Moto3 Thailand Challenge 2016 Round 1 : Chang International Circuit, BURIRAM, THAILAND. 01-03 / 07 / 2016.
เอ.พี.ฮอนด้า วางรากฐานมอเตอร์สปอร์ตไทยยุคใหม่ เดินแผนสร้างขุนพลนักบิดเยาวชน บนอาน NSF250R รถแข่ง Moto3 จากโรงงานฮอนด้า มอเตอร์ จัดเกมเจียรไนยเพชร Moto3 Thailand Challenge บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในแระเทศไทย สร้างความฮือฮาให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทย ยกระดับให้ยิ่งใหญ่และเป็นมาตรฐานระดับสากลทั้งนักแข่งและทีมช่าง โดยนำโครงการ Asia Talent Cup ซึ่งจัดโดยโปรโมเตอร์ระดับโลก Dorna ผู้จัดการแข่งขัน Moto GP. มาสร้างโอกาสให้กับเยาวชนนักแข่งไทยในสังกัดฮอนด้า โดย มร.โนบุฮิเดะ นางาตะ อดีตประธานกรรมการบริหาร เอ.พี.ฮอนด้า เป็นผู้ดำริให้แผนกมอเตอร์สปอร์ตของเอ.พี.ฮอนด้า จัดทำโครงการ Moto3 Thailand Talent Cup ขึ้นมา โดยอดีตประธานกรรมการบริหาร เอ.พี.ฮอนด้า มองว่าเด็กไทยไม่มีโอกาสได้สัมผัสรถแข่ง Racing Machine ที่ผลิตจากโรงงานโดยเฉพาะเลย และจะทำอย่างไรให้เด็กไทยได้มีโอกาสขี่รถแข่งแบบนี้ ซึ่งโครงการ Moto3 Thailand Talent Cup เป็นการเปิดโอกาสให้กับบุคคลทั่วไปได้มีโอกาสเข้ามาคัดเลือก โดยมีเงื่อนไขว่าบุคคลที่สนใจจะต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปี และมีประสบการณ์เคยขี่รถแข่งมาบ้าง เนื่องจากรถแข่งที่นำมาใช้ในโครงการ คือ Honda NSF250R มีความแรงและความเร็วค่อนข้างมาก ถ้าคนที่ไม่เคยขี่รถแข่งมาก่อนอาจจะเกิดอันตรายได้และ คุณสมคิด ศรีสมยศ ผู้จัดการฝ่ายกีฬายานยนต์ฯ(มอเตอร์สปอร์ต) เอ.พี.ฮอนด้า ได้เผยถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ Moto3 Thailand Talent Cup ว่า “เนื่องจากเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว ทาง HRC ได้มีโครงการ Asia Talent Cup ซึ่งทาง เอ.พี.ฮอนด้า ได้ส่งนักแข่งเยาวชน อาทิ ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์, มุก-มุกข์ลดา สารพืช และก้อง-สมเกียรติ จันทรา ไปคัดเลือกและได้เข้าร่วมโครงการนี้เอ.พี.ฮอนด้า จึงได้จัดทำโครงการMoto3 Thailand Talent Cup นี้ ขึ้นมาเพื่อเป็นบันไดให้เด็กไทยได้ก้าวไปสู่ Asia Talent Cup และสามารถทำผลงานได้ดีในฐานะนักแข่งไทยที่จะสร้างภาพความเป็นไทยได้และตั้งใจเอาไว้ว่านักแข่งที่ทำผลงานติด Top5 เอ.พี.ฮอนด้าก็จะพาไปคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ Asia Talent Cup ที่จะทำการคัดเลือกเยาวชนนักแข่งเอเชียไปร่วมโครงการในฤดูกาล 2017 โดยจะทำการคัดเลือกประมาณช่วงเดือน ตุลาคมหรือพฤศจิกายนนี้ ในรายการ Malaysia Grand Prix 2016 Moto3 Thailand Talent Cup เป็นโครงการที่จะมาพัฒนานักแข่งไทยช่างไทย ให้เป็นผู้ที่มีระเบียบวินัย ทำงานตามกติกา ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งปัจจุบันบ้านเรามีสนามแข่งที่เป็นมาตรฐานระดับโลก และมีรถแข่งโรงงานมาตรฐานระดับโลกแล้ว โดยทาง HRC คอยให้การสนับสนุนในปีแรกนี้ตั้งใจจะจัดให้มีการแข่งขันถึง 7 สนาม แต่เนื่องจาก Honda NSF250R เป็นรถแข่งโรงงานโดยเฉพาะ การนำเข้ามาจึงต้องมีการตรวจวัดค่าต่างๆ ตามมาตรฐาน สมอ. ซึ่งทาง เอ.พี.ฮอนด้า ต้องขอขอบคุณ สมอ.หน่วยงานภาครัฐที่เข้าใจเรื่องกีฬามอเตอร์สปอร์ต และอนุญาตให้ เอ.พี.ฮอนด้า นำรถรุ่นนี้เข้ามาใช้กับโครงการฯ ได้ เพื่อให้การจัดอยู่ในเทอมของฤดูกาลแข่งขันปีนี้จึงต้องลดลงมาเหลือ 6 สนาม โดยจะจัดแข่งที่สนามช้าง 3 ครั้ง สนามพีระฯ 2 ครั้ง และสนามไทยแลนด์เซอร์กิต 1 ครั้งสำหรับปีหน้า จะยังยึดกติกาเดิมในการคัดเลือกผู้ที่สนใจเข้าคัดเลือกสู่โครงการ จากผลของการคัดเลือกในปีแรกนี้จะเห็นได้ว่านักแข่งที่ผ่านเข้าสู่โครงการกว่า 90% จะเป็นนักแข่งที่เคยผ่านโครงการ Honda Racing School และ Honda One Make Race(Honda Super Star) ซึ่งเป็นบันไดของนักแข่งที่ เอ.พี.ฮอนด้า จัดทำขึ้นมานักแข่งที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับการสนับสนุนจากทาง เอ.พี.ฮอนด้า ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของชุดแข่ง หมวกกันน็อค ถุงมือ รองเท้า ยูนิ-ฟอร์ม ที่พัก อาหารการกินและการเดินทางระหว่างอยู่ในโปรแกรมการแข่งขันทุกสนามนอกจากนี้ นักแข่งที่มีผลงานในแต่ละสนามก็ยังมีรางวัลจากทาง เอ.พี.ฮอนด้า อีกด้วยเช่นกัน และกับความฝันของนักแข่งทุกคนที่เข้าร่วมโครงการนี้ที่อยากจะไปสู่ระดับนานาชาติ เอ.พี.ฮอนด้า ก็ยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ขณะที่ทาง HRC ได้เปิดใจกับผู้บริหาร เอ.พี.ฮอนด้า ว่า จะให้โอกาสนักแข่งไทยที่มีแววจากโครงการนี้ ซึ่งอาจจะไม่ติด Top5 จะส่งไปร่วมโครงการ Asia talent Cup เลยโดยไม่ต้องไปคัดตัวอีกรอบท้ายนี้ เอ.พี.ฮอนด้า ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักของโครงการ คือน้ำมัน IDEMITSU และพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนมอเตอร์สปอร์ตกับ เอ.พี.ฮอนด้า มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นชุดแข่ง TAICHI, ร้าน ProShop PADDOCK, หัวเทียน NGK, โซ่-สเตอร์ D.I.D รวมถึงยาง DUNLOP”นักแข่งที่ผ่านเข้าสู่โครงการ Moto3 Thailand Talent Cup ปีแรก มีทั้งหมด 12 คน เรียงตามหมายเลขรถแข่งที่จับสลากได้ ดังนี้ หมายเลข1-นิติพงษ์ แสงสว่าง, หมายเลข2-พงศ์ธร สิทธิสา, หมายเลข3-กอบชัย แซ่หลิว, หมายเลข4-กฤชพร แก้วสนธิ, หมายเลข5-ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์, หมายเลข6-ธัชกร บัวศรี, หมายเลข7-เรืองฉัตร บรรเรืองทอง, หมายเลข8-สิทธิพร ศรีมูลตรี, หมายเลข9-ปลวัชร อารยะสัจพงษ์, หมายเลข10-พัฒนพงษ์ ขันบุตร, หมายเลข11-วริทธ์ ทองนพคุณ และ หมายเลข12-ปิยวัฒน์ ปทุมยศ และยังมีนักแข่งสำรองไว้อีก 3 คน
สำหรับผลการควอลิฟายของการแข่งขันสนามแรกในช่วงบ่ายของวันเสาร์ ที่ 2 กรกฎาคม 2559 ปรากฏว่า เจ้าแชมป์–ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ หมายเลข5 ทำเวลาได้เร็วที่สุดยึดตำแหน่งสตาร์ทโพลโพสิชั่น ด้วยเวลา 1:49.945 นาที ตำแหน่งสตาร์ทอันดับที่2 เป็น เจ้านิว-กฤชพร แก้วสนธิ หมายเลข4 เวลา 1:50.704 นาที ตำแหน่งสตาร์ทที่3 เป็นเจ้าบลู-สิทธิพร ศรีมูลตรี เวลา 1:50.750 นาที ยึดกริดสตาร์ทแถวแรก ส่วนตำแหน่งสตาร์ทแถวที่2 มี เจ้าบิว-วริทธ์ ทองนพคุณ(11), เจ้ากาย-ปลวัชร อารยะสัจพงษ์(9) และเจ้าแชมป์-กอบชัย แซ่หลิวตำแหน่งสตาร์ทแถวที่3 เจ้าก๊อง-ธัชกร บัวศรี(6), เจ้าฟร็อง-เรืองฉัตร บรรเรืองทอง(7) และ เจ้าไอซ์-นิติพงษ์ แสงสว่าง(1) และตำแหน่งสตาร์ทแถวที่4 เจ้าฟิล์ม-ปิยวัฒน์ ปทุมยศ(12), เจ้าโอม-พัฒนพงษ์ ขันบุตร(10) และ เจ้าพงศ์ธร สิทธิสา(2) สรุปผลการแข่งขัน ของวันอาทิตย์ ที่ 3 กรกฎาคม 2559 อันดับ 1 สิทธิพร ศรีมูลตรี หมายเลข 8, อันดับ 2ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ หมายเลข5 , อันดับ3 กฤชพร แก้วสนธิ หมายเลข4 , อันดับที่ 5 ปลวัชร อารยะสัจพงษ์ หมายเลข9