สำหรับ 450SXF โมเดลล่าสุดจาก KTM ได้รับการออกแบบใหม่ ที่ระบุมาว่า “มากกว่าการเปลี่ยนโฉม” กล่าวคือ มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นจากโมเดลเดิมมากกว่าแค่การเปลี่ยนสีสันหรือเพิ่มของแต่งในแบบปรับโฉมทั่วไปนั่นเอง โดยจะใช้เฟรมสีส้มตามความต้องการของกลุ่มผู้ใช้ KTM ส่วนใหญ่ที่ต้องการสีส้ม เช่นเดียวกับกราฟฟิคใหม่ที่ยังคงเน้นโทนสีส้มเป็นหลักแต่จะออกแบบลวดลายให้มีความสะอาดตามากยิ่งขึ้น ซึ่งนี่คือสองส่วนเบสิคของการปรับโฉมสำหรับ 450SXF โมเดลล่าสุด ในขณะที่การปรับปรุงพัฒนาส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจของเรือธงในสังเวียนโมโตครอส ที่ KTM บอกว่า ทำมากกว่าไมเนอร์เช็นจ์ ไม่ว่าในส่วนของแผ่นคลัทช์ ที่มีการปรับวัสดุที่ใช้ในการผลิตเป็น nitrated steel เพื่อลดการสึกหรอจากการที่ต้องทำงานร่วมกับชามคลัทช์ที่ซึ่งมีความแข็งแกร่งจากการผลิตจากเหล็กชั้นดี ดังนั้นจึงต้องปรับวัสดุที่ใช้ในการผลิตแผ่นคลัทช์ให้มีความทนทานยิ่งขึ้น โดยคลัทช์ใน 450SXF นี้จะยังคงเป็นคลัทช์แบบ diaphragm clutch
ในส่วนของระบบกันสะเทือนหน้านั้นมีการอัพเดทชุดฟอร์คหน้า เป็น 2018 WP AER air front fork ที่มีการปรับปรุงชิ้นส่วนภายในใหม่อย่าง air seal , air piston , rebound spring กล่าวคือมีการปรับชิ้นส่วนภายในของกระบอกฟอร์คหน้าที่เป็นฝั่งโช้คลม ใหม่ รวมทั้งยังมีการเปลี่ยน piston ฝั่ง damping ใหม่อีกด้วย เพื่อปรับสมรรถนะให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ในชุด ฟอร์ค AER นี้ยังได้มีการ re-valve ใหม่ ด้วยการเพิ่มแรงดันในส่วนของ low-speed compression ขึ้นอีก 5% เมื่อเทียบกับโมเดลก่อนนี้ และลดแรงดันในช่วง high-speed compression ลงอีกประมาณ 10% ซึ่งในการปรับนี้ก็มาจากการเปลี่ยนชิ้นส่วนของ shims สองตัวแรกในส่วนของ compression เป็น 26 มม. เป็น 30 มม. พร้อมทั้งทำการเปลี่ยนวัสดุในส่วนของ mid-valve piston จากเดิมที่ผลิตจากวัสดุ ceramic มาเป็น วัสดุ sintered steel พร้อมกันนี้ในส่วนของแหล่งพลังงานจ่ายไฟใน 450SXF ใหม่นี้จะมีประจุไฟที่มากขึ้นกว่าเดิม แต่น้ำหนักของแบตเตอรี่ไม่เพิ่มขึ้นด้วยการเปลี่ยนแบตเตอรี่จากเดิมที่ใช้ Samsung C22S มาเป็น Sky Rich HJTZ58-FB ที่ให้พลังมากกว่า มิติของตัวรถ ไม่ว่า ความสูงเบาะนั่ง, ความกว้างของถัง, ความโค้งของแฮนเดิลบาร์ รวมทั้งสเปคอื่นๆ ทั้งหมดยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่นเดียวกับมอเตอร์สตาร์ทที่ยังคงประสิทธิภาพที่ดีตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา ด้วยขนาดเล็กกะทัดรัด เปี่ยมคุณภาพไร้ปัญหารบกวนนับตั้งแต่เริ่มนำมาใช้เป็นรายแรกตั้งแต่ปี2007 ในส่วนของระบบส่งกำลังด้วยชุดเกียร์แบบ 5 สปีด ได้รับการยืนยันถึงความทนทานของชุด shaft bearing ที่สามารถรองรับการทำงานที่หนักหน่วงด้วยกรรมวิธีการผลิตแบบ MIM หรือ Metal Inject Mold system ที่มีส่วนทำให้สามารถทนทานต่อเนื่องในสภาพการทำงานภายใต้อุณหภูมิความร้อนที่สูงมาก
ปุ่มควบคุมหรือ multi-switch ได้รับการออกแบบเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถทำการควบคุมสั่งการได้อย่างสะดวกง่ายดาย ทั้งการเลือก ค่าแมปปิ้งสองค่าที่กำหนดไว้, ควบคุม traction control, ควบคุม launch control ในขณะที่ระบบเบรกของ KTM 450SXF นี้ก็ยังคงเป็นเบรกที่ดีที่สุดในกลุ่มรถพิกัดเดียวกันด้วยการเลือกใช้ระบบเบรกจาก Brembo ที่มีความแข้งแกร่งและเปี่ยมประสิทธิภาพที่สุด ในขณะที่ยางติดรถกำหนดสเปคมาเป็น Dunlop MX3S intermediate ที่ใส่มาพร้อมกับวงล้อ Takasago Excels สีดำ
สำหรับสเปคพื้นฐานของ 2018 KTM 450SXF มีดังนี้
Engine: Single-cylinder four-stroke
Bore x stroke: 95 x 63.4mm
Displacement: 450cc
Compression ratio: 12.75: 1
Valve train: 4-valve DOHC w/ finger followers
Fueling: Keihin EFI w/ 44mm throttle body
Ignition: Keihin EMS
Cooling: Liquid
Lubrication: Pressure w/ two oil pumps
Transmission: Five-speed
Clutch: Wet multi-disc DDS-Clutch w/ Brembo hydraulics
Final drive: 5/8- x 1/4-inch chain
Frame: Chromoly double-cradle
Subframe: Aluminum
Handlebar: Neken tapered aluminum
Front suspension: Fully adjustable 48mm WP AER air fork; 12.2 inches of travel
Rear suspension: Fully adjustable linkage-assisted WP 5018 BAVP DCC shock; 11.8 inches of travel
Front wheel: 1.6 x 21” Excel
Rear wheel: 2.15 x 19” Excel
Front tire: 80/100-21; Dunlop MX3S
Rear tire: 120/90-19; Dunlop MX3S
Front brake: 310mm disc
Rear brake: 260mm disc
Wheelbase: 58.5 inches
Rake: 26.1 degrees
Triple clamp offset: 22mm
Seat height: 37.8 inches
Fuel tank capacity: 1.85 gallons
Wet weight (approximate, with no fuel): 222 pounds