“ยามาฮ่า” เตรียมส่งเครื่องใหม่บู๊ เลอ มองส์

“กวาร์ตาราโร-รินส์” หวังศักยภาพดีต่อเนื่อง

“มอนสเตอร์ ยามาฮ่า” เตรียมส่งเครื่องยนต์ใหม่ของรถแข่ง M1 ลงแข่งขันในศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 6 รายการ เฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ ที่ เลอ มองส์ เซอร์กิต ประเทศฝรั่งเศส หลังผ่านการทดสอบล่าสุดที่ เฮเรซ โดยจะยังคงเป็นเครื่อง “สูบเรียง” ซึ่งนักบิดทั้ง 2 คนอย่าง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ อเล็กซ์ รินส์ จาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี ชี้ให้ท็อปสปีดที่สูงขึ้น หวังได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อเนื่องในสุดสัปดาห์นี้

ยามาฮ่า เดินหน้าพัฒนาเครื่องยนต์ V4 อย่างเปิดเผย ทว่าเครื่องยนต์ดังกล่าวยังไม่ได้ถูกส่งลงเทสต์ครั้งล่าสุดที่ เฮเรซ แต่พวกเขาเลือกที่จะอัปเกรดเครื่องยนต์สูบเรียงให้กับ กวาร์ตาราโร และ รินส์ ในการเทสต์หลังจบการแข่งขัน สแปนิช กรังด์ปรีซ์

กวาร์ตาราโร สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับ โมโตจีพี ด้วยการคว้าโพลกับ ยามาฮ่า M1 เหนือรถแข่งจาก ดูคาติ พร้อมกับทุบสถิติของ เฮเรซ ลงอย่างราบคาบ ซึ่งแม้จะพลาดล้มในรอบที่ 2 ของ สปรินต์เรซ แต่ดาวบิดเฟรนช์ก็โชว์ฟอร์มอย่างแข็งแกร่งใน เมนเรซ ด้วยการบิดคว้าอันดับ 2 มาครอง

กวาร์ตาราโร กล่าวถึงการทดสอบที่ เฮเรซ ว่า “เป็นวันที่มีทิศทางเป็นบวก แต่ว่าตลอดทั้งวันโดยเฉพาะช่วงบ่ายที่มีลมแรงสุดๆ นั้นทำให้ยากที่จะขี่ให้ดี และนั่นทำให้ ดาต้า ที่ได้นั้นไม่นิ่ง แต่ผมก็แฮปปี้นะ เราเทสต์เครื่องยนต์ใหม่ ดูเหมือนว่ามันจะดีขึ้น ซึ่งเราน่าจะได้ใช้มันที่ เลอมองส์ ความรู้สึกต่างๆ ถือว่าดี แต่เราก็ยังต้องการเวลาเพื่อทำความเข้าใจ และสิ่งที่จะได้จากเครื่องยนต์ใหม่ ยากนะแต่ถือว่ามีทิศทางที่ดี ซึ่งผมคิดว่ามันยอดเยี่ยมเลยละ และตอนนี้ผมพร้อมสำหรับ เลอมองส์ แล้ว”

ด้านทีมเมทอย่าง รินส์ กล่าวว่า “เราได้เทสต์เครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งดีเลยละ มันมีพละกำลังมากกว่าเดิม เราทำงานกับท็อปสปีด เพราะนั่นคือสิ่งที่เราขาดไป และเราก็เพิ่มความเร็วทางตรงได้ 2 กม./ชม. นี่คือผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม และเราจะใช้เครื่องยนต์ใหม่นี้ที่ เลอมองส์ ซึ่งเป็นสนามที่มีบรรยากาศสุดยอดมาก มันช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นให้นักบิดทุกคน”

ทั้งนี้ ศึก เฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคมนี้ ก่อนจะควอลิฟายและดวลความเร็ว “สปรินต์เรซ” ในคืนวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคมนี้ และแข่งขัน “เมนเรซ” ในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมนี้ เวลา 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง SPOTV

—————————–
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP25 #TheBlueShift
#YamahaFactoryRacingTeam
#MonsterEnergyYamahaMotoGP #FQ20 #AR42

Trail Time Begins ได้เวลาออกไปลุยกับตระกูล Kawasaki KLX230

Trail Time Begins ที่จะพาคุณออกไปผจญภัยในโลกทางฝุ่นสุด

ได้เวลาออกไปลุย ตามที่ใจอยากกับแคมเปญ Trail Time Begins ที่จะพาคุณออกไปผจญภัยในโลกทางฝุ่นสุดมันด้วยกิจกรรมหลากหลายที่รอให้คุณมาสัมผัส ทั้งออนไลน์และออฟไลน์สุดมันตลอดทั้งปี ทั่วทุกพื้นที่ กับ Kawasaki KLX230 series รถออฟโรดตัวตึงจากคาวาซากิ ที่มีหลากหลายรุ่นสำหรับขับขี่กลุ่มต่างๆให้เข้าถึงผู้ขับขี่ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น KLX230 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร้าใจแบบต้นตำรับ, KLX230 S รุ่นที่ให้ความมั่นใจกับผู้ที่กังวลเรื่องความสูงของเบาะ, KLX230 SE รุ่นพิเศษที่มาพร้อมโช๊คหัวกลับ, และ KLX230 SM มาพร้อมล้อเรียบสำหรับสายซุปเปอร์โมโตตัวจริง สำหรับรุ่น KLX230 SE และ KLX230 SM ยังมาพร้อมกับรุ่น ABS และ Non-ABS ให้เลือกตามสไตล์การขับขี่ของคุ

Trail Time Begins ยังมาพร้อมราคาที่จะทำให้นักขับขี่เข้าถึงการผจญภัยในแบบออฟโรดได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม

KLX230                             124,900 บาท

KLX230 S                           124,900 บาท

KLX230 SE (Non-ABS)            126,900 บาท

KLX230 SE (ABS)                  129,900 บาท

KLX230 SM SE (Non-ABS)       132,900 บาท

KLX230 SM SE (ABS)             134,900 บาท

พร้อมกับคูปองเงินสดมูลค่า 5,000 บาท และฟรีประกันรถหาย

พิเศษสุด สำหรับลูกค้าใหม่ สามารถเลือกซื้อ KLX230 รุ่นที่สนใจ พร้อมรับสิทธิซื้อตะแกรงท้ายเบาะ (ใหญ่) ได้ในราคาพิเศษเพียง 990 บาท (จากราคาเต็ม 4,300 บาท)

Trail Time Begins เริ่มกิจกรรมแรกด้วยกิจกรรม Ride Your Story ที่จะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์หน้า รอติดตามรายละเอียดหน้าเพจกันไว้ให้ดี นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการขับขี่มากมายจากทางผู้แทนจำหน่ายคาวาซากิ ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบขับขี่ มีตติ้ง หรือจะเป็นทริปคาราวานสุดมัน ที่ผู้เข้าร่วมจะไม่ได้กลับบ้านมือเปล่ากันอย่างแน่นอน

รายละเอียดกิจกรรมต่างๆ โปรดติดตามหน้าเพจ Kawasaki Motors Thailand หรือ เพจของผู้แทนจำหน่าย Kawasaki ทั่วประเทศ เร็วๆนี้

#KawasakiKLX230series #TrailTimeBegins

“ฮอนด้า” กวาดหัวแถวทางฝุ่น “แซงค์-กฤษฎา” บิด CRF450R คว้าชัยชนะ รุ่นท็อป Premier MX-1

ศึกโมโตครอสชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 6-7 จ.เลย

“แซงค์”กฤษฎา จำรูญจารีต ยอดนักบิดขวัญใจกองเชียร์ทางฝุ่นเจ้าของแชมป์ประเทศไทย 4 สมัย บิดรถแข่ง Honda CRF450R คว้าชัยชนะในการแข่งขัน FMSCT Thailand Motocross 2025 รุ่นท็อปสุดอย่าง Premier MX-1 สนามที่ 6-7 ณ สนาม Silver Rock Bike Park จังหวัดเลย เมื่อวันที่ 3-4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

FMSCT Thailand Motocross 2025 สนามที่ 6 รุ่นไฮไลท์ของรายการอย่าง Premier MX-1 การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุยาวนานถึง 20 นาทีกับอีก 2 รอบสนาม ทัพนักแข่งฮอนด้าบิดรถแข่ง Honda CRF450R ทำผลงานหัวแถว โดย “แซงค์” กฤษฎา จำรูญจารีต หมายเลข 17 สังกัดทีม Honda 17 พรนุภาพ Dritshop Idemitsu Dunlop เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 2 โดยมี “นีโม่” จิรัฎฐ์ วรรณลักษณ์ หมายเลข 177 สังกัด Honda Racing Thailand Idemitsu Wannalak Motorsport ที่แม้จะมีอุบัติเหตุแต่ไม่ยอมแพ้บิดรถแข่งขึ้นสู้ไล่แซงจบในอันดับที่ 3 ด้าน“โออิชิ” พัสกร ปริยวงศธร หมายเลข 3 สังกัด Honda Asia Bowin Idemitsu S Motor ที่ทำผลงานออกสตาร์ตคว้าโฮลด์ช็อตได้สำเร็จ เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 4 ตามด้วย “ยศ” ภานุพงศ์ สมสวัสดิ์ หมายเลข 93 สังกัด Honda สจโก๋ WRC ชาญยนต์ Idemitsu Drtc Dirtshop จบในอันดับที่ 5

ต่อมาในการแข่งขันสนามที่ 7 “แซงค์-กฤษฎา” หมายเลข 17 บิดรถแข่ง Honda CRF450R ไล่ล่าอันดับแซงขึ้นมาเป็นผู้นำได้ในช่วงกลางเกมและคว้าชัยชนะมาครองได้สำเร็จ โดยมี “นีโม่- จิรัฎฐ์” หมายเลข 177 ตามเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 2 ด้าน “โออิชิ-พัสกร” หมายเลข 3 บิดออกสตาร์ตอย่างร้อนแรงเก็บโฮลด์ช็อตได้อีกครั้ง จบเกมในอันดับที่ 5 และ “ยศ” ภานุพงศ์ หมายเลข 93 ในอันดับที่ 7

หลังจบการแข่งขัน ผลตารางคะแนนชิงแชมป์ประเทศไทย “นีโม่-จิรัฎฐ์” ยังคงรั้งอันดับที่ 1 อย่างต่อเนื่อง มีทั้งสิ้น 115 คะแนน ตามด้วย “แซงค์-กฤษฎา” ในอับดับที่ 2 มีทั้งสิ้น 90 คะแนน ด้าน “ยศ-ภานุพงศ์” อยู่อันดับที่ 6 มีทั้งสิ้น 80 คะแนน และ “โออิชิ-พัสกร” อยู่อันดับที่ 7 มีทั้งสิ้น 73 คะแนน

โดยการแข่งขัน FMSCT Thailand Motocross 2025 สนามที่ 8 จะไปแข่งขันกันที่สนาม แดนพนาปาร์ค จังหวัดน่าน ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้

#ThaiHonda #Motorsport #RaceToTheChampion #ThailandMotocross

TrialGP2025 ระเบิดความมันส์ Repsol Honda HRC

Repsol Honda HRC ร้อนแรงต่อเนื่องกวาดชัยชนะ 2 เรซ สนาม 2 ที่โปรตุเกส

“โทนี่ โบ” ยอดนักบิดไต่เขาชาวสเปนจาก Repsol Honda HRC ร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ยกระดับผลงานด้วยการเหมาชัยชนะทั้ง 2 เรซ หลังดวลสุดเดือดกับคู่แข่ง เก็บคะแนนสะสมรั้งอันดับที่ 1 ในตารางแชมเปี้ยนชิพ ขณะที่ “กาเบียล มาเซลลี่” ทีมเมท ทะยานขึ้นโพเดียมพร้อมรั้งท็อป 3 ในตารางคะแนน ในศึก TrialGP 2025 สนาม 2 ที่วีอานา โด กัสเตโล ประเทศโปรตุเกส (Viana do Castelo, Portugal) เมื่อสนามที่ผ่านมา

