Skip to content
2018 Husqvarna FC250

สำหรับในไลน์การผลิตรถ MXer จาก Husqvarna ในกลุ่ม Full Size bikes นั้นจะมีการอัพเดทแบบไมเนอร์เช้นจ์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสิ่งที่มีใหม่ก็คือ New Magura Braking System , New Li-ion Battery , New Seat Cover , New Graphics ซึ่ง ระบบเบรกของ My 2018 หรือรถโมเดล 2018 แม้ว่าระบบเบรกหน้าหลังจะมีดีไซน์ที่คล้ายๆ กับโมเดลก่อนหน้านี้ แต่ทาง Magura ยืนยันว่า เบรกหน้าและหลังใหม่นี้จะให้ความรู้สึกที่เหนือกว่า ในประสิทธิภาพการเบรกในขณะที่ใช้พลังขับเคลื่อนในระดับสูง จากคาลิเปอร์เบรกของ Magura ที่จะทำงานร่วมกับจานดิสก์หน้าขนาด 260 มม. กับ จานดิสก์หลัง ขนาด 220 มม. ที่ผลิตโดย GSK ที่พร้อมให้พลังในการหยุดที่ยอดเยี่ยมและได้สมดุลในจังหวะการใช้เบรก

สำหรับในส่วนของแบตเตอรี่ใหม่นั้น เป็น New Li-ion Battery ขนาด 2.2Ah ที่ให้กำลังไฟที่สม่ำเสมอยาวนานสำหรับรองรับระบบสตาร์ทไฟฟ้าที่มีติดตั้งให้กับรถ MXer เครื่องยนต์สี่จังหวะทุกรุ่น ที่สำคัญแบตเตอรี่ใหม่นี้จะมีน้ำหนักที่เบายิ่งขึ้น และในส่วนของกราฟฟิคใหม่ นั้นได้คุมโทนเป็นสีขาวแบบดั้งเดิม พร้อมด้วยเฉดสีน้ำเงิน-เหลืองที่เรียบง่าย ตามแบบฉบับดั้งเดิมของรถที่มีต้นกำเนิดเดิมจากสวีเดน และในส่วนผ้าคลุมเบาะใหม่ ผลิตออกแบบมาให้มีการยึดเกาะที่ดีพร้อมตอบสนองทุกจังหวะการเคลื่อนไหวขณะขับขี่ด้วยเบาะนั่งแบบ low profile ที่ออกแบบมาเข้ากับสรีระขณะนั่ง โครงสร้างเฟรม hydro-formed ที่ตัดชิ้นส่วนด้วยเลเซอร์และใช้การเชื่อมชิ้นส่วนเฟรมโดยหุ่นยนต์ ภายใต้กรรมวิธีการผลิตโดย WP Performance System ที่มีมาตรฐานสูงสุดในการผลิต จึงเป็นเฟรมที่มีคุณภาพสูงแข็งแกร่งให้ความรู้สึกของการควบคุมที่ยอดเยี่ยม ขณะที่ส่วนของซับเฟรมนั้น เป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีน้ำหนักเพียง 1.4 กก. มาที่ส่วนของระบบกันสะเทือนนั้น ชุดฟอร์คหน้าเป็น WP AER 48 Front Forks ที่แยกระบบการทำงานเป็นฝั่งของ air spring กับ pressurized oil chamber ที่จับยึดกับโครงสร้างเฟรมด้วย ชุดแผงคอ CNC Machined Triple Clamps ที่มีขนาดออฟเซทที่ 22 มม. ได้มีการปรับยางรองรับแรงสั่นสะเทือน integrated rubber damping system ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและเพิ่มความสบายให้กับผู้ขับขี่ ซึ่งแผงคอชุดนี้ผู้ขับขี่สามารถปรับตำแหน่งแฮนเดิ้ลบาร์ได้ และในส่วนของ ระบบกันสะเทือนหลังนั้น เป็นชุดโช้คหลังเดี่ยว WP DCC REAR SHOCK ที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา แต่มีประสิทธิภาพในการรองรับแรงสั่นสะเทือน และให้สมดุลที่ดีขณะที่ซึมซับแรงสั่นสะเทือนขณะขับขี่ ซึ่งมีระยะยุบตัวที่ 300 มม.เมื่อทำงานร่วมกับระบบกระเดื่องหรือ linkage system ล้ำสมัยด้วยระบบอิเล็คทรอนิคส์ที่กลายเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับรถแข่งหรือรถจักรยานยนต์สมัยใหม่ โดยจะมี Map Swith ที่ใช้สำหรับเลือกค่า engine maps สองค่าที่แตกต่างกันได้ รวมทั้งยังสามารถสั่งการระบบช่วยในการออกสตาร์ทหรือ Launch Control เพื่อให้ได้สมรรถนะและการยึดเกาะที่ดีที่สุดในขณะสตาร์ทออกจากเกทสตาร์ท

จากการเป็นเครื่องยนต์สี่จังหวะยุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดดังนั้น “กล่อง” หรือระบบควบคุมการจ่ายเชื้อเพลิงและจุดระเบิดจึงมีความสำคัญ โดย Engine Management System หรือ EMS เป็นระบบที่พัฒนาและออกแบบมาให้มีขนาดเล็กกะทัดรัด มีประสิทธิภาพการประมวลผลข้อมุลที่รวดเร็วด้วย Keihin EMS และนอกจากนี้ยังมี Traction Control ที่สามารถควบคุมหรือเลือกเปิดปิดการใช้งานด้วยการกดปุ่มที่แฮนเดิ้ลบาร์ ระบบนี้จะทำหน้าที่ควบคุมการส่งกำลังเครื่องยนต์ไปที่ล้อหลังให้มีความเหมาะสมกับสภาพการขับขี่ให้มีการยึดเกาะที่ดีที่สุด กล่าวคือ ถ้ารอบการทำงานเครื่องยนต์สูงเกิน ระบบก็จะจำกัดหรือลดกำลังที่ส่งผ่านไปล้อหลังให้ลดลงจนอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการขับขี่นั่นเอง เพราะฉะนั้นนักแข่งที่ชอบจังหวะการขับขี่ที่ต้องการให้ล้อหลังมีอาการสไลด์หรือดิ้น ก็สามารถที่จะปิดการใช้งาน Traction Control นี้ได้ โดยเครื่องยนต์ของ FC250 นี้มีกำลังสูงสุด 46 แรงม้า ที่ 14,000 รอบต่อนาที

ซึ่งสเปคพื้นฐานของตัวรถมีดังนี้ 

EngineDesign : 1-cylinder, 4-stroke engine
Displacement : 249.9 cm³
Starter : Electric starter
Transmission : 5-speed
Primary drive : 24:73
Secondary gear ratio : 14:51
Clutch : Wet, multi-disc clutch,
Magura hydraulics
EMS : Keihin EMS
Frame design : 25CrMo4 steel
central-tube frame
Front suspension : WP-USD, AER 48, Ø 48 mm
Rear suspension : WP shock absorber
with linkage
Suspension travel (front) : 12.2 inch
Front brake : Brembo twin-piston floating
calliper, brake disc
Rear brake : Brembo single-piston floating
calliper, brake disc
Rear brake disc : diameter 220 mm
Steering head angle : 63.9 °
Seat height : 37.8 inch
Weight without fuel : 217.81 lb.
Suspension travel (rear) : 11.81 inch
Tank capacity (approx.) : 1.85 US gal