


ภายใต้โครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ที่วางรากฐานเยาวชนไทยสู่การเป็นนักแข่งระดับโลก”ไทยฮอนด้า” ไม่เคยหยุดเฟ้นหา “เพชรเม็ดงาม“ อย่างมีระบบ และมีนักบิดระดับเยาวชนมากมายที่เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพมากมาย
“ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” ดาวรุ่งชาวไทยวัย 19 ปี ถือเป็นหนึ่งใน “นักบิดเลือดใหม่” ที่สร้างผลงานอย่างโดดเด่น นับตั้งแต่อยู่ในโครงการ ฮอนด้า อะคาเดมี่, ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ ก่อนจะผ่านการคัดเลือกสู่ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ และมีผลงานที่ยอดเยี่ยมใน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง ในปีที่ผ่านมา
ปัจจุบัน “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” ได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองในการแข่งขันของศึกดาวรุ่งที่ดีที่สุดของโลก ซึ่งถูกยกเป็นเส้นทางก้าวสู่ โมโตจีพี หรือที่เรียกกันว่า Road To MotoGP นั่นคือ “เอฟไอเอ็ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ” และ “เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ”
2 รายการนี้รวมเอาดาวรุ่งแถวหน้าของโลกไว้มากกว่า 30 คน และจะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะถูกเลือกให้ขยับขึ้นสู่ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ไม่ว่าจะเป็น โมโตทรี หรือ โมโตทู ตามเส้นทางที่วางไว้
โดยหลังผ่าน 5 สนามแรกของปีในศึก เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ 2025 นักบิดดาวรุ่งชาวไทยแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม และพัฒนาตัวเองขึ้นอย่างต่อเนื่อง เก็บไปแล้วทั้งสิ้น 46 คะแนน รั้งอันดับ 15 บนตารางคะแนนสะสม ผลงานดีที่สุดคือการคว้าอันดับ 4 ที่ เลอ มองส์ เซอร์กิต ประเทศฝรั่งเศส
ส่วนในรายการ เอฟไอเอ็ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2025 ถือเป็นงานหินอย่างมาก เพราะนอกจากต้องปรับตัวเข้ากับรถแข่ง และสนามที่ไม่เคยมาก่อนในชีวิต นักบิดไทยยังต้องเรียนรู้ระบบการเซ็ตอัพรถแข่งและการทำงานร่วมกับทีมให้เข้าใจอย่างถ่องแท้
ทว่าเจ้าตัวก็ยกระดับการทำงานและเรียนรู้อย่างสุดความสามารถ ผ่านมาแล้ว 4 สนาม รั้งอันดับ 20 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ เก็บไปทั้งสิ้น 7 คะแนน กับครึ่งฤดูกาลแรกของปีนี้
การแข่งขัน 2 รายการนี้ มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในเทคนิคตัวรถแข่ง โดยในรายการ “จูเนียร์จีพี” รถแข่งที่ใช้จะหลากหลายตามค่ายผู้ผลิต และมีสเป็คเดียวกับ โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ที่อาจเก่ากว่าด้วยรหัสปี แต่ก็มีรายละเอียดการเซ็ตติ้งที่ละเอียดอ่อน นับเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อขึ้นสู่ “โมโตทรี ชิงแชมป์โลก” อย่างแท้จริง
ขณะที่ “เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ” นักบิดทุกคนจะได้โชว์ความสามารถอย่างเต็มที่ ผ่านรถแข่งสเป็คเดียวกันทุกคัน เรียกได้ว่านี่คือการแข่งขัน “วันเมคเรซ” ระดับหัวกะทิของโลกอย่างแท้จริง
ความท้าทายของ “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” คือการต้องปรับตัวให้เข้ากับรถแข่งทั้ง 2 สเป็คนี้ให้ได้ในแต่ละสุดสัปดาห์ ขณะที่ตารางแข่งขันสลับไปมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการเรียนรู้เพื่อรับมือกับความโหดของ “เรซระดับชิงแชมป์โลก” ที่รออยู่ เช่นเดียวกับนักบิดทุกคน
ผ่านครึ่งทางในปี 2025 “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” ทำงานของเขาเองอย่างหนัก พัฒนาร่างกาย จิตใจ และทัศนคติ เพื่อให้พร้อมสำหรับการเรียนรู้ใหม่ๆ
เพราะเส้นทางของเขาคือหนึ่งในความหวังใหม่ของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ที่จะก้าวมาสานต่อความสำเร็จในเวทีชิงแชมป์โลกอย่างแท้จริง
#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #Motorsport #JuniorGP #RookiesCup #Maikiw #Maikiw85 #KS85
ได้เวลามันส์! ZONTES (ซอนเทส) ส่ง 368D ซิตี้สกู๊ตเตอร์พรีเมียม ในดีไซน์สุดสปอร์ตเร้าใจ เขย่าวงการสกู๊ตเตอร์คลาส 300 – 400 cc ในเมืองไทย กับเทคโนโลยีที่อัพเกรดมาใหม่ให้ตัวรถ Lightweight & Power Up มิติกระชับ พละกำลังแรงสะใจ จนเรียกได้ว่า “แรงที่สุดในคลาส!”