เรซที่ 1 “โทนี่ โบ” หมายเลข 1 เริ่มต้นได้ไม่ดีนัก กับสภาพสนามที่แห้งแล้ง แต่ประสบการณ์และการทำงานของ Repsol Honda HRC ใช้ความสม่ำเสมอในการแข่งขันเข้ามาเป็นกลยุทธ์ เบียดคู่คว้าชัยชนะไปครองได้ก่อน  และตามมาติดๆ บนโพเดียมโดยทีมเมท “กาเบียล มาเซลลี่” หมายเลข 38 คว้าอันดับที่ 3

เรซที่ 2 การต่อสู้เข้มข้นขึ้นอีกเมื่อนักแข่งเริ่มปรับตัวกับสภาพสนามได้ดีขึ้น “โทนี่ โบ” โฟกัสที่การขับของตัวเองและทำผลงานได้ออกมายอดเยี่ยมที่สุด คว้าชัยชนะไปครองได้อีกเรซ บวกคะแนนสะสมเพิ่มเป็น 160 คะแนน รั้งอันดับที่ 1 ในตารางแชมเปี้ยนชิพ ขณะที่ “กาเบียล มาเซลลี่” พลาดโพเดียมไปอย่างน่าเสียดายด้วยคะแนนถูกเบียดอย่างหวุดหวิด เข้ามาเป็นอันดับที่ 4 ด้วยคะแนนสะสม 114 คะแนน รั้งอันดับที่ 3 ในตารางแชมเปี้ยนชิพ

ทั้งนี้การแข่งขัน TrialGP 2025 สนามที่ 3 จะย้ายไปแข่งขันกันที่ โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น เป็นโฮมเรซของทีม Repsol Honda HRC โดยจะแข่งขันกันในระหว่างวันที่ 16-18 พฤษภาคม นี้

#ThaiHonda #HRC #RaceToTheDream #HondaRacingThailand #MotorSport #HondaBigBike #ExcitesTheWorld #HondaRacingCorporation #FIMTrailGP

ยามาฮ่าร่วมฉลองความสำเร็จ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ฟุตบอลไทยลีก สมัยที่ 10 อย่างยิ่งใหญ่

นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร, มร.ทาคากิ ฮิเดฮิโกะ รองประธานกรรมการบริหาร, นายภาณุพล กิตติคำรณ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า และนายอุกฤษณ์ ภาควิวรรธ รองผู้จัดการใหญ่ด้านวางแผนการค้า และการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมแสดงความยินดี ด้วยการมอบช่อดอกไม้ และเค้กเพื่อฉลองความสำเร็จแก่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในการคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศไทย รายการ Revo Thai League ฤดูกาล 2024–2025

โดยการแข่งขันนัดสุดท้าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดสนามปราสาทสายฟ้าเอาชนะ หนองบัว พิชญ เอฟซี ไปด้วยสกอร์ 7-0 เก็บ 3 คะแนนสำคัญ ส่งผลให้มีคะแนนรวมเป็นอันดับ 1 ของตาราง เฉือนทีมอันดับ 2 เพียง 1 คะแนน คว้าแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 10 ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่

ทั้งนี้ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถือเป็นพันธมิตรที่ดีกับยามาฮ่าอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 14 ปี และยังเป็นสโมสรเดียวในประเทศไทยที่สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้มากที่สุด

สำหรับการแสดงความยินดีในครั้งนี้ จัดขึ้นในศึกฟุตบอลไทยลีก นัดที่ 30 ประจำฤดูกาล 2024–2025 ณ สนามช้าง อารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเร็วๆ นี้

ยามาฮ่าจับมือพันธมิตร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และอัมรินทร์ ทีวี จัดทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “สุดทุกฟีล…ชิลทุกวัน @ภาคตะวันออก” 2 วัน 1 คืน

ยามาฮ่าจัดเต็มแม็กซ์เอาใจชาว XMAX

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จับมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และอัมรินทร์ ทีวี เปิดตัวแคมเปญ “สุดทุกฟีล…ชิลทุกวัน @ภาคตะวันออก” มอบสิทธิพิเศษเอ็กซ์คลูซีฟทริป แก่ลูกค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่า XMAX ที่ซื้อระหว่างงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ผ่านมา และลูกค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่า XMAX ที่ใช้คะแนนสะสมจากแอปพลิเคชัน YAMAHA Smart Reward 4,000 คะแนน จำนวน 20 สิทธิ์ เข้าร่วม เอ็กซ์คลูซีฟทริป เส้นทาง กรุงเทพฯ – นครนายก – ปราจีนบุรี เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และส่งเสริมเศรษฐกิจในภาคตะวันออก

