมื่อซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ มุ่งปลูกฝังพฤติกรรมของเด็ก และผู้ปกครอง ให้ร่วมมือกันป้องกันอันตราย เพื่อลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บและลดความเสี่ยงของเด็กจากอุบัติเหตุบนท้องถนน

นายคงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา กรุงศรี ออโต้ ได้ดำเนินโครงการ LET’sponsible หรือ  Responsible (Let us be responsible) มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลูกฝังแนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคมที่สามารถเริ่มต้นได้จากตัวบุคคลและขยายผลส่งต่อไปยังคนรอบข้าง โดยมุ่งเน้นด้านการส่งเสริมพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย พร้อมผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม โดยในปี 2568 กรุงศรี ออโต้ ได้สานต่อโครงการ LET’sponsible ส่งต่อความปลอดภัยให้เด็กไทยอายุ 4-12 ปี สวมหมวกกันน็อกทุกครั้งเมื่อโดยสารรถจักรยานยนต์ เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนของ กรุงศรี ออโต้ โดยมีคณะอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและด้านยานพาหนะเกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน รัฐสภา และกรมการขนส่งทางบก ให้เกียรติร่วมมือกันผลักดันการเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ผ่านการร่วมแจกจ่ายหมวกกันน็อกสำหรับเด็กจำนวน 1,000 ใบ”

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานคณะอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและด้านยานพาหนะเกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน รัฐสภา กล่าวว่า “คณะอนุกรรมการฯ ให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนมาโดยตลอด และมุ่งมั่นสนับสนุนมาตรการที่จะช่วยลดอุบัติเหตุและปกป้องผู้ใช้ถนน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง เราจึงยินดีที่ได้เห็นความร่วมมือจากภาคเอกชน อย่าง กรุงศรี ออโต้ ในการร่วมผลักดันแนวคิดนี้ให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากการเสียชีวิตของเยาวชนอาจส่งผลกระทบในระยะยาวต่อการพัฒนาประเทศ เราจึงต้องร่วมกันรณรงค์ให้ทั้งผู้ปกครองและเด็กเกิดการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการสวมใส่หมวกกันน็อก เพื่อไม่ต้องเสี่ยงภัยกับอุบัติเหตุบนท้องถนน

นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า “กรมการขนส่งทางบก ได้ตั้งเป้าหมายลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือ 12 คนต่อแสนประชากร ภายในปี 2570 ตามนโยบายของรัฐบาล และเล็งเห็นว่าการสร้างความตระหนักรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้ถนนเป็นปัจจัยสำคัญ  สำหรับความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของกลุ่มเด็กและเยาวชนที่เป็นกลุ่มเปราะบางและมีความเสี่ยงสูง ดำเนินการจัดกิจกรรมรณรงค์ปลูกฝังวัฒนธรรมการใช้รถใช้ถนน ตั้งแต่วัยเยาว์ผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับเด็กแต่ละช่วงวัยผ่านเว็บไซต์ kidsoer.safedrivedlt.com รวมถึงยังมีโครงการนักเรียนรุ่นใหม่ มีใบขับขี่ ส่งเสริมให้นักเรียนนักศึกษามีทักษะการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ถูกต้อง ปลอดภัย ดังนั้น การสนับสนุนจากภาคเอกชน อย่าง กรุงศรี ออโต้ จึงถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว พร้อมเสริมสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ปลอดภัยแก่สังคมไทย

แคมเปญ LET’sponsible มุ่งส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนน ปลูกฝังพฤติกรรมการใช้รถอย่างรับผิดชอบ และมุ่งเน้นให้ผู้ใช้รถใช้ถนน เคารพกฎวินัยจราจร แบ่งปันน้ำใจให้กับเพื่อนร่วมทางอันจะนำไปสู่การลดจำนวนอุบัติเหตุ ป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน กรุงศรี ออโต้ ภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยให้กับสังคมไทย และมุ่งมั่นผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน เพื่อให้ถนนทุกสายปลอดภัยสำหรับทุกคน

“ก้อง-สมเกียรติ” บิดคว้าอันดับ 16 โมโตจีพี สนาม 3 อเมริกาส์ กรังด์ปรีซ์

“ก้อง-สมเกียรติ” ยกระดับ ขยับเข้าใกล้แต้มแรกจากเรซสุดหิน 

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดโมโตจีพีชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” หมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ บิดรถแข่ง Honda RC213V เริ่มเกมจากกริดที่ 21 ในเรซที่ต้องลดจำนวนรอบลงเหลือ 19 รอบสนาม จากเหตุธงแดงช่วงต้นเกมก่อนจะบิดเข้าป้ายในอันดับ 16 ขยับเข้าใกล้การคว้าแต้มแรกใน โมโตจีพี

ด้านทีมเมทชาวฝรั่งเศสหมายเลข 5 “โยฮันน์ ซาร์โก” พลาดล้มท้ายเรซ แต่สามารถบิดจบการแข่งขันในอันดับที่ 17 ส่วน “ลูก้า มารินี” นักบิดอิตาเลียน หมายเลข 10 จาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี บิดเข้าในอันดับ 8 ตามหลังผู้ชนะ 15.646 วินาที และ “โจอัน เมียร์” ทีมเมทชาวสแปนิช หมายเลข 36 ต้องออกจากการแข่งขัน

ขณะที่ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี เจ้าของหมายเลข 5 ดาวรุ่งชาวไทยจาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย พลาดลงแข่งขันใน โมโตทรี สนามนี้อย่างน่าเสียดาย หลังได้รับบาดเจ็บเอ็นที่หัวเข่า จากอุบัติเหตุล้มในรอบควอลิฟาย โดยจะต้องทำการรักษาและเช็คอย่างละเอียดอีกครั้ง

ทั้งนี้ ศึก โมโตจีพี 2025 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 เมษายนนี้ ที่ สนามลูแซล อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ ในรายการ กาตาร์ กรังด์ปรีซ์

แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ และนักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม: https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #HondaHRCCastrol #JM36 #LM10 #LCRHondaTeam #LCRHonda #JZ5 #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP #HondaTeamAsia #TB5 #Gonz #AmericasGP

“มิลเลอร์” คว้าท็อป 6 ซ้อมวันแรก ทะยาน Q2 โมโตจีพี อเมริกา

แจ็ค มิลเลอร์ ยกระดับความเร็วรถแข่ง YZR-M1

แจ็ค มิลเลอร์ ยอดนักบิดออสเตรเลียนจาก พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี ยกระดับความเร็วรถแข่ง YZR-M1 ยอดเยี่ยม รั้งท็อป 6 ซ้อมวันแรกในศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 3 อเมริกาส์ กรังด์ปรีซ์ ทะยานเข้าสู่ Q2 ได้สำเร็จ ก่อนลุ้นล่าโพเดียมเสาร์-อาทิตย์นี้ ที่ เซอร์กิต ออฟ ดิ อเมริกาส์

ศึก กรังด์ปรีซ์ ออฟ ดิ อเมริกาส์ ผ่านการซ้อมวันแรกเพื่อแบ่งกลุ่มการควอลิฟาย เมื่อเช้ามืดวันเสาร์ที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ภายใต้สภาพอากาศกึ่งแห้งกึ่งเปียก หลังจากที่มีฝนตกลงมาตลอดทั้งวัน โดยในรุ่น โมโตจีพี แทร็กเริ่มแห้งทำให้นักบิดทุกคนสามารถใช้ยางสลิคได้

ผลการซ้อมปรากฏว่า แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสเตรเลียนเจ้าของหมายเลข 43 จาก พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี ยังคงสร้างผลงานร้อนแรงต่อเนื่อง รั้งอันดับ 6 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 3.953 วินาที ตามหลังหัวแถว 1.024 วินาที สามารถทะลุเข้าสู่ควอลิฟายรอบ Q2 แบบอัตโนมัติ

ส่วน ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร นักบิดเฟรนช์เจ้าของหมายเลข 20 จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี จบวันแรกในอันดับ 11 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 4.579 วินาที ตามด้วยทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อเล็กซ์ รินส์ หมายเลข 42 ในอันดับ 17 ด้วยเวลา 2 นาที 5.287 วินาที และ ออกุสโต้ เฟอร์นันเดซ นักบิดทดสอบชาวสแปนิชจาก พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี ในอันดับ 19 ด้วยเวลา 2 นาที 5.927 วินาที

จากสถานการณ์ในวันแรกที่ เซอร์กิต ออฟ ดิ อเมริกาส์ ส่งสัญญาณบวกสำหรับทัพนักบิดจาก ยามาฮ่า โดยเฉพาะการพัฒนารถแข่ง M1 ซึ่งมีพัฒนาการที่ก้าวกระโดดอย่างน่าสนใจในสุดสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ศึก กรังด์ปรีซ์ ออฟ ดิ อเมริกาส์ จะเข้าสู่โปรแกรมการควอลิฟายในวันเสาร์ที่ 29 มีนาคมนี้ และดวลความเร็วรอบ สปรินต์ในคืนเดียวกัน จากนั้นจะดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในคืนวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคมนี้ 02.00 น. (ข้ามเป็นวันที่ 31 มีนาคม) ถ่ายทอดสดทาง TrueVisionsSPOTV