ถ้า”รถติด” คือศัตรูอันดับหนึ่งของชีวิตในเมืองใหญ่ ZONTES 368D คืออาวุธใหม่ที่จะช่วย “พับเมือง” ให้สั้นลงในทุกคันเร่ง สมกับคอนเซปต์ “Folding The City” สกู๊ตเตอร์สปอร์ตพรีเมียมเจนใหม่ ในดีไซน์สปอร์ตสุดเร้าใจ ที่มาพร้อม ฟังก์ชันจัดเต็ม เทคโนโลยีล้ำ ทันสมัย มิติใหม่การขับขี่ ที่มอบความคล่องตัวสูง ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาลง กับพละกำลังสุดเร้าใจ ในขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์พิกัด 368 ซีซี แบบ High-Compression Engine โดยใช้เทคโนโลยี ลูกสูบฟอร์จ (Forged Piston) ซึ่งแข็งแรงกว่าและทนต่อแรงดันในห้องเผาไหม้ได้ดีกว่าลูกสูบทั่วไป ช่วยเพิ่มทั้งอัตราเร่งและความทนทานในระยะยาว มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดจากแบรนด์สัญชาติเยอรมัน BOSCH ที่ช่วยควบคุมการจ่ายน้ำมันในโหมดขับขี่ ECO และ Sport กับไฮไลท์ในคาแรคเตอร์ของเครื่องยนต์ที่ให้ความเร็วมาจัดจ้าน ขับขี่สนุกทุกย่านความเร็ว ด้วยพละกำลังสูงสุดที่ 38.2 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที และให้พละกำลังแรงบิดสูงสุดที่ 40 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที เรียกได้ว่าบิดมันส์ เร้าใจ พร้อมมอบความสนุกในการขับขี่ให้ในทุกเส้นทาง และยิ่งไปกว่านั้น ยังมาพร้อมกับการรับประกันเครื่องยนต์นานถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูงกว่ามาตรฐานของตลาดในกลุ่มเดียวกัน
ZONTES แบรนด์ระดับโลกที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในไทย!
หากพูดถึงแบรนด์ ZONTES (ซอนเทส) ในวันนี้ ถือเป็นแบรนด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดโลก ปัจจุบันมีรถจากแบรนด์ ZONTES จัดจำหน่ายไปแล้วเกือบ 80 ประเทศทั่วโลก ทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกาใต้ โดยได้รับการยอมรับในด้านเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย งานดีไซน์เฉียบคม อีกทั้งเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง และสำหรับในประเทศไทยที่จัดจำหน่ายโดย บริษัท ไดนามิค มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนเรียกได้ว่าสร้างแรงสั่นสะเทือนในเมืองไทย กับมาตรฐานใหม่ของรถสกู๊ตเตอร์ในคลาส 300 – 400 cc ประสบความสำเร็จกับทุกโมเดลที่ผ่านมา แถมยังคงเดินหน้าขยายศูนย์บริการในประเทศไทยไปแล้ว 70 กว่าสาขาทั่วประเทศ!
ฟังก์ชันเด็ด ครบจบ ใน 368D มิติที่คล่องตัวสูง!
3 สีสันสุดมันส์! พิเศษเฉพาะประเทศไทย!
ในราคาส่วนลดพิเศษช่วงเปิดตัว ที่ 139,900 บาท
(จากราคาปกติที่ 143,900 บาท รับ Voucher 4,000 บาทเป็นส่วนลดพิเศษในช่วงเปิดตัว!)
* สามารถรับข้อเสนอพิเศษนี้ ได้ที่ https://booking.zontes.co.th
ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่ www.zontes.co.th หรือติดตามข่าวสารจาก ZONTES ได้ทาง
#ZONTES #ซอนเทส #ZONTES368D #368D
Harley-Davidson เชิญชวนเหล่าไบค์เกอร์ทั้งรุ่นใหญ่ผู้คร่ำหวอดบนเส้นทาง และนักขี่รุ่นใหม่มาขับขี่ และฉลองร่วมกันในงาน “United We Ride – National Harley Day” ในวันที่ 6 กันยายน 2568
งานระดับภูมิภาคในครั้งนี้มิได้เป็นเพียงแค่กิจกรรมขับขี่เท่านั้น แต่ยังเป็นการฉลองให้กับแนวคิด “United We Ride” ของ Harley-Davidson ซึ่งสะท้อนถึงมิตรภาพ ความสนุกจากการเดินทางบนถนน และพลังแห่งความชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน ที่หลอมรวมเหล่านักขับขี่ Harley-Davidson ไว้ด้วยกัน
รายละเอียดกิจกรรม มีดังนี้
วันจัดกิจกรรม: 6 กันยายน 2568 เว็บไซต์กิจกรรม: https://www.unitedwerideasia.com สำหรับข้อมูลเส้นทาง และเวลาเริ่มกิจกรรม กรุณาติดต่อผู้แทนจำหน่าย Harley-Davidson ใกล้บ้านท่าน
พร้อมกันนี้ กิจกรรมในครั้งนี้ยังมีส่วนช่วยเหลือสังคม ผ่านการสนับสนุนโครงการ Helmet Heroes Thailand โดยปีนี้ Harley-Davidson ได้จับมือกับ Helmet Heroes เพื่อฉลองให้กับแนวคิด United We Ride พร้อมกันใน 9 ประเทศ พร้อมเชิญชวนกลุ่ม ผู้ขับขี่ เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson สมาชิก H.O.G. ผู้แทนจำหน่าย และนักขับขี่หน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Harley-Davidson มาร่วมมือกัน ภายใต้กิจกรรม United We Ride – National Harley Day เพื่อรณรงค์ ในประเด็นความปลอดภัยบนท้องถนนสำหรับเด็ก
ทุกกิโลเมตรจากการขับขี่จะช่วยส่งเสริมความตระหนักรู้เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนสำหรับเด็ก พร้อมทั้งสมทบทุนจัดซื้อหมวกกันน็อกสำหรับเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไปทั่วประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่รถมอเตอร์ไซค์ยังคงเป็นพาหนะหลักด้วยเหตุผลด้านความสะดวกและราคา ดังนั้น การเข้าถึงอุปกรณ์นิรภัย และการสร้างวินัยด้านความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ ผู้ขับขี่ทั่วภูมิภาคสามารถร่วมบริจาคได้แล้ว ผ่านเว็บไซต์ทางการของกิจกรรม หรือในช่วงลงทะเบียนเข้าร่วมงาน
ไม่ว่าจะขี่มอเตอร์ไซค์คนเดียว มากับเพื่อน หรือรวมกลุ่มมากับ Harley Owners Group (H.O.G.) ก็สามารถร่วมกิจกรรมได้ โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านท่าน
มารวมพลังแล้วขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงไปด้วยกันในกิจกรรม “United We Ride – National Harley Day”