เช็กผลงานเด่น “ก้อง-สมเกียรติ” ดาวรุ่งจาก เอ.พี.ฮอนด้าว่าที่ฮีโร่นักบิดไทย ก่อนบู๊เดือดโมโตจีพีโฮมเรซที่บุรีรัมย์ นับถอยหลังอีกเพียงไม่กี่อึดใจ คนไทยทั้งประเทศจะได้เป็นเจ้าบ้านเพื่อต้อนรับการ มาเยือนของเกมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง “โมโตจีพี” ซึ่งมีคิวจัดขึ้นครั้งแรกในเมืองไทย ระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม นี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
โดยนอกจากเตรียมตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีแล้ว แฟนกีฬาความเร็วชาวไทยยังต้องติดตามเชียร์และให้กำลังใจ 2 ดาวรุ่งนักบิดสายเลือดใหม่จาก เอ.พี.ฮอนด้า ผู้ได้รับโอกาสมีส่วนร่วมในศึกดวลเดือดสองล้อครั้งประวัติศาสตร์ในบ้านเรา นำโดย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ นักบิดตัวจริงหนึ่งเดียวของไทย ที่ลงชิงชัยในการแข่งขันโมโตจีพีแบบเต็มตัวตลอดฤดูกาล รุ่นโมโตทรี ภายใต้สังกัดฮอนด้า ทีม เอเชีย หมายเลข 41
ขณะที่อีกหนึ่งดาวรุ่ง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา เจ้าของแชมป์ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ปี 2016 ตามที่สมาพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ หรือ เอฟไอเอ็ม ยืนยันชัดเจนแล้วว่า ดาวบิดวัย 19 ปี ได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดในศึกโฮมเรซ รุ่นโมโตทรี โดยจะใช้รถแข่งฮอนด้า หมายเลข 35 ลงชิงชัยในรายการพีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ที่สนามช้างฯ เซอร์กิต ครั้งนี้ด้วย
สำหรับนักบิดสายเลือดใหม่ค่ายปีกนก เจ้าของรถแข่งฮอนด้า NSF250RW หมายเลข 35 สร้างความภาคภูมิใจให้แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ด้วยการเป็นนักบิดไทยคนแรกที่คว้าแชมป์รายการใหญ่ระดับเอเชียอย่าง “เอเชีย ทาเลนต์ คัพ” หรือเส้นทางการแข่งขันสู่โมโตจีพี เมื่อปี 2016
ที่สำคัญ 1 ใน 6 สนามของการแข่งขันปีนั้น มีสังเวียนดวลความเร็วที่บุรีรัมย์ถูกใช้เป็นสนามแข่งขันเพื่อสะสมแต้มชิงแชมป์ประจำปีด้วย และผู้ชนะก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นนักบิดดาวรุ่งจากชลบุรี “ก้อง-สมเกียรติ” นั่นเอง
“การคว้าแชมป์ที่สนามช้างฯ ครั้งนั้น ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับตัวผมเอง ทำให้เรารู้ว่ามีดีพอที่จะสู้กับคู่แข่งในระดับเอเชียได้ ทั้งจีน, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น ซึ่งผมว่าเป็นการจุดประกายความฝัน และเป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จของผลงานที่ดีที่สุดในชีวิตของผมเลย” นักบิด ดาวรุ่งวัย 19 ปี กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากโฟกัสความสำเร็จที่เกิดขึ้นที่สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์ สองดาวรุ่งค่ายปีกนกนั้นเคยจารึกชื่อตัวเองบนตำแหน่งแชมป์เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ด้วยกันมาแล้วทั้งคู่ โดยสลับกันเป็นผู้ชนะเกมดวลความเร็วสนามแรก ตั้งแต่ปี 2015 และต่อเนื่องในปีถัดไป ดาวรุ่งจากชลบุรียังทำผลงานที่โดดเด่นต่อหน้าแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยอีกครั้ง ด้วยการขึ้นโพเดี้ยมอันดับที่ 3 ในศึกเอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ รุ่นเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี. ด้วย
หลังจากประกาศศักดาในฐานะนักบิดดาวรุ่งที่เร็วที่สุดในทวีปเอเชีย จนถึงปี 2017 เจ้าตัวก็เริ่มค้นหาความท้าทายครั้งใหม่กับเกมการแข่งขันระดับอินเตอร์ ในศึกชิงแชมป์นักบิดเยาวชนโลก เอฟไอเอ็ม ซีอีวี เรปโซล อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนชิพ รุ่นโมโตทรี จูเนียร์ และสามารถระเบิดฟอร์มร้อนแรง สร้างเซอร์ไพรส์คว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่นตั้งแต่สนามแรกที่อัลบาเซเต้ ประเทศสเปน มาแล้ว
ปัจจุบันปี 2018 ก้อง-สมเกียรติ ยังคงสู้ศึกซีอีวี เรปโซล รุ่นโมโตทรี จูเนียร์ ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง และกำลังทำผลงานได้ดี ต่อกรกับนักแข่งดาวรุ่งจากทั่วโลกได้อย่างสนุกสูสี มีลุ้นขึ้นโพเดี้ยมตั้งแต่เปิดฤดูกาล ล่าสุด ผ่านการชิงชัยไปแล้ว 5 สนาม อดีตแชมป์ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ปี 2016 มี 47 แต้ม ติดกลุ่มท็อปเท็น รั้งอันดับที่ 8 บนตารางคะแนนแชมเปี้ยนชิพ
ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมทั้งจากระดับเอเชียสู่เวทีนานาชาติ ส่งผลให้ อัลเบอร์โต พูอิก อดีตนักบิด WGP500CC ชื่อดังสังกัดทีมฮฮนด้า รุ่นเดียวกับมิค ดูฮาน ปัจจุบันกุมบังเหียนเป็นทีมบอสเรปโซล ฮอนด้าคนล่าสุด ผู้ดูแลยอดนักบิดแห่งยุค มาร์ก มาร์เกวซ แชมป์โลกคนปัจจุบัน เคยกล่าวถึงดาวบิดจากชลบุรีคนนี้ว่า มีความมุ่งมั่นและมีศักยภาพมากพอที่จะโลดแล่นในศึกมอเตอร์ไซค์ ชิงแชมป์โลกอย่างแน่นอน
“ผมรู้จักนักแข่งไทยสองคนนี้ (นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ และสมเกียรติ จันทรา) เป็นอย่างดี พวกเขามีจิตวิญญาณของนักบิดที่ดี ผมเคยร่วมงานกับพวกเขาในโปรแกรมพัฒนานักบิดเอเชียของ HRC และเชื่อว่าพวกเขาจะไปได้สวยในการแข่งขันในระดับโลก”
ทั้งนี้ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ดาวรุ่งนักบิดสายเลือดใหม่จาก เอ.พี.ฮอนด้า ผู้เริ่มต้นเส้นทางเป็นนักแข่งอาชีพโดยมีคุณพ่อ-คุณแม่ ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะด้วยใจรักในความเร็วตั้งแต่เด็ก ก่อนถูกส่งไปเรียนเทคนิคการแข่งขันรถจักรยานยนต์กับค่ายปีกนก และเข้าร่วมสังกัด เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ด้วยสไตล์การขับขี่ที่โดดเด่น เร็ว แรง กล้าได้กล้าเสีย เจ้าตัวก็ยอมรับว่า เพราะมีมาร์ก มาร์เกวซ นักบิดแชมป์โลก โมโตจีพี 4 สมัย จาก เรปโซล ฮอนด้า รวมถึง “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดรุ่นพี่ค่ายเดียวกัน เป็นต้นแบบแรงบันดาลใจ
“ความใฝ่ฝันของนักบิดทุกคน คือ การได้เข้าสู่โมโตจีพี ผมเองก็เช่นกัน ดังนั้นจึงตั้งใจจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทีละก้าว และในโอกาสนี้ด้วยการได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ด รุ่นโมโตทรี ยิ่งเป็นโฮมเรซแข่งในบ้านเราด้วย ผมขอเชิญชวนให้แฟนๆ ชาวไทย มาร่วมติดตามเชียร์ผมด้วยนะครับ” เจ้าของแชมป์ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ปี 2016 กล่าว
การแข่งขันโมโตจีพีครั้งแรกในไทย รายการพีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ เตรียมจัดขึ้นที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม นี้ แฟนมอเตอร์สอร์ตชาวไทยพร้อมส่งกำลังใจเชียร์.