—————————–
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP25 #TheBlueShift
#YamahaFactoryRacingTeam
#MonsterEnergyYamahaMotoGP #FQ20 #AR42
#PrimaPramacYamaha
#JM43 #MO88

“ก้อง-สมเกียรติ” เดินหน้า พร้อมลุยโมโตจีพีกับแทร็กสุดหิน “เมียร์” พา “ฮอนด้า” รั้งท็อป 9 ตีตั๋ว Q2 ออสติน

“ก้อง-สมเกียรติ” รั้งอันดับ 21 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 6.493 วินาที

“ก้อง-สมเกียรติ” นักบิดโมโตจีพีชาวไทย เจ้าของหมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ต้องพยายามอย่างหนักในการปรับตัวกับการลงบิดรถแข่ง โมโตจีพี Honda RC213V ในสนามแห่งนี้เป็นครั้งแรก ท่ามกลางสายฝนที่ตกอย่างหนัก ซึ่งเป็นอุปสรรคในการทำความเร็วให้กับนักบิดทุกคน ก่อนจะรั้งอันดับ 21 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 6.493 วินาที

ขณะที่ “โจอัน เมียร์” นักบิดสแปนิชจาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี พารถแข่งหมายเลข 36 ยกระดับอย่างต่อเนื่อง รั้งอันดับ 9 จากการซ้อมวันแรกด้วยเวลา 2 นาที 4.342 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 1.413 วินาที สามารถทะยานเข้าสู่ Q2 ได้สำเร็จ ส่วน “ลูก้า มารินี” ทีมเมทชาวอิตาเลียน หมายเลข 10 รั้งอันดับ 15 และ “โยฮันน์ ซาร์โก” นักบิดชาวฝรั่งเศสหมายเลข 5 จาก ฮอนด้า แอลซีอาร์ รั้งอันดับ 20 หลังพลาดล้มช่วงท้ายการซ้อม

ด้าน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ยกระดับความเร็วได้ดีในการซ้อมวันแรก รั้งอันดับ 17 ของ โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 26.006 วินาที ส่งสัญญาณยอดเยี่ยมในการลุ้นแต้มสนามนี้ ที่แม้จะพลาดโอกาสทะลุสู่ Q2 ไปอย่างเฉียดฉิว

สำหรับ ศึก กรังด์ปรีซ์ ออฟ ดิ อเมริกาส์ จะแข่งขันรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ตในคืนวันเสาร์ที่ 29 มีนาคมนี้ (ข้ามวันเข้าสู่วันอาทิตย์) ก่อนดวลความเร็ว “สปรินต์เรซ” ในคืนเดียวกัน จากนั้นจะแข่งขันรอบ “เมนกรังด์ปรีซ์” ในคืนวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคมนี้ เริ่มต้นด้วย โมโตทรี 23.00 น. ต่อด้วย โมโตทู (ข้ามวันเข้าสู่วันจันทร์) 00.15 น. และปิดท้ายด้วย โมโตจีพี 02.00 น. ถ่ายทอดสดทาง True4U Truevision Now และ True SPOTV

#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #HondaHRCCastrol #JM36 #LM10 #LCRHondaTeam #LCRHonda #JZ5 #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP #HondaTeamAsia #TB5 #Gonz #AmericasGP

คาวาซากิ ขนทัพผลิตภัณฑ์หลากรูปแบบ มาเพื่องาน Bangkok International Motor Show 2025

คาวาซากิเปิดผ้าคลุมรถใหม่ถึง 2 รุ่น ภายในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้

W800 ปี 2025 เอาใจสายคลาสสิคกับสี Metallic Brilliant Golden Black กับลายเส้นสีทองบนพื้นดำเมทัลลิค ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา งดงาม โดดเด่นกว่าใคร W800 ถูกออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์สวยงามเหนือกาลเวลา หยิบยื่นสมรรถนะการควบคุมการขับขี่ที่ใช้งานง่ายและการเก็บรายละเอียดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความประณีตพิถีพิถัน พร้อมกับรูปลักษณ์และสัมผัสที่คล้ายคลึงต้นตระกูลรุ่นแรกมากที่สุด จึงสามารถส่งมอบสัมผัสแห่งความอิ่มเอมและความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์คลาสสิคให้แก่ผู้ใช้ได้อย่างถ่องแท้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Vertical Twin 773 “ซีซี” ระบายความร้อนด้วยอากาศ เครื่องยนต์ช่วงชักยาวถูกปรับจูนมาเพื่อสมรรถนะในรอบต่ำ-กลางเพื่อส่งมอบสัมผัสของแรงบิดอันทรงพลัง เพลาข้อเหวี่ยงแบบ 360 องศา ช่วยให้ W800 มีการจุดระเบิดและชีพจรการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

เปิดจำหน่ายที่ราคา 419,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นคูปองเงินสดมูลค่า 5,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้น 1

 

กลับมาอีกครั้งกับเจ้าสนามแข่งอย่าง Ninja ZX-10R ปี 2025 รถจักรยานยนต์ที่ถูกสร้างมาเพื่อการขับขี่ในสนามแข่ง และได้รับการพิสูจน์มาแล้วจากการครองแชมป์ในรายการ FIM World Superbike Championship 6 ปีซ้อน นับว่าเป็นผลลัพธ์ของความสำเร็จในการแข่งขันทางเรียบระดับโลกแห่งทศวรรษ รวมเข้ากับประสบการณ์ในสนามแข่งของคาวาซากิ ได้กลายมาเป็นขุมพลัง 998ซีซี 4 สูบ พร้อมกับเฟรมที่เกิดมาเพื่อการแข่งขัน และชุดอิเล็คทรอนิคล้ำสมัย เปิดทุกความเป็นไปได้ให้กับ Ninja ZX-10R Face Yourself

ราคาแนะนำที่ 859,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นเปิดตัวสุดพิเศษ คูปองเงินสดมูลค่า 10,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้น 1

นอกจากนี้ยังมีรถรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

กับ KLX230 Sherpa เครื่องมือเดินป่าสำหรับนักขี่จากคาวาซากิ ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้ง่าย ด้วยน้ำหนักเบาและการควบคุมที่ง่าย ความสูงของเบาะต่ำ และให้ความมั่นใจในการขี่ รูปลักษณ์ที่ทนทานเหมาะกับการใช้งานกลางแจ้ง ติดตั้งการ์ดมือและแผ่นกันกระแทกอะลูมิเนียมที่เพิ่มความสามารถในการใช้งาน พร้อมระบบเบรก ABS ที่สามารถเปิด-ปิดการใช้งานได้ทั้งหน้าและหลัง และรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านทาง Rideology the app สมชื่อ Sherpa เพื่อนคู่ใจนักเดินเขาหิมาลัย คาวาซากิได้นำ KLX230 Sherpa มาให้สัมผัสกันที่งานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ พร้อมจำหน่ายที่ราคา 159,000 พร้อมคูปองเงินสด 5,000 บาทและประกันรถหาย

และอีกหนึ่งความพิเศษของงานนี้คือ คาวาซากิ ได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ไม่เคยจัดแสดงในประเทศไทยมาทุกท่านสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด กับ รถ ATV รุ่น Brute force 750 ATV ที่จะพาคุณพิชิตเส้นทางที่ยากลำบากและภารกิจต่างๆ ด้วยความสามารถที่แข็งแกร่งและความสะดวกสบายตลอดทั้งวันที่ไม่มีใครเทียบได้ พลังที่ตอบสนองได้ดี การควบคุมที่สปอร์ต และคุณภาพการประกอบของ Kawasaki เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นด้วยความมั่นใจ และนำพาคุณไปสู่ทุกจุดหมายที่ต้องการ

 

และที่พ่วงมาด้วยกันคือ เจ๊ตสกีนั่งรุ่น Ultra310LX ที่สุดแห่งความลงตัวระหว่างความสนุกสนานและหรูหราของยานยนต์ทางน้ำ ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Supercharged อันทรงพลัง และเทคโนโลยีเหนือชั้นมากมาย ให้ผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำได้รับประสบการณ์ที่สุดยอดเหนือใครนั่นเอง

 

พิเศษสุดในปีนี้ Eliminator มาพร้อมกับการเฉลิมฉลองยอดขายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์เป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นในปี 2024 มากกว่า 6,000 คัน ภายใต้แคมเปญ Just Ride No.1 โดย Eliminator มีฐานการผลิตอยู่ที่โรงงานคาวาซากิในจังหวัดระยอง ในระยะเวลาเพียงไม่ถึง 2 ปีตั้งแต่เปิดตัว คาวาซากิ ประเทศไทยได้ผลิต Eliminator เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปทั่วโลกแล้วกว่า 40,000 คัน นับเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ให้กับแบรนด์รถจักรยานยนต์ที่เป็นที่รักของชาวครุยเซอร์มากว่า 40 ปี นับตั้งแต่ปี 1985 นับเป็นความภาคภูมิใจของชาวไทยที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้