โดย “ทริปสุดทุกฟีล…ชิลทุกวัน @ภาคตะวันออก กับชาว XMAX!” ออกตัวกันแบบมีสไตล์จาก YAMAHA Riders’ Club พร้อม XMAX Influencer ชื่อดังนำโดย ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย มาพร้อมกับ XMAX คู่ใจสีแดงสไตล์สปอร์ต Zhampo นักร้องดังจากวง SDF มาพร้อมกับ XMAX คู่ใจสีเทาพร้อมลายกราฟิก สไตล์โชว์ออฟ และสาวสวย กอล์ฟ กัญญ์นลิน อินฟลูฯ สาวสวยกับ XMAX คู่ใจสีดำสไตล์ทัวริ่ง และเหล่าสาวก XMAX ที่มารวมตัวกันแบบแน่นๆ มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครนายก จุดแวะเติมพลังแรกขอแวะพักชิลกันที่ Bittersweet Cafe‘ คาเฟบรรยากาศสุดละมุน ที่กลายเป็นจุดเช็กอินสุดฮอตของทริปนี้! หลังจิบกาแฟแล้วก็ลุยต่อ! กับกิจกรรมอิ่มใจแบบ CSR ที่ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า งานนี้ไม่ใช่แค่ขี่สนุก แต่ยังได้ทำบุญ เติมแต้มบุญกันแบบเต็มแม็กซ์ทุกคัน! ต่อด้วยมื้อกลางวันสุดพิเศษแบบจัดเต็ม พาอิ่มท้องก่อนลุยกิจกรรมมันขั้นสุดกับสายแอดเวนเจอร์ ทั้ง ยิงธนูประชันความแม่น และยิงปืนแบบเท่ๆ เพิ่มดีกรีความเร้าใจแบบไม่มีแผ่ว! แล้วมาปิดท้ายวันแบบสุดฟินน์ที่ เซเรนิตี้ โฮเทล แอนด์ สปา กบินทร์บุรี แช่ออนเซ็นคลายเมื่อย ฟื้นพลังกันให้เต็มถัง! ก่อนระเบิดความมันในปาร์ตี้สุด Exclusive ที่จัดเต็มโดย YAMAHA ร่วมกับ ททท. และอัมรินทร์ ทีวี ของรางวัลเพียบ! แจกกันแบบไม่ยั้ง ให้แฟนๆ XMAX ได้จบวันด้วยรอยยิ้มแบบล้นๆ ก่อนจบกิจกรรมแบบฟินน์ๆ ใน “ทริปสุดทุกฟีล…ชิลทุกวัน @ภาคตะวันออก

ร่วมติดตามความเคลื่อนไหว และกิจกรรมดีๆ ครั้งต่อไปได้ที่ Facebook : Yamaha Society Thailand และตรวจสอบคะแนน และสิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อเอาใจชาวยามาฮ่าได้ที่ Application : YAMAHA Smart Reward สามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง IOS และ Android

#ยามาฮ่า #XMAX
#สุดทุกฟีลชิลทุกวัน
#YamahaSmartReward
#ยามาฮ่าเร่งชีวิตให้เร้าใจ
#Yamaha #RevsYourHeart
#YamahaSocietyThailand

กระแสแรง! สนามช้างฯ จัดใหญ่ “พิตวอล์ค” ศึกสองล้อเอเชีย ดึงคนดังคอความเร็วร่วมกิจกรรมสุดคึกคัก

กิจกรรมพิตวอล์ค ศึกชิงเจ้าความเร็วสองล้อเอเชีย “Asia Road Racing 2025”

 

เปิดฉากสุดชื่นมื่นสำหรับการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบรายการสุดยิ่งใหญ่ของเอเชีย Asia Road Racing สนามที่ 1 ของฤดูกาล 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน 2568 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ทัพนักบิดไทยประเดิมสนาม ด้วยผลงานสุดหรู ทำให้เพลงชาติไทยดังกระหึ่มโฮมเรซ

กิจกรรมพิตวอล์ค ศึกชิงเจ้าความเร็วสองล้อเอเชีย “Asia Road Racing 2025” สนามเปิดฤดูกาลที่ประเทศไทย เต็มไปด้วยความคึกคัก แฟนความเร็วได้ใกล้ชิดกับนักบิดคนโปรดจากทีมแข่งชั้นนำของโลก อาทิ ออสเตรเลีย, เยอรมนี, สเปน, ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, อินเดีย, ไทย, เวียดนาม, จีน, สิงคโปร์ ฯลฯ รวมทั้งนักแสดงหนุ่มหล่อ “โอม -ภวัต จิตต์สว่างดี”เจแปน-ภาณุพรรณ จันทนะวงษ์ และอินฟลูเอนเซอร์มอเตอร์สปอร์ต แพร-ทวินันท์ เพิ่มพูน และ“เรซควีน” สาวสวยขวัญใจคอกีฬาความเร็วจากทีมแข่งต่างๆที่นำของที่ระลึกมาร่วมสนุกและมอบให้แฟนๆมากมาย

ทัพคนดังที่มีหัวใจรักมอเตอร์สปอร์ต ร่วมสร้างสีสันและทำกิจกรรมต่างๆภายในสนาม นำโดย “โอม-ภวัต” เป็นผู้โบกธงตราหมากรุก ในเรซที่ 1 ส่วน แพร-ทวินันท์ โบกธงตราหมากรุก ในเรซที่ 2 ของการแข่งขันรุ่นใหญ่ที่สุดของรายการ ได้แก่ เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (ASB1000) ที่รวมเอายอดนักบิดแถวหน้าไว้มากมาย ซึ่งนักบิดสายเลือดไทย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เข้าป้ายอันดับหนึ่ง ผงาดคว้าชัยชนะไปครองได้ทั้ง 2 เรซเช่นกันท่ามกลางเสียงเชียร์สนั่นสนาม

นอกจากนี้เหล่าคนดัง ยังได้สร้างคอนเท้นต์เชิงสร้างสรรค์ เพื่อนำไปเผยแพร่ในช่องทางออนไลน์ของตนเอง เพื่อให้เยาวชน คนรุ่นใหม่ “ขับขี่อย่างปลอดภัย” มาร่วมชม-เชียร์นักบิดไทยและสนับสนุนการแข่งขันในสนามแข่งเท่านั้น

สำหรับ “Asia Road Racing 2025” สนามที่ 2 จะจัดขึ้นที่ เซปัง เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 30 พฤษภาคม-1 มิถุนายน 2568

