ไทยฮอนด้า มอบหมวกกันน็อกให้กระทรวงแรงงาน หนุนแรงงานขับขี่ปลอดภัย สานต่อภารกิจใหญ่ส่งมอบ 60,000 ใบ ในวาระครบรอบ 60 ปี

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย เดินหน้าสานต่อโครงการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนระดับประเทศ “60 ปี ไทยฮอนด้า ขับขี่ปลอดภัย เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืน” ด้วยการมอบหมวกกันน็อกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) จำนวน 500 ใบ ให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน เพื่อส่งเสริมการสวมหมวกกันน็อกในกลุ่มแรงงานไทยซึ่งเป็นกำลังสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นกลุ่มที่มีการใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะหลักในการเดินทางไปทำงาน การมอบหมวกกันน็อกครั้งนี้จึงเป็นการช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัย และสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ที่ปลอดภัยอย่างยั่งยืน
พิธีมอบจัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2568 ณ กระทรวงแรงงาน โดยมีคุณสุคติ สรรพวัฒน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานการบริหารองค์กร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผู้แทนส่งมอบหมวกกันน็อก และกล่าวถึงวัตถุประสงค์โครงการ ร่วมกับเรือเอก สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้บริหารจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สหภาพแรงงาน และเจ้าหน้าที่กรมร่วมเป็นสักขีพยาน
ในวาระครบรอบ 60 ปี ไทยฮอนด้า ยังคงเดินหน้าเคียงข้างสังคมไทย ด้วยความมุ่งมั่นในการรณรงค์เรื่องความปลอดภัย และสร้างความตระหนักรู้ให้กับคนไทยทุกคน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนสังคมไทยให้ปลอดภัย และก้าวสู่เป้าหมายของการเป็น “สังคมที่อุบัติเหตุเป็นศูนย์” (Zero Accident Society)
การมอบหมวกกันน็อกครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมฉลองวาระครบรอบ 60 ปี ที่ไทยฮอนด้าตั้งเป้าส่งมอบหมวกกันน็อกมาตรฐาน มอก. จำนวน 60,000 ใบ มูลค่ารวม 60 ล้านบาท ให้กับเยาวชนและประชาชน โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ เพื่อรณรงค์ให้เกิดการสวมหมวกกันน็อกอย่างต่อเนื่อง ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ และยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนของไทยให้ยั่งยืนในระยะยาว
#ไทยฮอนด้า60ปี #ThaiHonda60TH #ไทยฮอนด้าเคียงข้างสัมคมไทย #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand #ไทยฮอนด้า #ThaiHonda

The Next Successors ดาวรุ่งเลือดใหม่ฮอนด้า! “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” กับครึ่งฤดูกาลแรกใน 2 เวทีระดับโลก

ภายใต้โครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ที่วางรากฐานเยาวชนไทยสู่การเป็นนักแข่งระดับโลก”ไทยฮอนด้า” ไม่เคยหยุดเฟ้นหา “เพชรเม็ดงาม“ อย่างมีระบบ และมีนักบิดระดับเยาวชนมากมายที่เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพมากมาย

“ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” ดาวรุ่งชาวไทยวัย 19 ปี ถือเป็นหนึ่งใน “นักบิดเลือดใหม่” ที่สร้างผลงานอย่างโดดเด่น นับตั้งแต่อยู่ในโครงการ ฮอนด้า อะคาเดมี่, ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ ก่อนจะผ่านการคัดเลือกสู่ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ และมีผลงานที่ยอดเยี่ยมใน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง ในปีที่ผ่านมา

ปัจจุบัน “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” ได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองในการแข่งขันของศึกดาวรุ่งที่ดีที่สุดของโลก ซึ่งถูกยกเป็นเส้นทางก้าวสู่ โมโตจีพี หรือที่เรียกกันว่า Road To MotoGP นั่นคือ “เอฟไอเอ็ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ” และ “เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ”

2 รายการนี้รวมเอาดาวรุ่งแถวหน้าของโลกไว้มากกว่า 30 คน และจะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะถูกเลือกให้ขยับขึ้นสู่ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ไม่ว่าจะเป็น โมโตทรี หรือ โมโตทู ตามเส้นทางที่วางไว้

โดยหลังผ่าน 5 สนามแรกของปีในศึก เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ 2025 นักบิดดาวรุ่งชาวไทยแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม และพัฒนาตัวเองขึ้นอย่างต่อเนื่อง เก็บไปแล้วทั้งสิ้น 46 คะแนน รั้งอันดับ 15 บนตารางคะแนนสะสม ผลงานดีที่สุดคือการคว้าอันดับ 4 ที่ เลอ มองส์ เซอร์กิต ประเทศฝรั่งเศส

ส่วนในรายการ เอฟไอเอ็ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2025 ถือเป็นงานหินอย่างมาก เพราะนอกจากต้องปรับตัวเข้ากับรถแข่ง และสนามที่ไม่เคยมาก่อนในชีวิต นักบิดไทยยังต้องเรียนรู้ระบบการเซ็ตอัพรถแข่งและการทำงานร่วมกับทีมให้เข้าใจอย่างถ่องแท้

ทว่าเจ้าตัวก็ยกระดับการทำงานและเรียนรู้อย่างสุดความสามารถ ผ่านมาแล้ว 4 สนาม รั้งอันดับ 20 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ เก็บไปทั้งสิ้น 7 คะแนน กับครึ่งฤดูกาลแรกของปีนี้

การแข่งขัน 2 รายการนี้ มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในเทคนิคตัวรถแข่ง โดยในรายการ “จูเนียร์จีพี” รถแข่งที่ใช้จะหลากหลายตามค่ายผู้ผลิต และมีสเป็คเดียวกับ โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ที่อาจเก่ากว่าด้วยรหัสปี แต่ก็มีรายละเอียดการเซ็ตติ้งที่ละเอียดอ่อน นับเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อขึ้นสู่ “โมโตทรี ชิงแชมป์โลก” อย่างแท้จริง

ขณะที่ “เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ” นักบิดทุกคนจะได้โชว์ความสามารถอย่างเต็มที่ ผ่านรถแข่งสเป็คเดียวกันทุกคัน เรียกได้ว่านี่คือการแข่งขัน “วันเมคเรซ” ระดับหัวกะทิของโลกอย่างแท้จริง

ความท้าทายของ “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” คือการต้องปรับตัวให้เข้ากับรถแข่งทั้ง 2 สเป็คนี้ให้ได้ในแต่ละสุดสัปดาห์ ขณะที่ตารางแข่งขันสลับไปมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการเรียนรู้เพื่อรับมือกับความโหดของ “เรซระดับชิงแชมป์โลก” ที่รออยู่ เช่นเดียวกับนักบิดทุกคน

ผ่านครึ่งทางในปี 2025 “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” ทำงานของเขาเองอย่างหนัก พัฒนาร่างกาย จิตใจ และทัศนคติ เพื่อให้พร้อมสำหรับการเรียนรู้ใหม่ๆ

เพราะเส้นทางของเขาคือหนึ่งในความหวังใหม่ของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ที่จะก้าวมาสานต่อความสำเร็จในเวทีชิงแชมป์โลกอย่างแท้จริง

 

#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #Motorsport #JuniorGP #RookiesCup #Maikiw #Maikiw85 #KS85

ไทยฮอนด้า ร่วมใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดน่าน ยกทัพทีมช่างให้บริการซ่อมรถจักรยานยนต์ฟรี 6 จุด

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ในประเทศไทย จับมือกับตัวแทนร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ร่วมบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย จัดกิจกรรมช่วยเหลือภายใต้โครงการ “ไทยฮอนด้าร่วมใจสู้ภัยน้ำท่วม” โดยจัดตั้งจุดให้บริการ Service Camp จำนวน 6 แห่งในจังหวัดน่าน พร้อมระดมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญกว่า 80 คน ให้บริการตรวจเช็กและซ่อมแซมรถจักรยานยนต์ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 4 – 6 สิงหาคม 2568
ไทยฮอนด้า มุ่งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนพร้อมอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถกลับมาใช้รถจักรยานยนต์ได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง โดยเปิดให้บริการตรวจเช็กและซ่อมแซมรถจักรยานยนต์ฟรี 4 รายการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ได้แก่ ตรวจเช็กสภาพรถ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรองอากาศ และเปลี่ยนหัวเทียน ประชาชนสามารถเข้ารับบริการได้ที่จุดบริการใกล้บ้าน โดยแบ่งช่วงเวลาในการรับบัตรคิว ดังนี้
จุดที่ 1-3 สามารถเข้ารับบัตรคิวได้ระหว่างเวลา 08.00 – 16.00 น.
  • จุด 1 หจก.จงเกษมมอเตอร์น่าน ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน
  • จุด 2 หจก.คูกวงหลี ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน
  • จุด 3 บริษัท แสนสิริ มอเตอร์ จำกัด ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน
จุดที่ 4-6 สามารถเข้ารับบัตรคิวได้ระหว่างเวลา 09.00 – 16.00 น.
  • จุด 4 ศาลเจ้าพ่อวิทยาโยธิน ต.ท่าวังผา อ.ท่าวังผา
  • จุด 5 สวนสาธารณะ อ่างเก็บน้ำ ร.ศ.200 ต.ปัว อ.ปัว
  • จุด 6 วัดบุญยืน พระอารามหลวง ต.กลางเวียง อ.เวียงสา
การดำเนินงานในครั้งนี้อยู่ภายใต้โครงการ “ไทยฮอนด้าเพื่อสังคมไทย” สะท้อนถึงความตั้งใจของไทยฮอนด้าในการอยู่เคียงข้างสังคมไทยในทุกวิกฤต พร้อมสนับสนุนให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้โดยเร็ว และตอกย้ำพันธกิจในการดูแลความปลอดภัยในการขับขี่ของคนไทยอย่างต่อเนื่อง
ติดตามรายละเอียดการให้บริการได้ที่
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
#ไทยฮอนด้าร่วมใจสู้ภัยน้ำท่วม #ไทยฮอนด้าเพื่อสังคมไทย #กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย #ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ
#น่าน #ช่วยน้ำท่วม #น้ำท่วมน่าน
#HondaMotorcycleThailand #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #ไทยฮอนด้า #ThaiHonda

Zarco และ Takahashi คว้าชัย Suzuka 8 Hours

Johan Zarco และ ทีมเมท Takumi Takahashi พร้อมด้วยสุดยอดรถแข่ง CBR 1000 RR-R หมายเลข 30 จาก Honda HRC Team คว้าแชมป์รายการ FIM Endurance World Championship (EWC) “Coca-Cola” Suzuka 8 Hours Road Race (Suzuka 8 Hours) ครั้งที่ 46 🇯🇵 ได้สำเร็จ ด้วยจำนวน 217 Laps
ผลการแข่งขัน Top 5 : OverAll
1. Honda HRC Team หมายเลข 30
2. Yamaha Racing Team หมายเลข 21
3. Yashimura SERT Motul หมายเลข 1
4. SDG Team HARC-PRO. Hoda หมายเลข 73
5. BMW Motorrad World Endurance Team หมายเลข 37

Jack Miller และทีมคว้าโพเดี้ยม Suzuka 8 Hours

การแข่งขัน FIM Endurance World Championship 2025 รายการ Suzuka 8 Hours ครั้งที่ 46 สนามซูซูกะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
Jack Miller พร้อมด้วยเพื่อนร่วมทีมสุดแกร่งอย่าง Andrea Locatelli และ Katsuyuki Nakasuga ในนาม Yamaha Racing Team ทำการแข่งขันด้วยรถ Yamaha YZF R1 หมายเลข 21 บิดสุดอึด 8 ชั่วโมง กับจำนวนรอบการแข่งขันรวม 217 รอบคว้าอันอับ 2 จากการแข่งขัน
.

“ชิพ” นครินทร์ บิด Suzuka 8 Hours อาทิตย์นี้!!

การแข่งขันสุดอึดรายการ Suzuka 8 Hours ที่ประเทศเทศญี่ปุ่น “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ลงทำการแข่งขัน ร่วมกับ Azroy Hakeem Anuar และ Muhammad Zaqhwan Zaidi ในนาม Honda Asia-Dream Racing With Astemo ด้วยสุดยอดรถแข่ง CBR 1000 RR-R หมายเลข 88
🏍️ 1/8/25 Free Practice , Qualified
🏍️ 2/8/25 Free Practice , Top 10 Trial
🏍️ 3/8/25 Race 9:30-17:30
(ตามเวลาประเทศไทย)
.

Zarco เดอะแบก บิด Suzuka 8 Hours

Honda HRC ส่ง Johan Zarco และ Takumi Takahasai ลงแข่งขันสุดอึด FIM Endurance World Championship 2025 ในรายการ Suzuka 8 Hours ครั้งที่ 46 ( Iker Lecunoa ไม่ได้ลงเนื่องจากบาดเจ็บ) โดย 2 นักแข่งจะต้องลงสนามป้องกันแชมป์ด้วยสุดยอดรถแข่ง Honda CBR1000RR-R FIREBLADE SP หมายเลข 30

ฮอนด้าเตรียมเปิดตัว “The M.O.V.E. by Honda” Immersive Experience Center แห่งแรกของแบรนด์ในกรุงเทพฯ

บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้ามอเตอร์ จำกัด เตรียมเปิดตัว “The M.O.V.E. by Honda” ศูนย์สร้างประสบการณ์เสมือนจริงแห่งแรกของแบรนด์อย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ โดยตั้งอยู่ที่โซน EM GLASS ชั้น G ศูนย์การค้า EMSPHERE ใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ได้รับการออกแบบ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์สู่การขับเคลื่อนแห่งอนาคตผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 พร้อมนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดจากฮอนด้า ทั้งในกลุ่มรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์การขับเคลื่อนล้ำสมัยอย่าง eVTOL
ฮอนด้า ยืนหยัดเคียงข้างสังคมไทยมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ในฐานะผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ รถยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ โดยประเทศไทยยังคงเป็นฐานการผลิตและศูนย์กลางการจำหน่ายที่สำคัญของฮอนด้า  อีกทั้งเป็นตลาดหลักของเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และนวัตกรรมแห่งอนาคตของภูมิภาค ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฮอนด้า ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนสังคมไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน ภายใต้โกลบอลแบรนด์สโลแกน “The Power of Dreams – How we move you.”
The M.O.V.E. by Honda จัดแสดงภายใต้แนวคิด “Sense the Synergy” ที่สื่อถึงการผสานพลังระหว่างปรัชญาแห่งฮอนด้า และโลกยานยนต์แห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยภายในงาน ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสประสบการณ์แห่งอนาคตผ่านทุกมิติของความรู้สึก พร้อมเปิดมุมมองใหม่ของการเดินทางในอนาคตตามแบบฉบับของฮอนด้
โซนจัดแสดงภายในศูนย์ฯ
นิทรรศการแบ่งออกเป็นโซนอินเทอร์แอกทีฟที่หลากหลาย สะท้อนแนวคิดของฮอนด้าที่ว่า “การเคลื่อนที่”
ไม่เพียงแต่หมายถึงการเดินทางจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการ “ขับเคลื่อนหัวใจ” ของผู้คนผ่านองค์ประกอบอย่าง แสง เสียง กลิ่น สัมผัส และรสชาติ โดยมีหลากหลายนวัตกรรมหลายที่นำมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ดังนี้:
▸รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
  • EV Fun Concept* 1: รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทรงพลัง เสียงเงียบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมือง
  • EV Urban Concept* 1: รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแสดงวิสัยทัศน์ของฮอนด้า ออกแบบเพื่อตอบโจทย์การเดินทางในเมืองในอนาคตอันใกล้
▸รถยนต์ไฟฟ้า
  • Honda 0 SALOON (Prototype)* 1: รถยนต์ซีดานไฟฟ้า Flagship Model ที่มอบความสะดวกสบาย และความปลอดภัยขั้นสูง
  • Honda 0 SUV (Prototype)* 1: รถยนต์ SUV อเนกประสงค์ไฟฟ้า ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในชีวิตประจำวัน และกิจกรรมเอาท์ดอร์
▸เทคโนโลยีการขับเคลื่อนแห่งอนาคต
  • eVTOL* 1: อากาศยานส่วนบุคคลที่จะพลิกโฉมการคมนาคมในเมือง
  • Motocompacto: สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด พับเก็บได้ เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้น
    หมายเหตุ: รายการจัดแสดงอาจมีการอัปเดตเพิ่มเติม
    * 1: จัดแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรก
▸The M.O.V.E. Café – สัมผัสรสชาติแห่งความทันสมัย
เติมเต็มประสบการณ์ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 กับ The M.O.V.E. Café คาเฟ่ที่ผู้เยี่ยมชมจะได้ลิ้มรสอนาคต ที่สะท้อนผ่านอาหาร นำเสนอผ่านเมนูขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นที่รังสรรค์ขึ้นผ่านแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์ของฮอนด้า ในการขยายขอบเขตการเดินทางทั้งทางบก น้ำ และอากาศ โดย เชฟเดช คิ้วคชา ผู้ได้รับรางวัล Asia’s Best Pastry Chef 2025 จากเวที Asia’s 50 Best Restaurants คาเฟ่แห่งนี้จึงไม่ใช่แค่เพียงพื้นที่สำหรับการพักผ่อน แต่เป็นจุดหมายปลายทางด้านประสาทสัมผัสที่ถ่ายทอดพลังแห่งการผสานรวมของการเดินทางในรูปแบบใหม่อย่างมีชีวิตชีวา ในแบบฉบับของฮอนด้าอย่างแท้จริง
The M.O.V.E. by Honda ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของฮอนด้า ในการเดินหน้าสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและอนาคตของความยั่งยืน ฮอนด้าขอเชิญชวนลูกค้า ผู้หลงใหลในนวัตกรรม และประชาชนทั่วไปมาร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ศูนย์การค้า EMSPHERE กับอิมเมอร์ซีฟ เอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์แห่งแรกของฮอนด้าที่จะพาไปสัมผัสมิติใหม่ของการเดินทางอย่างที่ ไม่เคยมีมาก่อนผ่านนิทรรศการสุดล้ำ พร้อมเข้าถึงแนวคิด Sense the Synergy ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของฮอนด้าอย่างเต็มรูปแบบ
ชื่อกิจกรรม: The M.O.V.E. by Honda
สถานที่: EM GLASS ชั้น G ศูนย์การค้า EMSPHERE
628 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
วันเปิดให้เข้าชม: 15 สิงหาคม 2568 – 30 พฤศจิกายน 2569
เวลาเปิดให้เข้าชม:
  • วันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 19:00 – 22:00 น.
  • ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 22:00 น
ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี
LINE Official Account: @TheM.O.V.E.byHonda
จัดโดย: บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้ามอเตอร์ จำกัด

มาแล้ว! ZONTES 368D ซิตี้สกู๊ตเตอร์พรีเมียมสปอร์ต 368 ซีซี “แรงสุดในคลาส” ราคาช่วงเปิดตัว 139,900 บาท!

ได้เวลามันส์! ZONTES (ซอนเทส) ส่ง 368D ซิตี้สกู๊ตเตอร์พรีเมียม ในดีไซน์สุดสปอร์ตเร้าใจ  เขย่าวงการสกู๊ตเตอร์คลาส 300 – 400 cc ในเมืองไทย กับเทคโนโลยีที่อัพเกรดมาใหม่ให้ตัวรถ  Lightweight  &  Power Up มิติกระชับ พละกำลังแรงสะใจ  จนเรียกได้ว่า “แรงที่สุดในคลาส!”

ถ้า”รถติด” คือศัตรูอันดับหนึ่งของชีวิตในเมืองใหญ่  ZONTES 368D คืออาวุธใหม่ที่จะช่วย “พับเมือง” ให้สั้นลงในทุกคันเร่ง สมกับคอนเซปต์  “Folding The City”  สกู๊ตเตอร์สปอร์ตพรีเมียมเจนใหม่ ในดีไซน์สปอร์ตสุดเร้าใจ ที่มาพร้อม ฟังก์ชันจัดเต็ม เทคโนโลยีล้ำ ทันสมัย มิติใหม่การขับขี่ ที่มอบความคล่องตัวสูง ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาลง กับพละกำลังสุดเร้าใจ ในขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์พิกัด 368 ซีซี แบบ High-Compression Engine โดยใช้เทคโนโลยี ลูกสูบฟอร์จ (Forged Piston) ซึ่งแข็งแรงกว่าและทนต่อแรงดันในห้องเผาไหม้ได้ดีกว่าลูกสูบทั่วไป ช่วยเพิ่มทั้งอัตราเร่งและความทนทานในระยะยาว มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดจากแบรนด์สัญชาติเยอรมัน BOSCH ที่ช่วยควบคุมการจ่ายน้ำมันในโหมดขับขี่ ECO และ Sport  กับไฮไลท์ในคาแรคเตอร์ของเครื่องยนต์ที่ให้ความเร็วมาจัดจ้าน ขับขี่สนุกทุกย่านความเร็ว ด้วยพละกำลังสูงสุดที่ 38.2 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที และให้พละกำลังแรงบิดสูงสุดที่ 40 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที เรียกได้ว่าบิดมันส์ เร้าใจ พร้อมมอบความสนุกในการขับขี่ให้ในทุกเส้นทาง และยิ่งไปกว่านั้น ยังมาพร้อมกับการรับประกันเครื่องยนต์นานถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูงกว่ามาตรฐานของตลาดในกลุ่มเดียวกัน

ZONTES แบรนด์ระดับโลกที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในไทย!

หากพูดถึงแบรนด์ ZONTES (ซอนเทส) ในวันนี้ ถือเป็นแบรนด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดโลก ปัจจุบันมีรถจากแบรนด์ ZONTES จัดจำหน่ายไปแล้วเกือบ 80 ประเทศทั่วโลก ทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกาใต้ โดยได้รับการยอมรับในด้านเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย งานดีไซน์เฉียบคม อีกทั้งเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง  และสำหรับในประเทศไทยที่จัดจำหน่ายโดย บริษัท ไดนามิค มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนเรียกได้ว่าสร้างแรงสั่นสะเทือนในเมืองไทย กับมาตรฐานใหม่ของรถสกู๊ตเตอร์ในคลาส 300 – 400 cc  ประสบความสำเร็จกับทุกโมเดลที่ผ่านมา แถมยังคงเดินหน้าขยายศูนย์บริการในประเทศไทยไปแล้ว 70 กว่าสาขาทั่วประเทศ!

ฟังก์ชันเด็ด ครบจบ ใน 368D มิติที่คล่องตัวสูง!

  • ขุมพลัง High-Compression 368 ซีซี สูบเดี่ยว SOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ 38.2 hp @ 7,500 rpm │40 N·m @ 6,000 rpm
  • น้ำหนักตัวเพียง 162 กก. ( 175 กก. พร้อมของเหลว)
  • ถังน้ำมัน 12 ลิตร เปิดฝาถังน้ำมันด้วยระบบไฟฟ้า
  • ระบบส่องสว่าง Full LED รอบคัน – ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ 4 ดวง ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ทั้งกลางวันและกลางคืน
  • จอสีล้ำสมัย กับหน้าจอแบบ TFT ขนาด 75 นิ้ว สามารถแสดงข้อมูลต่างๆ อย่างครบครัน เช่น ความเร็ว รอบเครื่องยนต์ ระดับน้ำมัน ระดับแบตเตอรี่ ระยะทริปการเดินทาง และการแจ้งเตือนต่างๆ ผู้ขับขี่ยังสามารถปรับตั้งค่าการแสดงผลได้ถึง 4 รูปแบบตามความต้องการ พร้อมเซ็นเซอร์วัดแสงที่สามารถปรับความสว่างของหน้าจอได้
  • เชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชั่น “ZONTES SMART” สามารถสั่งการผ่านแอปพลิเคชั่น ในการล็อค/ปลดล็อครถ , เปิดฝาถังน้ำมัน , เปิดเบาะได้รวมไปถึงการเปิดดูไฟล์บันทึกย้อนหลังภาพจากกล้องติดรถ และสามารถ Download ไฟล์เข้ามาในสมาร์ทโฟนของคุณได้  นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานฟีเจอร์แผนที่นำทาง ภายใน แอปพลิเคชั่น “ZONTES SMART”   และทำการ Mirror Screen หรือการสะท้อนภาพหน้าจอจากสมาร์ทโฟนเข้าไปโชว์ในหน้าจอแสดงผล TFT  ที่สามารถเปิด Google Map และ ยูทูปได้
  • เบาะนั่ง ผลิตด้วยเทคโนโลยี vacuum วัสดุพรีเมียม ดีไซน์รับกับท่านั่งของผู้ขับขี่ สัมผัสนุ่มนั่งสบาย
  • Fast charging USB ports : ช่องชาร์จเร็ว ที่บริเวณช่องเก็บของด้านซ้าย แบบพอร์ตคู่ Type A + Type C
  • พื้นที่เก็บสัมภาระใต้เบาะ สามารถเก็บหมวกกันน็อค ได้ 1 ใบ
  • ระบบ TCS (Traction Control System) หรือระบบควบคุมการลื่นไถล ช่วยเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่
  • ก้านเบรกสามารถปรับระดับได้ เพื่อรองรับกับทุกสรีระของผู้ขับขี่
  • เบรกหน้าแบบ Radial Mount พร้อมปั๊มเบรกแบรนด์Juan สัญชาติสเปน
  • ระบบเบรก Dual-channel ABS : เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยระบบเบรก ABS ที่มีมาให้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยป้องกันล้อล็อกเมื่อเบรกกะทันหัน
  • โช๊คอัพหลังแบบสปริง สามารถปรับค่าพรีโหลดได้ 5 ระดับ
  • ระบบเบรกมือ (Brake handle with parking function) ช่วยป้องกันการลื่นไถล กรณีจอดรถชั่วคราวบนทางลาด และมีสัญญาณเตือนให้ กรณีลืมปลดล็อคมือเบรกขณะขับขี่
  • เสริมความปลอดภัยและป้องกันการโจรกรรม เมื่อดับเครื่องแล้วหักแฮนด์ไปทางด้านซ้าย ระบบจะทำการล็อคแฮนด์ให้อัตโนมัติ
  • TPMS ( Tire Pressure Monitoring System ) ระบบตรวจวัดลมยาง : ระบบความปลอดภัยที่ใช้ชิปจากเยอรมนีในการตรวจวัดแรงดันลมยาง และตรวจวัดอุณหภูมิยาง ให้ความแม่นยำสูง เสริมความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่
  • เทคโนโลยีกุญแจรีโมทแบบ0 Keyless ที่มาพร้อม IP67 หรือมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถทนทานต่อการแช่น้ำที่ความลึกระดับไม่เกิน 1 เมตร เป็นเวลาไม่เกิน 30 นาทีได้ ซึ่งสำหรับการขับขี่ที่โดนฝน ก็เรียกได้ว่าสามารถทนทานได้สบายๆ แถมยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงามสะดุดตา โดยการทำงานของตัว 3.0 Keyless นั้น เพียงแค่ผู้ขับขี่พกพาติดตัว ในระยะ 1.5 เมตรจากตัวรถ ก็สามารถกดปุ่มสตาร์ทได้ทันที  และเมื่อผู้ขับขี่นำกุญแจเดินออกห่างจากตัวรถเกินระยะ 1.5 เมตร ตัวรถก็จะทำการล็อคให้อัตโนมัติ  นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษ กรณีแบตเตอรี่ของกุญแจ Keyless หมด ผู้ขับขี่ก็ยังสามารถสตาร์ทรถใช้งานได้ ด้วยระบบ Immobilizer โดยนำ กุญแจ Keyless มาแนบภายในช่องเก็บของทางขวามือ
  • ที่จับท้ายกันตก ทำจากวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์ ให้ความแข็งแรงทนทาน พร้อมยางรองด้านใต้ เพื่อสัมผัสที่จับกระชับมั่นใจให้กับผู้ซ้อน

3 สีสันสุดมันส์! พิเศษเฉพาะประเทศไทย!

  • Dark Bright Grey Gloss – Purple flipflop (เทา-ม่วง)
  • Extra Black Gloss- Ruby Red Gloss (ดำ-แดง)

  • Ginger Desert Brown-Orange vivid (น้ำตาล-ส้ม)

 

ในราคาส่วนลดพิเศษช่วงเปิดตัว ที่  139,900 บาท

(จากราคาปกติที่ 143,900 บาท รับ Voucher 4,000 บาทเป็นส่วนลดพิเศษในช่วงเปิดตัว!)

* สามารถรับข้อเสนอพิเศษนี้  ได้ที่ https://booking.zontes.co.th

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่ www.zontes.co.th  หรือติดตามข่าวสารจาก ZONTES ได้ทาง

 

#ZONTES #ซอนเทส #ZONTES368D #368D

Harley-Davidson® ชวนเหล่าไบค์เกอร์รวมพลังทั่วภูมิภาคเอเชียเกิดใหม่ (AEM) รวมถึงประเทศไทย ในกิจกรรม “United We Ride – National Harley Day”

Harley-Davidson เชิญชวนเหล่าไบค์เกอร์ทั้งรุ่นใหญ่ผู้คร่ำหวอดบนเส้นทาง และนักขี่รุ่นใหม่มาขับขี่ และฉลองร่วมกันในงาน “United We Ride – National Harley Day” ในวันที่ 6 กันยายน 2568

งานระดับภูมิภาคในครั้งนี้มิได้เป็นเพียงแค่กิจกรรมขับขี่เท่านั้น แต่ยังเป็นการฉลองให้กับแนวคิด “United We Ride” ของ Harley-Davidson ซึ่งสะท้อนถึงมิตรภาพ ความสนุกจากการเดินทางบนถนน และพลังแห่งความชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน ที่หลอมรวมเหล่านักขับขี่ Harley-Davidson ไว้ด้วยกัน

รายละเอียดกิจกรรม มีดังนี้

วันจัดกิจกรรม: 6 กันยายน 2568 เว็บไซต์กิจกรรม: https://www.unitedwerideasia.com สำหรับข้อมูลเส้นทาง และเวลาเริ่มกิจกรรม กรุณาติดต่อผู้แทนจำหน่าย Harley-Davidson ใกล้บ้านท่าน

พร้อมกันนี้ กิจกรรมในครั้งนี้ยังมีส่วนช่วยเหลือสังคม ผ่านการสนับสนุนโครงการ Helmet Heroes Thailand โดยปีนี้ Harley-Davidson ได้จับมือกับ Helmet Heroes เพื่อฉลองให้กับแนวคิด United We Ride พร้อมกันใน 9 ประเทศ พร้อมเชิญชวนกลุ่ม ผู้ขับขี่ เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson สมาชิก H.O.G. ผู้แทนจำหน่าย และนักขับขี่หน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Harley-Davidson มาร่วมมือกัน ภายใต้กิจกรรม United We Ride – National Harley Day เพื่อรณรงค์ ในประเด็นความปลอดภัยบนท้องถนนสำหรับเด็ก

ทุกกิโลเมตรจากการขับขี่จะช่วยส่งเสริมความตระหนักรู้เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนสำหรับเด็ก พร้อมทั้งสมทบทุนจัดซื้อหมวกกันน็อกสำหรับเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไปทั่วประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่รถมอเตอร์ไซค์ยังคงเป็นพาหนะหลักด้วยเหตุผลด้านความสะดวกและราคา ดังนั้น การเข้าถึงอุปกรณ์นิรภัย และการสร้างวินัยด้านความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ ผู้ขับขี่ทั่วภูมิภาคสามารถร่วมบริจาคได้แล้ว ผ่านเว็บไซต์ทางการของกิจกรรม หรือในช่วงลงทะเบียนเข้าร่วมงาน

ไม่ว่าจะขี่มอเตอร์ไซค์คนเดียว มากับเพื่อน หรือรวมกลุ่มมากับ Harley Owners Group (H.O.G.) ก็สามารถร่วมกิจกรรมได้ โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านท่าน

มารวมพลังแล้วขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงไปด้วยกันในกิจกรรม “United We Ride – National Harley Day”

Everyday Playful มันส์ทุกเดย์…เท่ทุกทาง NEW YAMAHA PG-1

NEW YAMAHA PG-1 ชีวิตที่ Playful สนุกในสไตล์ที่โดดเด่นได้ทุกวัน สนุกได้กับทุกเส้นทาง ออกไปมันส์ด้วยกัน…ไปที่ไหนก็ได้ ไปทางไหนก็ได้ ไปกับใครก็ได้ แค่มีใจเดียวกัน มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 จังหวะ สูบเดียว 114 ซีซี แบบหัวฉีด ให้อัตราเร่งดี ขี่ประหยัด
หน้าปัดเรือนไมล์ดิจิทัลดีไซน์ทรงกลม สุดคลาสสิก แสดงผลมาตรวัดครบถ้วน ชัดเจน ทั้งตัวเลขแสดงความเร็ว, วัดรอบเครื่องยนต์, ตำแหน่งเกียร์, ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง,ระยะทาง, อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน
เบรกหน้า ABS พร้อมดิสก์เบรกขนาดใหญ่ 245 มม. ช่วยลดการเกิดอาการล้อล็อก ขณะเบรกกะทันหัน ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ พร้อมลุยได้ทุกเส้นทาง วงล้อหน้า/หลัง ขนาด 16×2.50 นิ้ว อัพไซส์ยางหน้ากว้าง 90/70-16 ยาง Block ลายใหม่ ดอกยางใหญ่ขึ้น เกาะถนนทรงตัวดี ขี่นุ่มนวล เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ ไม่ว่าจะทางเรียบ หรือทางลุย ก็ขี่ได้ทุกวัน มันส์ได้ทุกเส้นทาง
ดีไซน์บอดี้ตามโครงสร้างเฟรม สวย โดดเด่น แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ คล่องตัวขี่สนุกทั้งในเมือง และทางลุย แฮนด์บาร์กว้าง ช่วยให้ทรงตัวดี และมีความสูงเหมาะกับทุกสไตล์การขับขี่
โช้คหน้าเทเลสโคปิคแบบมีแผงคอบน เสริมด้วยยางหุ้มโช้คสไตล์คลาสสิก โช้คหลังคู่ที่เพิ่มระยะยุบ ช่วยซับแรงกระแทก ทรงตัวได้ดี มันส์ได้ทุกเส้นทาง
ระยะสูงจากพื้นถึงเครื่องยนต์ 190 มม. ขี่ลุยข้ามสิ่งกีดขวางพิชิตทุกความท้าทายได้อย่างมั่นใจ
ขี่ใกล้ หรือไกลก็นั่งสบาย ด้วยการออกแบบที่ปรับเปลี่ยน ท่าขับขี่ได้อย่างอิสระ มันส์ไปด้วยกันกับเพื่อนคู่ใจ ด้วยเบาะนั่งแยกส่วนหน้า-หลัง ระหว่างผู้ขับขี่กับคนซ้อน และเติมน้ำมันได้อย่างสะดวก เพียงเปิดเบาะหน้า
EVERYDAY PLAYFUL มันส์ทุกเดย์…เท่ทุกทาง
คุ้มค่าด้วยการรับประกันนานถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร*
Specification:
เครื่องยนต์
ระบบเครื่องยนต์ 4 จังหวะ
กระบอกสูบในเครื่องยนต์ กระบอกสูบเดี่ยว
ระบบวาล์ว SOHC
จำนวนวาล์ว 2 วาล์ว
ระบบระบายความร้อน ระบายความร้อนด้วยอากาศ
ความจุเครื่องยนต์ 114 ซีซี
กระบอกสูบ x ระยะชัก 50.0 x 57.9 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด 9.3 : 1
หัวเทียน NGK / CR6HSA
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง แบบหัวฉีด
ระบบจุดระเบิด TCI.
ระบบคลัตช์ แบบเปียกชนิดหลายแผ่น
ระบบสตาร์ท สตาร์ทมือด้วยระบบไฟฟ้า
ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10-E20
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 5.1 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง 0.80 ลิตร
ระบบหล่อลื่น แบบอ่างน้ำมันเครื่อง
กรองอากาศ แบบกระดาษเคลือบน้ำมัน
ระบบส่งกำลังขับ 4 สปีดแบบเฟืองขบกันตลอดเวลา
โครงรถ / เฟรม
ชนิดของเฟรม แบบแบ็คโบน
มุมคาสเตอร์ 26.5 องศา
ระยะเทรล 83 มม.
กว้าง x ยาว x สูง 805 x 1,980 x 1,050 มม.
ความสูงจากพื้นถึงเบาะ 795 มม.
ระยะห่างจากพื้นถึงเครื่อง 190 มม.
ช่วงศูนย์กลางระหว่างล้อ 1,280 มม.
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 2,000 มม.
น้ำหนักรวมน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่น 109 กก.
ระบบกันสะเทือน
ระบบกันสะเทือนหน้า เทเลสโคปิก
ระบบกันสะเทือนหลัง สวิงอาร์ม (แขนยึดโช้คอัพหลัง)
ระยะยุบตัวของโช้คอัพ หน้า / หลัง 130 / 109 มม.
ระบบเบรก (หน้า / หลัง)
เบรกหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยว พร้อมระบบเบรก ABS
เบรกหลัง ดรัมเบรก
ล้อ
หน้า / หลัง ล้อซี่ลวด
ขนาดวงล้อหน้า 16 x 2.15 นิ้ว
ขนาดวงล้อหลัง 16 x 2.15 นิ้ว
ยาง
ขนาด ล้อหน้า IRC GP22S 90 / 100-16 m / C51P
ขนาด ล้อหลัง IRC GP22S 90 / 100-16 M / C 51P
ระบบไฟฟ้า
ไฟหน้า HS1, 35.0 W / 35.0 W
ไฟเบรก / ไฟท้าย 21.0 W / 5.0 W
แบตเตอรี่ 12 V, 3.5 Ah (10 HR)
รุ่นแบตเตอรี่ PTZ5S