ค่ายตราพัดประกาศเป็นที่แน่ชัดแล้ว จัดหนักจัดเต็มกับเวอร์ชั่นใหม่ของรถมอเตอร์ไซค์ซูเปอร์ไบค์ล่าสุด กับรหัส “M” เพิ่มประสิทธิภาพของตัวรถ และสมรรถนะเทคโนโลยี ความเร็ว ความแรง ด้วยการอัพเกรดจาก S1000RR เป็น M1000RR
ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอก มาพร้อมกับชุดแฟริ่ง M Sport ลวดลายใหม่ แต่ยังคงใช้สีที่เป็นเอกลักษณ์ประจำค่ายกันระหว่าง สีฟ้า สีน้ำเงิน และ สีแดง บนสีพื้นที่เป็นสีขาว นอกจากนี้มีการเพิ่มรายละเอียด โดยมีส่วนครอบที่เป็น M Carbon เพื่อเน้นให้เห็นถึงความดุดัน และสปอร์ตมากยิ่งขึ้น วิงเล็ท เทคโนโลยีหลักอากาศพลศาสตร์จากสนามแข่ง ที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ติดตั้งที่บริเวณด้านข้าง ช่วงหน้าของตัวรถ ซึ่งข้อดีของวิงเล็ทก็คือ ช่วยการยุบตัวจากแรงกดจากการใช้เบรกหนักเบรกจะทำให้การคอนโทรลรถในการเข้าโค้งในความเร็วได้เสถียรมากขึ้น และยังมีส่วนช่วยให้ระบบ Traction Control ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ใช้เครื่องยนต์ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก S1000RR แบบ 4 สูบเรียง 999 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ แต่มีการปรับเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่มากยิ่งชึ้นด้วยใช้เทคโนโลยี ShiftCam วาล์วแบบแปรผัน ด้วยสปริงวาล์วไอเสียที่ช่วยให้เหมาะกับรูปแบบการขับขี่ โดยสามารถรีดแรงม้าสูงสุด 212 แรงม้า ที่ 14,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 113 นิวตันเมตรที่ 11,000 รอบ/นาที และความเร็วรอบสูงสุดเพิ่มไปถึง 15,100 รอบ โหมดการขับขี่มีทั้งหมด 4 โหมดมาตรฐาน ได้แก่ Rain, Road, Dynamic และ Race ยังไม่หมดแค่นั้นยังมาพร้อมกับโหมด Race Pro ที่ตั้งค่าเองได้อีก 3 โหมด และให้รอบเครื่องยนต์ที่ต่อเนื่องด้วยระบบควิกชิฟเตอร์ อัพ และ ดาวน์
นอกจากนี้ M1000RR อัพเกรดเทคนิคพิเศษเข้าไปในขบวนการสร้างพละกำลัง มีการปรับแต่งห้องเผาไหม้ใหม่ รวมไปถึงการใช้ แหวนลูกสูบฟอร์จ ก้านสูบไทเทเนียม ที่เบาขึ้นและยาวขึ้น ทำให้อัตราส่วนของกำลังอัดเพิ่มเป็น 13.5:1 จากเดิมอยู่ที่ 13.3:1 ซึ่งทำให้เครื่องยนต์มีพลังยิ่งขึ้น ในช่วงรอบ 6,000 ถึง 15,100 รอบ ให้การขับขี่ที่ลื่นไหลมากขึ้น ชุดเกียร์บล็อค 6 สปีด และระบบคลัทช์มี anti-hopping ป้องกันการืกระโจนล้อลอยระหว่างออกตัว
แชสซี มีการปรับปรุงจาก S1000RR เฟรมอลูมินัมได้รับการปรับแต่งให้มีความเหมาะสมกับขับขี่ในสนามมากยิ่งขึ้น มุมเลี้ยวที่ดีขึ้น ฐานล้อมีความยาวขึ้นจากเดิม 56.7 นิ้ว เพิ่มมาเป็น 57.4 นิ้ว ก็คือในส่วนของสวิงอาร์มที่ยาวขึ้น โช้คอัพหน้าแบบหัวกลับ 45 มม. ปรับแต่งค่าของสปริงสตรัทใหม่ โดยออกแบบให้สามารถทำเวลาในสนามแข่งได้ดีที่สุด แต่ก็ยังคงไม่ทิ้งการขับขี่บนท้องถนนเช่นกัน
ระบบเบรกระดับไฮเอ็น ซึ่งเป็นครั้งแรกของรถมอเตอร์ไซค์ โดยใช้ตัวคาลิเปอร์สีน้ำเงินพร้อมกับโลโก้ M เอกสิทธิ์เฉพาะของ BMW เหมือนกับที่ใช้ในมาตรฐายรถยนต์ของ BMW โดยพัฒนามาจากประสบการณ์ในสนามแข่ง จากการแข่งขันระดับโลก Superbike World Championship ให้ความเสถียร และควบคุมได้สูงสุด พร้อมกับใช้วงล้อคาร์บอนที่เบากว่า 1.6 กิโลกรัม ทำให้น้ำหนักโดยรวมของตัวรถอยู่ที่ 191 กิโลกรัม ท่อไอเทีย BMW M1000RR ใช้ท่อไอเสียที่ทำจากวัสดุไทเทเนียม และยังคงใช้แบรนด์ของ Akrapovic ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 7.8 กิโลกรัม ขณะที่ของเดิมกับรถ S1000RR นั้นมีน้ำหนัก 11.4 กิโลกรัม
ฟีเจอร์ที่โดดเด่นด้วยหน้าจอ TFT 6.5 เพิ่มรูปแบบการแสดงผล และระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับเก็บข้อมูลเวลาการขับขี่ พิเศษของ M เข้าไป เพิ่มตัวจับเวลาอย่าง M GPS แล็ปทริกเกอร์ และดาต้าล็อกเกอร์เข้าไปผ่านระบบการเชื่อมต่อ OBD ช่วยเก็บข้อมูลเวลาการขับขี่ในสนามเพื่อใช้ในการพัฒนารถและเทคนิกของผู้ขับขี่ได้ ระบบโมลดอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ก็ให้มาแบบครบครันไม่ว่าจะเป็น ABS, traction control, Engine braking level และ wheelie control รวมไปถึงการเพิ่มระบบจำกัดความเร็วในพิทเลน, ระบบออกตัวบนทางลาดชัน และ BMW’s Shift Assistant Pro
สำหรับโมเดลนี้ BMW Motorrad ประเทศไทยคาดว่าน่าจะนำมาจำหน่ายในไทยใน 2021 แต่เรื่องของราคานั้นบอกเลยว่าสมราคา 7 หลักแน่นอน ออพชั่นมาเต็มขนาดนี้พร้อมสำหรับการแข่งขันในเซอร์กิตเลย…นะจ๊ะ