เพลงชาติไทยกระหึ่มสนาม! “ชิพ” นครินทร์ประเดิมแชมป์ “เอเชีย โร้ด” เรซแรก เปิดฤดูกาลสุดเดือด

“ชิพ” นครินทร์ เข้าป้ายอันดับหนึ่งของเอเชีย ผงาดคว้าชัยชนะรุ่นใหญ่ เพลงชาติไทยกระหึ่มสนาม

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2025 สนามแรก ดวลความเร็วเรซแรก วันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2568 ท่ามกลางการติดตามจากแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วทั้งเอเชีย ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

ไฮไลต์อยู่ที่การแข่งขันในรุ่นใหญ่ที่ของทวีปอย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (ASB1000) ที่รวมเอายอดนักบิดแถวหน้าไว้มากมาย โดยตำแหน่งโพลโพซิชั่นเป็นของ “ซัควาน ไซดี้” นักบิดมาเลเซียจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า เรซซิ่ง มาเลเซีย ขนาบข้างด้วยนักบิดไทยอย่าง “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 ได้แก่ ฮาฟิซ ซยาห์ริน อดีตนักบิดโมโตจีพีชาวมาเลเซียจาก เจดีที เรซซิ่ง ทีม ขณะที่ “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นักบิดไทยอีกคนลงบิดร่วมกับสังกัดใหม่อย่าง เอวัน เอเนอร์จี้ บีเอ็มเบิลยู เริ่มเกมจากกริดที่ 7

เกมเรซนี้ดวลกันทั้งสิ้น 10 รอบสนาม ภายใต้สถานการณ์ที่ยากแก่การตัดสินใจเลือกใช้ยาง เพราะสภาพแทร็กก้ำกึ่งระหว่างแห้งหรือเปียก หลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักในรุ่นก่อนหน้านี้ โดยท้ายที่สุดนักบิดทุกคน ก็ลงแข่งขันด้วยยางสลิคสำหรับแทร็กแห้ง ซึ่งหลังออกตัวเป็น “ชิพ-นครินทร์” และ ซัควาน ไซดี้ ที่ไล่บดชิงตำแหน่งหัวแถว และมี ฮาฟิซ ซยาห์ริน เป็นตัวสอดแทรก ก่อนที่ ”แสตมป์-อภิวัฒน์” ที่ขยับขึ้นมาจากกริทดี่ 7 จะไต่ขึ้นมารวมกลุ่มนำได้อย่างรวดเร็ว

จุดเปลี่ยนของการแข่งขันเกิดขึ้นในช่วง 3 รอบสุดท้าย เมื่อ “ชิพ-นครินทร์” อาศัยความเร็วที่เหนือกว่า ขยับขึ้นเป็นจ่าฝูงและหนีการไล่ล่าของ ซัควาน ไซดี้ อย่างสุดมันส์ ก่อนจะบิดเข้าป้ายเป็นคันแรก ด้วยเวลารวม 16 นาที 06.372 วินาทีผงาดคว้าชัยชนะโฮมเรซไปครองอย่างยิ่งใหญ่ เหนือ ซัควาน ไซดี้ อันดับ 2 เพียง 0.241 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ฮาฟิซ ซยาห์ริน ที่เฉือน “แสตมป์-อภิวัฒน์” ที่หน้าเส้นชัยไปอย่างเฉียดฉิว

ส่วนการแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS600) เจอฝนถล่มอย่างหนัก จนต้องลดจำรวนรอบลงเหลือ 8 รอบสนาม ท่ามกลางแทร็กที่ชุ่มไปด้วยน้ำ ชัยชนะตกเป็นของ “โมฮัมหมัด อะเดนันต้า พูตร้า” นักบิดอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ที่ทะยานจากกริดที่ 8 แซงรวดเดียว 7 คันในรอบแรก บิดเข้าป้ายในฐานะผู้นำด้วยเวลารวม 15 นาที 0.12 วินาทีเท่านั้น ตามด้วย แม็คคินลีย์ ไคล์ พาซ นักบิดฟิลิปปินส์จาก ฮง หลง ยามาฮ่า เรซซิ่ง ในอันดับ 2 ตามหลัง 0.421 วินาที และอันดับ 3 เป็นของ วาห์ยู นูโกรโฮ นักบิดอินโดนีเซียจาก ยามาฮ่า เรซซิ่ง อินโดนีเซีย ตามหลัง 0.724 วินาที

ขณะที่นักบิดดาวรุ่งชาวไทยอย่าง “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ออกตัวจากกริดที่ 4 มีโอกาสขยับขึ้นนำได้ ก่อนจะจบเรซในอันดับ 4 ตามหลังผู้ชนะเพียง 0.817 วินาทีเท่านั้น ด้าน “ตี” อนุภาพ ซามูล จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม เข้าป้ายอันดับ 5 ตามหลัง 2.792 วินาที โดยมี “ไฮเป็ค” กฤษฎา ธนโชติ ดาวรุ่งจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในอันดับ 11 ตามหลัง 18.633 วินาที

ด้านเกมในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี (AP250) เป็นเรซที่ต้องมาตัดสินชัยชนะกันถึงโค้งสุดท้าย เมื่อ “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ ดาวรุ่งชาวไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ซึ่งได้ออกตัวจากโพลโชว์ความเร็วอย่างยอดเยี่ยม ไล่บดกับคู่แข่งอย่าง ฟาดิลลาห์ อาร์บี อะดิทาม่า ดาวรุ่งชาวอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม อย่างสุดมันส์ตลอดทั้งเรซ แต่น่าเสียดายที่พลาดล้มโค้งสุดท้าย ในจังหวะที่พยายามจะแซงเพื่อลุ้นชัยชนะ

