









Yamaha Championship 2024 Season 7 ปิดฉากการแข่งขันในซีซั่นนี้อย่างยิ่งใหญ่
Yamaha Championship Season 7 สนามสุดท้ายที่สนามช้าง บุรีรัมย์ เป็นการปิดฉากการแข่งขันในซีซั่นนี้อย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นงานแข่งขันที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทย โดยมีการจัดการแข่งขันในหลายรุ่น เพื่อตอบสนองนักแข่งทุกระดับทั้งมือสมัครเล่น และมืออาชีพ ภายใต้การสนับสนุนจาก Yamaha ซึ่งได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
Yamaha Championship มีรุ่นการแข่งขันที่หลากหลาย ซึ่งไม่เพียงแค่สำหรับนักแข่งมือสมัครเล่นที่ต้องการแสดงฝีมือ และสร้างประสบการณ์ในสนามแข่งขันจริง กับประสบการณ์การแข่งขันอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น กฎ กติกา หรือข้อบังคับต่างๆ โดยมีทีมงานจาก Yamaha Thailand Racing Team มาช่วยเซ็ตรถและให้คำแนะนำให้กับลูกค้าที่ร่วมการแข่งขัน ซึ่งจะช่วยให้ขับขี่แข่งขันได้อย่างเต็มที่และสนุกสนานมากขึ้น
นอกจากความมันสนุกสนานเร้าใจของการแข่งขัน อีกส่วนสำคัญของงานในการเปิดบูธสปอนเซอร์จากแบรนด์ชั้นนำที่มาร่วมจำหน่ายสินค้าต่างๆ ในราคาพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าจาก Yamaha เองหรือจากแบรนด์ผู้สนับสนุนรายอื่นๆ พร้อมทั้งยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับแฟนๆ นักแข่ง และผู้เข้าชม นอกจากนี้ ยังมีการแจกของรางวัลขึ้นในบูธเพื่อสร้างสีสันให้กับงาน
บรรยากาศภายในสนามเต็มไปด้วยความตื่นเต้น และสนุกสนานจากทั้งนักแข่ง และผู้ชม เมื่อได้เห็นการแข่งขันที่ดุเดือดที่มีความมุ่งมั่นที่จะคว้าแชมป์ การแข่งขันใน Yamaha Championship ไม่เพียงแต่เป็นการชิงชัยเพื่อชัยชนะเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ และความสนุกสนานให้กับชุมชนผู้ชื่นชอบมอเตอร์สปอร์ตทั่วประเทศ
Yamaha Championship ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต แต่ยังเป็นงานที่สร้างความสนุกสนานและเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างนักแข่งและแฟนๆ ที่รักในกีฬามอเตอร์สปอร์ต ทาง Yamaha ได้นำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้กับผู้เข้าร่วม ทั้งในด้านการแข่งขันและการจัดกิจกรรมสนุกสนานต่างๆ ภายในงาน พร้อมกับสินค้าในราคาพิเศษจากบูธสปอนเซอร์ที่เข้าร่วมจัดงาน
หลังจากแข่งขันจบลงพร้อมกับนักแข่งที่คว้าแชมป์ประจำปีพร้อมกับถ้วยรางวัลที่มาคู่กับรอยยิ้มแห่งความสำเร็จ ปีหน้าเตรียมพบกันใหม่กับ Yamaha Championship Season 8
กับอนิเมชั่นมอเตอร์ไซค์ ไซ-ไฟ สุดยิ่งใหญ่ พร้อมสตรีมแล้ววันนี้บน Netflix!
Tokyo Override เป็นซีรีส์อนิเมะ ไซ-ไฟ เรื่องใหม่จาก Netflix ที่ดำเนินเรื่องในกรุงโตเกียวอีก 100 ปีข้างหน้า พร้อมสตรีมแบบเอ็กซ์คลูซีฟบน Netflix โดย ยามาฮ่า มอเตอร์ (ประเทศญี่ปุ่น) สร้างสรรค์ และพัฒนาพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการผลิตซีรีส์นี้ โดยให้ข้อมูล 3D และการสนับสนุนด้านการบันทึกเสียงของรถมอเตอร์ไซค์รุ่นในตำนานของยามาฮ่า ได้แก่ YZF-R1 และ VMAX นอกจากนี้ยังร่วมสร้างโลกอนาคตในเรื่อง รวมถึงออกแบบรถแข่งคอนเซ็ปต์ใหม่ในโลก 100 ปีข้างหน้าที่ยามาฮ่าได้ทำการออกแบบออกมาเป็น “Y/AI” กับฉากแอคชั่นการขับขี่มอเตอร์ไซค์นับว่าเป็นไฮไลต์ของซีรีส์นี้
ซูเปอร์ไบค์อย่าง YZF-R1 ทะยานผ่านกาลเวลาของกรุงโตเกียวจนกลายเป็น “ความคลาสสิค”
Tokyo Override กำกับโดย ยุสุเกะ ฟุกุดะ และ วีรภัทร จินนาวิน โดยดำเนินเรื่องในโตเกียวอีก 100 ปีข้างหน้าที่ AI มีบทบาทอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน และระบบต่างๆ ในเมืองได้ถูกทำให้เป็นอัตโนมัติทั้งหมด อนิเมชั่น ไซ-ไฟ และหนึ่งในไฮไลต์ของอนิเมะเรื่องนี้คือฉากแอคชั่นการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์สุดเร้าใจ ยามาฮ่ามอเตอร์ได้ให้ความร่วมมือ และดูแลในหลายส่วนของกระบวนการผลิต เช่น ฉากขี่มอเตอร์ไซค์รุ่นคลาสสิกในตำนานอย่าง YZF-R1 และ VMAX ทะยานผ่านถนนในโลกอนาคตอีก 100 ปี ข้างหน้า
“สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือกระบวนการสร้างสรรค์โลกหรือที่เราเรียกว่า World Building ซึ่งเราทำร่วมกับทีมผู้ผลิต” ซาโตชิ นากามูระ จากฝ่ายวางแผน และออกแบบ กล่าวว่า “เราใช้เวลานานมากกับการพูดคุยกันหลายครั้งว่าโลกของโตเกียวอีก 100 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แล้วรวบรวมผลลัพธ์ทั้งหมดเป็น ‘ไบเบิล’ ที่ใช้เป็นแนวทางในการผลิต สิ่งที่คุณเห็นในซีรีส์ ทั้งเหตุการณ์ ยานพาหนะ และเรื่องราวทั้งหมดล้วนมีพื้นฐานมาจากไบเบิลกว่า 400 หน้านี้”
Realism Beyond Previous Motorcycle Anime ความสมจริงเหนือกว่าอนิเมะมอเตอร์ไซค์เรื่องไหนๆ
ในสังคมที่ขับเคลื่อนด้วย AI ใน Tokyo Override โอกาสเกิดอุบัติเหตุทางจราจร และปัญหาอื่นๆ ลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ภัยพิบัติทางธรรมชาติยังคงอยู่นอกเหนือการควบคุมของมนุษย์ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติเหล่านี้ ทีมผู้ผลิตจึงมุ่งเน้นการสร้างโลกของการแข่งรถ
“ในการแข่งรถ อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ แนวคิดที่ใช้การแข่งรถในการระบุความเสี่ยง และค้นหาวิธีการย้ายไปยังพื้นที่ปลอดภัยถือว่าไม่เหมือนใคร และด้วยองค์ประกอบความบันเทิงจากการแข่งขัน มันเพิ่มความสมจริงมากขึ้นเมื่อมองถึงบทบาทของการแข่งรถในอีก 100 ปีข้างหน้า” นากามูระกล่าว
หนึ่งในนักแข่งหลักอย่างอมรินทร์ที่ขี่ยามาฮ่า Y/AI ซึ่งเป็นยานพาหนะที่เชื่อมั่นในความสามารถของมนุษย์ โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ผสานความสมจริงในการออกแบบ ตำแหน่งการขี่ของ Y/AI เหมือนกับรถแข่ง MotoGP รุ่น YZR-M1 ในขณะที่โครงสร้างของรถสะท้อนถึงการออกแบบล้ำสมัย ผสมผสานระหว่างการออกแบบเพื่อผลิตภัณฑ์ และความสวยงาม ซึ่งโมเดลคอนเซ็ปต์ขนาดจริงของ Y/AI ได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว และจะเปิดตัวในงาน Motor Expo 2024 ที่ประเทศไทย ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
“เรื่องราวถูกกำหนดจากโครงสร้างสังคม เทคโนโลยี และคุณค่าของผู้คนในอีก 100 ปีข้างหน้าที่เราสร้างขึ้นใน World Building bible ถ้าคุณลองจินตนาการถึงการผสมผสานขององค์ประกอบเหล่านี้เมื่อรับชม คุณอาจจะพบว่ามันน่าสนใจยิ่งขึ้น” นากามูระกล่าว “ผมเองก็ไม่รู้ตอนจบเหมือนกัน ในฐานะผู้ชม ผมอยากดื่มด่ำกับโลก และเรื่องราวนี้เมื่อได้รับชม”
Yamaha Motor | Tokyo Override
COLLABORATION PROJECT
https://global.yamaha-motor.com/showroom/tokyooverride/
Netflix Title Page: https://www.netflix.com/jp/title/81153111
ยกระดับเรียนรู้อย่างหนักกับรถแข่ง Honda RC213V
“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ จบภารกิจทดสอบ โมโตจีพี ครั้งแรกที่ บาร์เซโลน่า ด้วยพัฒนาการที่ยอดเยี่ยม เจ้าตัวเผยใช้เวลาตลอดทั้งวันเรียนรู้รถแข่ง Honda RC213V อย่างหนัก ยกระดับอย่างต่อเนื่อง พร้อมเก็บข้อมูลสำคัญเพื่อปรับปรุงตัวเอง ก่อนทดสอบครั้งต่อไป
การทดสอบอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ ศึก โมโตจีพี 2025 มีขึ้นในวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ เซอร์กิต เด บาร์เซโลน่า-คาตาลุนญ่า ประเทศสเปน โดย “ก้อง-สมเกียรติ” นักบิดไทยเจ้าของหมายเลข 35 เข้ารายงานตัวกับทีมเป็นครั้งแรกในรุ่น “พรีเมียร์คลาส” และลงทดสอบรถแข่ง Honda RC213V อย่างหนักเป็นเวลา 7 ชั่วโมงเต็ม
“ก้อง-สมเกียรติ” ทำงานอย่างหนักเพื่อเรียนรู้กับระบบต่างๆ ของรถแข่ง Honda RC213V ซึ่งแตกต่างกับรุ่น โมโตทู อย่างมาก ผ่าน 7 ชั่วโมงของการทดสอบ ลงบิดไปทั้งสิ้น 61 รอบสนาม รั้งอันดับ 23 ของการเทสต์ ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 41.295 วินาที ตามหลังหัวแถว 2.492 วินาที
นักบิดไทยกล่าวว่า “วันนี้คือวันแรกในการเทสต์ โมโตจีพี ช่วงแรกที่ออกไปผมพยายามค่อยๆ ขยับสเต็ป เบรกไม่ลึกมาก และค่อยๆ เร่งออกจากโค้ง พอถึงช่วงท้ายการซ้อมเซสชั่นแรก ก็เริ่มเพิ่มความเร็วเร่งออกจากทางตรงมากขึ้น ซึ่งสัมผัสได้ถึงความแรงของรถที่มีสูงมากจริง หลังจากนั้นเราได้ทำการเรียนรู้เกี่ยวกับระบบของรถ ไม่ว่าจะเป็น เบรก ยาง อิเล็กทรอนิกส์ และการที่ทีมส่งข้อความมายังตัวรถ ว่าคุณจะต้องทำอะไร ปรับตั้งค่าอะไรบ้าง ผมได้ซ้อมและลองทำทุกอย่าง”
“รู้สึกดีมากๆ ครับ เป็นการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ นอกจากนี้ ยังได้ทำความเข้าใจกับเรื่องยางที่ใช้ใน โมโตจีพี ด้วยครับ เพื่อให้พร้อมที่สุดสำหรับการทดสอบครั้งต่อไป ฝากทุกคนเชียร์และติดตาม ปีหน้าเราจะแข่งสนามแรกที่ไทย และมีการทดสอบก่อนหน้านั้นด้วย” เจ้าของรถแข่งหมายเลข 35 ทิ้งท้าย
ทั้งนี้ การทดสอบครั้งต่อไปของ โมโตจีพี จะมีขึ้นในวันที่ 31 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 ในช่วงเชคดาวน์เทส ที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย และทดสอบอย่างเป็นทางการที่สนามเดียวกัน ระหว่างวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์ 2568 จากนั้นจะกลับมาทดสอบที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ 2568 ก่อนจะดวลความเร็วสนามแรกในฤดูกาลหน้าในเมืองไทย ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2568
แฟนความเร็วชาวไทยติดตามข่าวสาร พร้อมส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ และนักบิดฮอนด้า ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : Race to The Dream
#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #MotoGP #IdemitsuHondaLCR #LCRHonda #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP
การทดสอบอย่างเป็นทางการครั้
“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ลงบิดรถแข่ง RC213V ของ ฮอนด้า อย่างเป็นทางการครั้งแรก ร่วมกับต้นสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ในการทดสอบหลังจบฤดูกาลที่ บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน เมื่อวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
การทดสอบอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ ศึก โมโตจีพี 2025 จัดขึ้นที่ เซอร์กิต เด บาร์เซโลน่า-คาตาลุนญ่า ประเทศสเปน ท่ามกลางสภาพอากาศเย็น และเป็นครั้งแรกที่นักบิดทุกคนจะลงทดสอบรถแข่งคันใหม่
โดย “ก้อง-สมเกียรติ” นักบิดไทยเจ้าของหมายเลข 35 ลงบิดรถแข่ง RC213V ของตนเองในช่วงแรกของการทดสอบ เพื่อเรียนรู้และสร้างความคุ้นเคยกับระบบต่างๆ ของตัวรถ และเจ้าตัวก็แสดงออกถึงความสุขสุดๆ กับฝันที่เป็นจริงในการแข่งขันรุ่น “พรีเมียร์คลาส”
ทั้งนี้ การทดสอบจะมีขึ้นทั้งหมด 7 ชั่วโมงเต็ม โดยจะสิ้นสุดในเวลา 23.00 น. ของคืนวันอังคารนี้ ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งหลังเก็บข้อมูลสำคัญจากการทดสอบครั้งแรก “ก้อง-สมเกียรติ” จะบินกลับสู่ประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันฤดูกาลหน้าในรุ่น โมโตจีพี โดยจะเปิดสนามแรกในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2025
แฟนความเร็วชาวไทยติดตามข่าวสาร พร้อมส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ และนักบิดฮอนด้า ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : Race to The Dream
#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #MotoGP #IdemitsuHondaLCR #LCRHonda #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP
Royal Enfield ตอกย้ำความเป็นตำนาน!
Royal Enfield (โรยัล เอ็นฟีลด์) ผู้นำระดับโลกในกลุ่มรถจั
คุณ บี. โควินดาราจาน ซีอีโอของ Royal Enfield กล่าวว่า “เดือนตุลาคม 2567 ถือเป็นอีกก้าวที่น่าจดจำสำหรับ Royal Enfield ด้วยการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่
“โทนี่ โบ” เก็บชัยชนะทำสถิติโพเดียมที่ 100 ที่ปัมโปลนา
“โทนี่ โบ” ทำผลงานสนามปิดฤดูกาล X-TRIAL 2024 ได้อย่างเหนือชั้น แม้ว่าจะคว้าแชมป์ไปครองแล้วก่อนหน้านี้จากคะแนนสะสมที่ขาดลอย แต่ยังคงลงสนามคว้าชัยชนะในการแข่งขัน ขณะที่ ทีมเมท ”กาเบียล มาเซลลี่” คว้าท็อป 3 ในสนามที่ 7 ณ ปัมโปลนา ประเทศสเปน
การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ “โทนี่ โบ” คว้าชัยชนะไปครองด้วยการขับขี่ที่แม่นยำ พร้อมกับทำสถิติเก็บโพเดียมครั้งที่ 100 ให้กับตัวเอง รวมคะแนนสะสม 128 คะแนน สร้างผลงานตอกย้ำความเหนือชั้นให้กับ Repsol Honda Team ด้วยการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 36 ปิดท้ายฤดูกาลนี้ ขณะที่ “กาเบียล มาเซลลี่” ทำผลงานยอดเยี่ยม รวมคะแนนสะสม 83 คะแนน
โดยซีชั่น 2025 “โทนี่ โบ” และ“กาเบียล มาเซลลี่” จะกลับมาทำศึกในวันที่ 21 ธันวาคม 2567 นี้ ในรายการ X-Trial Spain ที่มาดริด ประเทศสเปน
#Honda #HRC #RaceToTheDream #HondaRacingThailand #MotorSport #HondaBigBike #ExcitesTheWorld #HondaRacingCorporation #FIMXTrailGP #RepsolHondaTeam
“ชิพ-แสตมป์” นำทัพนักบิดไทยล่าบัลลังก์แชมป์ 6-8 ธ.ค.นี้
ศึกสองล้อชิงแชมป์แห่งเอเชียสุดยิ่งใหญ่ รายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2024 เตรียมระเบิดความมันส์สนามสุดท้าย ชิงดำตำแหน่งแชมป์ประจำฤดูกาลในทุกรุ่น ขณะ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ควง “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นำทัพนักบิดไทยลงชิงชัย ระหว่างวันที่ 6-8 ธันวาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ด้าน “บิ๊กแน่น-โชติชนก” ชี้สนามช้างฯ พร้อมต้อนรับดาวบิดดังเอเชีย-ทั่วโลก และถือเป็นงานใหญ่ส่งท้ายปี ก่อนรองรับศึกโมโตจีพีในฤดูกาลหน้า
ไฮไลต์ของสนามสุดท้ายคือการลุ้นทัพนักบิดไทยให้คว้าชัยชนะในบ้านเกิด รวมถึงการคว้าแชมป์เอเชียในฤดูกาลนี้ด้วย โดยในรุ่นใหญ่อย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (ASB1000) “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท เอสเตโม ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ รั้งอันดับ 4 มีทั้งสิ้น 128 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง 14 คะแนน
ขณะที่ผู้นำบนตารางแชมเปียนชิพในรุ่นใหญ่ ได้แก่ “ยูกิ คูนิ” นักบิดชาวญี่ปุ่นจาก เอสดีจี ทีม ฮาร์ค-โปร ฮอนด้า มีทั้งสิ้น 142 คะแนน เบียดกันอย่างสูสีกับ “แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาห์” นักบิดอินโดนีเซียจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท แอสเตโม โดยมีระยะห่างเพียง 2 คะแนนเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ “ฮาฟิซ ซยาห์ริน” อดีตนักบิดโมโตจีพีชาวมาเลเซีย ตามหลัง 5 คะแนน
ส่วนในคลาสกลางอย่าง ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี นักบิดชาวไทย “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จาก ยามาฮ่า เทคนี เรซซิ่ง ทีม เอเชียน อยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์เอเชียที่สดใส รั้งจ่าฝูงก่อนเข้าสู่สนามสุดท้าย มีทั้งสิ้น 155 คะแนน เหนือคู่แข่งในอันดับ 2 อย่างโมฮัมหมัด อะเดนันตา พูตร้า นักบิดอินโดนีเซีย 14 คะแนน ส่วน อัซรอย ฮาคีม อานัวร์ นักแข่งมาเลเซียรั้งอันดับ 3 ตามหลัง 33 คะแนน ขณะที่นักบิดดาวรุ่งชาวไทยอย่าง “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ รั้งท็อปไฟว์ มีทั้งสิ้น 99 คะแนน
ด้านการลุ้นแชมป์ในรุ่นเล็กอย่าง เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ยังต้องมาตัดสินที่ประเทศไทยเช่นกัน โดย “เฮอร์จุน แอทน่า เฟอร์ดาอุส” ดาวรุ่งชาวอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม รั้งจ่าฝูงเหนือทีมเมทอย่าง “มูฮัมหมัด เคียนดร้า รามาดิป้า” 10 คะแนน ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ “มูฮัมหมัด แฟโรซี” จาก ยามาฮ่า เรซซิ่ง อินโดนีเซีย ตามหลัง 12 คะแนน ขณะที่นักบิดไทยอย่าง “วริทธ์ ทองนพคุณ” และ “ปิยวัฒน์ ประทุมยศ” จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม รั้งอันดับ 8 และ 9 มีคนละ 64 คะแนน และ 43 คะแนนตามลำดับ
ด้าน นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดเผยว่า สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พร้อมเต็มขั้น ในการต้อนรับดาวบิดดังจากทั่วเอเชียและทั่วโลกแล้ว รวมทั้งการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นงานใหญ่อีกหนึ่งงานส่งท้ายปลายปีที่จะมอบเป็บของขวัญให้แฟนความเร็ว ก่อนเข้าสู่ช่วงของการทำกิจกรรมต้อนรับศึกโมโตจีพี ในประเทศไทยในปี 2025 อย่างยิ่งใหญ่ที่สุด
“เชื่อว่าในสนามตัดสินแชมป์นี้จะได้รับความสนใจจากแฟนความเร็วทั่วโลกแน่นอน โดยจากความสำเร็จของการจัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตตลอดปีที่ผ่านมาของสนามช้างฯ ได้เป็นเครื่องชี้ชัดถึงอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมมอเตอร์สปอร์ตไทยที่พัฒนาอย่างมากทั้งระบบ โดยในส่วนของการแข่งขันระดับภูมิภาคเอเชีย รายการเอเชีย โรด เรซซิ่งนี้ ก็จะเป็นอีกกลไกสำคัญในการยกระดับนักแข่ง ทีมแข่งและบุคลากรต่างๆ รวมถึงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอย และต่อยอดให้ประเทศไทย ให้พัฒนาเป็นศูนย์กลางมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก เป็นหมุดหมายสำคัญบนปฏิทินการแข่งขันที่แฟนความเร็วจากทั่วโลกต้องมาเยือนสักครั้งในชีวิต”
ทั้งนี้ ศึก เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2024 สนามสุดท้ายจะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคมนี้ ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟายและดวลความเร็วเรซแรกในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม และปิดฉากเรซสุดท้ายในวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2567 พร้อมกับพิธีฉลองแชมป์แห่งเอเชียอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทย หลังจบการแข่งขันอีกด้วย
โดยในปีนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขันเอาใจคอมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ด้วยการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ในประเทศผ่านช่อง PPTV HD36 และทั่วเอเชีย ได้แก่ SPOTV, Star Sports, Astro Arena และ Fox Sports หรือรับชมผ่านทางออนไลน์ได้ที่เพจ Asia Road Racing Championship และ Chang Circuit Buriram
แฟนมอเตอร์สปอร์ตเข้าชมติดขอบสนาม บัตรวีไอพี 1 วัน 1,000 บาท, 2 วัน 1,500 บาท, แกรนด์สแตนด์ 1 วัน 200 บาท, 2 วัน 300 บาท ซื้อบัตรได้แล้วที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ https://www.allticket.com/event/ARRC2024_Round6
รถครอบครัวระดับพรีเมียม ประหยัดน้ำมัน รับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ตอกย้ำความเป็น 1 ของรถจักรยานยนต์ครอบครัวยุคใหม่ระดับพรีเมียม ด้วยการเปิดตัว “NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION” ที่เพิ่มสไตล์การขับขี่ให้โดดเด่น พรีเมียม เร้าใจด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว ให้คุณได้ปลดปล่อยความเป็นตัวคุณได้อย่างเต็มที่ ผสานกับเครื่องยนต์แรง ทนทาน ขับขี่ง่าย ประหยัดน้ำมัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ และยังคุ้มค่าด้วยการรับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
สำหรับ NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION มาพร้อมกับสีสันใหม่โดดเด่น สปอร์ตพรีเมียม พร้อมโลโก้ Special Edition บนตัวรถที่ออกแบบมาเฉพาะรุ่น และสติกเกอร์ลายพิเศษบนล้อแม็กหน้า – หลัง สุด LIMITED เพิ่มสไตล์การขับขี่ให้โดดเด่นอย่างลงตัว
NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้ฟินน์มากยิ่งขึ้นด้วย โช้คหลัง YSS DTG Plus** ที่ได้รับการออกแบบพิเศษเฉพาะรุ่น สามารถปรับระดับความแข็งสปริง (Preload) ได้ เหมาะสมต่อการใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์การขับขี่ทุกรูปแบบ ทั้งการขับขี่ที่นุ่มนวล หรือรองรับการบรรทุกสัมภาระ
** เงื่อนไขการติดตั้ง และรับประกันโช้ค :
– โช้คหลัง YSS DTG Plus (ออกแบบพิเศษเฉพาะรุ่น) : ผู้จำหน่ายจะทำการเปลี่ยนโช้คหลัง Standard ที่ติดมากับรถ เป็นโช้คหลัง YSS DTG Plus โดยไม่มีค่าบริการ และลูกค้าจะได้รับ โช้คหลัง Standard ที่ติดมากับรถกลับไป เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์สำรองทดแทนในกรณีต่างๆ เช่น ส่งโช้คอัพในการเคลมสินค้า
– การรับประกันโช้คหลัง YSS DTG Plus (ออกแบบพิเศษเฉพาะรุ่น) จะได้รับการรับประกันเป็นระยะเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) โดย บริษัท วาย.เอส.เอส. จำกัด และเงื่อนไขการรับประกันอื่นๆ เป็นไปตามที่ บริษัท วาย.เอส.เอส. จำกัด กำหนด โดยลูกค้าต้องทำการลงทะเบียนรับสิทธิ์การรับประกันกับบริษัท วาย.เอส.เอส. จำกัด ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ลูกค้าทำการรับรถ ผ่านการสแกน QR CODE ใบรับประกันสินค้า โดยใช้หมายเลขสินค้า (YSS SERIAL NUMBER) คู่กับรหัสสินค้า (PRODUCT CODE) ของโช้คอัพที่ติดตั้งไปกับรถจักรยานยนต์คันที่ลูกค้าได้ซื้อไป
NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION ยังเพิ่มความพรีเมียมด้วย SPECIAL SEAT PATTERN เบาะหนังทูโทนดีไซน์พิเศษ ให้ความรู้สึกหรูหราพรีเมียม และแตกต่างอย่างลงตัว
นอกจากนี้ NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION ยังคงมาพร้อมกับเครื่องยนต์หัวฉีดอัจฉริยะ แรงดี ทนทาน…ฟินน์จัด ประหยัดจริง ไม่จุกจิก และมีสมองกลอัจฉริยะ ECU ควบคุมการสั่งจ่ายน้ำมัน ทำให้ประหยัด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION โดดเด่นทันสมัยด้วย ชุดไฟหน้าสุดโมเดิร์น สว่างชัด ดีไซน์โฉบเฉี่ยวกลมกลืนกับแฟริ่ง และไฟท้ายสวยหรูสะดุดตา ดีไซน์เข้ากับบอดี้ช่วงท้าย สว่างชัดเจนทั้งกลางวัน และกลางคืน พร้อมหน้าจอเรือนไมล์แสดงผลชัดเจน สบายตา สีสันกราฟิกทันสมัย ฟังก์ชันการใช้งานครบครัน
NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION มีฟีเจอร์เพิ่มความสะดวกสบายครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ช่องใส่ของด้านหน้าอเนกประสงค์ สะดวกสบายในการใช้งาน หยิบง่าย ใส่คล่อง ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน พร้อมที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ถึง 9.7 ลิตร เก็บหมวกกันน็อกแบบครึ่งใบได้ และกุญแจแบบ Multi-function ควบคุมการใช้งานในจุดเดียว จะล็อคคอรถ เปิดสวิตซ์ หรือเปิดเบาะ ก็สะดวกสบาย
NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION เพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยด้วยระบบเบรก UNIFIED BRAKE SYSTEM (UBS) เมื่อใช้งานเบรกเท้า กลไกจะกระจายแรงเบรกไปทั้งล้อหน้า และล้อหลัง ทำให้การหยุดรถมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION #กล้าที่จะฟินน์ มาพร้อมกับสีสันสุดพิเศษ! คือ สีเทา/ม่วง พร้อมราคาแนะนำสุดพิเศษที่ 49,900 บาท พร้อมให้ความมั่นใจสูงสุดด้วยการรับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง* และยังเพิ่มความฟินน์ยิ่งขึ้นด้วย Accessories แต่งให้สวยกว่า… “ก็ฟินน์ยิ่งกว่า” ด้วย ตระกร้าหน้าแบบตาข่าย, กันลายแบบตาข่าวสีดำ, ขอเกี่ยวแบบลวดสีดำ, ตะแกรงหลัง, ตาข่ายตระกร้าหน้าสีดำ, กล่องหลังสีดำ และกรอบป้ายทะเบียนชุบโครเมี่ยม
โดยสามารถสัมผัสกับ NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION #กล้าที่จะฟินน์ ได้แล้ววันนี้! ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263- 9999 ติดตามข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ที่ Website : www.yamaha-motor.co.th
Facebook : Yamaha Society Thailand
Instagram : @Yamaha Society Thailand
Youtube : Yamaha Society Thailand
* รับประกันคุณภาพชิ้นส่วนใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มเครื่องยนต์ กลุ่มโครงรถ และกลุ่มระบบไฟฟ้า โดย บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (สำหรับการรับประกันโช้คหลัง YSS DTG Plus เป็นไปตามเงื่อนไขของ บริษัท วาย.เอส.เอส. จำกัด)
—————————
#ยามาฮ่าฟินสเปเชียลอิดิชัน
#YamahaFinnSpecialEdition
#ยามาฮ่าฟินน์สีใหม่
#กล้าที่จะฟินน์
#ฟินน์ลิมิเต็ดอิดิชัน
#ฟินน์100%
#YamahaFinn
#ยามาฮ่าฟินน์
#รับประกัน5ปีไม่จำกัดระยะทาง