เอ.พี.ฮอนด้า ค่ายจักรยานยนต์เบอร์หนึ่งของไทย ผู้บุกเบิกวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตมาอย่างต่อเนื่อง เดินหน้าเฟ้นเด็กไทยกว่า 100 คน คัดหาสุดยอดนักบิดวัยเยาว์เพียง 15 คน ที่ผ่านบททดสอบสุดโหด เพื่อเข้าโครงการยักษ์ใหญ่ “เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี ไทยแลนด์” สานฝันสู่การเป็นนักบิดระดับโลก ขณะ มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร ชี้ต้องมีหลักการพัฒนานักแข่งที่เป็นระบบ ประกาศตั้งเป้ามีนักแข่งไทยโลดแล่นในศึกโมโตจีพีภายในปี 2025
มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดถึงโครงการล่าฝันของเด็กไทยสู่เวทีโมโตจีพีว่า “เรากำลังพูดถึงการเฟ้นหาและการพัฒนานักแข่งไทยให้ก้าวสู่การแข่งขันระดับสูงสุดของโลก ซึ่งในการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” นักบิดจะมีอายุเฉลี่ยเพียง 26 ปี เท่านั้น ตอนนี้ “มาร์ค มาร์เกซ” แชมป์โลกจากฮอนด้า เพิ่งจะอายุเพียง 24 ปี ขณะที่นักบิดที่อายุน้อยที่สุดที่เข้าแข่งขันในโมโตจีพีคือ 21 ปี เมื่อดูจากอายุเฉลี่ยแล้วจะเห็นได้ว่าจุดสูงสุดของอาชีพนักแข่งรถมืออาชีพนั้นอายุไม่ได้สูงเลย”
“ฮอนด้า มีความตั้งใจที่จะปั้นนักแข่งโมโตจีพีชาวไทยให้ได้ภายในปี 2025 นั่นหมายว่าเราต้องเฟ้นหานักบิดอายุไม่เกิน 19 ปี และพัฒนาตัวเขาอย่างต่อเนื่องเพื่อการก้าวเข้าสู่โมโตจีพีในอีก 7 ปี ให้หลัง เขาจะมีอายุราว 26 ปี เมื่อโลกของความเป็นมืออาชีพมีความเข้มข้นเช่นนี้ เอ.พี.ฮอนด้า จึงได้ก่อตั้งโครงการ “เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี ไทยแลนด์” ขึ้นมาเพื่อพัฒนานักแข่งที่จะเป็นอนาคตของประเทศไทยในการแข่งขันในสนามระดับโลกต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าเราจะพยายามเฟ้นหานักแข่งที่มีไหวพริบ มีพัฒนาการรวดเร็ว และสามารถสื่อสารถ่ายทอดให้ทีมช่างเข้าใจได้อย่างถูกต้อง เพื่อทำให้รถแสดงสมรรถนะได้ดีที่สุดตามที่นักแข่งต้องการ”
โครงการ เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี ไทยแลนด์ หรือโปรเจกต์บิดล่าฝัน ปั้นนักบิดไทยสู่ศึกการแข่งขันรถจักรยานยนต์ระดับเวิล์ดกรังด์ปรีซ์ ก่อนต่อยอดสนับสนุนไปสู่รายการแข่งขันสูงสุด รุ่นโมโตจีพีในอนาคต จึงมีวัตถุประสงค์ในการเฟ้นหาดาวรุ่งดวงใหม่ อายุระหว่าง 9-14 ปี จำนวน 15 คน เข้าร่วมโปรแกรมพัฒนาเป็นนักแข่งรถจักรยานยนต์มืออาชีพ เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยที่ใช้รถสูตร ฮอนด้า เอ็นเอสเอฟ100 (Honda NSF100) นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน ซึ่งผลิตและพัฒนาขึ้นมาเพื่อขับขี่ในสนามแข่งขันโดยเฉพาะเป็นรถสำหรับฝึกสอน
โดยตลอดช่วงระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ได้จัดการแข่งขันเพื่อคัดเลือกตัวเยาวชนจากทั่วประเทศ 93 คน ให้เหลือ 33 คน ซึ่งในวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคมนี้ จะเป็นการคัดตัวรอบสุดท้าย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดนักแข่งเยาวชนไทยฝีมือดีเพียง 15 คน เข้าสู่โครงการ ผ่านการควบคุมและฝึกสอนโดย “โทรุ อูกาว่า” อดีตนักบิดญี่ปุ่นคนแรกที่คว้าแชมป์โมโตจีพี และแชมป์ ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 8 ชั่วโมงถึง 5 สมัย รวมถึง “มาโกโตะ ทามาดะ” นักแข่งชาวญี่ปุ่นผู้มีประสบการณ์บนเวทีระดับโลกในศึกโมโตจีพี และหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ นอกจากนี้ยังมี “ฟิล์ม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์” นักบิดชาวไทยคนแรกที่เคยโลดแล่นในรายการโมตีจีพี รุ่นโมโตทู เป็นหนึ่งในทีมผู้ฝึกสอนและคัดเลือกตัวเยาวชนฝีมือดีทั่วประเทศด้วย เด็กไทยทั้ง 15 คนที่ผ่านการคัดเลือกคือตัวเต็งนักแข่งโมโตจีพีในอนาคต โดยหลังจบหลักสูตรจาก เอ.พี. ฮอนด้า อะคาเดมี่ ก้าวต่อไปคือโครงการ ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ และก้าวเข้าสู่การแข่งขันรายการคัดเลือกดาวรุ่งของทวีปเอเชียอย่าง “เอเชีย ทาเลนต์ คัพ” หลังจากนั้นนักแข่งที่ฉายแววโดดเด่น ก็จะได้รับการผลักดันให้ก้าวขึ้นสู่การแข่งขันระดับโลกในอนาคต เอ.พี.ฮอนด้า วางเส้นทางไว้เพื่อพัฒนานักแข่งด้วยความเป็นธรรมและโปร่งใส เพราะเราอยากก้าวไปสร้างความท้าทายในการแข่งขันระดับโลก ซึ่งแน่นอนว่าเยาวชนทั้ง 15 คนนี้จะถือเป็นนักบิดดาวรุ่งสายเลือดใหม่ของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ที่มีการเปลี่ยนถ่ายกับนักบิดอาชีพในปัจจุบัน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งถือเป็นวัฏจักรของวงการมอเตอร์สปอร์ต เพื่อสร้างความเติบโตของบุคลากรจนเป็นที่ยอมรับในระดับโลก แฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารและร่วมส่งแรงใจเชียร์เยาวชนไทย ได้ทางเว็บไซต์ http://www.aphondaracingthailand.com/