ผลปรากฏว่าชัยชนะในเรซนี้ตกเป็นของ ฟาดิลลาห์ อาร์บี อะดิทาม่า ด้วยเวลารวม 18 นาที 44.334 วินาที ส่วนอันดับ 2 เป็นของ คันดร้า เฮนมาวาน นักบิดอินโดนีเซียจาก ยามาฮ่า เรซซิ่ง อินโดนีเซีย ตามหลัง 2.070 วินาที ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ ดาวิโน บริตานี ดาวรุ่งชาวอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 2.313 วินาที

ทั้งนี้ ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2025 สนามแรกจะดวลความเร็วเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน โดยจะเป็นเรซที่มีการขับเคี่ยวเข้มข้นสุดมันส์อย่างแน่นอน แฟนชาวไทยซื้อบัตรได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่เว็บไซด์ allticket หรือซื้อบัตรหน้างาน สามารถซื้อบัตรได้ที่จุดจำหน่ายบัตรหน้างาน 2 จุด ที่ทางขึ้น Grand Stand ฝั่งทิศตะวันตก (Paddock B) และบริเวณโดมแก้ว

บัตร VIP 1,000 บาท/1 วัน และ 1,500 บาท/2 วัน บัตร GRANDSTAND 200 บาท/1 วันและ 300 บาท/2 วัน  มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่ บัตรชมการแข่งขันโมโตจีพี 2026 ในกิจกรรม “Chang Int’s Friend Pass” ไม่ว่าจะเป็นบัตร VIP โค้ง 12 และบัตร Paddock Pass + Official Guide Tour (Paddock Raffle) และบัตร PIT Lane Walk

รับชมถ่ายทอดสด ผ่านทางหน้าจอ PPTV HD 36 วันที่ 27 เม.ย. เริ่ม 13.55 – 16.30 น. หรือรับชมออนไลน์ทางเพจ PPTV Sports และ Chang Circuit Buriram และทางยูทูบ PPTV Sports

รัฐเร่งวางเกณฑ์อนุญาตนำเข้ารถโบราณ เน้นส่งเสริมอนุรักษ์ สร้างงานซ่อมบำรุง หนุนซอฟท์พาวเวอร์ไทย

สมาคมรถโบราณฯ แจ้งความคืบหน้ามติ ครม. ไฟเขียวนำเข้ารถโบราณ 

ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อ 12 มีนาคม 2567 และ 22 เมษายน 2568 อนุมัติกฎหมายนำเข้ารถโบราณเพื่อการอนุรักษ์นั้น

สมาคมฯ ต้องขอขอบคุณภาครัฐที่รับฟังข้อมูลด้วยดีมาตลอด โดยขอสรุปมติ ครม. และประเด็นที่เคยร่วมหารือกับหน่วยงานต่างๆ กรณี “การนำเข้ารถโบราณที่มีอายุเกิน 30 ปี” ซึ่งจะมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ของ 6 หน่วยงานรัฐ ดังนี้

1 กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดรับฟังความคิดเห็นแล้วและอยู่ระหว่างเตรียมออกประกาศอนุญาตให้นำเข้ารถยนต์โบราณตามมติ ครม.

2 กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยู่ระหว่างปรับเกณฑ์ยกเว้นเรื่องการปล่อยไอเสียของรถโบราณ ซึ่งจะถูกจำกัดจำนวนวันใช้รถ

3 กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างยกร่างประกาศลดอัตราอากร และยกเว้นอากรศุลกากร สำหรับรถยนต์โบราณ สำหรับรถยนต์นั่งตามพิกัดอัตราศุลกากร ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปี แต่ไม่เกิน 100 ปี และพิกัดอัตราศุลกากรรถยนต์โบราณที่มีอายุตั้งแต่ 100 ปี

4 กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างออกประกาศกำหนดภาษีสรรพสามิตที่จะใช้จัดเก็บภาษีรถยนต์โบราณอายุเกิน 30 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ไม่รวมถึงรถกระบะ และมอเตอร์ไซค์ โดยคิดคำนวณภาษีจากราคาประเมินสากลที่เป็นปัจจุบัน และถูกประกาศโดยกรมสรรพสามิต ทั้งนี้คาดว่าจะกำหนดอัตราขั้นต่ำที่ 2 ล้านบาท

5 กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ผลักดันเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มบทนิยามรถโบราณกำหนดขนาด ลักษณะ ของแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์โบราณเป็นป้ายสีดำ ตัวอักษรสีขาว

6 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมออกกฎให้รถยนต์โบราณชุดนี้วิ่งได้เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันที่นำไปจัดแสดงตามกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจำนวนวันต้องรอประกาศเป็นทางการอีกครั้ง

“การอนุญาตนำเข้ารถโบราณช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์รถโบราณ และรถคลาสสิคให้คึกคักขึ้น เก็บภาษีได้เพิ่ม ช่วยสร้างงานซ่อมบูรณะให้ช่างไทย ส่งเสริมซอฟท์พาวเวอร์  เพิ่มมนต์เสน่ห์ให้การท่องเที่ยวได้อย่างดี  สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทยพร้อมขยายกิจกรรมประจำปีต่างๆ ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม” ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี กล่าวเพิ่มเติม

ติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับกฎหมายนำเข้ารถโบราณ และกิจกรรมของสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทยได้ที่ vintagecarclub.or.th และ facebook.com/VintageCarClub

ทัพนักบิด “New Honda CBR Series” ฟอร์มแกร่ง รั้งกลุ่มหน้า ARRC สนามเปิดฤดูกาล 2025 จ.บุรีรัมย์

รถแข่ง “New Honda CBR Series” ทำผลงานรั้งกลุ่มหน้า

ทัพนักบิด “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ส่งนักแข่งเต็มอัตราศึกทั้ง 3 รุ่นท็อป ลงดวลศึกชิงเจ้าความเร็วระดับทวีปเอเชีย ในรายการ “เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2025” สนามเปิดฤดูกาล ทำผลงานรั้งกลุ่มหน้าด้วยรถแข่ง “New Honda CBR Series” ของโปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการ เมื่อวันศุกร์ที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

หลังผ่านการซ้อมอย่างเป็นทางการ (Practice) ทั้ง 3 ช่วง ในสภาพอากาศร้อนจัด ทัพนักแข่ง “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ทำผลงานรั้งกลุ่มหน้า อย่างรุ่นใหญ่สุด เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (ASB1000) “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ยอดนักบิดไทย หมายเลข 41 บิดรถแข่ง Honda CBR1000RR-R รั้งท็อป 3 เวลาต่อรอบดีที่สุด 1:36.185 นาที ใน Practice 3

รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS600) นักบิดดาวรุ่งไฟแรง The Next Successor โชว์ผลงานสุดร้อนแรง “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว หมายเลข 31 บิดรถแข่ง Honda CBR600RR ครองอันดับ 1 ในการซ้อมรอบ Practice 1 และ 2 ด้วยเวลาต่อรอบที่ดีที่สุด 1:39.743 นาที จาก Practice 2 ด้านทีมเมท “ไฮเปค” กฤษฎา ธนโชติ หมายเลข 18 รั้งท็อป 9 เวลาต่อรอบดีที่สุด 1:40.703 นาที ใน Practice 2 ขณะที่ “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร หมายเลข 20 ได้รับบาดเจ็บที่มือซ้าย พลาดลงแข่งสนามนี้ไปอย่างน่าเสียดาย

รุ่นเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี (AP250) 2 ดาวรุ่งเยาวชน สิทธิ์ไวล์ดการ์ด เก็บประสบการณ์เยี่ยม ด้วยรถแข่ง Honda CBR250RR “เฟอร์” ปัญจรุจน์ จิตวิรุฬห์ฉัตร หมายเลข 12 คว้าท็อป 6 ทำเวลาต่อรอบดีที่สุด 1:52.945 นาที ใน Practice 2 และ “ชินโจ” ณภัทร จาตูม หมายเลข 86 คว้าท็อป 7 เวลาต่อรอบดีที่สุด 1:53.048 นาที โดยทำได้ใน Practice 2 เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้โปรแกรมการควอลิฟายจะมีขึ้นในช่วงเช้าและลงแข่งขันชิงชนะเลิศเรซที่ 1 ในวันเสาร์ที่ 26 เมษายน และปิดท้ายด้วยเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายนนี้

“ตี – อนุภาพ” คัมแบ็กศึกชิงแชมป์เอเชีย Top5 รุ่น SS600 ช่วงซ้อมวันแรก!!!

“ตี – อนุภาพ ซามูล” ลงสนามประเดิมเกมชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2025 

“ตี – อนุภาพ ซามูล” นักบิดจอมเก๋าของทีมยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรชซิ่งทีม ที่ลงชิงชัยในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ด้วยรถแข่ง YAMAHA YZF-R6 หมายเลข 500 นั้น โชว์ฟอร์มได้ดีโดยสามารถทำเวลาติดอันดับ Top5 ด้วยการกดคันเร่งทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1:39.677 นาที ในการลงสนามประเดิมเกมชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2025 สนามแรกที่จัดชิงชัยกันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ประเทศไทย ตามโปรแกรมวันแรกที่เป็นรอบของการซ้อมที่มีด้วยกันถึง 3 เซกชั่น

สำหรับโปรแกรมถัดไปจะเป็นการลงสนามในรอบควอลิฟายหาตำแหน่งสตาร์ตกันต่อไปในช่วงเช้าวันที่ 26 เมษายน 2568 และต่อด้วยการแข่งขันเรซแรกของรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ในเวลา 14.55 น.

—————————-
#YamahaThailandRacingTeam
#RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #No1RacingTeam
#YamahaSocietyThailand #YamahaRidersclubThailand
#RaceMachine #ARRC2025 #TheBlueShif #YamahaR6 #AS51 #YamahR3 #KK39
#YamahaThailandRacingOfficial

“ก้อง-สมเกียรติ” กับเส้นทางนักบิดโมโตจีพี ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ฮีโร่นักบิดชาวไทย

โมโตจีพี 2025 ผ่านไปแล้ว 4 สนาม ท่ามกลางการลุ้นแชมป์สุดเข้มข้น ขณะเดียวกัน แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยก็ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการเชียร์เกมความเร็ว เพราะนี่คือฤดูกาลแรกในประวัติศาสตร์ที่มี “นักแข่งรถโมโตจีพีชาวไทยคนแรก” ลงแข่งขัน

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ฮีโร่นักบิดชาวไทยเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ “ไทยฮอนด้า” หลังเปิดตัวโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ในปี 2561 และทำงานอย่างหนักด้วยการเริ่มต้นนำระบบ “เรซซิ่ง อะคาเดมี่” อย่างจริงจังมาใช้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยเป็นครั้งแรก โดยมีเป้าหมายผลักดันนักแข่งไทยคนแรก เข้าสู่การแข่งขัน โมโตจีพี ซึ่งเป็นการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบระดับสูงสุดของโลกให้ได้ในปี 2025 ซึ่งมันคือภารกิจที่ยากสุดๆ และหากมององค์ประกอบ ณ เวลานั้น แทบจะมองไม่เห็นความเป็นไปได้ในเวลานั้น

“ไทยฮอนด้า” ปรับโครงสร้างสายงานมอเตอร์สปอร์ตใหม่แทบทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทาง “เรซซิ่ง อะคาเดมี่” มาตรฐานระดับโลก ซึ่งนั่นคือกุญแจสำคัญของโร้ดแม็พนี้ เริ่มต้นด้วย “ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์” เพื่อสร้างพื้นฐานและเฟ้นหาเด็กไทยวัย 9-14 ปี ก่อนก้าวสู่ความท้าทายในการแข่งขันรายการ “ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ” เมื่อเติบโตขึ้นมีอายุระหว่าง 15-20 ปี

“เพชรเม็ดงาม” จากโครงการนี้จะถูกคัดเลือกเข้าสู่ศึกดาวรุ่งชิงแชมป์เอเชีย รายการ “เอเชีย ทาเลนต์ คัพ” ก่อนจะผลักดันสู่ “จูเนียร์จีพี” และ “โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ” สองรายการสำคัญของศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลกซึ่งมีปลายทางที่การแข่งขันระดับโลกเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ในรุ่นโมโตทรี, โมโตทู และจุดสูงสุดคือ โมโตจีพี

เวลานั้น “ก้อง-สมเกียรติ” คือนักบิดระดับเยาวชนของ ฮอนด้า ที่ฉายแววอย่างโดดเด่น ด้วยดีกรีแชมป์จากรายการ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2016 ดาวรุ่งชาวไทยถูกผลักดันขึ้นสู่ศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลก รายการ ซีอีวี โมโตที จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ในปี 2017-2018 ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวหอกของโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ในปี 2019 ด้วยการถูกโปรโมตเข้าสู่ โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ในปีนั้น

เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ “ก้อง-สมเกียรติ” ใช้เวลาฝึกฝนและพัฒนาฝีมือถึง 3 ปี ก่อนที่ชัยชนะครั้งแรกในรุ่น โมโตทู จะมาถึง ในการแข่งขัน อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ 2022 ซึ่งนั่นเป็นผลจากความพยายามทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนัก ภายใต้การสนับสนุนทุกด้านจาก “ไทยฮอนด้า”

ขณะที่หัวหอกอย่าง “ก้อง-สมเกียรติ” เดินหน้าสร้างผลงานใน โมโตทู เขาเองก็พัฒนาตัวเองทั้งด้านทักษะการขับขี่ สมรรถนะร่างกายและจิตใจ “ไทยฮอนด้า” ก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ให้ยกระดับอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างนักบิดระดับเยาวชนแบบไม่ย่อท้อ และ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี คือดาวรุ่งคนถัดมาที่ก้าวเข้าสู่การแข่งขันระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ในรุ่น โมโตทรี ในปี 2024

“ไทยฮอนด้า” ทำฝันของชาวไทยให้เป็นจริง… ในปี 2025 “ก้อง-สมเกียรติ” การันตีเป็นนักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรก ด้วยสัญญา 2 ปี กับต้นสังกัด อิเดมึตสิ ฮอนด้า แอลซีอาร์ และกำลังทำงานอย่างหนักหลังผ่าน 4 สนามแรกที่ บุรีรัมย์, อาร์เจนติน่า, สหรัฐอเมริกา และล่าสุดที่ กาตาร์ ด้วยพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การปรับตัวจาก โมโตทู สู่ โมโตจีพี ไม่ใช่เรื่องงง่าย นักแข่งแต่ละคนใช้เวลาแตกต่างกัน ด้วยน้ำหนักรถแข่งที่เพิ่มขึ้น พละกำลังเครื่องยนต์ที่แตกต่างมหาศาล เทคโนโลยีและระบบสั่งการต่างๆ ที่ต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ รวมถึงความเร็วระดับสุดยอด นั่นนำมาซึ่งงานยากในการค้นหาความลงตัว

“ก้อง-สมเกียรติ” เลื่อนชั้นขึ้นสู่ “พรีเมียร์คลาส” ในช่วงเวลาที่ท้าทายของ ฮอนด้า ในการพัฒนารถแข่ง RC213V เพื่อกลับสู่ความยิ่งใหญ่ให้ได้อีกครั้ง ซึ่งนอกจากการจดจ่อกับการปรับตัวกับรถแข่ง โมโตจีพี ซึ่งเป็นงานสุดหินแล้ว นักบิดไทยยังต้องทำงานอย่างหนักร่วมกับวิศกรของ HRC เพื่อค้นหาพื้นฐานของรถแข่งคันใหม่

ประกอบกับการเดินทางแข่งขัน 22 สนามทั่วโลก จึงเหมือนการเริ่มต้นทำงานใหม่ในสนามที่ลงแข่งขัน  ซึ่งแม้จะเป็นงานสุดหิน แต่เลือดนักสู้จากประเทศไทย ไม่มีคำว่ายอมแพ้แน่นอน… โดยในทุกๆ กรังด์ปรีซ์ นักบิดชาวไทยก็สร้างความพอใจให้กับทีมในแง่ของการยกระดับความเร็ว

โดยสุดสัปดาห์นี้จะเป็นการแข่งขันสนามที่ 5 ของฤดูกาลที่ เซอร์กิโต เด เฮเรซ – อังเคล นิเอ็ตโต้ ประเทศสเปน ในรายการ สแปนิช กรังด์ปรีซ์ ซึ่งจะยังคงเป็นงานที่ท้าทายความสามารถอย่างมาก และถือเป็นสนามแรกในโซนยุโรป

เมื่อภารกิจในการสร้างนักแข่งไทยในโมโตจีพีสำเร็จ… “ไทยฮอนด้า” ยังคงสานต่อโปรเจ็กต์ใหม่ “The Next Successors” คือการค้นหาผู้สืบทอดรุ่นต่อไป หรือพูดกันง่ายๆ ก็คือการปั้นนักบิดไทยคนต่อไป ที่จะก้าวขึ้นมาสานต่อความสำเร็จในแบบเดียวกันนี้

ปัจจุบันโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ยังคงเดินหน้าเฟ้นหานักบิดไทยฝีมือดีอย่างต่อเนื่อง เพราะการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย คือภารกิจที่ไม่สามารถหยุดเดินได้แม้แต่ก้าวเดียว และนี่คือเส้นทางจากจุดเริ่มต้นไปสู่ความฝันที่ไม่มีวันหมดของ “ไทยฮอนด้า”

#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #LCRHondaTeam #LCRHonda #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP