“กวาร์ตาราโร” – “รินส์” ประเดิมสนามไทยจีพี วันแรก เวลาดีต่อเนื่อง ลุ้นควอลิฟายต่อพรุ่งนี้

“กวาร์ตาราโร” – “รินส์” ทำเวลาดีขึ้นต่อเนื่องจากการซ้อมทั้ง 2 เซคชั่น

ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลกโมโตจีพี 1 สมัยชาวฝรั่งเศส และคู่หูชาวสแปนิชอย่าง อเล็กซ์ รินส์ จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ทำเวลาดีขึ้นต่อเนื่องจากการซ้อมทั้ง 2 เซคชั่น ในวันแรกประเดิมซ้อมก่อนประเดิมศึกการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามที่ 18 ที่ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

โดย “เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ควบรถแข่งหมายเลข 20 คู่ใจออกซ้อมแรกในช่วงสายของวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2567 ภายใต้อากาศร้อนระอุของแทร็กช้างฯ โดยในเซคชั่นแรกของการซ้อม “เอลดิอาโบล” รั้งอันดับ 10 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 31.140 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 0.648 วินาที ส่วน อเล็กซ์ รินส์ ทีมเมทชาวสแปนิชหมายเลข 42 จบซ้อมแรกในอันดับ 19 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 31.513 วินาที

ต่อเข้าช่วงซ้อมที่ 2 รอบตัดตัวแบ่งกลุ่ม ในช่วงบ่าย กับสภาพอากาศที่เริ่มร้อนระอุขึ้นกว่าเดิม “เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร เจ้าของรถแข่ง YAMAHA YZR-M1 หมายเลข 20 ยกระดับความเร็วของตัวเองได้ดี จบในอันดับ 12 ด้วยเวลา 1 นาที 29.756 วินาที ตามหลังจ่าฝูงเพียง 0.591 วินาที ในขณะที่ทีมเมท อย่าง อเล็กซ์ รินส์ พารถแข่ง YAMAHA YZR-M1 หมายเลข 42 รั้งอันดับ 18 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 30.198 วินาที ตามหลัง 1.033 วินาที

ทั้งนี้ 2 นักบิด มอนสเตอร์ ยามาฮ่า จะลงจับเวลารอบควอลิฟายในวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม นี้ ก่อนจะดวลความเร็วรอบสปรินต์เรซในบ่ายของวันเดียวกัน ส่วนการแข่งขันรอบ “เมนกรังด์ปรีซ์” จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 27 ต.ค.นี้ เวลา 15.00 น. ถ่ายทอดสดทาง SPOTV และ www.pptv36.com/live และรีรันอีกครั้งทางช่อง PPTVHD36

—————————–
#60ปีไทยยามาฮ่ามอเตอร์ #ดีใจที่ได้เจอ
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP24
#YamahaFactoryRacingTeam #MonsterEnergyYamahaMotoGPteam
#FQ20 #AR42
#YamahaGPPavilion #YamahaRacing #MonsterYamaha #MotoGP #MotoGP2024 #ThaiGP #PTGrandPrixofThailand2024 #ยา#YamahaGPPavilion ##ThaiGP #PTGrandPrixofThailand2024

“กวาร์ตาราโร” ยกระดับความเร็ว รั้งท็อป 12 วันแรก โมโตจีพี บุรีรัมย์

“กวาร์ตาราโร” รั้งอันดับ 12 จากการซ้อมวันแรกในศึก โมโตจีพี 2024 สนาม 18 

“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลกโมโตจีพี 1 สมัยชาวฝรั่งเศสจาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี รีดความเร็วต่อเนื่องรั้งอันดับ 12 จากการซ้อมวันแรกในศึก โมโตจีพี 2024 สนาม 18 รายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ เมื่อวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

การซ้อมรอบตัดตัวแบ่งกลุ่ม (PR) ของศึก พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ มีขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา แม้อากาศจะร้อนแต่นักบิดทุกคนสามารถทำความเร็วได้ดีขึ้นจากช่วงเช้า

โดย กวาร์ตาราโร เจ้าของรถแข่ง M1 หมายเลข 20 ยกระดับความเร็วของตัวเองได้ดี จบวันแรกด้วยอันดับ 12 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 29.756 วินาที ตามหลังจ่าฝูงเพียง 0.591 วินาที ขณะที่ทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อเล็กซ์ รินส์ พารถแข่งหมายเลข 42 รั้งอันดับ 18 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 30.198 วินาที ตามหลัง 1.033 วินาที

ทั้งนี้ 2 นักบิด มอนสเตอร์ ยามาฮ่า จะลงจับเวลารอบควอลิฟายในวันเสาร์ที่ 26 ต.ค.นี้ ก่อนจะดวลความเร็วรอบสปรินต์เรซในบ่ายของวันเดียวกัน ส่วนการแข่งขันรอบ “เมนกรังด์ปรีซ์” จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 27 ต.ค.นี้ เวลา 15.00 น. ถ่ายทอดสดทาง PPTVHD36 และ SPOTV

—————————–
#60ปีไทยยามาฮ่ามอเตอร์ #ดีใจที่ได้เจอ
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP24
#YamahaFactoryRacingTeam #MonsterEnergyYamahaMotoGPteam
#FQ20 #AR42
#YamahaGPPavilion #YamahaRacing #MonsterYamaha #MotoGP #MotoGP2024 #ThaiGP #PTGrandPrixofThailand2024 #ยา#YamahaGPPavilion ##ThaiGP #PTGrandPrixofThailand2024

IDEMITSU… Exclusive Meet & Greet “ThaiGP 2024”

IDEMITSU  ชวนกระทบไหล่ ต้อนรับนักบิดระดับโลก

IDEMITSU ผู้นำด้านน้ำมันเครื่องจากประเทศญี่ปุ่น ต้อนรับนักบิดระดับโลก นำโดย “ทาคาอากิ นาคากามิ” นักแข่งรุ่น MotoGP พร้อมด้วย ฮีโร่ขวัญใจชาวไทย “สมเกียรติ จันทรา” และ “มาริโอ้ เซอโย อาจิ” ในรุ่น Moto2 สองนักบิดใน รุ่น Moto3 “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี และทีมเมท “ไทโย ฟุรุซาโตะ” ที่เดินทางมา Meet & Greet ให้ได้สัมผัสประสบการณ์ มอเตอร์สปอร์ตระดับโลกแบบสุด Exclusive เมื่อค่ำวันที่ 24 ต.ค. ณ Function Room โรงแรม โมเดน่า บาย เฟรเซอร์ จ. บุรีรัมย์ ภายในงานได้เชิญสื่อมวลชน ร้านตัวแทนจำหน่ายฯ และมีแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ต ร่วมงานกันอย่างคับคั่ง โดยมี ดร.ธนศักดิ์ วหาวิศาล (กรรมการบริหารบริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ให้เกียรติเป็นประธาน ในงานเลี้ยงต้อนรับครั้งนี้

กิจกรรมบนเวทีมีการสัมภาษณ์นักแข่ง ซึ่งสปอร์ตไลท์จับมาที่ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา #35 นักแข่งไทยใน Moto2 ที่สนามนี้เป็น Home Race สุดท้ายในฐานะนักแข่ง Moto2 เพราะฤดูกาล 2025 “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จะรับไม้ต่อจาก “ทาคาอากิ นาคากามิ” และเป็นนักบิดไทยคนแรกที่ได้รับโอกาสขึ้นมาแข่งขันในรุ่น MotoGP ภายใต้สังกัดทีม IDEMITSU Honda LCR ส่วน “ทาคาอากิ นาคากามิ” หลังจากแตะมือ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา แล้ว จะผันตัวไปเป็นนักบิด เพื่อพัฒนารถแข่งของฮอนด้าในซีซั่น 2025 แต่ผลงานของเขาใน MotoGP จะยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักบิดฮอนด้า ในรุ่นต่อไป นอกจากนั้นยังมีทีมเมทของ “ก้อง” นักแข่ง Moto2 อย่าง “มาริโอ้ เซอโย อาจิ” ภายใต้สังกัดทีม IDEMITSU Honda Team Asia ส่วนในรุ่น Moto3 ดาวรุ่งนักแข่งชาวไทย “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี มาพร้อมกับทีมเมท “ไทโย ฟุรุซาโตะ” ภายใต้สังกัดทีม Honda Team Asia โดยนักแข่งทั้งหมดเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วม Meet & Greet กระทบไหล่ ล่าลายเซ็น ถ่ายภาพกับนักแข่งที่ชื่นชอบแบบสุด Exclusive เป็นบรรยากาศที่อบอุ่น และสุดประทับใจจริงๆ

ภายในงาน ดร.ธนศักดิ์ วหาวิศาล (กรรมการบริหารบริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ยังได้ร่วมมอบของที่ระลึก ให้กับนักแข่งที่ได้แชมป์ในรายการ FMSCT Thailand Motocross 2024 ทั้ง 7 รุ่น ซึ่ง IDEMITSU น้ำมันเครื่องระดับโลก จากประเทศญี่ปุ่น ได้ให้การสนับสนุนรายการแข่งขัน และหากใครที่พลาดงานนี้ไม่ต้องเสียใจ…! ยังสามารถตามไป Meet & Greet ทัพนักบิดสังกัดอิเดมิตสึ ได้ที่บูธ IDEMITSU ภายในงาน ThaiGP 2024 วันที่ 25-26 ต.ค. 67 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป

แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารของทัพนักบิดสังกัดอิเดมิตสึ ในศึก MotoGP ตลอดทั้งฤดูกาล 2024 และติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตของ IDEMITSU ทั้งหมดได้ที่เพจ Idemitsu Thailand Motorsport

#idemitsu #อิเดมิตสึ #น้ำมันเครื่องญี่ปุ่น
#อิเดมิตสึผู้นำด้านน้ำมันเครื่องจากประเทศญี่ปุ่น
#น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น #idemitsulubricants
#น้ำมันเครื่อง #น้ำมันหล่อลื่นอุตสาหกรรม
#ApolloThailand #IdemitsuThailandMotorsport #idemitsuthaiGP2024
#Taka #Takaaki #TN30 #MotoGP #MotoGP2024
#โมโตจีพี #โมโตจีพี2024 #Moto2 #โมโตทู #ก้องสมเกียรติ
#สมเกียรติ_จันทรา #SC35 #MarioAji #MA34
#IdemitsuHondaTeamAsia #IdemitsuHondaLCR

เปิดตัวรถใหม่ LAMBRETTA X200 GP

จิตวิญญาณตำนานสนามแข่งจากปี 1969 สู่ตำนานบทใหม่ในปัจจุบัน!

LAMBRETTA (แลมเบรตต้า) แบรนด์รถสกู๊ตเตอร์ตำนานกว่า 77 ปีจากอิตาลี เปิดตัวรถรุ่นใหม่  LAMBRETTA X200 GP  ด้วยการนำรหัส GP กลับมาใช้ในโมเดล X-Series ผสมผสานกลิ่นอายและจิตวิญญาณของตำนานสนามแข่งในอดีตจากรุ่น LAMBRETTA GP/DL ในปี 1969 ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ LAMBRETTA ในฐานะสกู๊ตเตอร์ที่ไม่ใช่เพียงแค่ยานพาหนะ แต่ยังเป็นตัวแทนแห่งความกล้าหาญและจิตวิญญาณแห่งการแข่งขัน!

LAMBRETTA X200 GP โดดเด่นด้วยลวดลายกราฟิกดีไซน์ใหม่กับลายเส้นของโลโก้ LAMBRETTA ที่คาดจากบังโคลนด้านหน้าสู่ฝาข้างด้านหลัง เพิ่มความเฉียบคมและมีสไตล์ให้กับตัวรถ โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ของการออกแบบจากอดีตไว้อย่างครบถ้วน ที่สำคัญ ยังมาพร้อมดีไซน์สีสันในสไตล์ทูโทน ด้วยจุดเด่นของการออกแบบฝาข้างที่ทำจากเหล็ก และสามารถถอดแยกชิ้นได้ มันเลยกลายมาเป็นอีกลูกเล่นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เหล่าผู้ใช้รถแลมเบรตต้า หรือที่เราเรียกกันว่าชาวแลมเบรตติสต้าต่างชื่นชอบและนำไปคัสตอมในสไตล์สีทูโทนมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ครองใจผู้ที่ชื่นชอบรถแลมเบรตต้ามาหลายทศวรรษ

นอกจากนี้ X200 GP ยังผสานความคลาสสิกจากปี 1969 เข้ากับดีไซน์สุดล้ำในปัจจุบัน ด้วยบังโคลนหน้าแบบ Fix Fender ที่ยังคงเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่สื่อถึงความทนทานและดีไซน์ที่แข็งแกร่งของรุ่น GP ดั้งเดิม ทุกเส้นสายของ X200 GP ถูกออกแบบมาเพื่อสื่อถึงความสปอร์ตแบบไร้ขีดจำกัด แต่ยังคงรักษาความคลาสสิกในแบบฉบับที่แลมเบรตต้าเป็นมา และแน่นอนว่า การมาด้วยรหัส GP ต่อท้ายเช่นนี้  ย่อมต้องมีสัญลักษณ์อันเป็น ICONIC จากรุ่นตำนาน ที่สืบสานมาสู่รุ่นล่าสุดอย่างแน่นอน!  นั่นก็คือ สัญลักษณ์รูปหยดหมึก หรือ  “Ink Splat” ที่ถูกประทับลงบนบริเวณด้านหน้ารถ X200 GP คันนี้ นับเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงความคลาสสิกที่ยังคงสดใหม่ในใจของชาวแลมเบรตติสต้าเสมอมา

เรื่องราวของตำนาน  Ink Splat 1969

ตำนานรูปหยดหมึก (Ink Splat) ถือกำเนิดในปี 1969 จากการรังสรรค์ผลงานของนักออกแบบชื่อดังชาวอิตาลี Nuccio Bertone ผู้คร่ำหวอดในแวดวงออกแบบที่ฝากผลงานบนรถสัญชาติอิตาลีอันโด่งดังไว้มากมาย หนึ่งในผลงานของเขาก็คือ ตำนานสกู๊ตเตอร์ LAMBRETTA GP/DL (1969 – 1971) ที่เขาได้ทำการปรับโฉมของ LAMBRETTA ในขณะนั้น ให้มีความโฉบเฉี่ยวเพรียวบางและมีความสปอร์ตมากขึ้น โดยได้เพิ่มความโดดเด่นให้กับรถรุ่นนี้ ด้วย ICONIC รูปหยดหมึก หรือที่เรียกกันว่า Ink Splat อันมีที่มาจากการที่เขาได้เห็นหยดหมึกที่หยดลงบนพื้น ขณะที่เขาทำการออกแบบรถรุ่นนี้ จึงได้หยิบยกสัญลักษณ์หยดหมึกนี้มาใส่ไว้บนตัวรถ LAMBRETTA GP/DL และถ่ายทอดเรื่องราวอันทรงคุณค่าผ่านสัญลักษณ์นี้ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น จนมาถึงรุ่นล่าสุดใน X200 GP

นอกจากนี้ ใน LAMBRETTA X200 GP ยังแฝงสัญลักษณ์ ‘LAMBRETTA LION’  หรือสัญลักษณ์สิงโตยืนสองขาไว้ที่บริเวณบังโคลนหน้าทั้งสองด้าน ซึ่งสัญลักษณ์นี้ ถือเป็นอีกสัญลักษณ์ที่เป็นมรดกจากอดีตด้วยเช่นกัน เพราะถือเป็นสัญลักษณ์ที่เหล่าชาวแลมเบรตติสต้าในสหราชอาณาจักร นิยมนำมาระดับที่รถกันอย่างแพร่หลายในช่วงยุค 60s

ทางด้านสมรรถนะและฟังก์ชันใน LAMBRETTA X200 GP ก็ยังคงจัดเต็มคุณภาพมาให้แบบครบจบเช่นเคย ทั้งเครื่องยนต์ LSP (Lambretta Super Performance) ขนาด 184.7 ซีซี จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเทคโนโลยีหัวฉีด, ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่มาพร้อมกับพัดลมระบายความร้อนถึง 2 ตัวด้วยกัน ที่สำคัญ ในส่วนของการออกแบบระบบช่วงล่างยังถ่ายทอด DNA เอกลักษณ์จากรุ่นตำนานกับชุดกันสะเทือนหน้าแบบ Double Arm-Link ทั้งสองข้าง ให้การขับขี่ที่สามารถควบคุมบาลานซ์ของตัวรถได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมโช๊คทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ที่สามารถปรับ Preload ได้ถึง 7 ระดับ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์กับการใช้งานของผู้ใช้ได้ในหลากหลายรูปแบบ  แถมยังคงมาพร้อมกับดีไซน์อันโดดเด่นของไฟหน้า และไฟท้ายในระบบ FULL LED กับโคมไฟหน้ารูปทรงหกเหลี่ยม อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่ถ่ายทอดมาจากรุ่นยอดฮิตของแลมเบรตต้า ออกแบบมาให้แฝงโลโก้ไว้ภายใน บ่งบอกตัวตนไว้ได้อย่างชัดเจน และส่วนของไฟท้ายที่บึกบึนดูแข็งแกร่งแตกต่างไม่ซ้ำใคร ให้ความพรีเมียมเหนือระดับ กับดีไซน์ในรูปทรงคริสตัล 7 แท่ง ที่เพิ่มเลเยอร์ในการซ้อนโคมด้านนอกอีกชั้น มาพร้อมกับ ระบบ IFS (Integrate-Function Signals) ที่ออกแบบให้ทั้ง ไฟเลี้ยว/ไฟฉุกเฉิน/ไฟเบรก build-in อยู่ภายใต้โคมไฟท้ายเดียวกัน มาพร้อมกับการใช้งานในระบบ Smart Key ที่เพียงแค่พกพา Smart Key ใกล้ตัวรถ ก็สามารถบิดสตาร์ทได้ทันที อีกทั้งยังให้ความปลอดภัยที่มากกว่า ด้วยดิสก์เบรกทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ทำงานพร้อมกับระบบเบรกแบบ Dual-channel ABS  และเสริมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ด้วย USB Charger (Type-C) ที่ซ่อนอยู่บริเวณช่องซ้ายมือ สำหรับเสียบชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์สื่อสารได้ อีกจุดของความสวยงามที่มองเห็นได้ขณะขับขี่ คือ เรือนไมล์แบบ Digital LCD with Tachometer ผสมผสานดีไซน์ระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัยเอาไว้ด้วยกัน พร้อมการทำงานที่แสดงผลข้อมูลต่างๆอย่างครบครัน

 

ราคาและโปรโมชั่น

LAMBRETTA X200 GP เปิดตัวมากับ 2 สีสัน สไตล์ทูโทน ได้แก่

  • White/ Super Black (สีขาว-ดำ)
  • White/ Scuro Grey (สีขาว-เทา)

ในราคาเปิดตัวที่ 136,900 บาท

พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษช่วงเปิดตัว

เมื่อจองรถรุ่นใหม่ X200 GP ตั้งแต่วันนี้ – 5 พ.ย. 67 นี้!

ผ่านทางเว็บไซต์ https://booking.lambretta.co.th

รับข้อเสนอพิเศษ รวมมูลค่ากว่า 6,000 บาท

แบ่งเป็นรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • รับฟรี Voucher มูลค่า 2,000 บาท
  • รับฟรี ทะเบียน และ พรบ มูลค่า 1,000 บาท
  • รีบฟรี ประกันรถหาย นาน 1 ปี มูลค่า  3,000 บาท (*เฉพาะไฟแนนซ์ที่ร่วมรายการ)

 

เรียกได้ว่า LAMBRETTA X200 GP ไม่ใช่แค่เพียงรถสกู๊ตเตอร์ แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งมรดกและจิตวิญญาณการขับขี่ที่ทรงคุณค่า มันคือสิ่งที่สะท้อนทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต หากใครที่หลงรักในเรื่องราวของ LAMBRETTA ก็สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://lambretta.co.th หรือ

สวัสดีประเทศไทย! นักบิดร่วม Pre Event ต้อนรับสู่ MotoGP

Pre Event ต้อนรับสู่ MotoGP ภายใต้ธีมเสน่ห์อีสานใต้ สุดอบอุ่น-ประทับใจ

 

6 สุดยอดนักบิดของโลก ตะลุยกิจกรรมต้อนรับ และถ่ายวีดีโอประชาสัมพันธ์ประเทศไทย พาทัวร์ย้อนยุค “ปราสาทหินเมืองต่ำ” สัมผัสมนต์ขลังแดนอีสาน  ทอผ้าพื้นเมืองภูเขาไฟ พร้อมทั้งคัดสรร “เมนูเชิดชูอาหารท้องถิ่น” หาทานยาก อย่าง“ขนมตดหมา” อาหารถิ่นประจำ จ.บุรีรัมย์ เมนูชื่อแปลกแต่สุดแสนอร่อย ภายใต้การต้อนรับอบอุ่น ครบเครื่อง อลังการ

 

ประเทศไทยจัดกิจกรรม Pre Event ต้อนรับนักแข่ง โมโตจีพี สนามประเทศไทย รายการ “PT Grand Prix of Thailand 2024” อย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันพุธที่ 23 ตุลาคม 2567 โดยนักบิดชื่อดัง ได้แก่ อเล็กซ์ รินส์, ลูก้า มารินี่, มาร์โก้ เบซเซคกี้, เฟอร์มิน อัลเดอร์แกร์ รวมทั้ง 2 นักบิดไทยที่ลงทำการแข่งขัน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา และธัชกร บัวศรี ในธีมเสน่ห์อีสาน พาท่องเที่ยวย้อนยุค ชมปราสาทหินเมืองต่ำ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยเหล่าคณะผู้บริหารฝ่ายจัดการแข่งขัน แฟนคลับและกองทัพสื่อมวลชนร่วมงานมากมาย

ทั้งนี้ ถ่ายทำวีดีโอประชาสัมพันธ์ประเทศไทย โดยทีมงานดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ จะนำไปเผยแพร่ในช่วงการแข่งขัน ระหว่าง 25- 27 ตุลาคม 2567 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์  สู่สายตาแฟนมอเตอร์สปอร์ตกว่า 220 ประเทศ 800 ล้านคนทั่วโลก

 

กิจกรรมเริ่มจากคณะนางรำ ต้อนรับด้วยดนตรีพื้นบ้าน “กันตรึมประยุกต์” ที่มีท่วงทำนองสนุกสนาน โดยมีคณะผู้บริหารร่วมให้การต้อนรับและมอบพวงมาลัยคล้องมือ ได้แก่ นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย, มงคล วัตตะโร ผู้อำนวยการกองเผยแพร่โฆษณาต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายฉลอง ติรไตรภูษิต ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน), ว่าที่ร้อยตรีณรงค์เดช แจ้งดี ผู้จัดการขาย-ออนเทรด ศูนย์บุรีรัมย์ ตัวแทนน้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง, ดร.อารักษ์ พรประภา ประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด, นายอุกฤษณ์ ภาควิวรรธ รองผู้จัดการใหญ่ด้านวางแผนการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และนายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

จากนั้นเหล่านักบิดชมการทอ “ผ้าอัคนี” ของดีจากดินภูเขาไฟ หรือ ผ้าย้อมดินภูเขาไฟ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีความมหัศจรรย์ สวยงามและ “ผ้าบารายพันปี สีกลีบบัว” ของดีประโคนชัย  ผ้าไทยพื้นถิ่นที่มีเรื่องราว มีตำนาน สืบสานรุ่นสู่รุ่น ด้วยกรรมวิธีการผลิตจากสีธรรมชาติ มีสีสวยหวาน ใครสวมใส่ก็ดูดี ทั้งหญิงชาย ทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันผ้าทั้ง 2 ชนิดนี้ได้รับการสนับสนุนผลักดันเป็นสินค้า OTOP ของชุมชน สร้างอาชีพสร้างรายได้มากมายให้แก่คนในชุมชน

นอกจากนี้ยังมีการคัดสรรเมนู “เชิดชูอาหารท้องถิ่น” บางเมนูหารับประทานยากและอาจเลือนหายไปตามกาลเวลา ได้แก่ “ขนมตดหมา” หรือ ภาษาถิ่นเรียกว่า “เวือระพอม” ที่มีส่วนผสมของน้ำจากเครือ “ต้นตดหมา” พืชสมุนไพรพื้นบ้านสรรพคุณหลายอย่าง เป็นยาอายุวัฒนะ รักษาโรคได้หลายชนิด เนื้อสัมผัสขนมนุ่มหนึบ หอมอร่อยลักษณะคล้ายกับขนมจาก, “ทองม้วนสดข้าวนกกระเรียน” ที่ทำจากข้าวหอมมะลิอินทรีย์พื้นเมืองที่ปลูกในแหล่งอยู่อาศัยของนกกระเรียนพันธุ์ไทยหายาก โดยสร้างนิเวศน์ให้เป็นแหล่งอาหาร ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง รวมทั้งเมนู “กระยาสารท” ขนมโบราณ ของฝากขึ้นชื่อของถิ่นอีสานใต้ให้นักบิดได้ลองลิ้มชิมรส

บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน อบอุ่น และประทับใจทั้งกับทีมงานดอร์น่า สปอร์ตและเหล่านักบิดที่ร่วมงานอย่างมาก เนื่องจากเป็นครั้งแรกในการจัดพิธีต้อนรับ Pre Event ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมาจัดในกรุงเทพมหานคร ได้นำเสนอภาพลักษณ์และสนับสนุนการท่องเที่ยวภาพรวมของประเทศ ขณะที่ในปีนี้โยกมาจัดที่จังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้นักบิดชื่อดังได้มีโอกาสสัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลายและเสน่ห์ความงดงามของถิ่นอีสานใต้ นำไปเผยแพร่สู่สายตาผู้ชมทั่วโลกในช่วงการแข่งขันสุดสัปดาห์นี้

แฟนความเร็วที่สนใจเข้าชมการแข่งขัน ยังสามารถหาซื้อบัตรได้ที่ Counter Service ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือเว็บไซด์ All Ticket โดยบัตรชมการแข่งขัน สามารถเข้าชมพื้นที่กิจกรรม (Commercial Area) ได้ฟรี ด้วยความบันเทิงจัดเต็มทั้งคอนเสิร์ต, มวยและร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกช้อป ชิม พาวิลเลียนขนาดยักษ์ของแบรนด์สินค้าและหน่วยงานราชการให้ร่วมสนุกร่วมชมมากมาย  หรือซื้อบัตรแอดมิชชั่น(ADMISSION) สำหรับเข้าชมพื้นที่กิจกรรม ราคา 100 บาทต่อวัน หรือเหมา 3 วัน 200 บาท โดยซื้อบัตรได้ที่บูธ All Ticket หน้างาน วันที่ 25-27 ต.ค. เท่านั้น! ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจ Chang Circuit Buriram

“ก้อง-ก๊องส์” ร่วมกิจกรรม Pre-event พร้อมต้อนรับนักบิดระดับโลก

“ก้อง-ก๊องส์” ร่วมประชาสัมพันธ์เสน่ห์อีสานใต้ ที่ปราสาทหินเมืองต่ำ จ.บุรีรัมย์

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ฮีโร่นักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ควงคู่นักบิดรุ่นน้อง “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี กระทบไหล่ดาวดังระดับเวิลด์คลาส ทำหน้าที่เจ้าบ้านร่วมกิจกรรมต้อนรับ และถ่ายวิดีโอประชาสัมพันธ์ประเทศไทย พาทัวร์ย้อนยุคชม “ปราสาทหินเมืองต่ำ” สัมผัสมนต์ขลังแดนอีสาน ทอผ้าพื้นเมืองภูเขาไฟ พร้อมทั้งคัดสรร “เมนูเชิดชูอาหารท้องถิ่น” จังหวัดบุรีรัมย์ โดยทีมงานดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ จะนำไปเผยแพร่ในช่วงการแข่งขันระหว่างวันที่ 25- 27 ตุลาคมนี้ สู่สายตาแฟนมอเตอร์สปอร์ตกว่า 220 ประเทศ 800 ล้านคนทั่วโลก

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกโมโตจีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 เตรียมดวลความเร็วสนามที่ 18 รายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ ระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคมนี้ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ท่ามกลางการรอคอยอย่างจดจ่อของแฟนชาวไทย

โดยล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยจัดกิจกรรม Pre-event ต้อนรับนักแข่ง โมโตจีพี สนามประเทศไทย รายการ “PT Grand Prix of Thailand 2024” อย่างยิ่งใหญ่

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดขวัญใจชาวไทยเจ้าของหมายเลข 35 จาก “อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย” ในรุ่น โมโตทู และ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี เจ้าของหมายเลข 5 จาก “ฮอนด้า ทีม เอเชีย” ในรุ่น โมโตทรี ร่วมกิจกรรมพร้อมต้อนรับนักบิดชื่อดังของโลก อาทิ ลูก้า มารินี่, มาร์โก้ เบซเซคกี้, อเล็กซ์ รินส์ และ เฟอร์มิน อัลเดอร์แกร์ และเหล่าคณะผู้บริหารฝ่ายจัดการแข่งขัน แฟนคลับและกองทัพสื่อมวลชนร่วมงานมากมาย ในธีมเสน่ห์อีสานใต้ พาท่องเที่ยวย้อนยุค “ปราสาทหินเมืองต่ำ” ชมการทอ “ผ้าอัคนี” ของดีจากดินภูเขาไฟ หรือ ผ้าย้อมดินภูเขาไฟ ภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีความมหัศจรรย์ สวยงาม และ “ผ้าบารายพันปี สีกลีบบัว” ของดีประโคนชัย ที่เป็นสินค้า OTOP ของชุมชน พร้อมลองชิมรส “เชิดชูอาหารท้องถิ่น” ที่บางเมนูหารับประทานยากและอาจเลือนหายไปตามกาลเวลา ได้แก่ “ขนมตดหมา”, “ทองม้วนสดข้าวนกกระเรียน” รวมทั้งเมนู “กระยาสารท” ขนมโบราณ ของฝากขึ้นชื่อ ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน อบอุ่น และประทับใจทั้งกับทีมงานดอร์น่า สปอร์ตและเหล่านักบิดที่ร่วมงานอย่างมาก

ทั้งนี้ หลังจบภารกิจดังกล่าว “ก้อง-สมเกียรติ” และ “ก๊องส์-ธัชกร” จะเดินทางเข้าสู่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เพื่อเตรียมความพร้อมร่วมกับทีม ก่อนจะลงสำรวจแทร็กในวันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคมนี้ และเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมในวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคมนี้ ก่อนจะควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ตในวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคมนี้ โดยการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 27 ต.ค.นี้ เริ่มต้นด้วย โมโตทรี 12.00 น. ต่อด้วย โมโตทู 13.15 น. และปิดท้ายด้วย โมโตจีพี 15.00 น. ถ่ายทอดสดทาง PPTV และ SPOTV

#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #HondaRacingThailand #Motorsport #MotoGP #HondaBigBike #ExcitesTheWorld #HondaRacingCorporation #HRC #RepsolHondaTeam #LM10 #Moto2 #IdemitsuHondaTeamAsia #SC35 #Kong #Moto3 #TB5 #ThaiGP2024 #PTGrandPrix

ไทยยามาฮ่าต้อนรับ “กวาร์ตาราโร” และ “รินส์” 2 นักแข่งระดับโลก

 “กวาร์ตาราโร” และ “รินส์”  เตรียมลุยศึกกรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ สัปดาห์นี้

นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร นายภาณุพล กิตติคำรณ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า นายอุกฤษณ์ ภาควิวรรธ รองผู้จัดการใหญ่ด้านวางแผนการค้า และการตลาด พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ให้การต้อนรับ และถ่ายภาพร่วมกับ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลก 1 สมัย เจ้าของหมายเลข 20 และ อเล็กซ์ รินส์ เจ้าของหมายเลข 42 ในการต้อนรับการเดินทางมาร่วมการแข่งขัน MotoGP 2024 สนามที่ 18 รายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ ระหว่างวันที่ 25 – 27 ตุลาคม 2567 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

โดยหลังจากที่ 2 นักแข่งระดับโลกเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจะทำการเดินทางต่อไปยังสนามบินบุรีรัมย์ในทันที เพื่อที่จะทำการเตรียมตัว และเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมโปรแกรมการแข่งขันในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้

สำหรับการต้อนรับในครั้งนี้มีทัพสื่อมวลชน และบรรดาแฟนคลับของ 2 นักแข่งมาร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเร็วๆ นี้

—————————–
#60ปีไทยยามาฮ่ามอเตอร์ #ดีใจที่ได้เจอ
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP24
#YamahaFactoryRacingTeam #MonsterEnergyYamahaMotoGPteam
#FQ20 #AR42 #ThaiGP24 #GrandPrixOfThailand2024

เตรียมเปิดฉาก! นักบิด MotoGP ถึงบุรีรัมย์แล้ว

เหล่านักแข่ง โมโตจีพี  ได้เดินทางมาถึง จ.บุรีรัมย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา 

มาร์ค มาร์เกซ และ ฟรานโก้ โมบิเดลลี่ รวมถึงเหล่านักแข่ง และขบวนตู้คอนเทนเนอร์ทีมแข่ง รถจักรยานยนต์ทางเรียบ ชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ภายใต้ชื่อรายการ “PT Grand Prix of Thailand 2024” ได้เดินทางมาถึง จ.บุรีรัมย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เพื่อร่วมทำการแข่งขัน ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคมนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

ความเคลื่อนไหว การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ภายใต้ชื่อรายการ “PT Grand Prix of Thailand 2024” ศึกสองล้อที่เร็วที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ระหว่าง 25- 27 ตุลาคม 2567 ที่จะมีขึ้น ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาระดับโลกรายการใหญ่ที่สุด ที่มีการจัดในประเทศไทย โดยมีผู้ติดตามชมมากกว่า  800 ล้านคนทั่วโลก จาก 220 ประเทศทั่วโลก

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา บรรดาทัพนักบิดชื่อดังระดับโลกจากนานาประเทศ อาทิ มาร์ค มาร์เกซ และ ฟรานโก้ โมบิเดลลี่ รวมถึงเหล่านักบิดโมโตจีพีคนอื่นๆ เดินทางถึงท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ แล้วจากเที่ยวบินเช่าเหมาลำ 3 เที่ยวบิน จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รอบเวลา 22.00 น. 23.05 น. และ 23.45 น. เป็นที่เรียบร้อย เพื่อเตรียมทำศึกโมโตจีพี สนามที่ 18 รายการ PT Grand Prix of Thailand 2024

โดยมีนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายการแสดงต้อนรับและจัดแสดงสินค้า พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาคเอกชน ประชาชน และเหล่าบรรดาแฟนคลับโมโตจีพีที่มารอรับ พร้อมชุดการแสดง 5 ชุดการแสดง ได้แก่ การแสดงอัปสราต้อนรับ, การแสดงชุดเชิ้งกะโป๊ะ ,การแสดงชุดรำวงบุรีรัมย์ ,การแสดงชุดฟ้อนกลองยาว และการแสดงประกอบเพลง นี่คือ บุรีรัมย์ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่และอบอุ่น

สมาคมรถโบราณฯ จับมือ เซ็นทรัล ขับรถเที่ยวกรุงเก่า เยี่ยมเงาอดีต

สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ร่วมกับ เซ็นทรัลพัฒนา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดขบวนรถโบราณ และรถคลาสสิคกว่า 30 คัน ขับเที่ยวชานกรุง เส้นทางกรุงเทพฯ – พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เผยว่า สมาคมฯ ร่วมกับ เซ็นทรัลพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงาน “คาราวานชานกรุง 2024” ภายใต้แนวคิด “เยือนกรุงเก่า เยี่ยมเงาอดีต” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมถึงบริเวณใกล้เคียง ผ่านขบวนรถโบราณ และรถคลาสสิคทรงคุณค่ากว่า 30 คัน

ด้านผู้บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เผยว่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อยุธยา เป็นโครงการมิกซ์ยูสสปอตไลท์ระดับโลก แลนด์มาร์กของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้แนวคิด “อัศจรรย์อยุธยา”  ด้วยสถาปัตยกรรมการตกแต่ง โดยเฉพาะฟาซาดสีขาวและสีทองที่สะท้อนอัตลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัดฯ ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงรถโบราณ และรถคลาสสิค ให้ลูกค้าและนักท่องเที่ยวได้ชื่นชมเสน่ห์ของรถโบราณที่ทรงคุณค่า

ขบวนคาราวานรถโบราณ เริ่มเดินทางจาก ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ มุ่งหน้าสู่ เบนซ์เภตรา อยุธยา เยี่ยมชมโชว์รูม และศูนย์บริการฯ ครบวงจรแห่งแรกในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมพักทานอาหารกลางวัน

ช่วงบ่าย เคลื่อนขบวนไป พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ชมกรุเครื่องทองสมัยกรุงศรีอยุธยา จำนวนมากกว่า 2,200 รายการ ณ อาคารเครื่องทองอยุธยา โดยมีโบราณวัตถุชิ้นเด่น เช่น พระแสงขรรค์ชัยศรี พระคชาธารจำลอง จุลมงกุฎ และพระสุวรรณมาลา นอกจากนั้นยังมี เครื่องทองจากวัดราชบูรณะ และส่วนจัดแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับคติการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่พบในโบราณสถาน ได้แก่ พระปรางค์วัดพระราม พระปรางค์วัดมหาธาตุ เจดีย์วัดพระศรีสรรเพชญ์ และเจดีย์ศรีสุริโยทัย เป็นต้น

หลังจากนั้น มุ่งหน้าสู่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อยุธยา เพื่ออวดโฉมรถโบราณ และรถคลาสสิค ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด และมอบเกียรติบัตรให้แก่เจ้าของรถโบราณที่เข้าร่วมกิจกรรม

ผู้สนใจสามารถติดตามกิจกรรมของสมาคมรถโบราณฯ ได้ที่ vintagecarclub.or.th และ facebook.com/vintagecarclub

เติมความแรงที่ปั๊มพีที! กับของพรีเมียมที่ระลึกสุดพิเศษ “พวงกุญแจ MotoGP”

“พวงกุญแจ MotoGP” สำหรับสมาชิกบัตร PT Max Card ทุกประเภท

นายสุทธิพงษ์ วรรณวานิช (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยผู้บริหาร บริษัท ปิโตรเลียมไทยคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันพีที ในกลุ่ม บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) ขอเชิญลูกค้าทุกท่านมาร่วมสัมผัสประสบการณ์ความแรง ผ่านการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ภายใต้ชื่อรายการ “PT Grand Prix of Thailand 2024” ที่ได้รับความนิยมจากแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก

ด้วยการมอบของพรีเมียมสุดพิเศษ “พวงกุญแจ MotoGP” ให้ได้เก็บสะสมกันเป็นที่ระลึก สำหรับสมาชิกบัตร PT Max Card ทุกประเภท เพียงเติมน้ำมันกลุ่มเบนซินทุกชนิด ครบ 1,200 บาท หรือ เมื่อเติมน้ำมันดีเซล ครบ 2,000 บาท รับทันทีพวงกุญแจ MotoGP 2024 จำนวน 1 ชิ้น (มูลค่า 159 บาท) ที่สถานีบริการน้ำมันพีทีที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2567 ถึง 31 ตุลาคม 2567 หรือจนกว่าของจะหมด

สรยท.ประกาศรายชื่อรถเข้าเกณฑ์ THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR

สรยท. เปิดเผยรายชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เข้าเกณฑ์การมอบรางวัล

สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. เปิดเผยรายชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เข้าเกณฑ์การมอบรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 หรือ TCOTY2024 โดยในปีนี้ ทางสมาคมฯ เล็งเห็นความสำคัญของตลาดรถจักรยานยนต์ จึงมีมตินำการมอบรางวัลรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี หรือ THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR กลับมาอีกครั้ง นอกจากนั้น ยังถือเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่จะมีการมอบรางวัลให้กับกลุ่มรถยนต์พลังไฟฟ้าภายใต้ชื่อรางวัลรถยนต์พลังไฟฟ้ายอดเยี่ยมแห่งปี หรือ THAILAND EV OF THE YEAR

‘การจัดงาน THAILAND CAR OF THE YEAR มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการจัดงานยังคงบทบาทและหน้าที่สำคัญในการเป็นเวทีที่จะช่วยส่งเสริมและผลักดันผู้ผลิตยานยนต์ในการยกระดับสินค้าของพวกเขาให้มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ใช้ยานยนต์ที่มีคุณภาพ รวมถึงยังเป็นการช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในทุกภาคส่วนของระบบ Supply Chain ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำซึ่งทั้งหมดถูกสะท้อนผ่านเกณฑ์ในการคัดเลือกของทางสมาคมที่ถูกกำหนดเอาไว้อย่างเหมาะสม’ นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. กล่าว

ทางด้าน นายสุรมิส เจริญงาม อุปนายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการคัดเลือกและตัดสิน THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 เปิดเผยขั้นตอนการตัดสินและมอบรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปีนี้ว่า หลังจากนี้จะส่งรายชื่อรถยนต์ผ่านเกณฑ์ทั้งหมดให้กับสมาชิก สรยท.โหวตคัดเลือกรถยนต์รอบแรกจำนวนกึ่งหนึ่ง เพื่อเข้าสู่การพิจารณารอบสุดท้ายซึ่งเป็นการทดสอบภาคสนามโดยคณะสื่อมวลชนที่มีความรู้ ประสบการณ์ ในการทดสอบรถยนต์ของเมืองไทยต่อไป

การทดสอบภาคสนามในรอบ 2 นั้น เป็นการร่วมให้คะแนนของสื่อมวลชนสายยานยนต์แลรถจักรยานยนต์ ตั้งแต่ระดับบรรณาธิการ คอลัมนิสต์ จนถึงผู้สื่อข่าวอาวุโส ที่คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ไทยมากกว่า 20-30 ปี เป็นการให้คะแนนตามหลักเกณฑ์ของการตัดสินรางวัล European Car of The Year ของยุโรป และ Japan Car of The Year ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อคัดเลือกรถยนต์เพียง 1 รุ่น ให้เป็นรถยอดเยี่ยมประจำปีของประเทศไทย

‘การจัดงานในปีนี้ยังคงต้องเผชิญหน้ากับบริบทของความเปลี่ยนแปลงของตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์เหมือนกับปีที่ผ่านมา ซึ่งการจัดงาน THAILAND CAR OF THE YEAR ถือเป็นดัชนีที่สามารถใช้วัดและระบุถึงความเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์ไทยในแง่ของผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะในกลุ่มของรถยนต์พลังไฟฟ้า เราจะพบว่ามีทางเลือกในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมากกว่าในปี 2023 ซึ่งเป็นปีแรกของการจัดงาน’ นายสุรมิส กล่าวเพิ่มเติม

‘ในกลุ่มของรถจักรยานยนต์นั้น ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์หลักอีกประเภทของประเทศไทย และบ้านเราถือเป็นฐานการผลิตที่สำคัญสำหรับภูมิภาคนี้ ดังนั้น ด้วยการเล็งเห็นความสำคัญ และต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น การมอบรางวัล THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR เพื่อเป็นหนึ่งในการสนับสนุนและส่งเสริมให้กับบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ได้พัฒนาและยกระดับสินค้าของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น’ เพื่อให้คนไทยได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพ

สำหรับในปีนี้ ถือเป็นการจัดงานครั้งที่ 10 แล้ว โดยในกลุ่มรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 มีรถยนต์ที่เข้าเกณฑ์ตามกรอบการคัดเลือกจำนวน 8 คัน โดยพิจารณาจาก 3 หัวข้อหลักคือ เปิดตัวในช่วงระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึง 30 กันยายน 2567 เป็นรถยนต์ใหม่แบบโมเดลเชนจ์ และจะต้องมีการผลิตในประเทศไทย หรือนำเข้าจากประเทศในแถบอาเซียน  โดยรถยนต์ทั้ง 8 รุ่นประกอบด้วย

1.BMW Series 5 (G60) – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 19 ตุลาคม 2567

2.BYD Sealion 6 DM-i – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 8 สิงหาคม 2567

3.Honda Accord e:HEV – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว  17 พฤศจิกายน 2566

4.Mercedes-Benz CLE Coupe 4Matic (300 และ AMG53) – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว  6 กันยายน 2567

5.Mercedes-Benz E-Class (W214) – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 4 มีนาคม 2567

6.MG3 Hybrid+ – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 20 สิงหาคม 2567

7.Toyota Hilux Champ – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 27 พฤศจิกายน 2566

8.Toyota Yaris Cross – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 5 ตุลาคม 2566

**การคัดเลือกรถเข้าสู่รอบสุดท้ายจะมีจำนวนทั้งสิ้น 5 คัน**

ส่วนกลุ่มรางวัล THAILAND EV OF THE YEAR 2024 นั้น จะยึดตามกรอบของ THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 ยกเว้นเรื่องฐานการผลิต แต่จะใช้การเป็นบริษัทที่อยู่ในโครงการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่บีโอไอ (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) ได้อนุมัติให้การส่งเสริมแล้วในปี 2566-2567 นี้แล้วเท่านั้น และต้องสามารถแล่นทำระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้งไม่ต่ำกว่า 300 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC หรือเทียบเท่า โดยอ้างอิงจากเอกสารการทดสอบ หรือ ECO Sticker ของผู้ผลิตเป็นสำคัญ ซึ่งในปีนี้มีรถยนต์พลังไฟฟ้าผ่านเกณฑ์ถึง 18 รุ่นด้วยกัน ประกอบด้วย

1.Avatr 11 : เปิดตัว 17 กันยายน 2567

2.BMW i5 : เปิดตัว 19 ตุลาคม 2566

3.BMW iX2 : เปิดตัว 1 กุมภาพันธ์ 2567

4.BYD M6 : เปิดตัว 9 กันยายน 2567

5.Changan Deepal L07 : เปิดตัว 29 พฤศจิกายน 2566

6.Changan Deepal S07 : เปิดตัว 29 พฤศจิกายน2566

7.Changan Lumin : เปิดตัว 24 มีนาคม 2567

8.GAC HYPTEC HT : เปิดตัว  19 กันยายน 2567

9.Honda e:N1 : เปิดตัว 26 มีนาคม 2567

10.Hyundai IONIQ 5 (หรือ 5N) : เปิดตัว 30 พฤศจิกายน 2566

11.Hyundai IONIQ 6 : เปิดตัว 25 มีนาคม 2567

12.Mercedes-EQS 450 4Matic SUV : เปิดตัว 23 สิงหาคม 2567

13.MG Cyberster : เปิดตัว 27 มีนาคม 2567

14.MG Maxus 7 : เปิดตัว 13 มิถุนายน 2567

15.MINI Aceman : เปิดตัว 19 สิงหาคม 2567

16.MINI Cooper SE : เปิดตัว 18 กรกฎาคม 2567

17.Neta X : เปิดตัว 27 กรกฎาคม 2567

18.ORA07 : เปิดตัว 29 พฤศจิกายน 2566

**การคัดเลือกรถเข้าสู่รอบสุดท้ายจะมีจำนวนทั้งสิ้น 9 คัน**

ส่วนรางวัล THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR 2024 จะยึดตามเกณฑ์การคัดเลือกเช่นเดียวกับ THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 ในทั้ง 3 ประเด็นหลัก คือ เปิดตัวในช่วงระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึง 30 กันยายน 2567 เป็นรถยนต์ใหม่แบบโมเดลเชนจ์ และจะต้องมีการผลิตในประเทศไทย หรือนำเข้าจากประเทศในแถบอาเซียน ซึ่งในปีนี้มีรถจักรยานยนต์ที่ผ่านเข้าเกณฑ์จำนวน 11 รุ่น ประกอบด้วย

1.BMW R 1300GS – เปิดตัวพฤษภาคม 2567

2.CYCLONE  RA401 – เปิดตัว กันยายน 2567

3.DUCATI DESERT X RALLY – เปิดตัว พฤษภาคม 2567

4.GPX DZ3 – เปิดตัว กรกฎาคม 2567

5.HARLEY DAVIDSON Street Glide – เปิดตัว มกราคม 2567

6.KAWASAKI  Meguro-S1 – เปิดตัว กันยายน 2567

7.KEEWAY GEMMA 125 – เปิดตัว มกราคม 2567

8.KEEWAY V 302C – เปิดตัว เมษายน 2567

9.TRIUMPH SCRAMBLER 400X – เปิดตัว ตุลาคม 2566

10.YAMAHA PG-1 – เปิดตัว พฤศจิกายน 2566

11.Zontes 350e – เปิดตัว มิถุนายน 2567

**การคัดเลือกรถเข้าสู่รอบสุดท้ายจะมีจำนวนทั้งสิ้น 6 คัน**

การลงคะแนนรอบแรกจะลงคะแนนโดยสมาชิกสามัญของสมาคมโดยมีระยะเวลาในการโหวตตั้งแต่วันที่ 17-22 ตุลาคม 2567 จากนั้นจะมีการนับคะแนนในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 โดยอนุกรรมการทำงานในปีนี้ และจะมีการประกาศรายชื่อรถยนต์และรถยนต์จักรยานยนต์ที่เข้ารอบสุดท้ายในวันที่ 28 ตุลาคม 2567 นี้ ก่อนที่จะมีการจัดทดสอบเพื่อให้คณะกรรมการที่ได้รับการคัดเลือกได้ลงคะแนนอีกครั้งในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ที่สนามทดสอบของศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และจะมีการจัดงานมอบรางวัลในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ที่ The HALLS Bangkok ถนนวิภาวดีรังสิต

ทัพหน้า MotoGP ถึงไทย! โค้งสุดท้าย “บุรีรัมย์” สุดคึกคัก

 เดินหน้าเต็มระบบ ก่อนเปิดบ้านรับแฟนความเร็วจากทั่วโลก

โค้งสุดท้ายสู่สัปดาห์แห่งประวัติศาสตร์ มอเตอร์สปอร์ตโลกที่จะระเบิดศึกบนผืนแผ่นดินไทย กับความมันส์เต็มขั้นของศึกโมโตจีพี สนามประเทศไทย รายการ “PT Grand Prix of Thailand 2024” ที่จะดวลกันวันที่ 25-27 ต.ค.นี้ ที่สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์ ทุกฝ่ายเร่งระดมจัดการความเรียบร้อยแบบองค์รวม เตรียมเปิดประตูบานใหญ่ต้อนรับแฟนความเร็วทั่วโลกอย่างเต็มระบบ พร้อมเผยยอดค้นหาที่พักบุรีรัมย์พุ่ง 45% รับศึกจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก

ฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้มีการเผยภาพขบวนตู้คอนเทนเนอร์ MotoGP ศึกสองล้อที่เร็วที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกชุดแรกที่เริ่มทยอยนำอุปกรณ์ต่างๆมาติดตั้งที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ส่วนรถแข่งต่างๆจะเดินทางมาถึงในช่วงสัปดาห์หน้า หลังจบการแข่งขัน สนาม 17 รายการ ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ ระหว่างวันที่ 18-20 ตุลาคมนี้ ที่ สนาม ฟิลลิป ไอส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย

ทั้งนี้ คณะกรรมการจัดการแข่งขัน ร่วมกับจังหวัดบุรีรัมย์ระดมจัดการความเรียบร้อยแบบองค์รวม ใส่ใจรายละเอียดในทุกส่วน เพื่อให้พร้อมที่สุดในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ในการจัดการแข่งขัน โมโตจีพี ไทยแลนด์ รายการ “PT Grand Prix of Thailand 2024” ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ สนามที่ 18 ที่จังหวัดบุรีรัมย์

ล่าสุด สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต มีการจัดอบรมทีมมาแชล อบรมทีมแพทย์ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับงานโมโตจีพีอย่างเข้มข้น นอกจากนี้ จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ แขวงทางหลวงบุรีรัมย์ แขวงทางหลวงชนบทจังหวัดบุรีรัมย์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยังร่วมกันทำความสะอาด สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สถานที่จัดการแข่งขันอีกด้วย

ด้านจังหวัดบุรีรัมย์นำโดย นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต, รองผู้ว่าราชการจังหวัด ตลอดทั้งคณะกรรมการสนับสนุนการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ MotoGP ได้มีการประชุมสำหรับการเตรียมความพร้อมต้อนรับ อำนวยความสะดวก สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวให้มากที่สุด

ทั้งนี้ คณะทำงานฝ่ายต่างๆ นำเสนอความก้าวหน้าของคณะทำงานฝ่ายต่างๆ อาทิ “ที่พักและอาหาร” ได้จัดทำแอพลิเคชันที่มีข้อมูลครบถ้วน ทั้งตรวจสอบราคาโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว จุดให้บริการสถานพยาบาล, เตรียมพร้อมด้านการแพทย์ฉุกเฉิน, มีการประสานขอใช้รถ Low Floor EV จุดรับส่ง นักท่องเที่ยว, การจัดระเบียบการจราจร การรักษาความปลอดภัยตามสถานที่ต่างๆ , เตรียมพร้อมด้านอาสาสมัคร Ask me , อาสาสมัครดูแลรักษาความสะอาด GU เก็บ, จัดเตรียมสถานที่การแข่งขัน และเตรียมรถประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว, รถสุขาเคลื่อนที่, การจัดพาวิลเลียนด้านการท่องเที่ยว, จุดประชาสัมพันธ์การแข่งขัน, สนับสนุนระบบสาธารณูปโภค เตรียมพร้อมด้านสัญญาณเครือข่ายสื่อสาร -อินเตอร์เน็ตพร้อมรองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก, การอำนวยความสะดวก ณ ท่าอากาศยานบุรีรัมย์, การแสดงต้อนรับและจัดแสดงสินค้า OTOP ฯลฯ

ด้านอโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยว เผยข้อมูลการค้นหาที่พักในจังหวัดบุรีรัมย์เพิ่มขึ้น 45% ในช่วงวันที่ 25 – 27 ตุลาคม 2024 ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกที่กำลังจะจัดขึ้นในสนาม ณ จังหวัดบุรีรัมย์  โดยข้อมูลนี้อ้างอิงจากการค้นหาที่พักในเดือนแรกหลังจากเปิดจำหน่ายบัตรการแข่งขัน โดยเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ข้อมูลจากการค้นหายังพบว่า นักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรครองตำแหน่งอันดับหนึ่ง ในกลุ่มประเทศที่มีความสนใจเดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์ ตามมาด้วยออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ และสวิตเซอร์แลนด์ การค้นหาที่พักในจังหวัดบุรีรัมย์จากทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงความสนใจของการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งแพร่หลายในระดับสากล

สำหรับแฟนความเร็วที่สนใจเข้าชมการแข่งขัน ยังสามารถหาซื้อบัตรได้ที่ Counter Service ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือเว็บไซด์ All Ticket โดยบัตรชมการแข่งขัน สามารถเข้าชมพื้นที่กิจกรรม (Commercial Area) ได้ฟรี ด้วยความบันเทิงจัดเต็มทั้งคอนเสิร์ต, มวยและร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกช้อป ชิม พาวิลเลียนขนาดยักษ์ของแบรนด์สินค้าและหน่วยงานราชการให้ร่วมสนุกร่วมชมมากมาย  หรือซื้อบัตรแอดมิชชั่น(ADMISSION) สำหรับเข้าชมพื้นที่กิจกรรม ราคา 100 บาทต่อวัน หรือเหมา 3 วัน 200 บาท โดยซื้อบัตรได้ที่บูธ Allticket หน้างาน วันที่ 25-27 ต.ค. เท่านั้น! ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจ Chang Circuit Buriram

แฟนมอเตอร์สปอร์ตเตรียมมันส์คูณสอง กับการชม ThaiGP เสร็จแล้วชมเกมฟุตบอลไทยลีกกันต่อ ในเกมระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ ลำพูน วอริเออร์ วันเสาร์ที่ 26 ต.ค. 2567 เวลา 18.00 น. ฟรี!