Eliminator ซิตี้ครุยเซอร์ที่จะมาปลุกจิตวิญญาณในตัวคุณ เครื่องยนต์สองสูบเรียง ขนาด 399 ซีซี ที่มอบแรงบิดสูง ในทุกรอบการขับขี่ น้ำหนักเบาเพียง 176 กิโลกรัม และเบาะนั่งต่ำ 735 มิลลิเมตร ให้การควบคุมที่คล่องตัว ขับขี่ง่ายแม้มือใหม่กับรถขนาดใหญ่ และถังน้ำมันขนาด 13 ลิตร ให้คุณไปได้ไกลกว่า มาพร้อมกับหน้าจอ TFT สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของผู้ใช้รถโดยเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่น “RIDEOLOGY” ครบทั้งรูปลักษณ์อันโดดเด่นและเทคโนโลยีเพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย

Eliminator จำหน่ายในประเทศไทย 2 รุ่น รุ่นสแตนดาร์ดราคา 199,000 บาท และรุ่น SE ราคา 215,000 บาท พิเศษกับโปรโมชั่นเฉลิมฉลองความสำเร็จนี้ ด้วยคูปองเงินสดมูลค่า 12,000 บาท ประกันรถหาย 1 ปี

 

YAMAHA YZF-R9 ร้อนแรงต่อเนื่อง เวิลด์ซูเปอร์สปอร์ตที่ปอร์ติเมา

ชาน อนชู ระเบิดความเร็วคว้าซูเปอร์โพล เวิลด์ซูเปอร์สปอร์ตที่ปอร์ติเมา

ตัวแข่ง YAMAHA YZF-R9 น้องใหม่ในรุ่นเวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต โชว์ผลงานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในรอบซูเปอร์โพล ศึกเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ 2025 สนามที่ 2 รุ่นเวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต ที่ปอร์ติเมา ในประเทศโปรตุเกส เป็นชาน อนชู ดาวบิดตุรกีจาก YAMAHA BLU CRU Evan Bros Racing กระชากคันเร่งทำเวลาหนีจากคู่แข่ง คว้ากริดสตาร์ทอันดับที่ 1 มาครองได้สำเร็จ ด้วยเวลาต่อรอบที่ดีที่สุด 1’42.944 นาที

ไม่พอเท่านั้น อันดับที่ 2 ยังเป็นผลงานของนักบิดยามาฮ่า จากความเร็วของ ลูคาส มายาศ ของ GMT94-YAMAHA ด้วยเวลาต่อรอบที่ดีที่สุด 1’43.542 นาที ขณะที่มือวางเบอร์ต้นของยามาฮ่าอย่าง สเตฟาโน่ มานซี่ เจ้าของชัยชนะและดับเบิ้ลโพเดียมจากสนามแรก รั้งอยู๋ในอันดับที่ 6 ด้วยเวลาต่อรอบที่ดีที่สุด 1’43.720 นาที

ทั้งนี้ การแข่งขันเรซที่ 1 ศึกเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ 2025 สนามที่ 2 ที่ปอร์ติเมา ในประเทศโปรตุเกส จะดวลกันวันเสาร์ที่ 29 มีนาคม 2568 นี้ ในเวลา 19.35 น. ตามเวลาประเทศไทย

—————————–
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaFactoryRacingTeam
#YamahaWSBKTeam2025 #R9

เปิดยิ่งใหญ่ “บางกอกมอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยกทัพ  54  แบรนด์ อัดแน่นเต็มพื้นที่  อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 

“The Talk of Sensuous  Automotive”
บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) รวมกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์กว่า 54 แบรนด์ดัง จัดงาน “บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ภายใต้ธีม “The Talk of Sensuous  Automotive” หรือ “สนทนาภาษายานยนต์” ชูไฮไลต์พื้นที่โซนใหม่จัดแสดงอะไหล่รถอีวีและสันดาป หลังปิดดีลเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายจากประเทศจีน โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน พ.ศ.2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี
ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน “บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 กล่าวว่า “สำหรับงานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้ธีม “The Talk of Sensuous  Automotive” หรือ “สนทนาภาษายานยนต์” สื่อถึงปรัชญาแนวทางการออกแบบในโลกยานยนต์ที่สื่อสารเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมด้วยพลัง ความปรารถนา แรงบันดาลใจ สื่อสารเป็นภาษาของยานยนต์ เพื่อสะท้อนแนวคิด การสร้างสรรค์พัฒนา และประสบการณ์สุนทรียภาพทางอารมณ์อย่างที่คุณค่า”
นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงาน “บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 “โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการยานยนต์จากยุโรปและเอเชียตอบรับเข้าร่วมออกบูธภายในงานฯ แล้ว 54 ราย แยกเป็นรถยนต์ 41 บริษัท และจักรยานยนต์ 13  สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมออกงานอย่างเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังได้รับการตอบรับการเข้าร่วมออกงานฯของกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่เป็นแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า ที่เพิ่งเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย อาทิ ZEEKR, OMODA&JAECOO, CHERY, KINGGEN, JUNEYAO , RIDDARA และ GEELY รวมถึงเทคโนโลยีระบบนำทางภายในรถยนต์ HUAWEI นอกจากนี้ยังมีแบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า YADEA ที่มาเปิดตัวครั้งแรกภายในงานฯ โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 14 ราย”
“ส่วนในไฮไลต์ของการจัดงานฯ ปีนี้ นอกจากมีการเปิดตัวรถยนต์และรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ทั้งรถสันดาปและรถอีวีของผู้ประกอบการยานยนต์แล้ว บริษัทฯ ได้จัดเตรียมพื้นที่ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 พื้นที่กว่า 9,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการออกบูธอุปกรณ์ตกแต่งรถโดยเฉพาะ โดยในปีนี้ได้ขยายฐานผู้ออกบูธแสดงสินค้าสู่กลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถอีวีและสันดาปที่ต้องการขยายตลาดในประเทศไทย เนื่องจากเห็นโอกาสและศักยภาพของงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่เป็นงานจัดแสดงยานยนต์ระดับสากล”
“จึงได้รับความร่วมมือจาก บริษัท หนานจิง ฉ่วงฉี เอ็กซิบิชั่น จากประเทศจีน ได้นำสินค้าอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จากประเทศจีน มาจัดแสดงเพื่อให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยที่สนใจเป็นร่วมตัวแทนจำหน่ายอีกด้วย นับได้ว่า เป็นครั้งแรกของการจัดงานแสดงรถยนต์เพื่อผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์โดยตรง เป็นการเชื่อมโยงทางธุรกิจ และการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการ บนพื้นที่กว่า 3,800 ตารางเมตรภายในฟอรั่ม ฮอลล์ 4 ระหว่างวันที่ 24 – 30 มีนาคม 2568 มั่นใจได้ว่า จะได้สินค้าที่ตรงตามคุณภาพ ราคาจากผู้ประกอบการโดยตรง”
นอกจากนี้ ยังมีการออกบูธจัดแสดง USED CAR หรือรถมือสองระดับลักชัวรี่ รวมถึง สินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น สินค้ามูเตลู การแข่งขันชิงรางวัล พร้อมกิจกรรมสนุกๆอีกมากมาย ภายในฮอลล์
และอีก 1 งานที่แต่งเติมสีสันให้ล้อกันไปกับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ คือ MU-NIVERSE “เปิดจักรวาลมูเตลูไทย สู่คนรุ่นใหม่” เป็นอีเวนต์ที่รวบรวม เรื่องราวมูเตลูของเมืองไทยในแบบที่เข้าถึงง่าย เชื่อมโยง ความเชื่อม ศิลปะ เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกัน ระหว่าง วันที่ 2-6 เมษายน 2568 ที่บริเวณฟอรั่ม ฮอลล์ 4 พบปะกับอ.ลักษณ์ โหราธิบดี และแขกรับเชิญสายมูชื่อดังมากมาย พร้อมกิจกรรมดูดวง ปรึกษาฤกษ์ออกรถ ป้ายทะเบียนมงคล สินค้าเครื่องรางวัตถุมงคล กิจกรรมแลกเปลี่ยนข้อมูลของดีของสะสมสายมู พร้อมรับสติ๊กเกอร์เสริมดวงรุ่นพิเศษเฉพาะงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เท่านั้น
นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายการผลิต บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สำหรับกิจกรรมในปีนี้ นอกจากกิจกรรม E-Racing ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์การแข่งขันรถยนต์เสมือนจริงผ่านเครื่องเล่น Simulator แล้ว ทางผู้จัดยังได้รับความร่วมมือจาก R.C.S. (Runbike Championship Series) ประเทศญี่ปุ่น จัดกิจกรรมการแข่งขันจักรยานทรงตัวรายการ “Grandprix Runbike Championship With R.C.S.” ขึ้นภายในงาน โดยเป็นการจัด Pre-Event จำนวน 2 สนาม ซึ่งการจัดการแข่งขันดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันวงการกีฬาสำหรับเยาวชนในประเทศไทย รวมถึงบูธแสดงสินค้าเกี่ยวกับเด็ก กีฬา และไลฟ์สไตล์ ตลอดจนโซนกิจกรรมสำหรับครอบครัวอีกด้วย”
นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมาบริษัทฯ ในฐานะผู้จัดงาน ได้มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้เข้าร่วมงาน และผู้เข้าชมงานได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี digital transformation เข้ามาอำนวยความสะดวกในการเข้าชมงาน”
“เราได้พัฒนาบัญชี LINE Official Account หรือ Line OA ขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกใช้ในการลงทะเบียน และยังเป็นการเพิ่มช่องทางการสื่อสารระหว่างบริษัทฯ กับผู้บริโภคในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และรูปแบบการให้บริการใหม่ๆ ทั้งกลุ่ม Auto และ กลุ่ม Lifestyle ที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้นมา เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ”
“นอกจากนี้ เรายังได้จัดทำโปรแกรม Fullloop ที่สามารถเก็บข้อมูลฟีดแบ็กจากผู้เข้าชมได้ในรูปแบบที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ผู้เข้าชมสามารถกรอกแบบสอบถามสั้นๆ เพื่อประเมินการจัดงาน ช่วยให้ผู้จัดงานสามารถรวบรวมข้อมูลได้ทันทีและวิเคราะห์ผลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการเก็บฟีดแบ็กจากผู้เข้าชมในงานมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้จัดงานสามารถปรับปรุงการจัดงานในหลายๆ ด้าน และตอบสนองต่อความต้องการของผู้เข้าชมได้ดียิ่งขึ้น”
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการจัดงานฯ ปีนี้จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา  ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัวชัดเจนและเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน ประกอบกับสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเนื่องจากภาวะหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าผู้บริโภคยังมีความต้องการซื้อรถใหม่และรถมือสอง
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ผู้จัดงานฯ มีการปรับเพิ่มวันสำหรับสื่อมวลชน หรือ Press day เป็น วันที่ 24 มีนาคม 2568 สือมวลชนสามารถเข้าภายในบริเวณงานได้ตั้งแต่เวลา 7:30 น. โดยรอบนำเสนอของบริษัทแรกจะเริ่มในเวลา 8:00 – 21:00 น. ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมจากแบรนด์ที่ร่วมออกงานฯ โดยสื่อมวลชนที่ไม่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้า สามารถลงทะเบียนได้ที่กองอำนวยการ ได้ตั้งแต่เวลา 7:00 น.
ในวันที่ 25 มีนาคม 2568 พิธีเปิดการจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 อย่างเป็นทางการ จะเริ่มในเวลา 9:00 – 10:00 น. และ เปิดรอบสำหรับ VIP ตั้งแต่เวลา 10:00 น.- 18:00 น.
การจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 นี้ มีความคืบหน้าเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ มั่นใจว่า การจองรถยนต์ ภายในงานครั้งนี้ จะได้รับข้อเสนอที่คุ้มค่า เข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุด และสิทธิพิเศษมากมาย ถือเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการตัดสินใจ!  และ สร้างความตื่นตาตื่นใจไม่แพ้การจัดงานในอดีตที่ผ่านมา
แคมเปญแจกรถรางวัล สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ เรามี 4 แคมเปญด้วยกัน ดังนี้
1.         ซื้อบัตรเข้าชมงาน ตอบแบบสอบถาม ลุ้นรับรางวัลรถยนต์รถยนต์ไฟฟ้า  JAECOO 6 EV (2WD) และ รถจักรยานยนต์ 2 รางวัล จากแบรนด์ YAMAHA และ HONDA
2.         จองรถยนต์ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ลุ้นรับรถยนต์ไฟฟ้า NETA V-II smart  หรือ จองรถจักรยานยนต์ภายในงานฯ ลุ้นรางวัล รถจักรยานยนต์ KAWASAKI W230
3.         ร่วมกิจกรรมลงทะเบียนบัตรอภินันทนาการ ลุ้นรับรางวัลรถจักรยานยนต์ SUZUKI BURGMAN  ได้ที่ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4
4.         กิจกรรม Shopping  มูลค่า 1,000 บาทขึ้นไปภายใน ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 ร่วมลุ้นรางวัล E-Scooter YADEA MODERN
สำหรับบัตรเข้าชมงานฯ มีจำหน่ายบริเวณด้านหน้างาน และ ทางออนไลน์ ผ่านไลน์แอปพลิเคชั่น ทั้งนี้นอกจากสิทธิประโยชน์จากการร่วมลุ้นรางวัลรถยนต์และรถจักรยานยนต์แล้ว สามารถนำบัตรเข้าชมงานแบบซื้อที่ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว มาร่วมกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลต่างๆมากมายได้ที่ บูธกิจกรรมพิเศษ ภายในอาคารฟอรั่ม ฮอลล์4 และ สำหรับการจัดงานฯ ครั้งนี้ ผู้จัดงานฯ ได้จัดเตรียมรถshuttle ไว้อำนวยความสะดวก สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีชมพู สามารถลงที่สถานีศรีรัช แล้วต่อรถ shuttle ที่ผู้จัดงานฯได้เตรียมไว้ เพื่อเข้าสู่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 เส้นทางศรีรัช  – ACTIVE HALL 4 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ประการใด
มาร่วมสัมผัสนวัตกรรมแห่งยานยนต์ AI ที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และคุณภาพชีวิตใหม่ของทุกคนได้ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 นี้  วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี งานแสดงเทคโนโลยียานยนต์ อันดับ 1 ของเมืองไทย
 

