Husqvarna Work bikes FR 450 Rally

ค่ายรถจักรยานยนต์ Husqvarna เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตของยุโรปที่มีความเป็นมายาวนานโดยเฉพาะกับเกมการแข่งขันในระดับโลก แม้ปัจจุบันจะถูกซื้อกิจการโดย KTM แต่ก็ยังคงมีอิสระในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่งในปีนี้จากการแข่งขัน 2017Dakar Rally ถือว่า ทีมแฟคทอรี่ Husqvarna สามารถทำผลงานขึ้นมาได้ค่อนข้างดีมากกับโอกาสในการลุ้นแชมป์ ก่อนที่จะต้องถอนตัวในสองสเตจสุดท้ายจากการที่นักแข่งอย่าง Pablo Quintanilla จะมีอาการป่วย ทั้งที่สามารถทำเวลารวมตามมาเป็นอันดับสองของการแข่งขันแบบมีลุ้น

สำหรับตัวแข่ง FR450 Rally ที่ใช้ในการชิงชัย 2017 Dakar Rally เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้น แม้ว่าข้อมูลพื้นฐานของตัวรถจะระบุว่าใช้สเปคเดียวกับรถแข่งทั่วไปที่ซัพพอร์ทนักแข่งหรือลูกค้าทั่วไปที่ลงแข่งในรายการนี้ด้วย แต่ทว่าโดยความจริงแล้วชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ของ workbike ที่สองนักแข่งแฟคทอรี่ใช้นั้นได้รับการปรับแต่งเพิ่มเติมเพื่อเสริมสมรรถนะและความทนทานให้กับเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นด้วยพาร์ท คิทพิเศษ ในขณะที่ข้อมูลทั่วไปของตัวรถที่ได้รับการเผยแพร่นั้นเป็นข้อมูลพื้นฐานซึ่งมีรายละเอียดที่เปิดเผยได้ดังนี้คือ พื้นฐานเครื่องยนต์ที่ออกแบบใหม่จากเวอร์ชั่นปีที่ผ่านมา โดยยังคงพื้นฐานเครื่องยนต์แบบสี่จังหวะสูบเดียว SOHC ขนาด 449.3 ซีซี ที่มีขนาดกระบอกสูบxช่วงชัก อยู่ที่ 95×63.4 มม. ใช้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดไฟฟ้า Keihin EMS ที่มีขนาดเรือนลิ้นเร่ง 44 มม. ใช้คลัทช์แบบเปียกหลายแผ่นซ้อน โดยชัดควบคุมเป็นระบบคลัทช์แบบไฮดรอลิค พร้อมชุดเกียร์แบบ 6 สปีด

เฟรมโครงสร้างแชสซีส์ออกแบบให้มีความเพรียวบางคล่องตัวแต่มีความแข็งแกร่งด้วยเฟรมแบบ chrome-molybdenum steel trellis frame พร้อมระบบกันสะเทือนหน้าเป็นฟอร์คแบบอัพไซด์ดาวน์จาก WP ขนาด 48 มม. ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังนั้นเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง linkagesystem กับโช้คอัพหลังเดียวจาก WP
วงล้อเป็นชุดหน้า-หลัง จาก Excel ขนาด 1.60×21 นิ้ว กับ 2.50×18 นิ้ว ตามลำดับ พร้อมทั้งติดตั้งจานดิสก์เบรกหน้าขนาด 300 มม. ส่วนจานดิสก์เบรกหลังเป็นขนาด 240 มม. ด้วยเฟรมโครงสร้างที่ออกแบบของตัวรถเพื่อรองรับการแข่งขันในแบบแรลลี่นี้เอง ทำให้ต้องมีการออกแบบถังเชื้อเพลิงเพื่อให้มีความจุเชื้อเพลิงที่พร้อมรองรับการขับขี่ทางไกล โดยส่วนของถังเชื้อเพลิงนั้นออกแบบให้มีความแคบเพรียวไม่เทอะทะ ซึ่งแบ่งเป็นสองส่วน คือถังหน้ากับถังหลัง ที่มีความจุเชื้อเพลิงรวม 33 ลิตร

และที่พิเศษสำหรับรถแข่งแรลลี่นั้นก็คือ Cockpit ที่ต้องได้รับการออกแบบให้สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างสะดวกมีประสิทธิภาพ ซึ่งในภาษาวงการแรลลี่จะเรียกเจ้าชิ้นส่วนนี้ว่า navigation tower ที่ติดตั้งอุปกรณ์สำคัญต่างๆ เกี่ยวกับการนำทางไว้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องผลิตจากวัสดุที่แข็งแกร่งทนทานและน้ำหนักเบา ซึ่งโดยทั่วไป จะใช้วัสดุคาร์บอนฯ เป็นหลักนั่นเอง และนี่ก็คือภาพรายละเอียดของ workbike จาก Husqvarna Factory ที่พลาดโอกาสในการลุ้นแชมป์ 2017 Dakar Rally ไปอย่างน่าเสียดาย….

Montesa 4Ride ตัวลุยสไตล์ Adventure Trial จาก Honda-Montesa

หลังจากที่ประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจในช่วงปี 1991 ทำให้ทางโรงงานของ Montesa ตัดสินใจที่จะผลิตเพียงเฉพาะรถในกลุ่ม ไทรอัลเท่านั้น และในระหว่างนั้นเองก็ได้มีการพัมนาวิวัฒนาการผลิตเครื่องยนต์ในประเภทเครื่องยนต์แบบสี่จังหวะที่ทันสมัยขึ้นมา เคียงข้างกับเครื่องยนต์สองจังหวะ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ขนาดกะทัดรัดอย่าง Cota 4RT เป็นเครื่องยนต์สี่จังหวะสี่วาล์ว พร้อมระบบหัวฉีด PGM-FI ที่ได้รับการตอบรับด้วยดีในกลุ่มผู้ขับขี่รถประเภทไทรอัลรุ่นใหม่ พร้อมกับในช่วงเวลานี่เองที่ทางบริษัทเริ่มตัดสินใจที่จะรื้อโครงการพัฒนารถในแบบ Adventure trial กลับมาอีกครั้งเพื่อตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้ขับขี่

ด้วยนิยามการออกแบบรถรุ่นใหม่ที่พร้อมตอบสนองการขับขี่ในแบบออฟโรด สนุกสนานทุกรูปแบบการขับขี่ โดยเฉพาะการขึ้นเขา ที่ให้ความสบายในขณะฝ่าเส้นทางที่สำคัญ ต้องเป็นรถจักรยานยนต์ที่เปี่ยมสมรรถนะและคุณภาพในระดับเดียวกับ Cota4RT260, Race Replica, Cota300RR ที่เป็นรถในกลุ่มไทรอัลที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้นทางทีมงาน วิจัยและพัฒนาของ Honda Montesa ภายใต้การดูแลของ Honda Motor จึงได้พัฒนารถรุ่น 4Ride ออกมาสู่ตลาดรถจักรยานยนต์

4Ride เป็นรถรุ่นล่าสุดของ Honda Montesa จากฐานการผลิตที่ Santa Perpetua de Mogoda ในบาเซโลน่า ประเทศสเปน ที่จะส่งจำหน่ายไปทั่วโลก ที่มาพร้อมกับคำจำกัดความ คือ Offroad Adventure ด้วยพื้นฐานเครื่องยนต์แบบสี่จังหวะ ขนาด 258.9 ซีซี จากรุ่น Cota4RT260 กับ Race Replica แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ใหม่ให้มีความแตกต่างกับสเปคของรถในแบบไทรอัล ดังนั้น ในเครื่องยนต์ 4Ride จึงปรับมาใช้ชุดเดียร์บ๊อกซ์แบบ 5 สปีด ที่ให้อัตราทดเกียร์ที่ยาวขึ้น พร้อมกันนี้แม้จะใช้ระบบ ECU แบบเดียวกับในรุ่น Cota260 และ race replica แต่ได้มีการปรับค่าแมปปิ้งใหม่ ด้วยการกำหนดค่ากราฟเพื่อให้ได้ย่านกำลังที่ดีในช่วงรอบทำงานเครื่องยนต์ในย่านต่ำและกลาง อีกทั้งยังกำหนดให้ลดแรงเอ็นจิ้นเบรกลงจากเดิม เพื่อให้ได้การส่งกำลังที่นุ่มนวลมากขึ้น

สำหรับในส่วนของโครงสร้างแชสซีส์นั้น เป็นเฟรมและสวิงอาร์มอลูมินัมแบบเดียวที่ใช้กับรุ่น Cota 4RT260 เพียงแต่มีการปรับตำแหน่งเบาะนั่งที่ต่างออกไป โดยมีความสูงของตำแหน่งเบาะนั่ง 800 มม. ที่ทำให้มิติของตัวรถต่างออกไป เหมาะสำหรับการใช้ขับขี่ในแบบ Adventure Trial ซึ่งที่พื้นที่ใต้เบาะนั่งนี้จะมีที่ว่างสำหรับทำเป็นช่องเก็บของขนาดกะทัดรัดสำหรับใส่ของจำพวก ถุงมือ หรือแจ๊คเก็ตได้อีกด้วย และในส่วนของถังเชื้อเพลิงนั้นได้เพิ่มปริมาตรความจุจากขนาด 1.9 ลิตร ที่ใช้กับรถไทรอัลทั่วไป เป็นถังเชื้อเพลิงขนาด 4.4 ลิตร ที่สามารถตอบสนองระยะทางการขับขี่ได้ระยะทางถึง 120 กม. ซึ่งตัวรถมีน้ำหนักสุทธิเพียง 85 กก.

ข้อมูลพื้นฐานรถ

การจ่ายเชื้อเพลิง PGM FI electronic fuel injection
อัตราส่วนกำลังอัด 10,5 : 1
ปริมาตรเครื่องยนต์ 258.9 ซีซี
เครื่องยนต์ สูบเดียว 4จังหวะ4สูบ 4วาวล์ SOHC
ระบายความร้อนด้วยน้ำ
การติดเครื่องยนต์ สตาร์ทเท้า
เบรกหน้า hydraulic disc ขนาดจาน 185 มม.
พร้อมคาลิเปอร์โมโนบล๊อคแบบ 4สูบ
เบรกหลัง Hydraulic disc ขนาดจาน 183 มม.
พร้อม คาลิเปอร์แบบลูกสูบคู่
กันสะเทือนหน้า telescopic fork ขนาด 39 มม.
สามารถปรับ preload และ rebound damping ,
มีระยะยุบตัว 190มม.
กันสะเทือนหลัง Pro-Link ร่วมกับ ช๊อคอัพแบบ R16V
system, สามารถปรับ preload, มีระยะยุบตัว 170 มม.
ยางหน้า 80/100 21 (Dunlop)
ยางหลัง 120/100 R18 (Dunlop)
วงล้อหน้า 21 × 1,60
วงล้อหลัง 18 × 2,15
องศาแคสเตอร์ 23°
มิติรถ(ย×ก×ส) 2.034 × 832 × 1.160 มม.
เฟรม Double aluminum beam
ความจุถังเชื้อเพลิง 4.4 ลิตร
ระยะห่างจากพื้น 330 มม.
ความสูงเบาะนั่ง 885 มม.
ระยะเทรล 28 มม.
น้ำหนัก 81 กก.
วีลเบส 1333 มม.
คลัทซ์ แบบเปียกหลายแผ่นซ้อน
ระบบควบคุมคลัทซ์ Hydraulic
การส่งกำลัง โซ่
เกียร์บ๊อกซ์ 5 สปีด

 

YZF-R1

เครื่องยนต์
 แบบ ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีด  4 จังหวะ/ 4 สูบ
 ปริมาตรกระบอกสูบ  998 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด  13:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก  79.0 * 50.9 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด  จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์  คลัทช์เปียก
 ระบบเกียร์  6 สปีด
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทไฟฟ้า
น้ำมันเชื้อเพลิง  91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  17 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  –
กว้าง*ยาว*สูง  2055 * 690 * 1150 มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม 199 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า :เทเลสโคปิคโช้คหัวกลับพร้อมปรับตั้งได้

หลัง :อลูมิเนียม สวิงอาร์ม พร้อมโช้คอัพปรับตั้งได้

ระบบเบรก

หน้า : ABS ดิสก์เบรกคู่ไฮดรอริก 320 มม.

หลัง : ABS ดิสก์เบรกคู่ไฮดรอริก 220 มม

ยาง/ล้อ

หน้า : 120/70 ZR 17 M/C 58W

หลัง : 190/55 ZR 17 M/C 75W

XSR900

เครื่องยนต์
 แบบ ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีด  4 จังหวะ/ 3 สูบ
 ปริมาตรกระบอกสูบ  847 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด  11.5:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก  79.0 * 50.9 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด  จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์  คลัทช์เปียก
 ระบบเกียร์  6 สปีด
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทมือ
น้ำมันเชื้อเพลิง  91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  14 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  –
กว้าง*ยาว*สูง  2075 * 815 * 1135 มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม 195 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า :

หลัง :

ระบบเบรก

หน้า : ABS ดิสก์เบรกคู่ไฮดรอริก 320 มม.

หลัง : ABS ดิสก์เบรกคู่ไฮดรอริก 220 มม

ยาง/ล้อ

หน้า : 120/70 ZR 17 M/C 58W

หลัง : 190/55 ZR 17 M/C 75W

Super Tenere

เครื่องยนต์
 แบบ ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีด  4 จังหวะ/ 2 สูบ
 ปริมาตรกระบอกสูบ  1199 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด  10.5:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก  90.0 * 79.5 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด  จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์  คลัทช์เปียก
 ระบบเกียร์  6 สปีด
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทมือ/สตาร์ทเท้า
น้ำมันเชื้อเพลิง  91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  17 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  –
กว้าง*ยาว*สูง  2250 * 980 * 1410 มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม 210 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า :เทเลสโคปิคโช้คหัวกลับพร้อมปรับตั้งได้

หลัง :อลูมิเนียม สวิงอาร์มพร้อมโช้คอัพแบบตั้งได้

ระบบเบรก

หน้า : ABS ดิสก์เบรกคู่ไฮดรอริก 310 มม.

หลัง : ABS ดิสก์เบรกเดี่ยวไฮดรอริก 282 มม

ยาง/ล้อ

หน้า : 110/80 R 19 M/C 59V

หลัง : 150/70 R 17 M/C 69V

QBIX

เครื่องยนต์
 แบบ ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีด  4 จังหวะ/ 1 สูบ
 ปริมาตรกระบอกสูบ  125 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด  9.5:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก  52.4 * 57.9 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด  จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์
 ระบบเกียร์  ออโต้
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทมือ
น้ำมันเชื้อเพลิง  91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  4.2 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  0.9 ลิตร
กว้าง*ยาว*สูง  1860 * 715 * 1115 มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม 127 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า : เทเลสโคปิค

หลัง : ยูนิตสวิง

ระบบเบรก

หน้า : ดิสก์

หลัง : ดรัมเบรก

ยาง/ล้อ

หน้า : 130/70-12 56L แบบไม่มียางใน

หลัง : 140/70-12 60L แบบไม่มียางใน

MT-10

เครื่องยนต์
 แบบ ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีด  4 จังหวะ/ 4 สูบ
 ปริมาตรกระบอกสูบ  998 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด  10.5:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก  79.0 * 50.9 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด  จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์  คลัทช์เปียก
 ระบบเกียร์  6 สปีด
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทมือ/สตาร์ทเท้า
น้ำมันเชื้อเพลิง  91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  17 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  –
กว้าง*ยาว*สูง  2095 * 800 * 1110 มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม 210 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า :

หลัง :

ระบบเบรก

หน้า : ABS ดิสก์เบรกคู่ไฮดรอริก 320 มม.

หลัง : ABS ดิสก์เบรกคู่ไฮดรอริก 220 มม

ยาง/ล้อ

หน้า : 120/70 ZR 17 M/C 58W

หลัง : 190/55 ZR 17 M/C 75W

 

Grand Filano

เครื่องยนต์
 แบบ ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีด  4 จังหวะ/ 1 สูบ
 ปริมาตรกระบอกสูบ  125 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด  11.0:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก  52.4 * 57.9 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด  จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์  คลัทช์แห้ง
 ระบบเกียร์  ออโต้
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทมือ/สตาร์ทเท้า
น้ำมันเชื้อเพลิง  91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  4.4 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  0.9 ลิตร
กว้าง*ยาว*สูง  740 * 1955 * 1115 มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม 99 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า : โช้คหน้าแบบเทเลสโคปิค

หลัง : โช้คอัพคู่พร้อมสวิงอาร์ม

ระบบเบรก

หน้า : ดิสก์

หลัง : ดรัม

ยาง/ล้อ

หน้า : 110/70-12 47L

หลัง : 110/70-12 47L

Bolt C

เครื่องยนต์
 แบบ ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีด  4 จังหวะ/ 2 สูบ
 ปริมาตรกระบอกสูบ  942cc
 อัตราส่วนกำลังอัด  10.5:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก 90. : 1
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด  จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์  คลัทช์เปียก
 ระบบเกียร์ 5 ระดับ
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทมือ/สตาร์ทเท้า
น้ำมันเชื้อเพลิง  –
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  12 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  0.9 ลิตร
กว้าง*ยาว*สูง  2295 * 775 * 1160 มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม 246 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า :

หลัง :

ระบบเบรก

หน้า : ดิสก์เบรกเดี่ยวไฮดรอริก

หลัง : ดิสก์เบรกเดี่ยวไฮดรอริก

ยาง/ล้อ

หน้า : 100/90B19M/C 57H

หลัง : 150/80B16M/C 71H

 

AEROX 155

เครื่องยนต์
 แบบ ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีด  4 จังหวะ/ 1 สูบ
 ปริมาตรกระบอกสูบ  155 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด  10.5:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก  58.0 * 58.7 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด  จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์  คลัทช์แห้ง
 ระบบเกียร์  ออโต้
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทมือ
น้ำมันเชื้อเพลิง  E20,91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  6.6 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  0.9 ลิตร
กว้าง*ยาว*สูง  740 * 1955 * 1115 มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม 127 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า : โช้คหน้าแบบเทเลสโคปิค

หลัง : โช้คอัพคู่พร้อมสวิงอาร์ม

ระบบเบรก

หน้า : ดิสก์

หลัง : ดรัมเบรก

ยาง/ล้อ

หน้า : 110/80-14M/C 53P

หลัง : 140/70-14M/C 62P

TTX EXTREME MONSTER

ไอเดียสไตล์การแต่งสุดอินเทรนด์ กับรถจักรยานยนต์ Yamaha TTX ออโตเมติกสายพันธุ์ใหม่ ดีไซน์สุดเท่ห์ บิดสุดมัน ในสไตล์เอ็กซ์ตรีมลูกครึ่งทางเรียบ กับ วิบาก ที่ถูกจับมาอยู่รวมกันในรถจักรยานยนต์ออโตเมติกคงเคยได้เห็นผ่านสายตากันไปบ้างแล้วกับสไตล์การแต่งรถ Yamaha TTX โดยสำนักแต่งต่างๆ จัดกันมาแบบเต็มที่นำเสนอไอเดียใหม่ๆ เป็นแนวทางในการแต่งรถให้กับกลุ่มวัยรุ่น แต่ละคันเท่ห์ไม่แพ้กันเป็นอีกหนึ่งของรถจักรยานยนต์เทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรง

ความโดดเด่นไม่ต้องพูดถึงสภาพรูปร่างหน้าตาเดิมๆ ก็โดนใจเต็มๆ แล้ว แต่ยังไม่พอเพิ่มสำหรับสาวกออโตเมติกยามาฮ่า จัดหนักเข้าไปอีกกับสไตล์การแต่งระดับเทพ ทั้งสีสันใหม่ ดุ เข้ม ใช้สีดำด้านเป็นพื้นหลักและตัดด้วยสีเขียวมะนาว ใส่ลายของ MONSTER ENERGY หนึ่งในผู้สนับสนุนทีมแข่งระดับโลกของทีมยามาฮ่าในการแข่งขัน MotoGP นอกนั้นยังเพิ่มเติมความเท่ห์ระดับเทพด้วยออพชั่นเสริมสไตล์เอ็กซ์ตรีม วงล้อแม็กขนาด 12 นิ้ว ดิสก์เบรกหน้าจานเดี่ยวแบบให้ตัวด้วยโฟลท์ติ้งอลูมินัม คาลิเปอร์ Frondo ชุบโครเมี่ยม 4 พอร์ท สายถักสแตนเลสหุ้มยางเขียว กระบอกโช้คอัพคู่ใหม่ Upside down ของเล่นสุดอินเทรนด์จาก Gazi แกนโคสติ้งช่วงบนแฮนด์บาร์เสริมด้วยการ์ดแฮนด์สไตล์วิบาก ก้านเบรกขาพับ และกระจกมองหลังทรงสปอร์ต นั่งสบายๆ กับเบาะปาดแต่งเรียบๆ พักเท้าจัดให้มันกันแบบเรซซิ่งเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งสเต็ป ยกชุดเกียร์โยงอลูมินัมมาวางขนาบข้างให้อารมณ์แบบเรซซิ่งสปอร์ตช่วงหลังเด่นด้วยโช้คอัพเดี่ยวแบบยูนิตสวิง ใช้ระบบแก๊ส+น้ำมัน ของ Gazi มีซับแท้งค์บิ้วท์อิน กรองอากาศต่อยื่นออกด้านข้างทรงกระบอกอลูมินัม ฝาครอบสายพานไล่โทนสี คันสตาร์ทขาอลูมินัม CNC ดรัมเบรกหลังมือลิงอลูมินัมทรงโค้ง พักเท้าหลังสไตล์เอ็กซ์ตรีมพิมพ์ลายกันลื่น และปิดท้ายด้วยท่อเสียปลายเคฟล่าร์เสริมสมรรถนะเครื่องยนต์ให้บิดมันเร้าใจมากยิ่งขึ้น

สวยเด่นน่าขับขี่ อัดแน่นด้วยออพชั่น รับรองแต่งสไตล์นี้โดนใจวัยรุ่นแน่นอน…หรือว่าไม่จริง

ชิพ-นครินทร์ ลัดฟ้าสู่ฝรั่งเศส ลุยศึก โมโตทรี สนาม 5 หวังเก็บแต้มฝากคนไทยให้ได้

นครินทร์ อธิรัฐภูวิภัทร์ นักบิดชาวไทยสังกัด เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิง ไทยแลนด์ เดินทางสู่สมรภูมิแข่งขันรถจักรยานยนต์ระดับโลก โมโตทรี สนามที่ 5 ของปีที่ ฝรั่งเศส ด้านนักบิดดาวรุ่งหนึ่งเดียวของไทยพร้อมบิดท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น ด้าน “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ผู้ช่วยโค้ช แนะปรับตัวให้เข้ากับการขับขี่ในสภาพอากาศที่ต่างจากสนามอื่น ศึกรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รุ่น โมโตทรี เดินทางมาถึงสนามที่ 5 ของปีแล้ว โดยจะแข่งขันกันที่สนาม เลอ มังส์ สังเวียนชิงชัยสุดคลาสสิคของวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศฝรั่งเศส โดยการแข่งขันครั้งนี้ “เจ้าชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวิภัทร์ นักบิดหมายเลข 41 หนึ่งเดียวจากเมืองไทย เข้าร่วมการประลองความเร็วร่วมกับนักบิดจากทั่วทุกมุมโลกเช่นเคย โดย นครินทร์ ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK419 เมื่อค่ำวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ก่อนเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและรถที่ใช้แข่งขันกับทีมงานของ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ต้นสังกัดจากญี่ปุ่น เพื่อลงแข่งขันที่ เลอ มังส์ ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 19-21 พฤษภาคม 2560 ซึ่งเจ้าตัวก็ยืนยันพร้อมสู้เพื่อนำผลการแข่งขันที่ดีกลับมาฝากแฟนๆ ชาวไทย “เลอ มังส์ เป็นสนามที่ผมเคยลงแข่งขันในรายการ CEV Repsol เมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นสนามที่สนุกและท้าทายเพราะมีโค้งตัวเอสเยอะ ดังนั้นต้องตั้งสมาธิดีๆ เก็บรายละเอียดให้ครบถ้วน ขณะที่เรื่องสภาพอากาศของฝรั่งเศสช่วงนั้นค่อนข้างเย็น ต่างจากสนามอื่น แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญ ส่วนเป้าหมายก็หวังถึงผลการแข่งขันที่ดี พยามจะเก็บแต้มให้ได้ และทำผลงานอย่างสุดความสามารถ” เจ้าชิพ กล่าว
ส่วน “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักบิดระดับโลกชาวไทย มอบคำแนะนำเพิ่มเติมแก่นักแข่งรุ่นน้องว่า “เรื่องของสนาม ชิพ น่าจะมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะเคยลงสนามแข่งขันมาแล้ว แต่ที่อยากแนะนำเพิ่มเติมคือการปรับตัวกับสภาพอากาศให้ได้โดยเร็ว นอกจากนี้ ด้วยความที่อากาศในฝรั่งเศสช่วงนี้ค่อนข้างเย็น แถม โมโตทรี ยังแข่งก่อนรุ่นอื่น พื้นแทร็คอาจมีผลต่อการยึดเกาะของยาง ดังนั้นต้องพูดคุยและวางแผนกับทีมงานให้ดี มีสมาธิ และเอาผลการแข่งขันที่ดีกลับมา” สำหรับศึก โมโตทรี สนามที่ 5 รายการ “เฟรนช์ กรังด์ ปรีซ์” ที่สนาม เลอ มังส์ ประเทศฝรั่งเศส จะทำการแข่งขันรอบควอลิฟาย วันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม 2560 ก่อนลงแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม 2560 โดยแฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ร่วมติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ ของนักบิด เอ.พี.ฮอนด้า