วัยอนุบาลก็สนุกกับงาน MOTOR EXPO 2024 ได้ !

นักเรียนอนุบาล โรงเรียนกุมุทมาส เข้าร่วมกิจกรรมมากมายในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41”

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” ต้อนรับคณะนักเรียนระดับชั้นอนุบาล และครูโรงเรียนกุมุทมาส ร่วมกิจกรรม Skill Driving Experience Junior ฟรี ! โดยมีตำรวจจราจรให้ความรู้เรื่องกฎจราจรเบื้องต้น ชมวีดีทัศน์จราจร ขับรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับเด็กในถนนจำลอง ที่ติดตั้งป้าย และเครื่องหมายจราจรประเภทต่างๆ พร้อมรับใบขับขี่รุ่นเยาว์

หลังจากนั้น น้องๆ ยังได้วาดภาพระบายสีในบูธมูลนิธิ “ลมหายใจไร้มลทิน”/ชมภาพวาดของเยาวชนที่เป็นสมาชิก และเครือข่ายชมรม “ศิลปินน้อย MOTOR EXPO”/ลองฝึกทักษะการขับรถ F1 แบบง่ายๆ ที่บูธ F1 in Schools/ชมการบังคับรถจำลองในบูธ Spirit of the 4×4 Driving School/ชมรถโบราณ และรับของที่ระลึก ณ บูธสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย

เชิญผู้ปกครองพาบุตรหลานชม และร่วมกิจกรรมสำหรับเยาวชน ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี วันนี้-10 ธันวาคม 2567 เด็กความสูงไม่เกิน 120 ซม. และผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ตลอดจนคนพิการ เข้าฟรี ! ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทุกสื่อในเครือ “IMC สื่อสากล” และ motorexpo.co.th

“แสตมป์ – อภิวัฒน์” ฝ่าด่านหิน หักปีกคู่แข่งเหนือชั้น!!! คว้าอันดับ 1 รุ่น SS600 เรซแรก

ศึกชิงแชมป์เอเชียสนามสุดท้าย ทางสะดวกครองแชมป์ 600

เดือดระอุ!!! สำหรับเกมการชิงชัยในรุ่น Super Sport 600 cc ในเรซที่ 1 ของศึก “ชิงแชมป์เอเชีย” รายการ FIM Asia Road Racing Champion Ship 2024 สนามที่ 6 ที่จัดขึ้นในช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2567 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งคู่หูนักแข่งไทยยามาฮ่าลงชิงชัยด้วยการออกสตาร์ทในแถวหน้า โดย “โฟลท – รัฐพงษ์ วิไลโรจน์” ที่ใช้รถแข่ง YZF-R6 หมายเลข 56 สังกัดทีม YAMAHA THAILAND RACING TEAM สตาร์ทในกริดที่ 2 ส่วนทางด้าน “แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์” นักแข่งจาก YAMAHA THAILAND RACING TEAM ที่ลงแข่งในสังกัดทีม YAMAHA Tekhne Racing Team Asia ที่กำลัง “ลุ้นแชมป์” กับรถแข่ง YZF-R6 หมายเลข 24 สตาร์ทจากกริดที่ 3

สำหรับการแข่งขันในรุ่นนี้มีด้วยกันทั้งสิ้น 12 รอบสนาม โดย 2 นักแข่งไทยยามาฮ่ามุ่งมั่นตั้งแต่เริ่มเกมด้วยการชิงโฮลช็อตในโค้งแรก ก่อนที่จะขับเคี่ยวชิงชัยกับคู่แข่งตลอดทั้งเกมการแข่งขัน ก่อนที่ “แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์” #24 จะใช้ประสบการณ์ความเขี้ยว และความเหนือชั้นกระชากคันเร่งรถแข่งคู่ใจทะลวงฝ่าด่านหินก่อนทะยานเข้าเส้นรับธงตาหมากรุกเป็นคันแรก คว้าชัยชนะอันดับที่ 1 ไปครองได้สำเร็จ ปูทางสู่การครองแชมป์ประจำปีได้อย่างสดใสในเรซที่ 2 ส่วนทางด้าน “โฟลท – รัฐพงษ์ วิไลโรจน์” #56 ที่หวนคืนสนามได้เป็นครั้งแรกในรอบปีก็สามารถจบการแข่งขันได้ในอันดับที่ 7 ด้วยผลการแข่งขันนี้ส่งผลธงชาติไทยโบกสะบัดเหนือโพเดียมได้อย่างยิ่งใหญ่ในสนามโฮมเรซได้สำเร็จ

จากผลการแข่งขันในเรซที่ 1 “แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์” สามารถคว้าตำแหน่งท็อปโพเดียม ทำให้คะแนนสะสมของนักแข่งไทยยังคงรั้งอยู่ในตำแหน่งผู้นำต่อไป ด้วยระยะห่างถึง 19 แต้ม…ทำให้การชิงดำตำแหน่ง “แชมป์ประจำปี” ของ “แสตมป์ – อภิวัฒน์” ในเรซสุดท้ายของปี ดูสดใสมากยิ่งขึ้น!!!

สำหรับการแข่งขันในเรซที่ 2 ซึ่งเป็นเกมชิงดำนัดสุดท้ายเพื่อตัดสิน “แชมป์ประจำปี” ของรุ่น Super Sport 600 cc จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2567 ในเวลา 15.05 น. แฟนมอเตอร์สปอร์ตสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดได้ที่ Facebook : Asia Road Racing Championship

—————————–
#60ปีไทยยามาฮ่ามอเตอร์ #ดีใจที่ได้เจอ
#YamahaThailandRacingTeam
#RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #No1RacingTeam
#YamahaSocietyThailand #YamahaRidersclubThailand
#RaceMachine #ARRC2024
#YamahaR6 #RW56 #AW24 #SuperSport600
#YamahaThailandRacingOfficialTest #AsiaRoadRacing

ไทยฮอนด้า เปิดตัว ‘New Honda Wave125i’ 6 สีสันใหม่

ดีไซน์ทันสมัยเสริมลุคพรีเมียม ตอกย้ำความเป็นที่ 1 ผู้นำที่ทุกคนเชื่อมั่น

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดตัว ‘New Honda Wave125i’ รถจักรยานยนต์ครอบครัวระดับท็อปคลาส ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้วยสีสันใหม่ถึง 6 สี พร้อบดีไซน์ทันสมัยเสริมลุคให้พรีเมียมยิ่งขึ้น ทั้งยังตอบโจทย์ทุกการเดินทางด้วยสมรรถนะจากเครื่องยนต์ Honda Smart Engine ที่ให้ทั้งความประหยัด ความแรง และความทนทาน รองรับทุกการใช้งาน คงความโดดเด่นด้านประหยัดน้ำมันตามแบบฮอนด้า เวฟ ไว้อย่างดีเยี่ยม ตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งครอบครัวเวฟ ‘ที่ 1 ผู้นำที่ทุกคนเชื่อมั่น’ พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้

New Honda Wave125i มาพร้อมความพรีเมียมในทุกมิติ ด้วยสีสันใหม่เฉดทูโทนที่พรีเมียม สร้างความหรูหราลงตัวทุกมุมมอง ลงตัวกับชุดไฟหน้า Full LED Headlight และไฟท้าย X-Clusive LED Tail Light กระจายแสงกว้างขึ้นส่องสว่างทันทีที่สตาร์ท เพิ่มความมั่นใจให้ทุกการเดินทาง เสริมด้วยแผงหน้าปัด Digital LCD Multimeter ที่แสดงข้อมูลได้ครบครัน พร้อมตอบสนองทุกการใช้งานด้วยพื้นที่เก็บของใต้เบาะความจุ 17 ลิตร สามารถใส่หมวกกันน็อคเต็มใบ และช่องเก็บของด้านหน้าเพื่อความสะดวกสบายขณะเดินทาง

New Honda Wave125i ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Honda Smart Engine ขนาด 125 ซีซี พร้อมระบบหัวฉีด PGM-FI เทคโนโลยีจากฮอนด้า ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ควบคู่กับการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 71.4 กม./ลิตร เสริมความทนทานด้วยระบบ Piston Oil Jet ที่ช่วยระบายความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมระบบปรับตั้งความตึงโซ่อัตโนมัติแบบ Hydraulic ที่ให้ความต่อเนื่องในทุกการขับขี่

ไทยฮอนด้า พร้อมวางจำหน่าย New Honda Wave125i ทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นสตาร์ทมือ ล้อแม็ก มีให้เลือกใน 4 เฉดสีใหม่ สีเขียว-ดำ (GREEN-BLACK), สีดำ-น้ำตาล (BLACK-BROWN), สีเทา (GREY) และ สีขาว-ดำ (BLACK- WHITE) ราคาแนะนำ 58,200 บาท

รุ่นสตาร์ทมือ ล้อซี่ลวด มีให้เลือก 2 เฉดสี ได้แก่ สีแดง-ดำ (RED-BLACK) และสีน้ำเงิน-ดำ (BLUE-BLACK) ราคาแนะนำ 56,000 บาท ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ศูนย์ Honda Wing Center ทุกสาขาทั่วประเทศ

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ New Honda Wave125i ได้ที่เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : fb.com/hondamotorcyclethailand

คู่หูนักบิดไทยยามาฮ่า “โฟลท – รัฐพงษ์” ควงคู่ “แสตมป์ – อภิวัฒน์” กระชากคันเร่ง R6 คว้ากริดสตาร์ทแถวหน้า ลุ้นยืนโพเดียม SS600 แพ็คคู่ศึกชิงแชมป์เอเชียสนามสุดท้าย!

คู่หูนักบิดไทยยามาฮ่า สตาร์ทแถวหน้า SS600

2 นักแข่งไทยยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ “ชิงแชมป์เอเชีย” รายการ FIM Asia Road Racing Championship 2024 สนามสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 8 ธันวาคม 2567 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม ในเวลา 10.00 – 10.30 น. ซึ่งเป็นการควอลิฟายของรุ่น Super Sport 600 cc หรือ SS600 ที่มี 2 นักบิดไทยยามาฮ่าลงทำการชิงชัยนั้น ผลปรากฏว่า “โฟลท – รัฐพงษ์ วิไลโรจน์” กับรถแข่ง YAMAHA YZF-R6 หมายเลข 56 สังกัดทีม YAMAHA THAILAND RACING TEAM เรียกความมั่นใจให้กับตัวเองได้แบบเต็มร้อยอีกครั้งกับการทำเวลารอบควอลิฟายดีที่สุดอยู่ที่ 1:38.542 นาที รั้งอยู่ในอันดับที่ 2 ได้ออกสตาร์ทแถวหน้า พร้อมลุ้นยืนโพเดียมหลังจากหายบาดเจ็บ

ส่วนทางด้าน “แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์” ที่ลงแข่งในสังกัดทีม YAMAHA Tekhne Racing Team Asia ซึ่งกำลัง “คั่วแชมป์” ก็สามารถกระชากคันเร่งรถแข่ง YAMAHA YZF-R6 หมายเลข 24 ทำเวลาต่อรอบดีที่สุด 1:38.628 นาที รั้งอยู่ในอันดับที่ 3 ได้ออกสตาร์ทแถวหน้าเหนือคู่ชิงแชมป์นักบิดชาวอินโดนีเซีย สร้างความมั่นใจก่อนลงชิงชัยในเกม Race 1
สำหรับเกมการแข่งขัน Race 1 ของรุ่น Super Sport 600 cc จะทำการชิงชัยในเวลา 14.55 น. โดยแฟนมอเตอร์สปอร์ตสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดได้ที่ Facebook : Asia Road Racing Championship

ชิงแชมป์เอเชีย! “ทัพนักบิดไทย” ประเดิมสวย!

“ชิพ-แสตมป์” รั้งจ่าฝูงวันแรก ลุ้นล่าแชมป์โฮมเรซ สนามสุดท้าย

กองทัพนักบิดไทยสร้างผลงานสุดร้อนแรง เปิดหัววันแรกในศึกสองล้อชิงแชมป์เอเชีย รายการ Asia Road Racing 2024 สนามส่งท้ายปี โดย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตจีทรี จาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท เอสเตโม เร็วสุดในรุ่นใหญ่ ขณะ “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จาก ยามาฮ่า เทคนี เรซซิ่ง ทีม เอเชียน เร็วสุดในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต เอเชีย เดินหน้าลุ้นแชมป์สุดสัปดาห์นี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2024 สนามที่ 6 ส่งท้ายปี ผ่านการลงสนามซ้อมวันแรกอย่างเป็นทางการ เมื่อวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2567 ภายใต้สถานการณ์ลุ้นแชมป์สุดมันส์

ผลซ้อมรวมในรุ่นใหญ่หลังผ่าน 3 ช่วงแรก ปรากฏว่า “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ยอดนักบิดไทยจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท เอสเตโม รั้งจ่าฝูงด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 35.432 วินาที เฉือน โมฮัมหมัด ซัควาน ไซดี้ ทีมเมทชาวมาเลเซีย อันดับ 2 เพียง 0.025 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ อาซลัน ชาห์ จอมเก๋าชาวมาเลเซียจาก ทีเคเคอาร์ บีเอ็มดับเบิลยู เรซซิ่ง ทีมตามหลังเพียง 0.083 วินาทีเท่านั้น

ขณะที่จ่าฝูงบนตารางแชมเปียนชิพอย่าง ยูกิ คูนิ นักบิดญี่ปุ่นจาก เอสดีจี ทีม ฮาร์ค-โปร ฮอนด้า พีเอช จบวันแรกด้วยอันดับ 7 ตามหลัง 0.463 วินาที ด้าน นทีธาร ทองโคตร นักบิดไทยจาก ยามาฮ่า ทีเอ็นพี พีทีที ลูบริแคนท์ส เจ้าของแชมป์ประจำปี ซูเปอร์สต็อก 1,000 ซีซี ในรายการ แพลนบี มีเดีย บีอาร์ไอซีซูเปอร์ไบค์ ลงบิดด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ด รั้งอันดับ 12 ของวันแรก ตามหลังจ่าฝูง 3.311 วินาที

โดยตำแหน่งแชมปป์ประจำปีในรุ่น เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี จะตัดสินกันในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่ง ยูกิ คูนิ นักบิดญี่ปุ่นรั้งจ่าฝูงมีทั้งสิ้น 142 คะแนน เบียดกันอย่างสูสีกับ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาห์ นักบิดอินโดนีเซียจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท เอสเตโม โดยมีระยะห่างเพียง 2 คะแนนเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ฮาฟิซ ซยาห์ริน อดีตนักบิดโมโตจีพีชาวมาเลเซีย ตามหลัง 5 คะแนน ด้าน “ชิพ” นครินทร์ นักบิดไทยยังมีลุ้น รั้งอันดับ 4 ตามหลัง 14 คะแนน

สถานการณ์ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เข้มข้นตั้งแต่วันแรกของการซ้อม โดย จ่าฝูงบนตารางแชมเปียนชิพอย่าง “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นักบิดไทยจาก ยามาฮ่า เทคนี เรซซิ่ง ทีม เอเชียน รั้งหัวแถวด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 39.028 วินาที เหนือ “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ นักบิดไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ที่กลับลงสนามได้อีกครั้งในรอบ 1 ปี อันดับ 2 เพียง 0.416 วินาที ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ อัซรอย ฮาคีม อานัวร์ นักบิดมาเลเซียนจาก อิเดมิตสึ บุนซิว ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 0.466 วินาที ส่วน 2 นักบิดดาวรุ่งจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ อย่าง “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ และ “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว รั้งอันดับ 4 และ 8

สำหรับการลุ้นแชมป์ประจำปีในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี “แสตมป์” อภิวัฒน์ นักบิดไทยอยู่ในสถานการณ์ยอดเยี่ยม โดยรั้งจ่าฝูงก่อนแข่งสนามสุดท้ายมีทั้งสิ้น 155 คะแนน เหนือคู่แข่งในอันดับ 2 อย่าง โมฮัมหมัด อะเดนันตา พูตร้า นักบิดอินโดนีเซีย 14 คะแนน ส่วน อัซรอย ฮาคีม อานัวร์ นักแข่งมาเลเซียรั้งอันดับ 3 ตามหลัง 33 คะแนน

ผลการซ้อมรวม 3 ครั้ง ในรุ่นเล็กอย่าง เอเชีย โปรดักชั่น 250ซีซี ปรากฎว่า มูฮัมหมัด แฟโรซี นักบิดอินโดนีเซีย จาก ยามาฮ่า เรซซิ่ง อินโดนีเซีย เร็วที่สุดในวันแรกด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 51.558 วินาที เหนือคู่เพื่อนร่วมชาติทั้ง 2 คนจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม อย่าง เฮอร์จุน แอทน่า เฟอร์ดาอุส และ มูฮัมหมัด เคียนดร้า รามาดิปา คนละ 0.963 วินาที และ 1.100 วินาที ด้านนักบิดไทยอย่าง “ต๋ง” พีรพงศ์ บุญเลิศ อดีตแชมป์เอเชียจาก ยามาฮ่า วิทย์ ชลบุรี รั้งอันดับ 4 ตามหลังจ่าฝูง 1.102 วินาที

ส่วนผลซ้อมในรุ่น อันเดอร์โบน 150ซีซี ปรากฏว่า มูฮัมหมัด มูร็อบบิน วิตโตนี นักบิดอินโดนีเซียจาก ยามาฮ่า แอลเอฟเอ็น เอชพี969 อิโดนีเซีย เรซซิ่ง ทีม รั้งจ่าฝูงด้วยเวลา 1 นาที 59.819 วินาที เหนือทีมเมทอย่าง ฮุสนี ไซนุล ฟูอัดซี อนัดับ 2 เพียง 0.462 วินาที ตามด้วยจอห์น เอเมอร์สัน อินกีโต นักบิดฟิลิปปินส์จาก โฟร์เอสวันเอ็ม อีโว ยามาฮ่า เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 3 ตามหลัง 0.657 วินาที ด้านนักบิดไทยอย่าง “เติ้ล” พีรพงศ์ หลุยบุญเป็ง จาก วัน ฟอร์ ออล์ รั้งอันดับ 10 ตามหลัง 1.131 วินาที

ด้านผลการซ้อมในรุ่น ทีวีเอส เอเชีย วันเมคเรซ ปรากฏว่า ฮิโรกิ โอโนะ นักบิดญี่ปุ่นรั้งหัวแถวด้วยเวลา 1 นาที 50.465 วินาที เฉือนนักบิดไทยอย่าง อาทิตย์ กังแฮ อันดับ 2 เพียง 0.049 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ โมฮัมหมัด แรมแดน รอสซี นักบิดมาเลเซีย ตามหลัง 0.158 วินาที ด้าน “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล นักบิดไทยรั้งอันดับ 5 ตามหลัง 1.075 วินาที

ทั้งนี้ ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2024 สนามสุดท้ายจะจับเวลารอบควอลิฟายและดวลความเร็วเรซแรกในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม และปิดฉากเรซสุดท้ายในวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม ถ่ายทอดสดทาง PPTVHD36 วันเสาร์ เริ่ม 14.00 – 16.30 น., วันอาทิตย์ เริ่ม 14.00 – 16.30 น.หรือรับชมทางออนไลน์ได้ที่เพจ และยูทูป PPTV Sports หรือเพจ Asia Road Racing Championship และ Chang Circuit Buriram เริ่มตั้งแต่ 12.35 น. เป็นต้นไป ซื้อบัตรได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา ,เว็บไซด์ allticket หรือซื้อบัตรที่หน้างานบริเวณ โดมแก้ว สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

ทัพนักบิด Honda CBR Series ครองหัวแถวซ้อมวันแรก ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง 2024 สนามที่6 ที่สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์

“ชิพ” นครินทร์ กดเวลาPractice 1 อยู่ในอันดับที่ 2

“ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ยกทัพนักบิดไทยและยอดรถแข่ง Honda CBR Series ยกระดับเวลาต่อรอบอย่างต่อเนื่องในการลงซ้อมวันแรกรอบ Practice 1 และ Practice 2 ในรายการ FIM Asia Road Racing Championship 2024 สนามที่ 6 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต บุรีรัมย์

รุ่น เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี (ASB1000) ด้วยรถแข่ง Honda CBR1000RR-R “ชิพ” นครินทร์ หมายเลข 41 สังกัดทีม “ฮอนด้า เอเชีย ดรีม เรซซิ่ง วิท แอสติโม” กดเวลาต่อรอบที่ดีที่สุดรอบ Practice 1 อยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยเวลา 1.35.983 นาที ก่อนที่เข้าสู่ช่วงบ่ายในการซ้อมรอบ Practice2 กดเวลาเร็วขึ้นด้วยเวลา 1.35.629 นาที ปักหลักอยู่ในอันดับที่ 2

รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS600) นักบิดดาวรุ่ง “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” กับรถแข่ง Honda CBR600RR “มิกซ์” ธนัช หมายเลข 31 กดเวลาต่อรอบที่ดีที่สุดในรอบ Practice 1 อยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยเวลา 1.39.969 นาที และ “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ หมายเลข 85 อยู่ในอันดับที่ 3 ด้วย 1.40.013 นาที โดยในรอบ Practice 2 ลงสนามกันต่อในช่วงเที่ยงวันกับสภาพอากาศและพื้นสนามที่ร้อนขึ้น “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” อยู่ในอันดับที่ 2 กดเวลาเร็วขึ้นที่ 1.39.518 นาที ขณะที่ “มิกซ์-ธนัช” ทำเวลาได้ 1.40.109 นาที อยู่ในอันดับที่ 5

ทั้งนี้ศึก FIM Asia Road Racing Championship 2024 สนามที่ 6 จะทำการควอลิฟายเพื่อหาอันดับการออกสตาร์ตในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคมนี้ ก่อนที่จะการดวลคันเร่งเรซที่ 1 ต่อเนื่องในบ่ายวันเดียวกัน และปิดท้ายการแข่งขันเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคมนี้

แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าทุกคนได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

#ThaiHonda #Motorsport #RaceToTheOne #RaceToTheDream #RaceToTheChampion #ARRC #ARRC2024 #AsiaRoadRacingChampionship2024 #HondaCBR #Chip41 #Mix31 #Maikiw85 #HondaRacingThailand #Idemitsu #Sittipol #KrungsriAuto #Kushitani #KELA #SKF #KOWA #NGK #DID #Arai #RCB #DiosDesign #FMSCT #SAT

การพัฒนาเด็กไทยไปสู่ระดับโลกกับ PTT Lubricants

PTT Lubricants สนับสนุนวงการมอเตอต์สปอร์ต

นอกจาก PTT Lubricants จะมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายอย่างต่อเนื่องด้วยคุณภาพที่ดีเยี่ยม และราคาเหมาะสม เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าผู้ใช้งานทุกกลุ่มทั้งภาคยานยนต์ และอุตสาหกรรมแล้ว ยังได้สนับสนุนวงการมอเตอต์สปอร์ต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนโยบายของการจับมือร่วมกันของทีมแข่งไทย ในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแรง และเป็นที่รู้จักมายิ่งขึ้น

คำถาม : ถามถึงภาพรวมของการสนับสนุนนักแข่งรุ่นใหม่ให้กับ Yamaha Thailand Racing Team กับโครงการ R3 bLU cRU FIM World Cup

PTT Lubricants ได้มีนโยบายการสนับสนุนมอเตอร์สปอร์ตประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ในอดีตที่แข่งขันกันด้วยรถ 2 จังหวะ จนมาถึงปัจจุบันที่เป็นรถแข่ง 4 จังหวะ ทั้งที่เป็นรถแข่งโปรดักชั่น รวมถึงรถแข่งต้นแบบสำหรับแข่งขันในกรังด์ปรีซ์เรซ และผลผลิตที่ PTT Lubricants ได้มีการสนับสนุนให้กับทางยามาฮ่าในปีที่ผ่านมาของ “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ ตอนนี้ได้พัฒนาไปถึงการแข่งขันชิงแชมป์โลกรายการ World Superbike ในรุ่น World Supersport ซึ่งเป็นนักแข่งเยาวชนผู้บุกเบิกระหว่าง PTT Lubricants และYamaha Thailand Racing Team

และในปีนี้ PTT Lubricants ได้มีการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องกับนักแข่งเยาวชนไทยในรายการเยาวชนชิงแชมป์โลก R3 bLU cRU FIM World Cup ซึ่งความคาดหวังของ PTT Lubricants นอกเหนือจากผลงานที่ดีของนักแข่ง ก็ยังมีสิ่งที่สำคัญคือ การเรียนรู้ mindset การแก้ไขปัญหาที่เกิด รวมไปถึงการมีวินัยทางด้านการออกกำลังกาย การกินให้ถูกหลักตามวิทยาศาสตร์การการกีฬาตรงนี้เป็นภาพรวมภาพใหญ่สำหรับการจะสร้างนักแข่งที่มีคุณภาพขึ้นมา ฝีมือเก่งอย่างเดียวไม่สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน แต่ถ้าเก่งด้วยมีแนวความคิดที่ดีด้วยก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างมั่นคง

คำถาม : ปัจจุบัน PTT Lubricants มีการผลักดันผลิตภัณฑ์ใดบ้างในวงการรถจักรยานยนต์

ปัจจุบัน PTT Lubricants มีการผลักดันน้ำมันหล่อลื่นรถจักรยานยนต์กลุ่มพรีเมี่ยมภายใต้แบรนด์ Challenger 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่

1 CHALLENGER SUPER BIKE RACING น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ตัวท๊อปที่เหมาะกับสายซิ่งที่ต้องการท้าทายความเร็วในสนามเเข่งเเบบมือโปร มีเทคโนโลยี ESTER TECH ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องยนต์พร้อมตอบสนองต่อการเร่งความเร็วได้ดั่งใจ

2 CHALLENGER SUPER BIKE น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ที่เหมาะกับสายซิ่งที่ต้องการใช้ความเร็วในการเดินทาง พร้อมเพิ่มขีดสุดแห่งความแรงบนท้องถนนด้วยเทคโนโลยี ESTER ให้การท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทำได้อย่างราบรื่น สนุกทุกเส้นทาง

3 CHALLENGER SYNTHETIC 4T น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ราคาคุ้มค่าที่เหมาะสำหรับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะสมรรถนะสูง ที่ต้องการใช้ความเร็วในการขับขี่ในทุกกิจกรรม ที่พึ่งอัพเกรดด้วยเทคโนโลยี Evotec ช่วยในเรื่องความแรง ปกป้องเครื่องยนต์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

หากท่านไหนสนใจสามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านท่าน

NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION รับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION สีสันใหม่โดดเด่น สปอร์ตพรีเมียม

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ตอกย้ำความเป็น 1 ของรถจักรยานยนต์ครอบครัวยุคใหม่ระดับพรีเมียม ด้วยการเปิดตัว “NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION” ที่เพิ่มสไตล์การขับขี่ให้โดดเด่น พรีเมียม เร้าใจด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว ให้คุณได้ปลดปล่อยความเป็นตัวคุณได้อย่างเต็มที่ ผสานกับเครื่องยนต์แรง ทนทาน ขับขี่ง่าย ประหยัดน้ำมัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ และยังคุ้มค่าด้วยการรับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*

สำหรับ NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION มาพร้อมกับสีสันใหม่โดดเด่น สปอร์ตพรีเมียม พร้อมโลโก้ Special Edition บนตัวรถที่ออกแบบมาเฉพาะรุ่น และสติกเกอร์ลายพิเศษบนล้อแม็กหน้า – หลัง สุด LIMITED เพิ่มสไตล์การขับขี่ให้โดดเด่นอย่างลงตัว

NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้ฟินน์มากยิ่งขึ้นด้วย โช้คหลัง YSS DTG Plus** ที่ได้รับการออกแบบพิเศษเฉพาะรุ่น สามารถปรับระดับความแข็งสปริง (Preload) ได้ เหมาะสมต่อการใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์การขับขี่ทุกรูปแบบ ทั้งการขับขี่ที่นุ่มนวล หรือรองรับการบรรทุกสัมภาระ

NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION ยังเพิ่มความพรีเมียมด้วย SPECIAL SEAT PATTERN เบาะหนังทูโทนดีไซน์พิเศษ ให้ความรู้สึกหรูหราพรีเมียม และแตกต่างอย่างลงตัว

นอกจากนี้ NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION ยังคงมาพร้อมกับเครื่องยนต์หัวฉีดอัจฉริยะ แรงดี ทนทาน…ฟินน์จัด ประหยัดจริง ไม่จุกจิก และมีสมองกลอัจฉริยะ ECU ควบคุมการสั่งจ่ายน้ำมัน ทำให้ประหยัด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION โดดเด่นทันสมัยด้วย ชุดไฟหน้าสุดโมเดิร์น สว่างชัด ดีไซน์โฉบเฉี่ยวกลมกลืนกับแฟริ่ง และไฟท้ายสวยหรูสะดุดตา ดีไซน์เข้ากับบอดี้ช่วงท้าย สว่างชัดเจนทั้งกลางวัน และกลางคืน พร้อมหน้าจอเรือนไมล์แสดงผลชัดเจน สบายตา สีสันกราฟิกทันสมัย ฟังก์ชันการใช้งานครบครัน

NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION มีฟีเจอร์เพิ่มความสะดวกสบายครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ช่องใส่ของด้านหน้าอเนกประสงค์ สะดวกสบายในการใช้งาน หยิบง่าย ใส่คล่อง ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน พร้อมที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ถึง 9.7 ลิตร เก็บหมวกกันน็อกแบบครึ่งใบได้ และกุญแจแบบ Multi-function ควบคุมการใช้งานในจุดเดียว จะล็อคคอรถ เปิดสวิตซ์ หรือเปิดเบาะ ก็สะดวกสบาย

NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION เพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยด้วยระบบเบรก UNIFIED BRAKE SYSTEM (UBS) เมื่อใช้งานเบรกเท้า กลไกจะกระจายแรงเบรกไปทั้งล้อหน้า และล้อหลัง ทำให้การหยุดรถมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION #กล้าที่จะฟินน์ มาพร้อมกับสีสันสุดพิเศษ! คือ สีเทา/ม่วง พร้อมราคาแนะนำสุดพิเศษที่ 49,900 บาท พร้อมให้ความมั่นใจสูงสุดด้วยการรับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง* และยังเพิ่มความฟินน์ยิ่งขึ้นด้วย Accessories แต่งให้สวยกว่า… “ก็ฟินน์ยิ่งกว่า” ด้วย ตระกร้าหน้าแบบตาข่าย, กันลายแบบตาข่าวสีดำ, ขอเกี่ยวแบบลวดสีดำ, ตะแกรงหลัง, ตาข่ายตระกร้าหน้าสีดำ, กล่องหลังสีดำ และกรอบป้ายทะเบียนชุบโครเมี่ยม

โดยสามารถสัมผัสกับ NEW YAMAHA FINN SPECIAL EDITION #กล้าที่จะฟินน์ ได้แล้ววันนี้! ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263- 9999

Harley-Davidson® จัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟกระทบไหล่ เจมส์ ริสโพลี นักแข่งจากทีม Harley-Davidson Factory

Harley-Davidson® ถ่ายทอดทักษะการขับขี่ ในกิจกรรม Track day Masterclass

Harley-Davidson ประเดิมสนามโมโตจีพี พร้อมจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์สมรรถนะสูงให้ชุมชนนักขับขี่และเหล่าคนรักมอเตอร์ไซค์ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ใน MotoGP Fan Village ซึ่งเป็นกิจกรรมพิเศษจัดขึ้น ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ในงานนี้ Harley-Davidson ได้ยกไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ปี 2024 นำโดยรถมอเตอร์ไซค์สุดไอคอนนิก รุ่น CVO™ Road Glide™ ST มาให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดและเพิ่มความเร้าใจด้วยกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟอย่างการพบปะกับ เจมส์ ริสโปลี นักแข่งจากทีม Harley-Davidson Factory ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ร่วมงาน

กิจกรรมพบปะกับ เจมส์ ริสโพลี นักแข่งทีม Harley-Davidson Factory ถือเป็นไฮไลท์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่เปิดโอกาสให้เหล่าแฟน ๆ ได้พูดคุยทักทาย ขอลายเซ็น จากนักแข่งตัวจริง พร้อมเปิดให้สื่อมวลชนสาย ยานยนต์และอินฟลูเอนเซอร์ได้ร่วมสัมภาษณ์พิเศษ ซึ่งเจมส์ ริสโพลี ได้แบ่งปันเรื่องราวบนเส้นทาง
นักแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ระดับมืออาชีพ รวมถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับนวัตกรรมและสมรรถนะของ รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Masterclass on Track นำโดย เจมส์ ริสโพลี ณ สนามพีระเซอร์กิต พัทยา ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้า Harley-Davidson นักขับขี่ สื่อมวลชน และอินฟลูเอ็นเซอร์ได้เข้าร่วมอบรมและฝึกปฏิบัติจริงเพื่อพัฒนาทักษะการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ พร้อมเรียนรู้เทคนิคและเคล็ดลับการขับขี่ในสนามแข่งอย่างมืออาชีพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์บนสนามแข่งรวมถึงยกระดับทักษะการขับขี่โดยรวม

“ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” เดินหน้าพร้อมลุยบิด Honda CBR Series โฮมเรซส่งท้ายฤดูกาล ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง 2024

ทัพนักบิดไทยและยอดรถแข่ง Honda CBR Series พร้อมลงทำศึกสนามโฮมเรซ

“ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ยกทัพนักบิดไทยและยอดรถแข่ง Honda CBR Series พร้อมลงทำศึกสนามโฮมเรซในการแข่งขันรายการ FIM Asia Road Racing Championship 2024 สนามที่ 6 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ในระหว่างวันที่ 6-8 ธันวาคม นี้

รุ่นใหญ่ที่สุดแรงที่สุดอย่างรุ่น “เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี” (ASB1000) ด้วยรถแข่ง Honda CBR1000RR-R ท่ามกลางสถานการณ์ตัดสินแชมป์ประจำฤดูกาลในเรซสุดท้าย โดยมียอดขุนพลนักบิดไทย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ หมายเลข 41 ภายใต้สังกัด “ฮอนด้า เอเชีย ดรีม เรซซิ่ง วิท แอสติโม” ที่รั้งอันดับที่ 4 ของตารางคะแนนสะสม มี 128 คะแนน ตามผู้นำอยู่เพียง 14 คะแนน และนักแข่งชาวญี่ปุ่น เท็ตสึตะ นากาชิม่า (Tetsuta Nagashima) ที่จะลงทำหน้าที่แทน “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ สังกัด “แอสติโม เอสไอ เรซซิ่ง วิท ไทยฮอนด้า” หมายเลข 52

รุ่น “ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี” (SS600) กับรถแข่ง Honda CBR600RR สังกัด “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ด้วยยอดนักบิดดาวรุ่งไทย “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ หมายเลข 85 รั้งท็อป 5 ของตารางคะแนนสะสม มี 99 คะแนน และ“มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว หมายเลข 31 รั้งอยู่ท็อป 10 มีคะแนนสะสม 68 คะแนน

ทั้งนี้ศึก FIM Asia Road Racing Championship 2024 สนามที่ 6 จะลงซ้อมครั้งแรกกันในวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคมนี้ และทำการควอลิฟายเพื่อหาอันดับการออกสตาร์ตในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคมนี้ ก่อนที่จะการดวลคันเร่งเรซที่ 1 ต่อเนื่องในบ่ายวันเดียวกัน และปิดท้ายการแข่งขันเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคมนี้

แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าทุกคนได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

โรยัล เอ็นฟีลด์ย้ำความมุ่งมั่นต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดตัวโรงงานประกอบแห่งใหม่ในประเทศไทย

โรยัล เอ็นฟีลด์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นระยะยาว ด้วยการจัดตั้งโรงงานในประเทศไทย

นำระดับโลกในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง (250cc-750cc) เริ่มต้นบทใหม่ในเส้นทางการเติบโตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยการเริ่มดำเนินงานของโรงงานประกอบรถมอเตอร์ไซค์ระบบ CKD (Completely Knocked Down) แห่งใหม่ที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งถือเป็นโรงงานแห่งแรกที่โรยัล เอ็นฟีลด์เป็นเจ้าของและดำเนินการเองในประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญของโรยัล เอ็นฟีลด์ในประเทศไทย ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่มีต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ในพิธีเปิดโรงงานแห่งใหม่ คุณบี. โกวินดาราจัน ราจัน – ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรยัล เอ็นฟีลด์ กล่าวว่า “โรยัล เอ็นฟีลด์ได้ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อขยายตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางในระดับโลก เราได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั่วโลกที่ชื่นชอบสไตล์การขี่ของเรา ซึ่งสะท้อนผ่านความนิยมในรถมอเตอร์ไซค์ของเรา ด้วยรถมอเตอร์ไซค์หลากหลายรุ่นที่ตอบโจทย์ผู้ขี่จากทั่วโลก เราเชื่อว่าโรยัล เอ็นฟีลด์เป็นแบรนด์ระดับโลก และด้วยเหตุนี้เราจึงติดอันดับหนึ่งในแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางชั้นนำในตลาดสำคัญ อย่างสหราชอาณาจักร เกาหลี ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ กลยุทธ์หลักของเราคือการขยายธุรกิจในระดับสากล โดยลงทุนในตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งโรงงานประกอบในประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการนี้ ช่วยให้ผู้ที่หลงใหลในรถมอเตอร์ไซค์ได้สัมผัสกับ DNA อันเป็นเอกลักษณ์ของโรยัล เอ็นฟีลด์ แบบ Pure Motorcycling”

นอกจากนี้ คุณยาดิ ยาดวินเดอร์ ซิงห์ กูเลเรีย – ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ โรยัล เอ็นฟีลด์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีศักยภาพสูงสำหรับกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราให้ความสำคัญกับการอยู่ใกล้ชิดตลาดเหล่านี้และการขยายธุรกิจ เราเริ่มต้นด้วยการทำสัญญาจ้างผลิตและเปิดโรงงานประกอบรถมอเตอร์ไซค์แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของเราที่มีต่อศักยภาพของตลาดและชุมชนผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่กำลังเติบโต เรามั่นใจอย่างยิ่งว่าโรงงานแห่งนี้จะช่วยให้เราขยายตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางในประเทศไทย พร้อมทั้งตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

การประกาศครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจของบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของโรยัล เอ็นฟีลด์ที่มีต่อประเทศไทย โรงงานแห่งใหม่นี้นับเป็นโรงงานประกอบระบบ CKD (Completely Knocked Down) แห่งที่ 6 ของโรยัล เอ็นฟีลด์ ต่อจากอาร์เจนตินา โคลอมเบีย บราซิล บังกลาเทศ และ เนปาล

คุณอนุจ ดัว – หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกของโรยัล เอ็นฟีลด์ กล่าวถึงการเปิดโรงงานประกอบแห่งใหม่ในประเทศไทยว่า “ไม่เพียงแต่ยกระดับตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางในประเทศไทย แต่เรายังมุ่งมั่นจะขยายตลาดแห่งนี้ให้เติบโตด้วย ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่แข็งแกร่งสำหรับโรยัล เอ็นฟีลด์ และมีแนวโน้มการเติบโตที่มั่นคง ลูกค้าและชุมชนผู้รักในแบรนด์ของเราที่มีอยู่ทั่วประเทศไทยต่างภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์โรยัล เอ็นฟีลด์ ส่งผลให้มียอดการเติบโตมากกว่า 150% นับตั้งแต่เราเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยภูมิประเทศ วัฒนธรรม และความหลากหลายของประเทศไทยล้วนเป็นปัจจัยที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับมอเตอร์ไซค์ของเรา การเติบโตของเราตลอดหลายปีที่ผ่านมาให้กำลังใจเราเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย ลูกค้า ชุมชน หรือผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอของเรา เรายังคงตั้งใจที่จะส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์และประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกับชุมชนผู้ขับขี่ในประเทศไทย ด้วยกลยุทธ์ของเราในปี 2024 และต่อจากนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเราและสร้างการเติบโตที่มั่นคงต่อไป”

โรงงานประกอบรถมอเตอร์ไซค์แห่งใหม่มีพื้นที่กว่า 5,200 ตารางเมตร และมีกำลังการผลิตติดตั้งมากกว่า 30,000 คันต่อปี โรงงานประกอบแห่งนี้เป็นศูนย์การผลิตที่ทันสมัยและล้ำหน้า ซึ่งจะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย อีกทั้งจะช่วยให้การส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์แก่ลูกค้ามีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีอันน่าจดจำยิ่งกว่าเดิม

โรงงานประกอบแห่งใหม่นี้จะเริ่มต้นรองรับตลาดในประเทศไทยก่อนจะขยายไปยังภูมิภาคในลำดับถัดไปตามแผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้

ไทยฮอนด้า เปิดตัว New Honda Wave110i 5 สีสันใหม่

เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ภายใต้คอนเซปต์ “ครอบครัวเวฟเชื่อใจที่ 1”

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นที่ 1 ของ New Honda Wave 110i รถจักรยานยนต์ยอดนิยมที่ไม่เพียงแค่ครองใจคนไทยมายาวนานกว่า 20 ปี แต่ยังครองตำแหน่งโมเดลที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในทุกภูมิภาคทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องอีกด้วย โดยล่าสุดเปิดตัว New Honda Wave110i ภายใต้คอนเซปต์ “ครอบครัวเวฟเชื่อใจที่ 1” มาพร้อมสีสันใหม่ถึง 5 สี โดดเด่นอย่างมีสไตล์ด้วยลวดลายกราฟิกใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อครอบครัวเวฟ เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว

New Honda Wave110i ตัวจริงเรื่องประหยัด แรง ทนทาน ด้วยขุมพลัง Honda Smart Engine เทคโนโลยีที่ดีที่สุดของรถครอบครัว สมรรถนะแรงบิดสูง แข็งแรงทนทาน และให้อัตราการประหยัดน้ำมันเป็นที่ 1 ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 110 ซีซี ระบบหัวฉีด PGM – FI ให้อัตราประหยัดน้ำมันสูงถึง 76.9 กม./ลิตร วิ่งได้ไกลอย่างต่อเนื่องด้วย Fuel Tank ความจุ 5 ลิตร ให้ทุกการเดินทางไม่ว่าจะเป็นภาคไหนก็เป็นเรื่องง่าย สบายใจเสมอ ทั้งยังใช้งานสะดวกด้วยหน้าปัดเรือนไมล์แบบดิจิทัล

New Honda Wave110i มากับไฟหน้า LED Headlight ส่องสว่างเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น หน้าจอแสดงผล Meter with LCD ออกแบบแยกส่วน ให้ข้อมูลการใช้งานได้อย่างครบถ้วน พื้นที่ใต้เบาะ Big U-Box ขนาดใหญ่ 10 ลิตร เก็บของได้อย่างจุใจ

ไทยฮอนด้า พร้อมวางจำหน่าย New Honda Wave110i ทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นสตาร์ทมือ ล้อแม็ก มีให้เลือกทั้งหมด 5 เฉดสีใหม่ ได้แก่ สีเทา-ดำ (BLACK-GRAY), สีขาว-น้ำเงิน (WHITE-BLUE), สีแดง (RED), สีน้ำเงิน (BLUE), และสีดำ-เหลือง (BLACK-YELLOW) ราคาแนะนำ 46,900 บาท

รุ่นสตาร์ทมือ-สตาร์ทเท้า ล้อซี่ลวด มาพร้อม 3 สีใหม่ สีแดง-ดำ (RED-BLACK), สีน้ำเงิน-ดำ (BLUE-BLACK), สีดำ-เหลือง (BLACK-YELLOW) และสีดำ (BLACK) ราคาแนะนำ 44,900 บาท

และรุ่นสตาร์ทเท้า ล้อซี่ลวด ก็ยังคงมาพร้อมกับเฉดสีดำ (BLACK) เรียบหรู ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ราคาแนะนำ 44,200 บาท

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ New Honda Wave110i ได้ที่

เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th

เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า: www.facebook.com/hondamotorcyclethailand

IG: www.instagram.com/hondamotorcyclethailand

Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha

Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA

#NewWave110i #HondaWave110i #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #ครอบครัวเวฟเชื่อใจที่1

#ครอบครัวเวฟครอบครัวใหญ่เชื่อใจที่1 #ประหยัดแรงทน #HondaSmartEngine

#มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #Thaihonda #ไทยฮอนด้า