ไทยฮอนด้าจัดเต็ม! เปิดตัวไลน์อัปจักรยานยนต์ครบทุกสไตล์ถึง 9 รุ่น นำโดยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “New Honda CUV e:”

บิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่ทุกคนรอคอย “New Honda Forza750” ใน Motor Show 2025

 ฮอนด้า โดย บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด และ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผนึกกำลังต่อเนื่อง จัดเต็มไลน์อัปผลิตภัณฑ์ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ (Power Products) ในงาน Motor Show 2025 ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่อยู่เคียงข้างสังคมไทย ที่พร้อมสร้างความสุขและขับเคลื่อนการใช้ชีวิตอย่างอิสระในหลากหลายรูปแบบผ่านผลิตภัณฑ์และบริการ

ภายในบูทมีการแบ่งโซนการจัดแสดงออกเป็น 3 โซนหลัก เพื่อความสะดวกในการเข้าชม แบ่งเป็น

  • Product Zone ในส่วนของผลิตภัณฑ์รถยนต์ นำโดย “Honda City Hatchback DRIVAL” รุ่นพิเศษ ที่ได้รับการอัปเกรดดีไซน์ เพิ่มเติมความสปอร์ตสุดเท่ ดุดัน เร้าใจ พร้อมสะกดทุกสายตา ในส่วนของผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ นำโดย “New Honda Forza750” บิ๊กสกู๊ตเตอร์เรือธงที่มาพร้อมสุดยอดเทคโนโลยี และสมรรถนะที่เหนือคลาส และ “New Honda CB1000 Hornet SP” ซูเปอร์ Naked ไบค์ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ พร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ที่ครบครัน ตามด้วยโมเดลพิเศษ “New Honda Monkey Chrome Legacy” รุ่น Limited Edition ที่ได้รับการออกแบบพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีไทยฮอนด้า รวมถึง “All New Honda Scoopy x Kuromi” ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรก พร้อมให้แฟน ๆ ได้จับจอง 2,000 คันเท่านั้น
  • Innovative Zone จัดแสดงผลิตภัณฑ์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า 100% โดยไฮไลต์ของโซนนี้ นำโดย “Honda e:N1” รถ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้า พร้อมเปิดให้จองและจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้ลูกค้าทั่วไปได้เป็นเจ้าของ และ สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับไปกับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “New Honda CUV e:” ที่จะมาสร้างนิยามใหม่ของความทันสมัยทั้งด้านดีไซน์และประสิทธิภาพ
  • Lifestyle Zone โซนโชว์เคสผลิตภัณฑ์ฮอนด้า ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในหลายมิติ ทั้งรถ SUV รถจักรยานยนต์ที่ตอบโจทย์สายลุยอย่างสไตล์แอดเวนเจอร์ และสไตล์เทรล

มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ในโอกาสที่ปีนี้ ไทยฮอนด้าครบรอบ 60 ปี เพื่อเป็นการขอบคุณและสร้างความพิเศษให้กับทุกท่าน รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณค่าใหม่ ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ผสานกับนวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ในทุกการเดินทางด้วยกันถึง 9 รุ่น ด้วยกัน”

ในส่วนของผลิตภัณฑ์ไลน์อัป Honda Technology นำโดย “New Honda CUV e:” รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมคอนเซปต์ ‘Smart Ride, Future Ready’ โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัยรอบคัน มาพร้อมกับไฟหน้าและไฟท้ายแบบไฟ LED เสริมประสิทธิภาพการขับขี่ด้วยเทคโนโลยี Honda RoadSync duo (เฉพาะรุ่น Connectivity) และระบบช่วยถอยหลัง ที่จะช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ตามด้วยหน้าจอแสดงผล TFT ที่มีขนาดใหญ่ถึง 7 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Connectivity, รุ่น Standard ขนาด 5 นิ้ว) รองรับทุกการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECON Mode) และโหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) อีกทั้งยังมอบความเร็วสูงสุด 83 กม./ชม. สามารถวิ่งได้ในระยะทางมากกว่า 70 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “New Honda CUV e:” พร้อมเปิดให้เช่าใช้บริการ ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Standard และรุ่น Connectivity มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ (Mat Gunpowder Black Metallic) และ สีขาว (Pearl Jubilee White) สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์เป็นผู้เช่าในราคาพิเศษเฉพาะในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 จำกัดจำนวนเพียง 100 สิทธิ์เท่านั้น

