Skip to content

ประโยคแรกจากเอกสารประชาสัมพันธ์จาก Honda สั้นๆได้ใจความก็คือ เครื่องยนต์ DOHC ใหม่ ที่ให้กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นจากเดิม 9% และมีรอบ redline ที่สูงมากกว่าเดิม อีกทั้งยังมีการติด
ตั้งระบบสตาร์ทไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานติดรถ ที่มีมาใน 2018 CRF250R ด้วยอานิสงค์จากรุ่นเรือธงพิกัด 450F อย่างโมเดล 2017 CRF450R จะเพิ่งวิวัฒนาการครั้งใหญ่ด้วยเฟรมเจเนอเร
ชั่นที่ 7 พร้อมด้วยแนวคิดในการพัฒนา “Absolute Holeshort” ได้นำมาถ่ายทอดใช้กับรุ่นรองลงมาในพิกัด 250F อย่าง 2018 CRF250R ที่ได้นำมาปฏิวัติใหม่อีกครั้งด้วยการปรับมิติของตัวรถพร้อมด้วยพัฒนาในส่วนของระบบกันสะเทือนในทิศทางเดียวกับที่ใช้ในรุ่น 450F แต่ได้มีการนำเครื่องยนต์ตัวใหม่ New DOHC engine ที่ทางฮอนด้ามั่นใจว่า โมเดลล่าสุดอย่าง 2018 CRF250R นี้จะสามารถตอบสนองผู้ขับขี่ในระดับมือใหม่จนถึงระดับโปรได้อย่างดี ซึ่งหัวหน้าโปรเจ็คพัฒนา 2018 CRF250R คือ Mr.Mokio Uchiyama ได้กล่าวถึงการพัฒนาว่า
CRF250R ใหม่ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความโดดเด่นในการออกตัว เร่งทะยานมุ่งเข้าสู่โฮลชอต และพละกำลังที่ยอดเยี่ยมในทุกรอบ ได้ทำการเปลี่ยน Unicam power unit ด้วยเครื่องยนต์ ใหม่ DOHC engine ที่มีรอบการทำงานเครื่องยนต์ที่รุนแรงยิ่งขึ้น รอบการทำงานสูงขึ้น เหมาะสมกับการทำงานร่วมกับเฟรม CRF450R ที่พัฒนาให้มีการควบคุมการขับขี่ที่ดี ได้รับประสิทธิภาพในการยึดเกาะที่ล้อหลังเป็นอย่างดี ทุกส่วนของการพัฒนาล้วนได้รับการดูแลจากทาง HRC เพื่อให้ภาพรวมของ 2018 CRF250R เป็นรถที่เปี่ยมสมรรถนะในการแข่งขัน มีความทนทาน และเป็นรถแข่งที่น่าเกรงขามยิ่งขึ้น ”

สำหรับ 2018 CRF250R มีการพัฒนาที่เหนือกว่า 2017 CRF250R เมื่อเทียบอัตราส่วนระหว่างกำลัง ต่อ น้ำหนักแล้ว จะพัฒนาจากเดิมถึง 5% และหากเปรียบเทียบทดสอบกันแบบล้อต่อล้อแล้ว จะพบว่า ในระยะ 0-10 เมตรนั้น CRF250R เวอร์ชั่นล่าสุด สามารถทำความเร็วได้มากกว่า 3% อีกทั้งยังมีความว่องไวเพิ่มขึ้นถึง 3.6% ในระยะที่มากกว่า 30 เมตร หรืออาจกล่าวได้ว่า CRF250R เวอร์ชั่นล่าสุดนี้ เร็วกว่า ครึ่งคันรถ และ หนึ่งช่วงคันรถ ในระยะทางที่กล่าวถึงนี้ ด้วยเครื่องยนต์ DOHC engine ที่ออกแบบให้เป็นเครื่องยนต์ over-square bore and stroke ที่ปรับมาเป็นขนาด 79×50.9 มม. พร้อมด้วยวาล์วที่โตขึ้น โดยวาล์วไททาเนียมใหม่ มีการปรับ ในส่วนของ ไอดีจาก 30.5 เป็น 33 มม.ส่วนวาล์วไอเสีย ปรับจาก 25 เป็น 26 มม. รวมทั้งการปรับไอดีและไอเสียใหม่ จึงเป็นส่วนสำคัญให้มีกำลังที่เพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งรอบการทำงานของเครื่องยนต์ในการเร่งจากโค้งถึงโค้งนั้นสามารถลากกำลังเครื่องยนต์ได้รอบการทำงานที่สุงขึ้นถึง 2,000 รอบ ต่อนาที เช่นเดียวกับที่รอบการทำงานสูงสุดหรือ redline ของครื่องยนต์นั้นสามารถเพิ่มขึ้นได้อีก 900 รอบต่อนาที ซึ่งอัตราส่วนกำลังอัดของเครื่องยนต์เพิ่มจาก 13.8:1 เป็น 13.9:1

ขณะที่ในส่วนของโครงสร้างแชสซีส์ที่ปรับมาใช้พื้นฐานของเฟรมเจเนอเรชั่นที่ 7 แบบเดียวกับ CRF450R ในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับเฟรมเดิมของ CRF250R ในเวอร์ชั่นเดิมแล้วจะพบว่า สามารถลดน้ำหนักเฟรมลง 340 กรัม จาก aluminum beam frame ของรุ่นเดิม แล้วเมื่อเทียบมิติตัวรถกับ CRF250R เดิม จะพบว่าเฟรมใหม่ล่าสุดนี้ให้ระยะวีลเบสสั้นลง 3 มม. มาเป็นระยะที่ 1,486 มม. และระยะห่างระหว่างจุดยึดสวิงอาร์มกับแกนล้อหลังก็จะสั้นลง 15 มม. เหลือระยะห่าง 573 มม. ขณะที่ในส่วนของซับเฟรมนั้น สามารถลดน้ำหนัดลงได้จากเดิม 20% ช่วยให้สามารถจัดการเรื่องจุดศูนย์ถ่วงน้ำหนักของรถได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ความสูงเบาะนั่งเพิ่มขึ้นอีก 6 มม. เป็นสูง 957 มม. ในขณะที่ระยะห่างจากพื้นหรือ ground clearance เพิ่มขึ้นอีก 5 มม. ทำให้มีระยะห่างเพิ่มเป็น 327 มม. โดยที่น้ำหนักรถที่ไม่มีเชื้อเพลิงจะอยู่ที่ 103.3 กก. และ น้ำหนักรถพร้อมเชื้อเพลิงจะอยู่ที่ 108.1 กก.

สำหรับระบบกันสะเทือนนั้นได้แทนที่หรือเปลี่ยนจากกันสะเทือนหน้า Showa SFF-TAC-Air front fork มาเป็น Showa USD coil-spring fork ที่มีขนาดแกน 49 มม. ซึ่งใหญ่กว่าของเดิมที่มีขนาด 48 มม. และแม้ว่าจะมีทางเลือก คือ Showa Kit fork ที่เป็นชุดแต่ง แต่ก็จะจำกัดเฉพาะทีมแข่งโมโตครอสในเกมชิงแชมป์ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งสเปคพื้นฐานของ 2018 CRF250R มีข้อมูลดังนี้

Technical Specifications
ENGINE : Type Liquidcooled 4stroke
single DOHC
Displacement : 249.4cc
Bore x Stroke : 79mm x 50.9mm
Compression Ratio : 13.9 : 1
Oil Capacity : 1250cm3
FUEL SYSTEM : Carburation Fuel injection
Fuel Tank Capacity : 6.3 litres
Ignition : Full transistor
Starter : Electric
Clutch Type : Wet multiplate
Transmission Type : Constant mesh
Final Drive : Chain
FRAMEType : Aluminium twin tube
Dimensions (L´W´H) : 2183mm x 827
mm x 1274mm
Wheelbase : 1,486mm
Caster Angle : 27.5 degrees
Trail : 116mm
Seat Height : 957mm
Ground Clearance : 327mm
Weight : 108kg
SUSPENSION Type Front : 49mm Showa coilsprung fork
SUSPENSION Type Rear : Showa monoshock using Honda ProLink system
WHEELS Type : Front Aluminium spoke
WHEELS Type : Rear Aluminium spoke
Tyres Front : 80/10021 Dunlop MX3S
Tyres Rear : 100/9019 Dunlop MX3S
BRAKES Front : 260mm hydraulic wave disc
BREAKS Rear : 240mm hydraulic wave disc