ยามาฮ่าผนึกกำลัง ปตท. และซิมเพนกวิน ส่งแคมเปญฟินน์ ฟินน์ “เติมปั๊บรับ 3 ต่อ”

ยามาฮ่าผนึกกำลัง ปตท. และซิมเพนกวิน ส่งแคมเปญฟินน์ ฟินน์ “เติมปั๊มรับ 3 ต่อ” เติมน้ำมันรับค่าโทรค่าเน็ตฟรี พร้อมลุ้น ยามาฮ่า ฟินน์ 50 คัน!!!

นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์  ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และดร. ชัยยศ จิรบวรกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารซิมเพนกวิน ในงานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ “เติมปั๊มรับ 3 ต่อ” เมื่อเติมน้ำมัน ปตท. ตั้งแต่ 50 ถึง 100 บาท จะได้รับค่าโทรค่าเน็ตฟรี ตลอดปี ซึ่งเป็นการคืนกำไรให้ลูกค้าแบบง่ายๆ พร้อมลุ้นรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟินน์ 50 คัน แจกจริงแจกกันยาวนานถึง 1 ปีเต็ม ตลอดปี 2561 นี้ โดยงานแถลงข่าวมีขึ้น ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถ.วิภาวดี – รังสิต เมื่อเร็วๆ นี้

ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของเวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) อีกหนึ่งกุญแจสำคัญ เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้ พิอาจิโอ กรุ๊ป ระดับภูมิภาค

บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ชั้นนำ “พิอาจิโอ” และ “เวสป้า” พร้อมทั้งมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน “อาพริเลีย” และ “โมโต กุซซี่” สัญชาติอิตาเลี่ยนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ต้อนรับการมาเยือนของผู้บริหารระดับสูงจากพิอาจิโอ กรุ๊ป มร. จิอานลูกา ฟิอูเม (Mr. Gianluca Fiume) ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการทั่วไป บริษัท พิอาจิโอ เวียดนาม และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท พิอาจิโอ เอเชีย แปซิฟิก สายงานกลุ่มธุรกิจสองล้อ เนื่องในโอกาสการเติบโตขึ้นของการดำเนินธุรกิจจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมเวสป้าในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงความสำเร็จในการดำเนินงานของ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด และเนื่องในโอกาสพิเศษของการมาถึงของ (VESPA 946) RED สุดยอดรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมเวสป้าดีไซน์สุดหรูเพื่อการกุศลอีกด้วย

มร. จิอานลูกา ฟิอูเม และคุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ ได้ร่วมเปิดตัวสุดยอดรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมที่มาพร้อมความหรูหราและคลาสสิก ด้วย (VESPA 946) RED โดยเวสป้ารุ่นพิเศษนี้เป็นการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างพิอาจิโอ กรุ๊ป และ (RED) เพื่อร่วมระดมทุนจากทั่วโลกด้วยการจัดจำหน่ายรถรุ่นนี้ เพื่อมอบให้แก่องค์กรที่ต้านภัยจากโรคเอดส์
วัณโรค และมาลาเรีย เพื่อร่วมแก้ปัญหาสำคัญดังกล่าวของโลกให้หมดไป
“สำหรับ (VESPA 946) RED  คือที่สุดของงานดีไซน์ร่วมสมัยที่เปี่ยมไปด้วยความงดงามของรูปทรงรถ และเป็นครั้งแรกที่ได้รับการออกแบบให้เป็นสีแดงทั้งคัน โดยทุกรายละเอียดต่างๆ ได้ผ่านการคิด และผ่านการผลิตด้วยความประณีต ผสานด้วยสุดยอดเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการจัดจำหน่าย (VESPA 946) RED  โดยทุกๆ การจัดจำหน่าย ท่านมีส่วนร่วมในการบริจาค 150 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 5,000 บาท ต่อคัน ให้แก่ Global Fund เพื่อต่อต้านภัยจากโรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย

สำหรับ (VESPA 946) RED  โดดเด่นด้วยดีไซน์ของความเป็นสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมแห่งอนาคต โดยตัวถังทำจากเหล็กกล้าให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่ง และตกแต่งด้วยวัสดุอะลูมิเนียมในส่วนบังโคลนซึ่งให้ความรู้สึกที่หรูหราและคลาสสิกไปพร้อมๆ กัน นอกเหนือไปจากสุดยอดงานดีไซน์บน (VESPA 946) RED  แล้วนั้น สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมแห่งอนาคตคันนี้ยังเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วยเครื่องยนต์
สูบเดี่ยว 155 ซีซี 4 จังหวะ 3 วาลว์ มาพร้อมกับระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ โดยช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการลดการปล่อยไอเสียได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งเครื่องยนต์ยังมีเสียงเบา ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศแบบหมุนวน และยังมีระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่าด้วยระบบเบรก ABS ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง เพิ่มความมั่นใจอีกขั้นด้วยระบบ ASR (Anti-Slip Regulation) ที่ช่วยป้องกันการลื่นไถลของรถแม้ต้องเผชิญกับสภาพพื้นผิวถนนที่ไม่ปรกติ เช่น ถนนลื่น เป็นต้น
(VESPA 946) RED  มาพร้อมกับชุดอุปกรณ์ตกแต่งที่หลากหลายให้ตกแต่งเวสป้ารุ่นพิเศษนี้ให้กลายเป็นคันพิเศษที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร

สำหรับ (VESPA 946) RED มีวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว โดยสนนราคาที่ 599,000 บาท ท่านที่สนใจสามารถเข้าสัมผัสตัวจริง และสั่งจอง (VESPA 946) RED  ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายเวสป้าทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ได้ที่  www.vespa.co.th หรือ www.facebook.com/vespathailand และอินสตาแกรม @vespathailand

NEWKTM 390DUKE

ปีศาจสีส้ม หรือ The Beast ซึ่งเป็นสมญานามของมอเตอร์ไซค์รุ่นดู๊ค (Duke) ที่เปี่ยมด้วยเครื่องยนต์อันทรงพลัง น้ำหนักที่เหมาะสม คล่องตัว และการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แข็งแกร่ง ปราดเปรื่อง และดุดันนั้น ได้เวลาที่จะพบกับ “KTM 390 DUKE” โฉมใหม่ ที่แฟนๆ ชาวไทยหลายๆ คนต่างรอคอย ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่โดดเด่นและพกพาดีกรีความสนุกในการขับขี่ที่จัดจ้านเกินพิกัดความจุของตัวเอง

เครื่องยนต์สูบเดี่ยว 4 จังหวะ 4 วาล์ว DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุกระบอกสูบ 373.2 ซีซี แรงบิด 37นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที 44 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที ระบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงหัวฉีด Bosch EFI เรือนลิ้นเร่ง 46 มม.สำหรับ “KTM 390 DUKE” โฉมใหม่ โดดเด่นด้วยสุดยอดจอควบคุมแบบ “TFT Display” แบบมัลติฟังก์ชั่นอเนกประสงค์และอินเตอร์เฟสสุดล้ำ ช่วยยกระดับการแสดงข้อมูลการขับขี่อีกขั้นและมี KTM MY RIDE เป็นแพ็คเกจเสริมที่สามารถติดตั้งเพิ่มได้ โดยระบบ KTM MY RIDE นี้สามารถเชื่อมต่อบลูทูธผสานการทำงานกับสมาร์ทโฟนเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถใช้โทรศัพท์ได้ในแบบแฮนด์ฟรี รวมถึงฟังเพลงอย่างเพลิดเพลินขณะขับขี่ได้โดยผสานการทำงานเข้ากับหน้าจอทีเอฟทีซึ่งสั่งงานได้จากปุ่มเมนูบนแฮนด์ของรถ ตอบสนองการเดินทางของชีวิตคนยุคใหม่ใน DUKE R เริ่มจากชุดไฟหน้าแบบแอลอีดีใหม่ที่สะดุดตา ให้ความรู้สึกดุดัน มีรูปทรงของตัวถังที่แข็งแรง โฉบเฉี่ยวและเฉียบคมยิ่งขึ้น พร้อมส่วนของเบาะนั่งที่เผยโครงรถในมิติที่ดูสปอร์ตมากขึ้น รวมถึงเฟรมเสริมแบบยึดด้วยสลักเกลียว (Bolt-on Subframe) แบบใหม่ที่ดูโดดเด่นกว่าเดิม ส่วนการออกแบบทางสรีระศาสตร์ได้รับการปรับเปลี่ยน ด้วยท่านั่งที่ให้ควบคุมรถได้ดีขึ้นแต่ยังคงความสบาย ขณะที่ถังน้ำมันนั้นเพิ่มความจุมากขึ้นเป็น 13.4 ลิตร (มากกว่าเดิมถึง 2.4 ลิตร)

โครงสร้างตัวรถและส่วนประกอบของระบบเบรกชั้นเยี่ยมที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นโหมดการขับขี่แบบ Supermoto ได้แล้ว ระบบกันสะเทือน WP Suspension ยังยกใหม่หมดทั้งด้านหน้าและด้านหลังยิ่งเพิ่มศักยภาพให้ KTM 390 DUKE ก้าวล้ำขึ้นไปอีกขั้นสำหรับการใช้งานบนเส้นทางที่หลากหลาย ด้วยระบบดูดซับแรงสะเทือนที่ใช้เทคโนโลยี Open-cartridge Fork ลูกสูบแยก ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับทั้งความสบายในการเดินทางและความมั่นใจในการควบคุมรถ พร้อมกับราคาเปิดตัวแนะนำที่ 199,000 บาท เท่านั้น

A.P.Honda Racing Championship 2017 Round 5:

เอ.พี.ฮอนด้า รังสรรค์บรรยากาศ “คริสมาส เดย์ 2017” แดงอร่ามสนามแข่งไทยแลนด์เซอร์กิต เพิ่มความสนุกสุดมันส์ให้เกม “เอพีอาร์ซี” ส่งท้ายปีระกา การแข่งขัน A.P.Honda Racing Championship 2017 สนามที่5 สุดคึกคักและยิ่งใหญ่สมกับเป็นเกมมอเตอร์สปอร์ตส่งท้ายปีระกา เมื่อ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด รังสรรค์บรรยากาศ “คริสมาส เดย์ 2017” ย้อมสนามแข่งไทยแลนด์เซอร์กิตให้เต็มอิ่มด้วยโทนแดง-ขาว เข้ากับช่วงเทศกาลคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เพื่อต้อนรับสมาชิกฮอนด้า คลับ เรือนพัน ที่ห่มอาภรณ์สีแดงเข้าชมและเชียร์การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ เอ.พี.ฮอนด้า สนามรองสุดท้ายของฤดูกาล 2017

ซึ่งเป็นรายการแข่งขันที่ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด สนับสนุนให้ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทำทีมแข่งของตนเอง เพื่อพัฒนาศักยภาพและทักษะของบุคลากรในร้าน และนำประสบการณ์จากมอเตอร์สปอร์ตไปพัฒนาการให้บริการแก่ลูกค้า ต้นคริสต์มาส ที่แต่งแต้มด้วยดวงดาวแห่งโชคลาภ เป็นทั้งแลนด์มาร์กและไฮไลท์ของบรรยากาศคริสต์มาส เดย์ พร้อมซุ้มเกมส์ต่างๆ ที่เรียงร้อยรางวัลเตรียมให้กับสมาชิกฮอนด้า คลับ ได้ขนกลับบ้านกันแบบล้นมือ และซุ้มอาหารที่หลากหลายรสชาติอัดแน่นด้วยความอร่อยชนิดเติมกันจนอิ่มแปร้

พร้อมด้วยลานโชว์ CB150R นับสิบคันที่ถูกรังสรรค์จากไอเดียสำนักแต่งการันตีด้วยรางวัลจากการประกวด อวดโฉมริมแทร็ค โชว์แด้นซ์สนุกๆ เข้าลุคคริสมาส และการประกวดเรซ ควีน สีสันคู่เกมเอพีอาร์ซีมาตลอด

ขบวนพาเหรดสง่างามชักแถวนำบรรดาสาวๆแซนตี้และรถแข่งเข้าสนาม คุณอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด นำทีมผู้บริหาร เอ.พี.ฮอนด้า พร้อมด้วยผู้บริหารจากยางรถจักรยานยนต์ไออาร์ซี, โซ่และสเตอร์ดีไอดี และสนามแข่งรถไทยแลนด์เซอร์กิต ผู้สนับสนุนการแข่งขัน ทำพิธีเปิดการแข่งขันอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยความมันส์ถึง 6 รุ่นการแข่งขัน ประกอบด้วย

รุ่น Honda MSX125SF Super Challenge

รุ่น Honda CBR300R Super Star D1

รุ่น Honda CBR300R Super Star D2

รุ่น Honda CBR500R Super Star

รุ่น Honda CBR650F Super Star

รุ่น Honda CBR1000RR Super Star

และการแข่งขัน A.P.Honda Racing Championship 2017 สนามสุดท้าย เอ.พี.ฮอนด้า จะ เนรมิตสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ด้วยบรรยากาศเฉลิมฉลองชัยพร้อมพิธีมอบแชมป์เปี้ยนอย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ 2561

ผลการแข่งขัน สนามที่5

รุ่นHonda MSX125SF Super Challenge

1.บุญญชัย ประยูรญาติ(69) ทีมฮอนด้าประสิทธิ์มอเตอร์สระแก้ว สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น

2.ชานนท์ อินทร์ต๊ะ(46) ทีมฮอนด้าสยามกิจ AVRP Racing ลำปลายมาศ

3.ภานุพัฒน์ จันทร์ประกอบ(158) ทีมเตชอัมพร

4.อดิรุจ เส็มไข(50) ทีมTrang Motorcycle Racing

5.สวพล นิลพงษ์(2) ทีมPhuket S.T. Racing

รุ่นHonda CBR300R Super Star D1

1.ตะวัน ตั้งจิตเจริญกุล(69) ทีมฮอนด้าประสิทธิ์มอเตอร์สระแก้ว สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น

2.ศิริพจน์ พราหมโสภณ(99) ทีมพรนุภาพ

3.ภิวัฒน์ อาจทวีกูล(55) ทีมB R Y Speed Racing 2

4.อดิศักดิ์ หลงหา(91) ทีมArkom Racing

5.ธเนศ บุญเรือง(44) ทีมชาญธุรกิจ(1990) เรซซิ่ง

รุ่นHonda CBR300R Super Star D2

1.ณภัทร แสงสุวรรณ(169) ทีมฮอนด้าประสิทธิ์มอเตอร์สระแก้ว สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น

2.ชยาวิชญ์ กล่อมเกลี้ยง(10) ทีมฉะเชิงเทราชัยเจริญมอเตอร์ เรซซิ่ง

3.ถวิล เจียงรัมย์(66) ทีมB R Y Speed Racing 1

4.ภาณุพงศ์ พลายชนะ(2) ทีมPhuket S.T. Racing

5.อดิรุจ เส็มไข(50) ทีมTrang Motorcycle Racing

รุ่นHonda CBR500R Super Star

1.ประวิทย์ คำแดงสด เบอร์7 ทีมปิยะ บิ๊กไบค์

2.นัทนันท์ ศรีไหม(333) ทีมBigWing Chiangmai Tor Taozing

3.ชุมพล บุญฐิติพันธุ์ (49) ทีมNut Racing

4.พิศณุ นิราช(29) ทีมKrirkKrai Racing

5.กฤษฎา พรมนิกร(9) ทีมHonda BigWing Rama3 Racing

รุ่น Honda CBR650F Super Star

1.ศิวกร สุวิพร(5) ทีมศรีสมบูรณ์บิ๊กไบค์ เรซซิ่ง

2.จอนนี้ อันวา(52) ทีมพรนุภาพ

3.อิศรชว เขมากรณ์(19) ทีมHonda BigWing Rama3 Racing

4.มนตรี อินทะเรืองศร(34) ทีมBigWing Nhakonsawan

5.ธีระยุทธ ประทุมเทศ(99) ทีมHonda BigWing Rama3 Racing

รุ่น Honda CBR1000RR Super Star

1.ศิริพจน์ พราหมโสภณ(81) ทีมพรนุภาพ

2.วิทวัส คัมภีระ(222) ทีมBigWing Chianmai Tor Taozing

3.วรวุฒิ วะสินนิธิวงศ์(11) ทีมLo Heng Mong BigBike Racing

4.พุฒิสรรค์ ธีรพันธ์สกุล(48) ทีมB R Y Speed Racing 3

5.สรสิทธิ์ ลรานะพันธุ์(77) ทีมพรนุภาพ

 

คาวาซากิเปิดไลน์อัพ รุกตลาดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ พร้อมโปรโมชั่นแรง! ส่งท้ายปี

บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จากัด ได้เข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 หรือ Thailand International Motor Expo 2017 โดยในปีนี้คาวาซากิได้นำรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่มาเปิดตัวภายในงานด้วยกันทั้งหมด 7 รุ่น เพื่อส่งมอบประสบการณ์ขับขี่และความสนุกสนานให้แก่แฟนๆนักบิด และบรรดานักแข่งทั้งหลาย
โดยปีนี้คาวาซากิมีการเปิดตัวรถใหม่ด้วยกันถึง 7 รุ่น ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ ตระกูล Ninja ตระกูล Z และ ตระกูล W ซึ่งตัวไฮไลท์ คือ Ninja H2 SX (SE) รถสปอร์ตทัวร์เรอร์ ที่ได้พัฒนามาจาก Ninja H2 เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน และภายในงานยังมีโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมาย ที่คาวาซากิจัดเต็มมาส่งท้ายปีกันอย่างจัดเต็ม Ninja H2 SX [SE] รถสปอร์ตทัวร์เรอร์ ที่จะมาชาร์ทพลังในการเดินทางของคุณให้เร้าใจมากยิ่งขึ้น โดยมาในคอนเซ็ปต์ “Supercharge Your Journey” ด้วยขุมพลังของซูเปอร์ชาร์จแรงม้าสูง การปรับพัฒนาให้รถจักรยานยนต์ที่เร็วที่สุดในสายพันธุ์สปอร์ต สามารถขับขี่ได้บนท้องถนนเพื่อการท่องเที่ยวในรูปแบบทัวร์เรอร์ โดดเด่นด้วยการส่งกำลังที่ได้รับการปรับมาเป็นพิเศษนี้เหมาะกับการขับขี่เป็นระยะทางไกล การใช้งานในชีวิตประจาวัน ยิ่งไปกว่านั้น Ninja H2 SX [SE] ยังสามารถแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางร่วมกันกับผู้โดยสารด้วยเบาะท้ายกว้างขวางนั่งสบาย ให้ความผ่อนคลายและสนุกสนานเมื่อคุณเดินทางไกล ผลลัพธ์ใหม่ล่าสุดที่คาวาซากิมอบให้แก่นักเดินทางทุกท่าน Ninja ZX-10R [SE] รถซูเปอร์สปอร์ตสายพันธ์ุแชมป์ ที่ได้รับการพัฒนามาจาก Ninja ZX-10R เจ้าแห่งสนามการแข่งขันมาหลายรายการ ล่าสุดกับ WorldSBK Championship ที่ทางคาวาซากิ คว้าแชมป์ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ตอกย้ำสมรรถนะภาพของรถที่เหนือกว่า ซึ่ง Ninja ZX-10R SE นั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่คาวาซากิได้พัฒนาขึ้นมากับระบบ KECS (Kawasaki Electronic Control Suspension) คือระบบไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับโช้ค Showa ทั้งด้านหน้าและหลัง โดยมีให้เลือกปรับเปลี่ยน 3 โหมดประกอบด้วย Road, Track, และ Manual พร้อมที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้ขับขี่

 

Ninja 400 / Ninja 250 สปอร์ตโมเดลใหม่ คมเข้มสไตล์นินจา สมรรถนะอันเหนือชั้นด้วยขุมพลังและแซสซีใหม่แบบ All-new การควบคุมที่คล่องตัวตามสั่ง ทั้งยังมีตำแหน่งท่านั่งแบบสปอร์ตซึ่งทำให้นินจารุ่นใหม่นี้กลายเป็นรถที่ครบถ้วนทั้งความความสนุกสนานและขับขี่ง่ายในคันเดียวกัน ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ ทำให้ Ninja 400 สามารถคว้าตำแหน่งรถยอดนิยมของผู้รักการขับขี่รถจักรยานยนต์ไปครองได้อีกครั้งอย่างแน่นอน Z900RS / Z900RS Café รถสไตล์เรโทร ที่ผสมผสานความโมเดิร์นและความคลาสสิคให้เข้ากับยุคกับสมัยในปัจจุบัน โดยใช้เครื่องยนต์และโครงสร้างร่วมกับ Kawasaki Z900 มาในคอนเซ็ปต์ “True Spirit” รถจักรยานยนต์เรโทรเน็กเก็ด ขนาด 900 ซีซี 4 สูบเรียง การนำเอาจิตวิญญาณของโมเดลในตำนานอย่าง Z1 ปี ปี 1972 มาใช้ แต่ได้รับการเติมเต็มอารมณ์แบบคาเฟ่ด้วยเฉดสีและลวดลายกราฟฟิคอันโดดเด่น สะกดทุกสายตาความงดงามด้วยการออกแบบอย่างปราณีตลงตัว แต่คงไว้ซึ่งพละกำลังมหาศาล สำหรับผู้ขับขี่ที่กาลังมองหารถจักรยานยนต์ที่มีคาแรคเตอร์ และประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน Z900RS และ Z900RS Cafe คือรถที่มีทั้งสองคุณสมบัติแบบครบถ้วน นอกจากจะวิ่งได้ตามใจสั่งแล้ว ยังเปิดโอกาสให้คุณได้มองสิ่งรอบตัวและเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติรอบกายของคุณอีกด้วยW250 คือรถอีกหนึ่งรุ่นในตระกูล “W” ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์สไตล์เรโทรแท้ๆที่ถูกออกแบบมาสาหรับตลาดเอเชียโดยเฉพาะ เช่นเดียวกันกับรุ่น W800 รถจักรยานยนต์ W รูปลักษณ์คลาสสิคตามสมัยนิยมขนาดกลางรุ่นนี้ผสมผสานรูปลักษณ์แบบคลาสิคเข้ากับสมรรถนะด้านการขับเคลื่อนและคุณภาพงานประกอบที่แข็งแรงทนทานแบบโมเดริน์ ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่อัดแน่นไว้ด้วยเสน่ห์ของความคลาสสิค ด้วยองค์ประกอบและงานดีไซน์อย่างถังน้ำมันทรงหยดน้ำ เครื่องยนต์ตั้งตรงซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นรถจักรยานยนต์ เรโทรสายพันธุ์แท้ เสริมด้วยตำแหน่งท่านั่งที่กระชับสบาย และสร้างความเพลิดเพลินให้คุณได้ทุกวินาทีที่อยู่บนอาน และแน่นอนว่ามาพร้อมคุณภาพงานประกอบที่แข็งแรง ทนทาน ตลอดจนเก็บงานได้เรียบร้อยทั้งด้านนอกและด้านใน
W 175 / W 175[SE] รถจักรยานยนต์เรโทรพันธุ์แท้รุ่นเล็กจากตระกูล “W” ที่พัฒนาจากผู้สร้างเดียวกับตระกูล Ninja มาพร้อมรูปลักษณ์แบบดั้งเดิม ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่อัดแน่นไว้ด้วยเสน่ห์ของความคลาสสิคซึ่งชวนให้นึกถึงรถจักรยานยนต์ในอดีต มีเครื่องยนต์ปริมาตรกระบอกสูบ 177 ซีซี หนึ่งสูบ ประสิทธิภาพสูง ทำให้ W175 นั้นจะสามารถส่งมอบประสบการณ์การขับขี่แบบไร้ความกังวล ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินได้อย่างเต็มที่

ซูซูกิ ใส่ใจผู้ใช้รถใช้ถนน ร่วม “โครงการอาชีวะอาสา เทศกาลปีใหม่ 2561”

บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ ซูซูกิ  ได้เข้าร่วม “โครงการอาชีวะอาสา เทศกาลปีใหม่ 2561” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม พัฒนา และสร้างประสบการณ์ด้านทักษะวิชาชีพ ตลอดจนปลูกฝังให้นักเรียน นักศึกษา มีจิตอาสารู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และสังคม ซึ่งภายในงาน ได้รับเกียรติจาก นายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิด ณ บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ด้านข้างกระทรวงศึกษาธิการ ในวันที่ 21 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ซูซูกิ ยังได้จัดนิทรรศการตรวจสอบรถก่อนการเดินทาง เพื่อความปลอดภัย พร้อมบริการตรวจเช็คสภาพรถ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองน้ำมันเครื่อง ฟรีให้แก่ประชาชน และมอบน้ำมันเครื่องสนับสนุนให้แก่ นักเรียน นักศึกษา ไปใช้ประกอบการปฏิบัติงานในศูนย์อาชีวะอาสา และสร้างเป็นสาธารณะประโยชน์ต่อไป ทั่วประเทศ 252 แห่ง เป็นจำนวน 600 ขวด

2018 MOTO GUZZI V85

นับตั้งแต่ก่อกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1921 ของอีกหนึ่งค่ายผู้ผลิตจากอิตาลีที่มีความเป็นมาเกือบ 100 ปี จากแหล่งผลิตใน Mandello del Lario ได้มีเป้าหมายที่จะเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ในปี 2021 ดังนั้นทาง MOTO GUZZI จึงได้ริเริ่มพัฒนารถโมเดลใหม่ๆออกมาเพื่อสานต่ออนาคตของโลโก้ “The Eagle” โดยล่าสุดได้เปิดไลน์การผลิต ใหม่ล่าสุดของค่ายเพื่อให้เป็นรถที่สามารถตอบสนองผู้ขี่แบบไร้ขีดจำกัด แม้ว่าจะถึงจุดสิ้นสุดถนนลาดยาง “The motorcyclists who do not stop when they reach the end of the asphalt” ด้วยรถรุ่นที่เรียกว่า V85

โดยทาง MOTO GUZZI ได้วางตำแหน่งในตลาดของ V85 ไว้อยู่ระหว่าง รุ่น V7 กับ V9 ที่ทั้งสองรุ่นนั้นเป็นรถในประเภทครุยเซอร์เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ของค่าย สำหรับ V85 นี้ถูกกำหนดออกมาให้เป็นรถ modern endure ของ MOTO GUZZI ซึ่งในอดีตที่ผ่านมานั้นก็เคยมีรถในสไตล์ออฟโรดมาก่อนเช่นกันที่เริ่มต้นด้วยรุ่นแรกในตำนานของค่าย ที่ทำเข้าร่วมการแข่งขันในรายการอย่าง Six day ปี 1939 ด้วยรุ่น GT20 จนนำมาสู่รถที่ใช้ขี่ใน Paris-Dakar อย่าง V65 Baja ปี 1985 และ V75 Baja ในปีถัดมา

อาจกล่าวได้ว่า V85 คือรถในสไตล์ Classic Enduro ที่มาพร้อมกับความแข็งแกร่ง และเทคโนโลยีสมัยใหม่ของ MOTO GUZZI ด้วยโครงสร้างเฟรมที่แข็งแรงจาก steel tubes พร้อม asymmetric aluminium swingarm และระบบกันสะเทือนแบบ mono shock absorber ที่พร้อมรองรับการขี่ในสไตล์ออฟโรดได้มากกว่ารถในกลุ่มครุยเซอร์ของตนเอง สำหรับขุมพลังของ V85 นี้ มาจากพื้นฐานเครื่องยนต์แบบสองสูบ วางเอียง 90 องศา ขนาดปริมาตรเครื่องยนต์ 850 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศ ที่ให้กำลังในระดับ 80 แรงม้า ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานในทุกๆวัน รวมทั้งการออกทริปในช่วงสุดสัปดาห์ และแม้ว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการระหว่างงาน EICMA 2017 ที่ผ่านมาพร้อมประกาศทำตลาดแล้ว แต่ข้อมูลของตัวรถนั้นยังไม่มีรายละเอียดใดๆ ว่าขนาดและรูปแบบเครื่องยนต์เพิ่มเติมมากไปกว่านี้ สำหรับผู้ที่สนใจ Classic Enduro สไตล์อิตาเลี่ยนอย่าง MOTO GUZZI V85 นี้ ก็รอรายละเอียดเพิ่มเติมของตัวรถจากตัวแทนจำหน่ายในโอกาสต่อไป

 

มอบน้ำมันเครื่องโครงการอาชีวะอาสา…

นายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด มอบน้ำมันเครื่องจำนวน 6,048 ขวด มูลค่า 604,800 บาท ให้กับโครงการอาชีวะอาสา เทศกาลปีใหม่ 61 โดยมี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมต.ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้รับมอบ ที่บริเวณข้างกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อ 21 ธ.ค. 60

2018 Yamaha Super Tenere ES

รหัส ES เป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นของ Yamaha Super Tenere ที่มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาเพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่ทางไกลยิ่งขึ้น พร้อมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่สำหรับรถในระดับพรีเมี่ยมที่ติดตั้งมาครบถ้วน ทั้ง traction & cruise control , electronic suspension รวมทั้งองค์ประกอบอื่นๆอีกมากที่จะมีส่วนช่วยให้ Tenere ES ก้าวสู่ความเป็นที่สุดในรถประเภท adventure tourer จากค่าย Yamaha

ด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ inline twin 4valve DOHC ขนาด 1,199 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่มาพร้อมกับสองปลั๊กหัวเทียนต่อสูบ ซึ่งเครื่องยนต์ได้รับการออกแบบให้มีความกะทัดรัด พร้อมติดตั้งระบบส่งกำลังด้วยเกียร์แบบ wide-ratio 6 speed transmission ที่สามารถควบคุมการขับขี่ทั้งบนเส้นทางไฮเวย์ และการขับขี่บนทางออฟโรดได้อย่างเหมาะสม ซึ่งในการจ่ายเชื้อเพลิงนั้นได้ใช้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงที่ทันสมัย advanced fuel injection ที่ใช้เรือนลิ้นเร่งคู่ twin downdraft throttle body ที่มาพร้อมกับระบบควบคุม YCC-T หรือ Yamaha Chip Controlled Throttle ที่ติดตั้ง D-Mode หรือ Drive Mode มาให้สองแบบที่ผู้ขับขี่จะสามารถเลือกใช้ mapping ได้ตามความเหมาะสม อีกทั้งยังติดตั้ง traction control ที่สามารถปรับตั้งได้สามระดับหรือสามโหมดการใช้งานมาให้ได้เลือกอีกด้วย เช่นเดียวกับระบบกันสะเทือนไฟฟ้าล่าสุด electronically adjusted suspension ที่สามารถปรับค่า preload และ damping ได้เพียงแค่กดปุ่มก็สามารถทำการเซ็ทติ้งระบบกันสะเทือนโดยไม่ต้องหยุด ซึ่งระบบจะทำงานโดยในเบื้องต้นนั้น ผู้ขี่จะต้องเลือกค่าการเซ็ทเบื้องต้น ซึ่งระบบจะถามข้อมูลการ load หรือ ลักษณะการบรรทุก ที่มีสี่แบบ คือ solo / solo&luggage / dual / dual & luggage หรือ ขับขี่คนเดียว / คนเดียวพร้อมสัมภาระ / ขับขี่สองคน / ขบขี่สองคนพร้อมสัมภาระ และหลังจากเลือกหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งแล้ว ระหว่างการขับขี่นั้นจะสามารถ ทำการปรับจุนเพิ่มเติมได้อีกสามระดับ คือ soft / standard / hard

ของตัวรถมีข้อมูลดังนี้

เครื่องยนต์ : Forward-inclined parallel 2-cylinder,
liquid-cooled, 4-stroke, DOHC, 4-valves
ปริมาตรความจุเครื่องยนต์ : 1,199 ซีซี
กระบอกสูบxช่วงชัก : 98 x 79.5 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด : 11.0 : 1
กำลังสูงสุด : 82.4 kW (112PS) @ 7,250 rpm
แรงบิดสุงสุด : 117.0 Nm (11.9 kg-m) @ 6,000 rpm
ระบบหล่อลื่น : Dry sump
คลัทซ์ : Wet, Multiple Disc
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : Electronic Fuel Injection
การจุดระเบิด : TCI
การสตาร์ท : Electric
ระบบส่งกำลัง : Constant Mesh, 6-speed
การส่งกำลัง : เพลา
เฟรม : Steel tube backbone
กันสะเทือนหน้า : Upside-down telescopic fork,
Ø 43 mm
ระยะยุบตัวของกันสะเทือนหน้า : 190 มม.
มุมแคสเตอร์ : 28องศา
ระยะเทรล : 126 มม.
กันสะเทือนหลัง : Swingarm, Adjustable preload and rebound damping, (link suspension), Monoshock
ระยะยุบตัวกันสะเทือนหลัง : 190 มม.
เบรกหน้า : Hydraulic dual disc, Ø 310 mm
wave discs
เบรกหลัง : Hydraulic single disc, Ø 282 mm
wave disc
ยางหน้า : 110/80R19M/C 59V
ยางหลัง : 150/70R17M/C 69V
ความยาว : 2,255 มม.
ความกว้าง : 980 มม.
ความสูง : 1,410 มม.
ความสูงเบาะนั่ง : 845/870 มม
วีลเบส : 1,540 มม.
ระยะห่างจากพื้น : 190 มม.
น้ำหนักรถ(รวมของเหลว) : 265 กก
ความจุถังเชื้อเพลิง : 23 ลิตร
ความจุน้ำมันหล่อลื่น : 4.2 ลิตร

ปตท.สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ให้คนไทยได้สัมผัส การแข่งขันระดับโลก

ปตท.สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ให้คนไทยได้สัมผัส การแข่งขันระดับโลก ด้วย การเข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ “โมโตจีพี” ครั้งแรกในเมืองไทย ให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบระดับโลก พร้อมนำความเป็นไทยโชว์ศักยภาพสู่สายตาทั่วโลก หวังดึงนักท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจไทยคึกคัก นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปตท. สนับสนุนการจัดการแข่งขันโมโตจีพี เพื่อดึงงานระดับโลกที่คนทั่วโลกให้ความสนใจมาให้คนไทยได้สัมผัสกัน พร้อมแสดงให้คนทั่วโลกได้เห็นศักยภาพของคนไทย ว่ามีสนามแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และมีความสามารถในการจัดการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ตระดับโลกได้อย่างยิ่งใหญ่ไม่แพ้ชาติใดในโลก และที่สำคัญ ปตท. จะร่วมสร้างความภาคภูมิใจกับคนไทยทั้งประเทศไทยสมตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลในครั้งนี้

 

 

Kawasaki Z900RS Cafe

จักรยานยนต์เรโทรสปอร์ตที่ระลึกและสานต่อจิตวิญญาณของ Z1 ในตำนานคาวาซากิหวนคืนสู่ตลาดของรถจักรยานยนต์ประเภทเรโทรที่แฟนๆ รอคอยมาอย่างยาวนานด้วย All-new Z900RS ที่มีถึง 3 เวอร์ชั่น ภายใต้แนวคิดที่ต้องการระลึกถึงรถจักรยานยนต์ในตำนานอย่างคาวาซากิ Z1 Cafée Model Z900RS CAFE คือรถจักรยานยนต์ที่เพิ่มความหลากหลายทางด้านรูปลักษณ์ให้แก่รุ่น RS ใหม่และเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณที่แท้จริงของรถในไลน์อัพนี้ Z900RSCAFE คือรถที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น ไม่เหมือนใครและมีรูปลักษณ์ ที่สามารถแยกสไตล์ของทั้งสองให้แตกต่างกันได้อย่างชัดเจน เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่นาเอาจิตวิญญาณของโมเดลในตำนานอย่าง Z1ปี 1972 มาใช้แต่ได้รับการเติมเต็มอารมณ์แบบคาเฟ่ด้วยเฉดสีและลวดลายกราฟฟิคอันโดดเด่น สะกดทุกสายตา ประกอบกับตำแหน่งท่านั่งที่โฟกัสมากกว่าด้วยแฮนด์บาร์แบบ drop-style สีดำคมเข้ม ท่าในการขับขี่แบบสปอร์ตรับกับคาวริ่งหน้าทรง Bikini และเบาะสไตล์เฉียบพร้อมท้ายแบบตัวแข่งคาเฟ่ เพิ่มความโดดเด่นขึ้นไปอีกด้วยระบบท่อไอเสียที่ได้รับการปรับแต่งเสียงเป็นครั้งแรกจากคาวาซากิและการเก็บงานแบบ brushed satin เหนือระดับทาให้ Z900RS CAFE ออกมาเป็นรถจักรยานยนต์คาเฟ่ที่สมบูรณ์

เครื่องยนต์ทรงพลัง นุ่มนวลไร้การสะดุด ขุมพลัง 4 สูบเรียง ปริมาตรกระบอกสูบ 900 ซีซี โครงสร้างของเครื่องยนต์ยอดเยี่ยม ถูกปรับแต่งโดยเน้นกำลังในรอบต่ำถึงกลาง และเป็นครั้งแรกที่คาวาซากิทำการค้นคว้าวิจัยเรื่องเสียงเพื่อปรับแต่งเสียงท่อไอเสียของรถจักรยานยนต์ให้ออกมาตรงความต้องการ เพื่อกระตุ้นอารมณ์ของผู้ขับขี่ โดยมุ่งเน้นไปที่เสียงคำรามเมื่อเครื่องยนต์ติดขึ้นเป็นครั้งแรก เสียงเดินเบาและเสียงตอนขับขี่ในย่านความเร็วต่ำซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินกับเนื้อเสียงแบบก้องกระหึ่มทุ้มต่ำของท่อไอเสียถังน้ำมันทรงหยดน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ชวนให้นึกถึง Z1 ตัวเฟรมได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อให้สามารถรองรับตำแหน่งและรูปทรงที่มีความกระชับของตัวถัง ไฟหน้า LED กลมเสน่ห์ของความคลาสสิค ส่วนผสมระหว่างดีไซน์แบบเรโทร เรือนไมล์อนาล็อกคู่พร้อมจอ LCD มัลติฟังก์ชั่น มาตรวัดความเร็วและวัดรอบเข็มสไตล์อนาล็อก มาพร้อมหน้าจอแบบ Negative ที่อ่านง่าย ปิดท้ายด้วยขอบนอกสีเงินเพื่อเสริมให้ความหรูหรา

Honda Motor Expo 2017

ฮอนด้า บิ๊กไบค์โชว์แพชชั่น จัดโปรโมชั่นพิเศษเอาใจสาวกบิ๊กไบค์ตัวจริงพร้อมเปิด Honda 500 Series, 650 Series และ Rebel 500 ที่แรกในงาน Motor Expo 2017 บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าบิ๊กไบค์ในประเทศไทย ยกทัพจัดเต็มสมเป็นผู้นำตลาดจักรยานยนต์ไทย เปิดตัวรถรุ่นใหม่ ได้แก่ Honda 500 Series, 650 Series และ Rebel 500 โชว์เทคโนโลยี DCT ระบบควบคุมคลัตช์อัตโนมัติ และระบบเปลี่ยนเกียร์ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของฮอนด้าที่มี อยู่ในรถรุ่นที่เรือธง อาทิ Africa Twin, NC750X, NM4, CTX700 และ GOLDWING พร้อมจัดโปรโมชั่นสุดพิ เศษในงาน Motor Expo 2017 (มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 34) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคม 2560 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “สำหรับตลาดรถบิ๊กไบค์ ในประเทศไทยตลอด 10 เดือนที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 22% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 25,451คัน เป็นฮอนด้าทั้งสิ้น 10,997 คัน คิดเป็นสัดส่วนตลาดอยู่ที่ 43% ครองสัดส่วนตลาดอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่ให้ฮอนด้าบิ๊กไบค์ สามารถเป็นที่ 1 ในใจของผู้บริโภคได้นั่นคือ การที่ฮอนด้าให้ความสำคัญกับทุก User Touch Point หรือทุกประสบการณ์ที่ลูกค้าได้พบตั้งแต่ ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ หลากหลายและสนองความสนุกและเร้าใจในการขับขี่ การมีคอมมูนิตี้และกิจกรรมการขับขี่ที่หลากรูปแบบ ตลอดจนการส่งมอบมาตรฐานบริการหลังการขายในระดับสูงด้วยมาตรฐาน 6S พร้อมการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายฮอนด้าบิ๊กวิงอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับกลุ่มผู้ใช้ที่ มากขึ้น จนปัจจุบันเรามีศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิง 20 แห่งทั่วประเทศ พิเศษในงาน Motor Expo 2017 ฮอนด้าได้จัดไฮไลท์รถบิ้กไบค์ที่ ได้รับความนิยมและมีกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องมาให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสถึง Riding Passion ของคนในยุคนี้ กับ Honda 500 Series ที่สุดแห่งความคุ้มค่าของรถบิ๊กไบค์ระดับ New Entry ที่มาพร้อมกับสีและลวดลายใหม่ อย่างรุ่น CBR500R, CB500F และ CB500X โฉบเฉี่ยวเร้าใจ เท่เต็มพิกัดที่สาวกไบค์เกอร์ตัวจริงไม่ควรพลาด นอกจากนี้ ฮอนด้า ยังมีบิ๊กเซอร์ไพรส์กับการ เปิดจอง Honda 650 Series สีใหม่ลายใหม่เป็นที่แรกของโลก ประกอบด้วยรุ่น CBR650F และCB650F ถือเป็นรถบิ๊กไบค์ 4 สูบสำหรับผู้ที่หลงใหลการขับขี่ ระดับโปร พร้อมเอาใจไบค์เกอร์สาย Custom Bobber ที่ passion ในการเป็นตัวเองให้ที่สุดกับ Honda Rebel 500 สีใหม่ และ Rebel Special Edition Midnight Blue สีน้ำเงินเข้มใหม่ เสริมความดุดันลึกลับน่าค้นหาด้วยรายละเอียดชิ้นส่วนโลหะอย่างลงตัว โดยมีจำหน่ายเพียง 200 คันในโลกเท่านั้น ซึ่งจะนำมาเปิดตัวให้ยลโฉมครั้งแรกในประเทศไทยที่งาน Motor Expo 2017 ด้วยเช่นกัน

สำหรับโปรโมชั่นพิเศษ แน่นอนว่า ฮอนด้า จัดมาให้ร้อนแรงเกินห้ามใจ รับรองว่าสาวกไบค์เกอร์ตัวจริงต้องถูกใจแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวน์เริ่มต้นที่ 10,500 บาท และอัตราดอกเบี้ยพิเศษรถ Domestic (ที่ผลิตในประเทศ) เริ่มต้นที่ 3.75% ผ่อนเริ่มต้นที่ 2,900 บาท และรถ Import (รถนำเข้า) อัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ 3.29% ให้สามารถเป็นเจ้าของรถฮอนด้าบิ๊กไบค์ 14 รุ่นยอดนิยมได้ง่ายแค่เอื้อม พร้อมแถมฟรีกล้อง GoPro HERO4 รุ่น Silver มูลค่า 11,999 บาท ตลอดจนฟรีประกันภัยชั้น 1 ทะเบียน พ.ร.บ. และข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่าสูงสุด 255,000 บาท และพิเศษสุดเฉพาะผู้ที่จองรถ Honda CB150R ภายในงาน Moto Expo 2017 เท่านั้น รับโปรโมชั่นพร้อมราคาสุดพิเศษ รุ่น Standard มีสีแดงดำ, ดำ, เทา, เขียวดำ ราคาเงินสด พิเศษสุดเพียง 99,800 บาท ส่วนรุ่น ABS สีเทา, สีดำ ราคาเงินพิเศษเพียง 109,800 บาท รุ่น Street Cafeé (TH1) ราคาเงินสดพิเศษเพียง 135,200 บาท Scramble Cafeé (TH2) ราคาเงินสดพิเศษสุดเพียง 118,400บาท Moriwaki (TH3) ราคาเงินสด พิเศษเพียง 109,800 บาท พิเศษสุดจองเพียง 1,000 บาท ที่งาน Motor Expo เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พ.ย. 11 ธ.ค. 2017 สามารถรับรถได้ที่ร้านผู้จำหน่ายฮอนด้าที่มีไฟแนนซ์ที่ร่วมรายการเท่านั้น ซึ่งจะรับรถได้อย่างรวดเร็วทันใจภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2017 นี้