ตามด้วยเทคโนโลยี Honda E-Clutch ที่ได้ถ่ายทอดลงสู่คลาส 300 ซีซี ถึง 2 รุ่นอย่าง “New Honda CL300” รถจักรยานยนต์ Scrambler สไตล์สายลุยแบบคลาสสิก และ “New Honda Rebel300” รถจักรยานยนต์คัสตอมบ็อบเบอร์ ที่ได้เพิ่มเทคโนโลยีควบคุมระบบคลัตช์ด้วยไฟฟ้า เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างลื่นไหล โดยไม่ต้องกำคลัตช์ ทำให้การขับขี่รถสปอร์ตเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกยิ่งขึ้น

“New Honda CL300” พร้อมวางจำหน่ายสีดำ (Mat Gunpowder Black) เปิดตัวในราคาแนะนำที่ 159,900 บาท และ “New Honda Rebel300” พร้อมวางจำหน่าย สีดำ (Pearl Shining Black) ราคาแนะนำที่ 159,900 บาท

รวมถึง “New Honda ADV350” รถจักรยานยนต์ SUV Bike ที่พัฒนานำเทคโนโลยีหน้าจอแสดงผล TFT ใหม่ ขนาด 5 นิ้ว พร้อมระบบการเชื่อมต่อที่ทันสมัยอย่าง Honda RoadSync รองรับทุกความต้องการของผู้ขับขี่ และปุ่มคอนโทรลเลอร์ดีไซน์ใหม่ แบบมัลติฟังก์ชันสั่งการได้หลายระดับ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม รุ่น Standard Type พร้อมวางจำหน่าย 3 สี ได้แก่ สีแดง-ดำ CANYON RED, สีน้ำเงิน OCEAN BLUE และสีดำ CHARCOAL BLACK  ราคาแนะนำที่ 189,900 บาท

นอกจากรุ่น Standard แล้ว ฮอนด้ายังได้นำเสนอ Special Edition จากสำนักแต่ง H2C by Honda ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สายแอดเวนเจอร์ตัวจริง เสริมความเท่อีกระดับด้วยชุดอุปกรณ์แต่งรอบคันถึง 11 ชิ้น รุ่น “New Honda ADV350 Unstoppable Touring Edition” พร้อมวางจำหน่ายในราคาแนะนำที่ 204,400 บาท

และขอแนะนำ อีกหนึ่งโมเดลเรือธงที่ทุกคนรอคอยในคลาส 750 Series กับ “New Honda Forza750” บิ๊กสกู๊ตเตอร์เรือธงที่มาพร้อมสมรรถนะที่เหนือคลาสด้วยเครื่องยนต์ 750 ซีซี OHC 4 วาล์ว 2 สูบเรียง ผสานเทคโนโลยี Dual Clutch Transmission (DCT) เปลี่ยนเกียร์สมูทไม่ต้องกำคลัตช์ ส่งตรงดีเอ็นเอความแรงจากรถบิ๊กไบค์สู่ท้องถนน มาพร้อมหน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 5 นิ้ว ปรับดีไซน์ใหม่ให้ตอบโจทย์การมองเห็นที่ชัดเจนยิ่งขึ้น รองรับการเชื่อมต่อกับระบบ Honda RoadSync พร้อมปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 4 โหมด (Standard, Rain, User, Sport) ให้การควบคุมรถมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น อีกทั้งตอบโจทย์สายทัวร์ริ่งด้วยระบบ Cruise Control ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติเหมาะสำหรับการขับขี่ทางไกลและในเมืองได้อย่างดีเยี่ยม

New Honda Forza750 มาในดีไซน์โฉมใหม่ สปอร์ต ดุดัน แต่ยังคงความพรีเมียมไว้ได้อย่างลงตัว โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้า LED โคมคู่ พร้อม Daytime Running Lights (DRL) ให้ความสปอร์ตเต็มขั้นด้วยไฟเลี้ยวแบบ Built-in ให้การขับขี่มั่นใจด้วยล้อหน้าขนาด 17 นิ้ว และล้อหลังขนาด 15 นิ้ว พร้อมโช้กหน้าหัวกลับขนาด 41 มม. ที่ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลและมอบการทรงตัวที่มั่นคง รวมถึงกระจกบังลมไฟฟ้าอัตโนมัติขนาดกว้างขึ้นถึง 25% ปรับความสูงได้ถึง 120 มม. New Honda Forza750 พร้อมวางจำหน่าย 3 สีใหม่ ได้แก่ สีน้ำตาล (Mat Warm Ash Metallic) สีดำ (Mat Ballistic Black Metallic) และสีเทา (Iridium Gray Metallic) ราคาแนะนำที่ 419,000 บาท

ตามด้วย “New Honda CB1000 Hornet SP” ซูเปอร์ Naked ไบค์ระดับท็อปคลาส ผสานความแรงจากสนามแข่งเข้ากับการออกแบบที่ดุดันในแบบสปอร์ต Naked ให้ความแรงที่สุดในคลาสด้วยเครื่องยนต์ 1000 ซีซี 4 สูบเรียง พร้อมไปทุกเส้นทางด้วยโช้ก Öhlins ปรับได้เต็มรูปแบบควบคุมรถได้ดั่งใจ พร้อมปั๊มเบรก Brembo ให้ความแม่นยำทุกครั้งที่หยุดรถ ควบคุมง่ายดั่งใจด้วย Quick Shifter ที่ปรับได้ 3 ระดับ ระบบคันเร่งไฟฟ้า (Throttle-by-Wire), Riding Mode ที่ปรับได้ถึง 5 โหมด และ Honda Selectable Torque Control (HSTC) ที่ช่วยควบคุมการหมุนล้อหน้าและล้อหลังให้สัมพันธ์กัน แสดงผลด้วยเทคโนโลยีหน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่านแอปพลิเคชัน Honda RoadSync พร้อมไฟแบ็กไลท์ที่แฮนด์บาร์ใช้งานสะดวก เชื่อมต่อได้ทุกเส้นทาง New Honda CB1000 Hornet SP พร้อมวางจำหน่าย ‘สีดำ MAT BALLISTIC BLACK METALLIC’ ในราคาแนะนำที่ 489,000 บาท

 

สำหรับสาย Fashion A.T. เปิดตัวด้วยโมเดลสุดเอกซ์คลูซีฟ “All New Honda Scoopy x Kuromi Limited Edition” เป็นการ Collab ครั้งแรกของรุ่น All New Honda Scoopy ในโอกาสฉลองครบรอบ 20 ปี ของ Kuromi ตัวร้ายสุดแสบจาก Sanrio มาพร้อมคอนเซปต์สุดซ่าอย่าง “The ICONIC Sassiness เพื่อนตัวป่วน ชวนไปสุดเทรนด์” นำเสนอความแสบซนด้วยสีดำ-ม่วง สีเอกลักษณ์ของ Kuromi พร้อมลวดลายตัวป่วนทั่วทุกมุมรถ โดดเด่นด้วยสติกเกอร์ 3D Emblem ครบรอบ 20 ปี และเสริมความลิมิเต็ดขั้นสุดกับสติกเกอร์ Serial Number รันเลขที่ตั้งแต่ 0001 – 2000 คัน มาพร้อม Box set สุดป่วน ได้แก่ Honda Smart Key พร้อมเคสลาย Kuromi ครบรอบ 20 ปี อีกทั้งหมวกกันน็อก และเสื้อยืดแขนยาวลาย Kuromi แมตช์กับสีรถได้อย่างลงตัว สำหรับ All New Honda Scoopy x Kuromi Limited Edition ผลิตจำนวนจำกัด 2,000 คันเท่านั้น ราคาแนะนำที่ 60,800 บาท พร้อมเปิดรับจองที่งานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 เป็นที่แรก และ Honda Wing Center ทุกสาขา

ตามมาด้วย “New Honda Lead125” เปิดตัวสีเทาใหม่ ‘Matte Gray’ เติมความมินิมอลให้ลงตัว กับ Special Edition สีเทาแมทท์ มาพร้อมคอนเซปต์ “Minimal Matters ชีวิตลงตัวแน่ แค่มินิมอล” ที่มาพร้อม Emblem สีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยหน้ากากด้านหน้า เสริมลุคสปอร์ตด้วยโช้ก และคาลิปเปอร์เบรกสีแดง รวมถึงล้อสีดำด้านเสริมลุคสปอร์ตให้ชัดเจนขึ้น ไฟท้าย LED ฟังก์ชันครบครันตอบโจทย์คนเมือง New Honda Lead125 รุ่น Special Edition พร้อมวางจำหน่ายสีเทาใหม่ (Matte Gray) พร้อมกับ สีดำ (Black) ในราคาแนะนำ 62,500 บาท

พร้อมกันนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี ไทยฮอนด้า ขอนำเสนอโมเดลพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองไปกับ “New Honda Monkey Chrome Legacy” รุ่น Limited Edition ที่คัสตอมขึ้นมาพิเศษ โดดเด่นด้วยสีโครเมียมทั้งคัน ตั้งแต่ตัวถังน้ำมันโครเมียมสวยสะดุดตาสไตล์กคลาสสิก และฝาครอบข้างที่เป็นโครเมียม ตัดกับเบาะหนังสีดำที่โชว์หมุดสแตนแลสให้ความหรูหราคลาสสิก พร้อมแสดงเอกลักษณ์ความซนในตำนานกับ 3D Soft Emblem โลโก้เจ้าลิงซนครบรอบ 60 ปีไทยฮอนด้า เสริมความลิมิเต็ดด้วย Chrome Edition Serial Number รันเลขตามจำนวนคันที่ผลิต พิเศษ! มาพร้อมกับหมวกกันน็อกสีเงินเมทัลลิค ที่เข้าเซ็ตกับตัวรถได้อย่างลงตัว เปิดตัวในราคาแนะนำที่ 117,000 บาท โดยเปิดพรีออเดอร์ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 และสามารถจองได้ที่ CUB House Flagship Store ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 เท่านั้น

นอกจากนี้ ไทยฮอนด้ายังแสดงวิสัยทัศน์แห่งอนาคต พร้อมกับเดินหน้าขยายธุรกิจสู่ตลาดเครื่องยนต์เรือ ด้วยการนำเครื่องยนต์เรือ Outboard Engine รุ่น “All New Honda BF250 V6” ที่เปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ นำมาจัดแสดงภายในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 ครั้งนี้อีกด้วย

สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าชมและสัมผัสประสบการณ์ได้ที่บูทฮอนด้า (A26 และ M1) งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 (The 46th Bangkok International Motor Show) อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 พร้อมด้วยหลากหลายข้อเสนอพิเศษในการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ฮอนด้า ทั้งภายในงานฯ และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

 

#CUVe #SmartRideFutureReady

#HondaADV350 #REALSUVBIKE

#NewHondaFORZA750 #FORZA750

#NewCB1000HornetSP #HORNET1000

#NewREBEL300 #REBEL300EClutch #HondaEClutch

#NewCL300 #CL300EClutch #HondaEClutch

#SCOOPYxKUROMI #AllNewHondaSCOOPY

#NewHondaLEAD125

#MonkeyChrome #MonkeyLimitedEdition

#BangkokMotorShow2025 #MotorShow2025 #มอเตอร์โชว์2025

#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #Thaihonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou

 

Harley-Davidson® ปลุกจิตวิญญาณแห่งการขับขี่ ภายใต้นิยาม ‘OUR ROAD. OUR RULES. LET’S RIDE.’ ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

พร้อมเผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ 6 รุ่นสำหรับปี 2025

Harley-Davidson สร้างปรากฎการณ์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ด้วยการเผยโฉมไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับปี 2025 โดยมี มาร์ค โอ ฟลาเฮอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ Harley-Davidson สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและอินเดีย พร้อมด้วยเหล่าสมาชิก Harley-Davidson Freedom Crew ที่เพิ่งได้รับการเปิดตัวในงานนี้เข้าร่วม โดยไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่สุดทรงพลัง ประกอบด้วย รถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO™ Road Glide® ST, CVO™ Road Glide®, CVO™ Street Glide®, Street Glide® Ultra, Sportster® S และ Nightster® Special พร้อมกันนี้ ภายในบูธยังได้นำรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Pan America® 1250 ST มาจัดแสดงให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถพบกับไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson รุ่นปี 2025 ภายใต้นิยาม ‘Our Road. Our Rules. Let’s Ride.’ ที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณอิสระและนวัตกรรมได้แล้ว ณ บูธ M5อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568

นอกจากไลน์อัพใหม่ปี 2025 แล้ว Harley-Davidson ยังได้นำรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Collector’s Edition ประกอบด้วย รถมอเตอร์ไซค์ Softail® Standard รุ่นปี 2024, Sport Glide รุ่นปี 2024 และ Fat Bob™ รุ่นปี 2024 มาจัดแสดงที่บูธอีกด้วย พร้อมเพิ่มความตื่นตาด้วยการจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์ Low Rider® ST รุ่นปี 2024 เจ้าของรางวัล Thailand Bike of the Year 2025 ในหมวด Best Cruiser Heavyweight พร้อมกันนี้ ภายในบูธยังได้นำคอลเลกชันเครื่องแต่งกาย สินค้าไลฟ์สไตล์ อุปกรณ์ขับขี่ อะไหล่ และอุปกรณ์เสริมมาให้เหล่าแฟน ๆ ได้เลือกซื้อกัน

 

ก้าวข้ามขีดจำกัดไปกับรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Custom Vehicle Operation รุ่นปี 2025

นับเป็นปีที่ 26 ของการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson® CVO™ ซึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซค์ระดับซูเปอร์พรีเมียมที่ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 3 รุ่น และถือเป็นสุดยอดแห่งสไตล์และดีไซน์ของ Harley-Davidson ซึ่งทุกรุ่นล้วนสะท้อนถึงพลังและความโดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ โดยไลน์อัพปี 2025 มาพร้อมกับตัวเลือกสีและการตกแต่งใหม่ ได้แก่ สี Poison Berry, สี Raven Fade และ สี Blue Streak ที่ช่วยยกระดับความหรูหราและเพิ่มความพิเศษไปอีกขั้น

รถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO Street Glide และ CVO Road Glide มาพร้อมกับการยกระดับดีไซน์ เทคโนโลยี และสมรรถนะ ทั้งนี้รถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO Street Glide และ CVO Road Glide ต่างถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์แบกเกอร์ที่คาดหวังมาตรฐานสูงสุด ทั้งในด้านดีไซน์ เทคโนโลยี และสมรรถนะ โดยรถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO Street Glide มีราคาเริ่มต้นที่ 3,191,000 บาท และรถมอเตอร์ไซค์ CVO Road Glide มีราคาเริ่มต้นที่ 3,246,000 บาท

รถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO Road Glide ST ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Screamin’ Eagle® Factory Team Road Glide® ซึ่งใช้แข่งขันในรายการ MotoAmerica® Mission Foods King of the Baggers ด้วยการผสานเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight® 121 H.O. เข้ากับชุดอุปกรณ์สมรรถนะสูง พร้อมดีไซน์ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้ได้รถมอเตอร์ไซค์แบ็กเกอร์ที่ทั้งเร็ว แรง และมีระดับ โดยรถมอเตอร์ไซค์ CVO Road Glide ST เป็นรถมอเตอร์ไซค์สไตล์แบ็กเกอร์ที่ทรงพลังและล้ำสมัยที่สุดเท่าที่ Harley-Davidson เคยผลิตมา ด้วยความโดดเด่นของชุดอุปกรณ์สมรรถนะสูงที่ออกแบบมาเพื่อเหล่านักขับขี่ที่ต้องการความเร้าใจโดยเฉพาะ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 121 H.O. และอัตราทดเกียร์ที่ต่ำ ช่วยเพิ่มแรงบิดช่วงกลางที่ดุดัน พร้อมอัตราเร่งที่ทรงพลังแบบกระชากใจ โดย CVO Road Glide ST มีราคาเริ่มต้นที่ 3,193,000 บาท

ออกทะยานไปสู่ขอบฟ้ากับ Street Glide Ultra รุ่นปี 2025

รถมอเตอร์ไซค์ Street Glide Ultra รุ่นใหม่ พร้อมยกระดับประสบการณ์การขับขี่ทางไกลไปอีกขั้น ด้วยความสะดวกสบาย เทคโนโลยี ผสานกับสมรรถนะและดีไซน์จากรถมอเตอร์ไซค์ Street Glide รุ่นปี 2024 โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การเดินทางระยะไกลแบบสองที่นั่ง สำหรับนักขับขี่ที่แสวงหาอิสระและการผจญภัย นี่คือรถมอเตอร์ไซค์ Grand American Touring ที่มีสมรรถนะมากที่สุดรุ่นหนึ่งของ Harley-Davidson โดยรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Glide Ultra รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 1,715,000 บาท

ก้าวข้ามจากข้อจำกัดเดิมด้วยรถมอเตอร์สปอร์ตใหม่รุ่นปี 2025 และรุ่น Collector’s Editionรถมอเตอร์ไซค์ Sportster S รุ่นใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ ยิ่งขึ้น ด้วยแรงบิดที่ตอบสนองอย่างรวดเร็วช่วยให้การเร่งทะยานเต็มไปด้วยพลัง มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนหน้าและหลังที่ได้รับการพัฒนา พร้อมเพิ่มระยะยุบตัวของโช้คอัพล้อหลังขึ้น 60% โดยไม่กระทบต่อความสูงของเบาะ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในขณะขับขี่บนสภาพถนนที่มีความหลากหลาย ทั้งนี้ ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังสามารถปรับได้เต็มรูปแบบ ทั้งแรงกดอัด (compression) และแรงดีดตัว (rebound damping) รวมถึงการตั้งค่าพรีโหลด โดย Sportster S รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 638,000 บาท

นอกจากนี้ ยังมีรถมอเตอร์ไซค์ Nightster Special รุ่นใหม่ ที่ผสานดีไซน์สปอร์ตสเตอร์สุดคลาสสิกเข้ากับสมรรถนะเครื่องยนต์รอบสูงอันทรบพลังพร้อมระบายความร้อนด้วยของเหลว มาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เดินทางไปบนท้องถนนได้อย่างมั่นใจ

รถมอเตอร์ไซค์ Nightster โดดเด่นด้วยจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Revolution® Max 975T V-twin ระบายความร้อนด้วยของเหลว เสริมสมรรถนะด้วย ล้อแบบ cast wheel และไฟ LED ที่ช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพและสไตล์ โดดเด่นด้วยถังน้ำมันสีดำด้านสไตล์วินเทจซึ่งช่วยเสริมความดุดันให้กับโลโก้ และรูปลักษณ์ Sportster ที่สะท้อนกลิ่นอายความคลาสสิก โดยรถมอเตอร์ไซค์ Nightster รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 527,000 บาท

Softail Standard Collector’s Edition รุ่นปี 2024 ถือเป็นแบบฉบับของรถ Cruiser อย่างแท้จริงจาก Harley-Davidson ด้วยรูปลักษณ์ Bobber ที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ ผสานกับโครงสร้าง Softail ที่ให้ความคล่องตัว และขุมพลังดุดันจากเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight® V-Twin โดดเด่นด้วยสี Vivid Black แบบคลาสสิก ตัดกับโครเมียมและงานขัดเงาที่สวยสะดุดตา ทำให้ Softail Standard เป็นตัวตนที่แท้จริงของรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson โดยรถมอเตอร์ไซค์ Softail Standard Collectors Edition รุ่นปี 2024 มีราคาเริ่มต้นที่ 874,000 บาท

รถมอเตอร์ไซค์ Collector’s Edition ซึ่งรวมถึง Sport Glide 107 รุ่นปี 2024 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ 107 มาพร้อมกับโครงสร้าง Softail Frame ที่ยังคงเอกลักษณ์สุดคลาสสิกของ Softail แต่ได้รับการออกแบบให้แข็งแรงและมีน้ำหนักเบาขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมกันนี้ ใน Collector’s Edition ยังมีรถมอเตอร์ไซค์ Fat Bob 114 รุ่นปี 2024 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ 114 ที่มอบแรงบิดทรงพลังพร้อมอัตราเร่งที่ดุดัน โดดเด่นด้วยเสียงเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson และระบบเบรกคู่สมรรถนะสูงที่ช่วยควบคุมพลังอันมหาศาลของรถได้อย่างมั่นใจ โดยราคาเริ่มต้นของ Collector’s Edition Sport Glide 107 รุ่นปี 2024 อยู่ที่ 1,037,000 บาท และ Fat Bob 114 รุ่นปี 2024 อยู่ที่ 1,105,000 บาท

ทะลุทุกขีดจำกัดกับ Pan America 1250 ST รุ่นปี 2025

รถมอเตอร์ไซค์ Pan America 1250 ST รุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวในงานโมโตจีพี ไทยแลนด์ คือรถมอเตอร์ไซค์สายแอดเวนเจอร์สปอร์ตที่ผสานความคล่องตัวกับสมรรถนะอันทรงพลัง สามารถใช้เป็นเพื่อนร่วมทางในชีวิตประจำวัน หรือลัดเลี้ยวไปตามโค้งบนถนนทางรอง ไปจนถึงออกทริปสุดมันส์ในช่วงสุดสัปดาห์ โดยรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักขับขี่ที่ต้องการเปลี่ยนสไตล์การขับขี่จากแนวสปอร์ตไบค์หรือสตรีทไฟเตอร์มาสู่รถมอเตอร์ไซค์ที่คล่องตัวกว่า พร้อมมอบความสบายได้มากกว่าเดิม และสามารถใช้เดินทางไกลได้ดียิ่งขึ้น โดยรถมอเตอร์ไซค์ Pan America 1250 ST มาพร้อมกับท่านั่งแบบตรงที่ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Revolution® Max 1250 ระบายความร้อนด้วยของเหลว ล้อหน้า ขนาด 17 นิ้ว ติดตั้งชุดช่วงล่างและระบบเบรกระดับพรีเมียม โดยรถมอเตอร์ไซค์ Pan America 1250 ST รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 874,000 บาท

พบกับ Dickies x Harley-Davidson คอลเลกชันเสื้อผ้ารุ่นลิมิเต็ดที่งานมอเตอร์โชว์

นอกจากนี้ ภายในบูธ Harley-Davidson ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ยังจัดแสดงคอลเลกชันเสื้อผ้ารุ่นลิมิเต็ด Dickies x Harley-Davidson โดยคอลเลกชันนี้โดดเด่นด้วยลวดลายกราฟิกสไตล์อเมริกันและดีไซน์ชุดสไตล์เวิร์กแวร์คลาสสิก ผสานคุณภาพระดับตำนานเข้ากับความดุดันที่ได้แรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณแห่งความเป็นอิสระ โดยชุดคอลเลกชันนี้จะวางจำหน่ายในร้านค้าทั่วภูมิภาคเอเชียตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนเป็นต้นไป

เปิดตัว Harley-Davidson Freedom Crew

Harley-Davidson เปิดตัว Harley-Davidson Freedom Crew โครงการระดับภูมิภาคที่เริ่มต้นในประเทศไทยเป็นที่แรก โดยโครงการพิเศษนี้ได้รวบรวมเหล่านักขับขี่และนักสร้างคอนเทนต์ที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งอิสระและการผจญภัย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของไลฟ์สไตล์ Harley-Davidson ทั้งนี้ ด้วยความร่วมมือกับ Harley-Davidson เหล่าสมาชิก Freedom Crew จะเป็นเสมือนแกนกลางในการเชื่อมโยงชุมชนนักขับขี่ ผ่านการถ่ายทอดประสบการณ์ที่แท้จริง และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนออกเดินทางในแบบฉบับของตนเอง

โดย Harley-Davidson ได้แนะนำ 5 สมาชิก Freedom Crew ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ซึ่งสมาชิกแต่ละคนได้นำเอกลักษณ์และตัวตนมาสู่ไลฟ์สไตล์การขับขี่ นำโดย กาย รัชชานนท์ นักแสดงชื่อดังและนักขับขี่ Harley-Davidson ตัวจริง ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลในการเดินทางบนท้องถนน

สมาชิก Freedom Crew แต่ละคนพร้อมด้วย มาร์ค โอ ฟลาเฮอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ Harley-Davidson สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและอินเดีย ได้ร่วมกันเผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์ที่สะท้อนตัวตนของแต่ละคน ภายใต้นิยาม Beyond Limits, Beyond the Horizon และ Beyond the Ordinary

Freedom Crew มีเป้าหมายในการต่อยอดวัฒนธรรมการขับขี่ที่เปิดกว้าง เข้าถึงได้ และขับเคลื่อนด้วยความชื่นชอบในการเดินทางบนท้องถนน นอกจากนี้ พวกเขายังมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงชุมชนนักขับขี่ พร้อมสะท้อนจิตวิญญาณของ Harley-Davidson และถ่ายทอดความหมายของการขับขี่ในแบบที่เป็นตัวเอง ตามนิยาม Our Road. Our Rules. Let’s Ride.

 

โปรโมชั่นพิเศษจาก Harley-Davidson ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

พบกับข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย! ที่บูธ Harley-Davidson ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ปีนี้ เมื่อซื้อรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Low Rider ST รุ่นปี 2024, Street Glide หรือ Road Glide ภายในงาน รับฟรีชุดระบบเสียง Rockford Fosgate ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ #HDSoundofFreedom สำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser Model รุ่นปี 2024 ได้แก่ Street Bob, Breakout 117, Fat Boy และ Heritage Classic รับฟรีอุปกรณ์เสริมมูลค่า 140,000 บาท

พร้อมพบกับรถมอเตอร์ไซค์ครุยเซอร์ระดับตำนาน ได้แก่ Fat Bob รุ่นปี 2024, Softail Standard และ Sport Glide ในรุ่น Collector’s Edition ที่มาพร้อมกับสติ๊กเกอร์แบบลิมิเต็ด, ใบรับรองพิเศษ, ชุดอะไหล่ และอุปกรณ์เสริมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 เท่านั้น!

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ Flexi Finance ได้ที่ตัวแทนจำหน่าย Harley-Davidson ใกล้บ้านท่าน

งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 โดย Harley-Davidson จะอยู่ที่บูธหมายเลข M5

โรยัล เอ็นฟีลด์ ยกทัพรุ่นเก๋า Classic 350 ไว้ในงาน Bangkok International Motor Show 2025

สีสันใหม่เจิดจรัส ฟีเจอร์ที่ได้รับการอัปเดต และสไตล์ที่เหนือกาลเวลา

โรยัล เอ็นฟีลด์ (Royal Enfield) ผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางระดับโลก ยกขบวนสีใหม่ของรถมอเตอร์ไซค์อันมีเสน่ห์เหนือกาลเวลารุ่นที่ขายดีที่สุด และเป็นไอคอนของแบรนด์ นั่นคือ Classic 350 ฉบับปรับโฉมและฟีเจอร์ใหม่มาไว้ภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2568 ด้วยความสำเร็จอันโดดเด่นจากการคว้ารางวัลล่าสุดถึง 3 รางวัลอันทรงเกียรติจาก Bike of The Year 2025 และ 2 รางวัลอันทรงคุณค่าจาก Asia’s Prestigious Brand Honor โรยัล เอ็นฟีลด์ พร้อมแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในด้านการออกแบบเหนือกาลเวลา การขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่เข้าถึงได้ และนวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่ง พร้อมด้วยการจับมือกับแบรนด์อุปกรณ์สื่อสารอย่าง SENA 50S Mesh Communicator เป็นครั้งแรกในประเทศไทย!

โรยัล เอ็นฟีลด์ Classic 350 โดดเด่นด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เหนือกาลเวลา ที่มาพร้อมกับสัดส่วนที่ลงตัว ทำให้เป็นรถมอเตอร์ไซค์โรยัล เอ็นฟีลด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่ลูกค้าชาวไทย ด้วยการออกแบบที่ไร้เทียมทาน สไตล์ที่โดดเด่น งานฝีมือที่เหนือชั้น และเอกลักษณ์ที่หาได้ยาก อีกทั้งการผสมผสานระหว่างวิศวกรรมสมัยใหม่และงานฝีมือแบบดั้งเดิม Classic 350 จึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน รวมถึงทริปสั้น ๆ ในช่วงสุดสัปดาห์

ภายในงานจะได้สัมผัสกับการเปิดตัวสีสันใหม่สุดตื่นตาตื่นใจสำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นไอคอนิกอย่าง Classic 350 ด้วยการสานต่อตำนานแห่งความสง่างามและเสน่ห์ Classic 350 จะมาพร้อมกับ 5 เฉดสีใหม่ ได้แก่ Medallion Bronze, Commando Sand, Gun Grey, Stealth Black และ Emerald โดยผสานรวมการอัปเกรดคุณสมบัติที่มีประสิทธิภาพอย่างลงตัว เช่น ไฟ LED รอบคัน ไฟบอกตำแหน่งเกียร์บนแผงหน้าปัด ก้านคลัตช์และเบรกที่ปรับได้เพื่อการควบคุมที่ดีขึ้นและช่องชาร์จ USB Type C ในขณะที่ยังคงรักษาความสวยงามและเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ รุ่นท็อปอย่างสี Emerald, Gun Grey และ Stealth Black จะมาพร้อมระบบนำทางTripper เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และไฟ LED รอบคัน

นอกจากนี้จะมีการเปิดตัวสีใหม่ของ Super Meteor 650 ที่ทุกคนรอคอย รถมอเตอร์ไซค์ครูซเซอร์เรือธงที่ทรงพลังและมีสไตล์ เปิดตัวสีใหม่อีก 2 สีและพร้อมที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับโรยัล เอ็นฟีลด์ในเซกเมนต์ 650cc

พบกับ โรยัล เอ็นฟีลด์ ที่บูธ M8 ในงาน Bangkok International Motor Show 2025 เพื่อสัมผัสเฉดสีใหม่ของ Classic 350 อย่างใกล้ชิด พร้อมพบกับความร่วมมือสุดพิเศษ Royal Enfield x SENA และเลือกซื้ออุปกรณ์เสริมแท้สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ รวมถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ที่จะยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของคุณให้เหนือชั้น

วางจำหน่ายในประเทศไทย ด้วยราคาดังนี้:

สี

ราคา (บาท)

Medallion Bronze 

147,500.-

Commando Sand 

152,500.-

Gun Grey, Stealth Black 

160,500.-

Emerald

161,500.-

“ทิม ไกเซอร์” บิด Honda CRF450R ตะลุยเกมสุดหินกดดับเบิ้ลวินเนอร์ MXGP สนาม 2 ที่โคซาร์

“ทิม ไกเซอร์”  เหมาชัยชนะ 2 เรซ ที่โคซาร์

“ทิม ไกเซอร์” ยอดนักบิดชาวสโลวเนียจาก Team HRC โชว์ศักยภาพที่เหนือชั้นของยอดรถแข่ง Honda CRF450R เหมาชัยชนะทั้ง 2 เรซ เก็บคะแนนสะสมพร้อมคว้าอันดับที่ 1 ในตารางแชมเปี้ยนชิพ ในศึก MXGP 2025 สนาม 2 ที่โคซาร์ ประเทศสเปน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

การแข่งขันเรซที่ 1 สภาพสนามสุดโหดเต็มไปด้วยโคลนลึก “ทิม ไกเซอร์” หมายเลข 243 คว้า Honda CRF450R แสดงสมรรถนะที่เหนือกว่าคู่แข่งควบคุมเรซนี้เอาไว้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบเกม ขึ้นรั้งอันดับที่ 1 ตามมาด้วยทีมเมทอย่าง “รูเบน เฟอร์นานเดซ” หมายเลข 70 ขึ้นรั้งในอันดับที่ 2

การแข่งขันเรซที่ 2 ออกสตาร์ตได้ไม่ดีนัก เพิ่มความท้าทายอย่างมากในเรซนี้ “ทิม ไกเซอร์” หมายเลข 243 ต้องออกแรงไล่ล่าและเก็บตำแหน่งจากคู่แข่ง ไล่ทำอันดับท่างกลางสภาพสนามที่สุดหิน ตอกย้ำความเหนือชั้นคว้าชัยชนะได้อีกครั้ง ทางด้าน “รูเบน เฟอร์นานเดซ” หมายเลข 70 ตามเข้าเส้นชัยมาในอันดับที่ 12

การเหมาชัยชนะในสนามนี้ทั้ง 2 เรซของ “ทิม ไกเซอร์” เก็บคะแนนสะสมขึ้นนำเป็นอันดับที่ 1 ในตารางแชมเปี้ยนชิพด้วยคะแนนสะสม 108 คะแนน ขณะที่ทีมเมท “รูเบน เฟอร์นานเดซ” เก็บคะแนนสะสม 53 คะแนน รั้งอยู่ในอันดับที่ 8 ของแชมเปี้ยนชิพ

ทั้งนี้ ศึก MXGP2025 สนามที่ 3 จะดวลกันต่อเนื่องในระหว่างวันที่ 22-23 มีนาคม นี้ ในรายการ  MXGP of Europe ที่เซนต์ ฌอง ดานเจลี ประเทศฝรั่งเศส

#ThaiHonda #MotorSport #MXGP #HRC #Honda #HondaMotorcycle #CRF450R #HondaCRF

ไทยฮอนด้า ร่วมสนับสนุนงานแข่งบาสเกตบอล FIBA 3×3 Sponsor Red Bull Champions Cup 2025

การแข่งขันบาสเกตบอล 3×3 ชิงแชมป์โลก FIBA 3×3 Sponsor | Red Bull Champions Cup 2025

บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ร่วมเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันบาสเกตบอล 3×3 ชิงแชมป์โลก FIBA 3×3 Sponsor | Red Bull Champions Cup 2025 ที่จัดขึ้น ณ ประเทศไทย ซึ่งเป็นสนามเปิดฤดูกาล 2025 โดยมีคุณนคร วิมลจิตรสอาด ผู้จัดการทั่วไป สายงานการสื่อสารการตลาด บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เป็นตัวแทนเข้าร่วมพิธีเปิด ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

หนึ่งในไฮไลต์ของงานคือโชว์ SLAMDUNK สุดอลังการจากสองแชมป์โลก Joel Henry และ Piotr Grabowski (Garbo) ที่มาสร้างความมันส์ให้แฟนๆ แบบเต็มตา พร้อมรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเสริมสีสันให้โชว์สนุกยิ่งขึ้น นอกจากบาสสุดเร้าใจ ไทยฮอนด้ายังจัดบูธกิจกรรมพิเศษสำหรับชาว CUB House นำเสนอรถจักรยานยนต์ฮอนด้าหลากรุ่น พร้อมเกมสนุกๆ และของรางวัลมากมาย เติมสีสันให้กับงานตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

การสนับสนุนการแข่งขันระดับโลกครั้งนี้ ตอกย้ำพันธกิจของไทยฮอนด้าในการส่งเสริมวิถีชีวิตแอคทีฟและพลังของคนรุ่นใหม่ พร้อมเดินหน้าสร้างกิจกรรมที่เชื่อมโยงไลฟ์สไตล์กับกีฬาอย่างต่อเนื่อง

ติดตามข่าวสารของไทยฮอนด้าเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : https://facebook.com/hondamotorcyclethailand
เฟซบุ๊กฮอนด้าบิ๊กไบค์ : https://facebook.com/HondaBigBikeTH
เฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou